บทที่416

ผู้แปล : N.

“เราต้องเตรียมความพร้อมอะไรก่อนไหม?” เพื่อนคนหนึ่งได้ถามขึ้นมาอย่างไม่แน่ใจ “อย่างพวกวัสดุหรือขั้นตอนบางอย่าง”

“ลืมมันไปเถอะ!” จินฟานได้พูดต่อว่า “มันไม่ใช้การต้อนรับนักลงทุนและลูกค้ารายใหญ่แบบนั้น พวกนั้นเพียงแค่มาเยื่อมเราเฉยๆ”

หลังจากนั้นจินฟานก็ได้สั่งงานให้ลูกน้องของเขาทำต่อไป ส่วนเขานั้นได้เดินออกไปต้อนรับพวกลูชิน

“ไม่ว่าจะมากี่ครั้ง ที่นี้ก็ยังคงเหมือนเดิมตลอด” ฟานฟานได้เดินนำทางลูชินและพวกเขามายังในตัวอาคาร

“ยินดีต้อนรับพวกคุณสู่บริษัทของผม” จินฟานได้เดินออกมาต้อนรับเขาด้วยความสุภาพ

ลูชินที่เห็นแบบนั้นก็ได้พูดขึ้นว่า: “วันนี้ที่ผมมาก็คือต้องการรู้รายละเอียดเพิ่มเต็มเกี่ยวกับโครงการรถไร้คนขับของพวกคุณ”

“ และคนที่มากับผมในครั้งนี้ก็คือ คุณจู้เหลียง ซึ่งเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านออกแบบระบบการขับขี่แบบไร้คนขับ”

จู้เหลียงอยู่ในวัยสี่สิบปี เขาได้สวมสูทอย่างเป็นมืออาชีพ อาจจะเป็นเพราะเขาอายุมากกว่าลูชินไปมาก จินฟานจึงได้ให้ความสำคัญกับเขามากขึ้น และเขายังเดาว่าจู้เหลียงอาจเป็นคนที่มีตำแหน่งสูงกว่าลูชิน

“สวัสดีคุณจู้! เชิญพวกคุณเข้ามาได้เลย”

พวกลูชินได้เดินเข้าไปในบริษัทและมองไปรอบๆ พนักงานคนอื่นๆในบริษัทของจินฟานเองก็เหมือนจะคุ้นเคยกับสถานการณ์นี้อย่างมาก สังเกตได้จากที่พวกเขายังคงยุ่งกับงานของตัวเองเพียงเท่านั้น

“คุณจิน! คุณได้สร้างเรดาร์นี้ขึ้นมาด้วยตัวเองเหรอ?” จู้เหลียงได้ถามขึ้นมาด้วยความอยากรู้ เมื่อเขาเห็นว่าเจ้าตัวเครื่องเรดาร์นั้นมันได้คล้ายกับที่พวกเครื่องบินใช้

“ไม่ใช้หรอกครับ! เรดาร์เครื่องนี้เราได้ทำการปรับปรุงมันขึ้นมา” จินฟานได้ตอบกลับมา “เดิมทีมันเป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัทเรดาร์พลเรือนในเยอรมนี แต่หลังจากที่บริษัทนั้นประสบกับปัญหาล้มละลาย ทางเราจึงได้เข้าไปซื้อเทคโนโลยีเรดาร์นี้ของพวกเขา ก่อนที่เราจะนำมันมาพัฒนาต่อยอดให้เป็นของเราเอง”

“ด้วยการติดตั้งเรดาร์นี้ มันจึงทำให้รถสามารถตรวจจับสิ่งกีดขวางและวัตถุที่เคลื่อนที่ได้ภายในระยะสิบเมตรล่วงหน้า และมันยังสามารถทำการปรับโหมดการขับขี่ผ่านระบบอัจฉริยะได้อีกด้วย”

ลิชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็เกิดข้อสงสัยขึ้นมา ก่อนที่เขาจะถามขึ้นว่า: “แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีสัญญาณรบกวนแบบไร้สาย หรือสัญญาณรบกวนอื่นๆเข้ามารบกวนการทำงานของเรดาร์พวกคุณ แบบนี้มันจะไม่ทำให้รถของคุณกลายเป็นคนตาบอดหรือยังไง”

“สิ่งนี้! … โดยทั่วไปแล้วจะไม่มีการรบกวนบนท้องถนนมากนัก และถึงมันจะมีเรดาร์ที่เราทำการออกแบบมานั้นก็สามารถป้องกันการรบกวนบางอย่างได้ในระยะสั้นๆ” จินฟานได้อธิบายออกมาทันที

“ คุณจินพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกซะที่เดียว! คุณต้องรู้ว่าสถานการณ์บนท้องถนนนั้นมีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก และมันไม่ควรจะเกิดข้อผิดพลาดอะไรขึ้นมาได้” จู้เหลียงได้หยุดพูดไปเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะพูดต่อว่า “ ดังนั้นผมจึงอยากจะรู้ว่าคุณจะมีวิธีแก้ปัญหานี้ยังไง?”

