ตอนที่ 520

The Novel’s Extra

บทที่ 520 ภารกิจสังหาร ออร์เดน (10)

 

[นอกวังในทุ่งหญ้า]

 

“…ฉันคิดว่าพวกเราทำสำเร็จแล้ว”

 

การต่อสู้ของ ยูจินวอง และ ยูชีฮยอก ใกล้จะจบแล้ว มอนสเตอร์ระดับปรมาจารย์เช่น จิ้งจอกเก้าหาง, คอซัส และ โอเกอร์ ได้พ่ายแพ้ให้กับ ทั้ง 2 ไม่เพียง แต่พวกมันจะอ่อนแอกว่า ยูชีฮยอก และ ยูจินวอง แต่พวกมันยังมีประสบการณ์น้อยกว่า ฮีโร่ ทั้ง 2 ผ่านการต่อสู้มานับครั้งไม่ถ้วน

 

“พวกเราควรมุ่งหน้าไปที่ห้องบัลลังก์เดี๋ยวนี้เลยไหม”

 

ยูจินวอง พยักหน้าตามคำถามของ ยูชีฮยอก พวกเขารู้ว่าออร์เดนไม่ใช่เป้าหมายที่ง่ายดายแม้แต่กับเฮย์เนคและแชจูชึล ก็คิดว่าออร์เดนแข็งแกร่งยิ่งกว่า ‘ยอร์มุนกานดร์’ ซึ่งถือเป็นมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วยซ้ำ

 

“แต่พวกเราจะผ่านมันไปได้ยังไง”

 

กร๊อป กร๊อป ยูจินวอง พึมพำในขณะที่เขาคลายข้อต่อคอของเขา

อสุรกายหลายพันตัวกำลังพุ่งเข้ามาราวกับคลื่นยักษ์

 

“หืมมม…บางทีระเบิดอาจตกลงมาจากฟากฟ้า…?” ยูชีฮยอก พึมพำ

 

บางทีพระเจ้าก็อาจได้ยินความปรารถนาของเขา

 

วิ้งงงงงงง…

 

ทันใดนั้นพอร์ทัลก็ปรากฏขึ้นด้านบน วงรียักษ์ครอบคลุมพื้นที่ครึ่งหนึ่งของท้องฟ้าทั้งหมด ยูชีฮยอก รู้ว่ามันคืออะไร เขาเคยเห็นมาก่อนในเอกสาร

 

ชื่อของมันคือ ‘เรือรบของ Genkelope’

 

อย่างที่เขาคาดหวังจากพอร์ทัลมีเรือลาดตะเวณที่มีพลังต่อสู้ที่ทรงพลังออกมาพร้อมกับเสียงคำรามของเครื่องยนต์และเสียงตะโกนจากผู้คนบนเรือ

 

“ดูเหมือนว่า…พวกเขาจะมาช่วยพวกเรา”

 

เรือลาดตระเวนตอบสนองต่อคำพูดของยูชีฮยอกทันที

 

ตู้มมมมมมมมมมมมม

 

การทิ้งระเบิดยังคงดำเนินต่อไปเมื่อเครื่องบินรบหลายร้อยลำออกจากดาดฟ้า ทหาร Genkelope หลายพันคนลงมาจากเรือ

 

ยูชีฮยอก ดูพวกเขาและหัวเราะเบา ๆ

 

“มุ่งหน้าไปที่ห้องบัลลังก์กันเถอะ”

 

“…”

 

ยูจินวอง พยักหน้าอย่างเงียบ ๆ

 

ชายทั้ง 2 หันไปทางสายลมที่พุ่งเข้าหาห้องบัลลังก์ทันที

*************************************************************************

[ห้องบัลลังก์ของ ออร์เดน]

 

‘…มนุษย์อาจแตกต่างกันมาก’ ออร์เดนคิดในขณะที่เขาต่อสู้กับมนุษย์ 2 คน

 

