บทที่ 291
เนื่องจากหม่าหลันยอมอ่อนข้อยอมรับผิด แถมยังรับปากมาทีเดียวเลยว่า ต่อไปจะไม่ทำผิดอีก เซียวชูหรันก็ใจอ่อน ไม่ได้จี้ต่อไป
โดยส่วนตัว เซียวชูหรันก็พูดกับเย่เฉินว่า “เย่เฉิน แม่ฉันก็มีนิสัยแบบนี้ คุณก็อย่าไปถือโทษโกรธเธอมากไป ขอเพียงเธอรู้สำนึกผิดก็นับว่าดีมากแล้ว”
เย่เฉินจะบอกอะไรได้ เพราะถึงอย่างไรก็เป็นถึงแม่ยายตนเอง เป็นแม่แท้ๆ ของเซียวชูหรัน ดังนั้นก็ได้แต่ยิ้มพูดว่า “ผมรู้แล้วชูหรัน สถานการณ์เช่นนี้ คุณคิดถึงตนเองก็พอ ไม่ต้องคิดเพื่อผม ผมเป็นสามีคุณ เธอก็เป็นแม่ยายผม ผมไม่ถือโทษเธอหรอก”
เซียวชูหรันก็ซาบซึ้งจนพยักหน้า แล้วก็เข้าไปกอดเย่เฉินเบาๆ ถอนหายใจว่า “เรื่องในวันนี้ ต้องขอบคุณคุณจริงๆ นะ ถ้าไม่ได้คุณ ฉันกับแม่ ก็คงจะไม่ได้มีชีวิตรอดกลับออกมาจากที่นั่นแน่…………”
เย่เฉินพูดยิ้มว่า “เอาเถอะ พวกคำขอบคุณ ก็ไม่ต้องออกมาแล้ว”
“อืม………” เซียวชูหรันพยักหน้า แล้วพูดว่า “เรื่องที่จะย้ายออกไปอยู่ข้างนอก ก็รอดูไปก่อนแล้วกัน คุณว่าไงบ้าง?”
ถึงแม้เย่เฉินจะอยากบอกกับชูหรันว่า ย้ายไปเถอะ แต่สถานการณ์เช่นนี้ จะต้องเคารพความเห็นของเซียวชูหรัน
ดังนั้นเขาก็เลยยิ้มพูดว่า “เรื่องที่จะย้ายออกไป ผมอย่างไรก็ได้ จะย้ายหรือไม่ย้ายก็ได้”
พูดไปดังนั้น ก็เหมือนจะนึกอะไรออก แล้วพูดต่อว่า “เอ่อ คฤหาสน์ของTomson Riviera ใกล้จะตกแต่งภายในเสร็จแล้ว พอตกแต่งเสร็จ พวกเราก็ย้ายออกไปกันเถอะ”
เซียวชูหรันก็ทำอะไรไม่ถูก “เพราะคฤหาสน์เป็นของหวังเจิ้งกาง ถ้าวันไหนเขาเปลี่ยนใจขึ้นมา อยากจะเอาคืนไป ก็คงจะลำบากมาก
ถ้าพวกเราย้ายออกไปทั้งบ้าน จะดูไม่ค่อยเหมาะสมล่ะมั้ง?”
“ไม่มีอะไรไม่เหมาะสม” เย่เฉินพูดยิ้มว่า “หวังเจิ้งกางเอาคฤหาสน์โอนให้ผมตั้งนานแล้ว ตอนนี้เจ้าของคฤหาสน์หลังนั้น คือผมเอง เขาจะไม่กลับไปที่นั่นแล้ว แล้วอีกอย่าง แกไม่อยากให้วันข้างหน้าเงียบสงบหน่อยหรือ? ถ้าหากว่าย้ายออกไปพักที่คฤหาสน์ ที่นั่น
บ้านก็หลังใหญ่ แถมยังมีหลายชั้น พวกเราสามารถอยู่กินกันที่ชั้น3 ให้พ่อกับแม่อยู่กันที่ชั้น2 เช่นนี้ ทุกคนก็จะได้ไม่ต้องมาเห็นหน้า
กันบ่อย อย่างน้อยก็จะได้เป็นอิสระหน่อย คุณว่าอย่างไร?”
เซียวชูหรันก็ครุ่นคิด คำพูดขอเย่เฉินได้ผลกับเธอ
เธอเองก็อยากจะออกไปจากความปวดหัวของบ้านหลังนี้ แต่บางครั้งก็คิดว่า ตนเองนั้นก็เป็นแค่ผู้หญิง มีที่ไหนที่ปีกกล้าขาแข็ง แล้วจะย้ายไปอยู่ข้างนอก
แต่ว่า เรื่องนี้มันก็ยากที่จะยื้อไปให้นานได้
ไม่สู้ย้ายออกไปเลยให้จบๆ ไป ก็จะได้วางใจลงเยอะ ห้องของทุกคนจะไม่อยู่ที่ชั้น1 จะได้ลดการรบกวนซึ่งกันและกัน
ดังนั้นเธอก็เลยพยักหน้า แล้วพูดกับเย่เฉินว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นก็รอตกแต่งให้เสร็จ พวกเราก็จะย้ายออกไปอยู่ที่นั่น!”
……
ทางหมู่คฤหาสน์ริมแม่น้ำ ไฟก็ไหม้วอดทั้งหลัง
นักดับเพลิงมาถึงสถานที่ ใช้เวลานานจนกล้าจะสามารถควบคุมเพลิงในคฤหาสน์ได้ แต่ว่าบริเวณเขตบ้านได้ไหม้วอดไปหมด
แต่ว่า นักดับเพลิงก็ได้ตรวจสอบโครงกระดูกที่ในเหตุการณ์ ก็ไม่พบโครงกระดูกของมนุษย์เลย แสดงว่า ไฟไหม้ครั้งนี้ ไม่มีใครได้รับอันตราย
เหตุไฟไหม้ที่ไม่มีใครได้รับอันตราย ก็จะทำให้เป็นที่จับตาของผู้คน ดังนั้น ก็เลยไม่มีใครสนใจเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้
ที่หาซากกระดูกไม่พบเลยนั้น ก็เป็นเพราะว่า เกาเจี้ยนจูนและเกาจวิ้นเว่ยสองพ่อลูก ได้กลายเป็นฝุ่นที่ละเอียดไปแล้ว ทั้งยังเล็กอีกด้วย ดังนั้นก็ไม่มีทางที่จะหาDNAได้
พ่อลูกตระกูลเกา ได้หายไปจากโลกใบนี้แล้ว
ทางตระกูลเกา ก็ร้อนรนราวกับมดวิ่งบนกระทะร้อนๆ
ถึงแม้พวกเขาจะไม่รู้ว่า สองพ่อลูกนั่นไปไหน และก็ไม่รู้แผนร้ายที่สองพ่อลูกจะปองร้ายเย่เฉิน แต่คฤหาสน์ที่เผาไป ก็เป็นบ้านของ
พวกเขา ตอนนี้มันกลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว คนก็หายสาบสูญ พวกเขาก็รู้สึกว่า มันท่าจะไม่ค่อยดี!
จากนั้น ตระกูลเกาก็ประกาศค่าเบาะแส 5ล้าน แล้วก็ยังเอารูปทั้งสองคนไปแจกจ่ายทั้งเมือง
แต่ว่า ใครก็ไม่อาจหาตัวคนที่หายสาบสูญไปแล้วพบ บนโลกนี้ ไม่มีทางพบเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาทั้งสองคนอีก