เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 683
กลุ่มคนที่หยางเฟิงทิ้งเอาไว้ไม่ทันได้ตั้งตัว

และโดนตีจนหมดสติไปในทันใด

“คนพวกนี้คือ?”

เมื่อเห็นคนชุดดำปรากฏตัวขึ้น

เย่เทียนก็มีสีหน้าที่ประหลาดใจ

เย่โหรวพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “คนพวกนี้คือปรมาจารย์ที่ฉันพามาจากตระกูลเย่ในต่างประเทศ มีพวกเขาคอยช่วยเหลือ หยางเฟิงจะต้องตายอย่างแน่นอน!”

“เอาล่ะ อย่าเสียเวลาต่อเลย พวกเรารีบไปกันเถอะ! เผื่อหากว่าหยางเฟิงเกิดกลับมา พวกเราจะเดือดร้อนเอา!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น

เย่เทียนมองลึกลงไปอีกที่ศพของเย่ชิวอีกครั้ง

เขาจุดไฟขึ้น

พริบตาเดียว

ไฟก็โหมกระหน่ำอย่างรุนแรง

เขามองดูเย่ชิวที่กลายเป็นมนุษย์เพลิงเป็นครั้งสุดท้าย

“ไปกันเถอะ!”

เย่เทียนกัดฟันของเขา

และหลังจากนั้นเขาก็หายตัวไปในกองเพลิงพร้อมกับเย่โหรว

“ท่านแม่ทัพ ดูนั่น!”

ในขณะเดียวกัน

เสือขาวที่เพิ่งเดินออกจากประตูของสถานพยาบาลก็ได้ตะโกนขึ้น

เห็นเพียงวิลล่าที่เย่เทียนอยู่มีแสงไฟสว่างขึ้นไปถึงบนฟ้า!

“เกิดเรื่องไม่ดีแล้ว พวกเรารีบกลับไปกันเร็ว!”

ใบหน้าของหยางเฟิงเปลี่ยนไปอย่างมาก เขารีบหันกลับและมุ่งหน้าไปที่วิลล่าของเย่เทียน!

ในเวลานั้น

“หืม? เย่เทียน ไอ้แก่นี่ฆ่าตัวตายเหรอ?”

“เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้!”

“ฉันรู้จักจิ้งจอกเฒ่าตัวนี้ มันไม่ยอมตายไปง่ายๆ หรอก”

หลันเจิ้นบ่นพึมพำกับตัวเอง ขณะนอนอยู่บนเก้าอี้

เขาไม่เชื่อว่า เย่เทียนจะมาตายไปทั้งแบบนี้

“ฮ่าๆ!”

“น่าสนุก! น่าสนุกจริง!”

“ดูเหมือนว่าหลังจากนี้ จะโชว์ให้ดูแล้ว!”

ทันใดนั้น

หลันเจิ้นหลุดหัวเราะออกมา

สีหน้าปรากฏความดีใจออกมาให้เห็น

ในเวลาเดียวกัน

หยางเฟิงมายืนอยู่ที่หน้าบ้านพักของเย่เทียนแล้ว

สีหน้าของเขาเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก

“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

เสือขาวตะคอกใส่พวกทหารยาม

พวกทหารยามต่างก็พูดด้วยสีหน้าน้อยเนื้อต่ำใจ: “พวกเราก็ไม่รู้ครับ เมื่อครู่พวกเราเฝ้าเวรอยู่ จู่ๆ ก็โดนคนจู่โจมจนหมดสติไป…”

“พวกไร้ประโยชน์!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น

เสือขาวก็ด่าว่าด้วยความโมโห

พวกทหารยามก็ก้มหน้าลง พร้อมกับไม่กล้าพูดอะไรในทันที

“เอาล่ะ!”

หยางเฟิงหยุดเสือขาวไว้ “เรื่องเร่งด่วนในตอนนี้คือ ดับไฟ!”

“จำไว้ อยู่ต้องเห็นคน ตายต้องเห็นศพ!”

หยางเฟิงไม่เชื่อว่า

จู่ๆ เย่เทียนจะฆ่าตัวตาย

ในนี้ต้องมีเงื่อนงำบางอย่าง

“ครับผม!”

เสือเขาพูดกับทหารยามหลายคนว่า: “คุณยืนงงอะไรกันอยู่? รีบไปดับไฟเร็วเข้า!”