เมื่อจินฟานได้ยินคำถามนี้ของจู้เหลียง เขาและเพื่อนๆก็รู้ได้ทันทีว่าชายตรงหน้านั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญตัวจริง

ในปัจจุบันแม้แต่ระบบรถไร้คนขับที่ทันสมัยที่สุดในตลาด ก็ยังมีข้อผิดพลาดประมาณสองถึงห้าเมตร ซึ่งถือว่าเป็นข้อผิดพลาดที่ร้ายแรงอย่างมากสำหรับอุตสาหกรรมนี้!

“ภายใต้สถานการณ์ปกติ เราจะใช้ระบบกำหนดตำแหน่งดาวเทียม6Gของบริษัทลู่เทคโนโลยี ควบคู่ไปกับคอมพิวเตอร์ออนบอร์ดที่ติดตั้งเอาไว้ในตัวรถยนต์ของเรา ด้วยการทำงานของทั้งสองสิ่งนี้มันจะทำการแก้ไขอัตโนมัติทุกๆสิบวินาที”

หลังจากที่จินฟานได้พูดจบลงแล้ว จู้เหลียงก็ได้ชี้ให้เห็นปัญหาโดยตรงของวิธีการของเขาว่า : “แต่มันก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาที่ผมถามได้อยู่ดี! คุณต้องรู้ว่าเมื่อเกิดรถที่ได้ติดตั้งระบบรถไร้คนขับไปขับในอุโมงค์ที่ทอดยาว มันจะเกิดสิ่งที่เรียกว่าการดีเลย์ทางสัญญาณ ซึ่งนั้นจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดในระบบได้ และสิ่งที่ตามมาก็คือการเกิดอุบัติเหตุนั้นเอง”

“นี่!…ในเรื่องนั้นทางเราเองก็พยายามหาวิธีแก้ไขอยู่เช่นกัน แต่มันไม่ใช้เรื่องง่ายเลยที่จะแก้ไขมันได้ในปัจจุบัน” จินฟานได้ตอบกลับมาด้วยเสียงเบาอย่างเห็นได้ชัด

จู้เหลียงที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้พยักหน้าขึ้น ถือว่าเป็นเรื่องดีที่พวกเขายังสามารถเห็นถึงผลกระทบนี้

หลังจากนั้นจู้เหลียงก็ยังคงได้ตั้งคำถามออกมาอีกมากมาย และทางจินฟานเองก็ยังคงตอบคำถามได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สิ่งที่ทำให้ลูชินที่เป็นคนนอกรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก เพราะนี้หมายความว่าบริษัทของจินฟานนั้น ถือว่าเป็นก้อนเพชรที่ยังไม่ผ่านการเจียระไน ถ้าเขานำก้อนเพชรก้อนนี้มาเจียระไนแล้วละก็ มันจะต้องทำกำไรให้เขาได้อย่างแน่นอน

ต้องรู้ก่อนว่าในระบบรถไร้คนขับนั้น มีหลักการด้วยกันสี่ขั้นตอน: หนึ่งคือระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ สองคือระบบอัตโนมัติบางส่วน สามคือระบบอัตโนมัติขั้นสูง และอย่างสุดท้ายคือระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ

ในปัจจุบันไม่มีบริษัทใดในโลกที่กล้าที่จะอ้างว่าพวกเขาสามารถไปถึงขั้นตอนที่สี่ได้

“คุณจิน! จะเป็นอะไรมั้ยถ้าผมอยากจะเห็นการทดสอบในสภาพการจราจรจริงๆ” จู้เหลียงที่ได้หมดคำถามแล้ว จึงได้ถามถึงสิ่งที่ลูชินต้องการมากที่สุดออกมาทันที

จินฟานและคนอื่นๆไม่ได้แปลกใจอะไรกับคำขอนี้ เพราะส่วนมากแล้วนักธุรกิจที่มาเยี่ยมบริษัทของพวกเขาแล้ว ในช่วงสุดท้ายพวกเขาต่างก็ขอดูประสิทธิภาพนี้เหมือนกันหมด

ตอนนี้พวกเขาได้ยินว่าพวกเขายังต้องดูประสิทธิภาพมันบนถนน มันก็ทำให้หลายคนรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย

“ได้เลยครับ” จินฟานได้ตอบตกลงทันที และเขายังมีความหวังลึกๆในใจของเขาว่าจู้เหลียงจะเห็นชอบกับโครงการนี้ของเขา

สำหรับลูชินแล้ว ตอนนี้เขากับถูกมองว่าเป็นเพียงผู้ช่วยส่วนตัวของจู้เหลียงเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ตลอดการนำเสนอที่ผ่านมานั้น จินฟานและพวกถึงไม่ได้สนใจลูชินมากนัก

รถทดสอบของบริษัทจินฟานได้ออกไปอยู่บนถนนขับเป็นที่เรียบร้อย โดยที่รถทดสอบคันนี้ได้ขับอย่างช้าๆ และไม่ว่าจะเป็นในสถานที่ที่มีคนเดินบนถนนหรือถนนว่างก็ตาม รถคันนี้ก็ยังคงขับในความรถเท่าเดิม