มนุษย์คน 1 พุ่งเข้าหา ออร์เดน ด้วยกำลังทั้งหมดของเขาในขณะที่อีกคน 1 ปกปิดตัวตนเอาไว้ให้มากที่สุด ชายในชุดเกราะจิตวิญญาณของฟาดดาบของเขาลงมา แต่ชายในชุดศิลปะการต่อสู้ไม่ได้สู้แบบนั้น

อดีตความภูมิใจเป็นส่วนที่ทำให้เขาเชื่อมั่น แต่หลังสู้อยู่นานเขาก็คิดขึ้นมาได้เพียงอย่างเดียว

 

คุณภาพที่แตกต่างของมนุษย์ 2 คนทำให้ออร์เดนประหลาดใจ

 

ออร์เดนต้องการนิยามธรรมชาติของมนุษย์ มนุษย์บางคนมีความภักดีบางคนไม่ซื่อสัตย์ บางคนทนทุกข์ทรมานในสิ่งที่ชอบธรรมและหลาย คนไล่ตามเงินและชื่อเสียง

 

มอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์นั้นแตกต่างจากมนุษย์ในเรื่องนั้น มอนสเตอร์มักทำตามสัญชาตญาณของพวกเขา ยีนมีความสำคัญมากต่อ

มอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์เพราะมันต่างกันมาตั้งแต่เกิด

 

ยกตัวอย่างเช่นมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์ที่สร้างขึ้นจาก DNA ของงูหางกระดิ่งและกิ้งก่าจะมีความฉลาดสูง แต่มีแนวโน้มที่จะถูกหักหลังได้ง่ายเมื่อความปลอดภัยของพวกเขาตกอยู่ในอันตราย

 

เห็นได้ชัดว่ามอนสเตอร์ไม่สามารถกลายเป็นมนุษย์ได้ แต่ออร์เดนไม่ต้องการยอมแพ้ เขาต้องการพิสูจน์ว่ามอนสเตอร์และมนุษย์ไม่ต่างกัน

 

อย่างไรก็ตาม

 

‘พวกเราแตกต่างกัน’

 

ออร์เดนก็ยอมรับความพ่ายแพ้ด้วยความเศร้าสลด ในขณะเดียวกันเขาก็จำได้ว่าครั้งแรกที่เขาตระหนักถึงความฉลาดของตัวเขาเองเมื่อเขาไม่สามารถเข้าใจได้ทั้งมนุษย์และมอนสเตอร์เมื่อเขาประสบความเหงามันเป็นความเหงาไม่รู้จบเหมือนการสาปแช่งการดำรงอยู่ของเขา

 

‘…มอนสเตอร์ไม่สามารถกลายเป็นมนุษย์ได้และมนุษย์เองก็ไม่ใช่พวกเรามอนสเตอร์’

 

อนิจจานี้เป็นเรื่องน่าเศร้า

 

ในความเศร้าก็มีความยิ่งใหญ่ออร์เดนปล่อยพลังเวทมนต์ของเขาออกมา มันเป็นพลังเวทมนต์ที่มีคุณสมบัติของ ‘ความโกลาหล’ ซึ่งเป็นสิ่งที่ออร์เดนตระหนักในการสะท้อนตนเองของเขา

 

ตู้มมมมมมมม…

 

พลังของออร์เดนกำลังจะระเบิดออกมา….

 

โฮกกกกกกก!

 

….หมาป่า 8 ตัวกระโดดเข้าใจ ออร์เดน แล้วกัดแขนขาของเขา

กระแสไฟฟ้าสีแดงล้อมรอบเอวของเขา เป็นการโจมตีมาจากคนอื่นที่ไม่ใช่แชจูชึลและเฮย์เนค

 

แต่ออร์เดนไม่ได้รับผลกระทบใดๆเลย เขาผลักหมาป่าออกไปอย่างเฉยเมยและบดขยี้ไฟฟ้าจากนั้นก็รวบรวมพลังเวทมนต์ในมือเพื่อระเบิดทุกอย่าง

 

ซ่าาาาา…

 