พวกทหารเฝ้าเวรต่างก็ไม่รีรอ

รีบไปช่วยดับไฟกันทันที!

ขณะที่มองไปยังกองไฟโขมงไปทั่วท้องฟ้า

หยางเฟิงก็ส่ายหัวด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น

ถ้าหากเย่เทียนถูกเผาตายจริงๆ เขาก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายให้เย่ไห่และเย่เมิ่งเหยียนฟังยังไง

เมื่อคิดถึงจุดนี้

หยางเฟิงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และโทรไปหาเย่ไห่และเย่เมิ่งเหยียน

ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม

เกิดเรื่องขึ้นกับเย่เทียน

เขาก็ต้องแจ้งให้ครอบครัวเย่ไห่ทราบ

“อะไรนะ? วิลล่าของคุณปู่ไฟไหม้!”

“ได้ เข้าใจแล้ว ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้!”

“หยางเฟิง ไม่ว่ายังไง นายต้องพยายามช่วยพ่อของฉันออกมาให้ได้นะ!”

หลังจากได้รับสายของหยางเฟิง

เย่ไห่และเย่เมิ่งเหยียนต่างก็งงงันไปหมด!

พวกเขาคิดยังไงก็คิดไม่ตกว่า

ทำไมวิลล่าของเย่เทียนถึงไฟไหม้ได้?

หรือว่าคุณพ่อ (คุณปู่) คิดจะฆ่าตัวตาย?

ถ้าเช่นนั้นแล้ว เป็นเพราะอะไรกันล่ะ?

ไม่ใช่ว่าหยางเฟิงบีบบังคับเขามากเกินไปใช่ไหม…

เมื่อคิดได้เช่นนี้

ก็มีอารมณ์ที่แตกต่างแวบเข้ามาในหัวของทั้งสองคน

สิบกว่านาทีต่อมา

เย่ไห่และเย่เมิ่งเหยียนก็ขับรถมาถึง

“หยางเฟิงเป็นยังไงบ้าง พ่อของฉันล่ะ”

เย่ไห่วิ่งมาถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล

หยางเฟิงกล่าวด้วยความรู้สึกผิด: “คุณพ่อครับ ผมขอโทษครับ! ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้คุณปู่เป็นยังไงบ้าง”

ตูม!

ได้ยินประโยคนี้ในเวลาแบบนี้

เย่ไห่ก็รู้สึกหน้ามืด และเกือบจะเป็นลมไป!

ขณะที่มองดูไฟที่กำลังลุกไหม้อยู่ตรงหน้า

คุณพ่อ… ตายแล้วเหรอ?

เย่ไห่โซเซถอยหลังไป ทั้งเศร้าโศกและน่าสงสาร ความเจ็บปวดยากเกินจะบรรยายเป็นคำพูดได้!

แม้ว่าตั้งแต่เด็ก เย่เทียนจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเย่ไห่

แต่ยังไงนี่ก็คือพ่อของเขา!

ลูกอยากเลี้ยงดู แต่พ่อแม่ไม่อยู่รอ!

เมื่อเย่เทียนตาย วันหน้าเย่ไห่ก็จะไม่มีที่ให้พึ่งพิงอีกต่อไป…

“ที่รัก ผมขอโทษ!”

เมื่อเห็นสภาพของเย่ไห่ หยางเฟิงก็เบ้ปาก แต่ไม่รู้จะพูดอะไร ก็เลยต้องเดินมาอยู่ที่หน้าของเย่เมิ่งเหยียน

“สามี อย่าพูดขอโทษเลย คุณไม่ได้เป็นคนจุดไฟสักหน่อย!” เย่เมิ่งเหยียนพูดปลอบ

แม้ว่าเย่เทียนจะเป็นปู่ของเธอ

แต่ความรักและผูกพันระหว่างพวกเขาสองคนไม่ได้มีมากนัก

เย่เทียนถูกเผาจนตาย

ในใจเย่เมิ่งเหยียนก็รู้สึกเศร้าใจอยู่บ้าง

แต่ไม่ได้รู้สึกมากมายเท่าเย่ไห่

ในตอนนี้

เสือขาวเดินเข้ามาและพูดว่า “ท่านแม่ทัพ ตอนนี้ไฟดับหมดแล้ว แต่ไม่พบร่างของนายท่านเย่ครับ!”