ภายใต้สถานการณ์ปกติ รถทดสอบคันนี้ไม่มีปัญหาเลย และมันสามารถตอบสนองได้ดีเมื่อเผชิญหน้ากับคนเดินบนถนนหรือยานพาหนะต่างๆ

“รถคันนี้มันขับช้าเกินไปหรือเปล่า?” ลูชินที่ได้สังเกตถึงเรื่องนี้มาซักระยะก็ได้ถามออกมา

“ใช้! ที่เป็นแบบนั้นก็เนื่องมาจากระบบการตรวจจับของเรานั้นยังไม่สมบูรณ์ดีพอ ดังนั้นการที่รถมีความเร็วมากเกินไป มันอาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้” จินฟานได้ตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว

“โอ้.”

ลูชินไม่ได้แปลกใจกับคำตอบที่จินฟานพูดออกมา กลับกันเขาได้รู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงของเรื่องนี้แล้ว มันไม่ใช้เพราะการตอบสนองในการประมวลข้อมูลนั้นไม่ได้มาตรฐาน แต่ที่มันเป็นแบบนั้นก็เนื่องมากจากการประมวลผลของข้อมูลไม่เร็วพอ

“เป็นยังไงบ้างครับคุณจู้เหลียง! คุณคิดว่าผลการทดสอบในครั้งนี้คงประทับใจนะครับ “

จินฟานและคนอื่นๆต่างก็คาดหวังกับการนำเสนอในครั้งนี้เป็นอย่างมาก แต่พวกเขาก็ต้องรู้สึกผิดหวังเมื่อจู้เหลียงได้พูดขึ้นว่า “ผมรู้สึกประทับใจกับโครงการที่พวกคุณทำเป็นอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าพวกคุณนั้นมีช่องว่างทางเทคโนโลยีนี้กับบริษัทยักใหญ่อย่างกูเกิลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น  “

“แต่ยังไงผมก็ไม่สามารถให้คำตอบกลับพวกคุณในตอนนี้ได้ ผมจะต้องนำเรื่องนี้เข้าไปหารือกับที่ประชุมเสียก่อน”

หลังจากได้พวกเขาได้ยินสิ่งที่จู้เหลียงพูด มันก็ทำให้พวกเขาได้คาดเดาถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาออกแล้ว

ฟานฟานที่นิ่งเงียบมาตลอดตั้งแต่ต้น ก็ได้หันไปมองไปที่ลูชิน และเห็นว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไรบางอย่าง ดังนั้นมันจะเป็นการดีกว่าที่เธอจะรอถามเขาหลังจากที่เขาคิดเสร็จ

ตอนนี้ในสมองของลูชินกำลังคิดว่าจะซื้อบริษัทนี้ดีหรือไม่? ถึงยังไงตอนนี้เขาก็มีสุดยอดปัญญาประดิษฐ์แล้ว มันคงจะเป็นเรื่องง่ายอย่างมากถ้าเขาจะพัฒนาระบบรถไร้คนขับขึ้นมา

“เราต้องขอบคุณพวกคุณที่พาพวกเราชมตลอดทั้งวัน ดังนั้นพรุ่งนี้เราจะทำการติดต่อกลับมาหาพวกคุณอีกครั้ง” ลูชินได้ตอบกลับมาเรียบๆ

เมื่อฟานฟานได้ยินแบบนั้น มันก็ทำให้ดวงตาของเธอเป็นประกายขึ้นมาทันที! มันเหมือนกับเธอรู้ความหมายเป็นนัยๆว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้

ทางจินฟานที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้ถอนหายใจออกมาอย่างไร้ประโยชน์ แต่ยังไงเขาก็ยังคงเดินออกไปส่งลูชินและจู้เหลียงอย่างสุภาพ

แต่ทันทีที่เขากลับขึ้นมายังชั้นบน เขาก็แสดงสีหน้าไม่พอใจต่อฟานฟานทันที : “ฟานฟาน! สรุปแล้วเธอคิดจะช่วยพวกฉันจริงๆใช้ไหม? ไม่ใช้ว่าเธอต้องการมาปั่นหัวฉันเล่นหรอกนะ”

ฟานฟานที่ได้ฟังแบบนั้นก็ทำเพียงยิ้มออกมา และพูดขึ้นว่า : “ปั่นหัวนาย? จินฟานเอ๋ย จินฟาน นายรู้ไหมว่าฉันพาใครมาพบพวกนาย! ถ้านายรู้จักสถานะที่แท้จริงของคนที่ฉันพามาพบวันนี้ ฉันคิดว่านายคงต้องก้มลงขอบคุณฉันด้วยซ้ำ”

“สถานะที่แท้จริง? เธอกำลังพูดถึงเรื่องอะไร?”

“ฮิฮิ! ฉันไม่สามารถบอกนายได้ในตอนนี้ แต่ฉันมั่นใจได้ถ้าเขาตัดสินใจที่จะร่วมมือกับบริษัทของนายในครั้งนี้ละก็ นายเตรียมตัวรวยได้เลย!”