คราวนี้อย่างไรก็ตามดาบเสริมพลังลมปราณทองคำก็พุ่งเข้าหา

ออร์เดน มันทำลายทุกอย่างที่ขวางทางขณะพุ่งไปข้างหน้า ในที่สุดเมื่อมันเข้าใกล้พลังเวทมนต์ของออร์เดนมันก็ตัด ‘ความโกลาหล’ ที่หนาแน่นผิดปกติลงครึ่งหนึ่ง

 

“…”

 

พลังของ ‘ความโกลาหล’ เป็นที่แน่ชัดเจนที่สุด ออร์เดนไม่เคยตกใจอย่างนี้มาก่อน เขาหันไปมองดาบพลังลมปราณว่ามาจากไหน

 

มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องบัลลังก์ ชายที่เต็มไปด้วยพลังงานสีทอง

 

เป็น………คิมซูโฮ

 

หลังจากเอาชนะทหารแม่ทัพ 2 ใน 4 ของออร์เดน  ‘โดโรเลน’ และ

‘เอ็กเฟล’ คิมซูโฮและแม่มดก็มาถึงห้องบัลลังก์ในที่สุด

 

อย่างไรก็ตามคิมซูโฮไม่ใช่มนุษย์คนเดียวที่มาหา ออร์เดน

 

เฟี้ยวววววววว!

 

ลูกศรเวทมนตร์ลอยเข้ามาจากที่ไหนสักแห่งแล้วแทงไหล่ของ ออร์เดน

ลูกศรนี่เป็นของ นักธนูผู้ศักดิ์สิทธิ์ และไม่ใช่แค่หนึ่งเดียว ลูกศรหลายพันดอกที่เต็มไปด้วยพลังเวทมนต์ที่บริสุทธิ์ตกลงมาจากท้องฟ้า แม้แต่ออร์เดนก็ไม่สามารถนิ่งเฉยต่อการโจมตีขนาดนั้นนี้ได้

 

“—”

 

ไม่ว่าออร์เดนจะทำลายไปเท่าไรมันก็ไม่ยอมหมด ในขณะเดียวกันก็มีเสียงร้องดังขึ้นอีกครั้ง

 

“ออร์เดน-!”

 

เสียงคำรามสั่นสะเทือนทั้งวัง ออร์เดนเงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ

ชายร่างยักษ์ลงมาจากเพดาน

 

“ฉัน ชอคจุนกยอง มาแล้ว!”

 

ชอคจุนกยอง ตะโกนชื่อของเขาออกมา

 

เปรี้ยงงงงงงงงงง!

 

กำปั้นของ ชอคจุนกยอง ชกไปที่หน้าผากของ ออร์เดน มันเป็นเสียงที่น่าหวาดกลัว คลื่นสั่นสะเทือนขนาดใหญ่แพร่กระจายไปทั้วและ

ชอคจุนกยอง ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

 

“อุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! แกอ่อนแอกว่าที่ฉันคิดไว้มาก…เอ้?”

 

ออร์เดนคว้าแขนของ ชอคจุนกยอง ซึ่งยังอยู่บนใบหน้าของออร์เดนไว้

จากนั้นเขาก็พลิกมือและทุบ ชอคจุนกยอง ลงไปที่พื้นด้วยการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียวราวกับว่าเขากำลังกลิ้งลูกโบว์ลิ่ง

 

ตู้มมมม!

 

“อัก… .”

 

ชอคจุนกยอง ไม่มีเวลาในการโต้ตอบ ผลที่ได้คือลอยไปไกล

 

ชอคจุนกยอง ที่ลงมาจากเพดานถูกโยนออกจากห้องหลังจากที่เขาพึ่งเข้ามา

 

“…”

 

ออร์เดนลุกขึ้นจากบัลลังก์แล้วมองไปรอบๆตอนนั้นเขาจำฮีโร่ได้แล้ว

ไอลีน, อียองฮา, คิมยองจิน, ชินจงฮัก, แชนายอน, ยุนซึงอา …

เขาไม่เคยสังเกตเห็นพวกเขามาก่อนเลยเพราะเขาเต็มที่กับการต่อสู้มากเกินไป

 

ฮีโร่หลายสิบคนลอบเข้ามาในวังและมารวมตัวกันต่อหน้าเขาแล้ว!!!