ตอนที่ 372 นายท่านผู้เฒ่าสำคัญที่สุด / ตอนที่ 373 เตรียมให้นายท่านโดยเฉพาะ

หมอยาหวานใจท่านประธาน

ตอนที่ 372 นายท่านผู้เฒ่าสำคัญที่สุด

 

 

ในเวลานี้นายท่านผู้เฒ่ากำลังบันดาลโทสะ ถ้าเขาเอนเอียงมาทางเธอเพียงเล็กน้อย ไม่แน่ว่าขืนยืดเยื้ออย่างนี้ต่อไป ปู่จะยิ่งเข้าใจเธอผิดหนักขึ้น

 

 

“ขอบใจฉันทำไม” อีลั่วเสวี่ยยิ้ม เธอไม่ใช่เด็กสาวที่อ่อนต่อโลก แค่คำพูดเพราความเข้าใจผิดก็ทำให้ท้อแท้ หมดอาลัยในความรัก เธอเป็นคนที่จิตใจเข้มแข็ง

 

 

เฉวียนหมิงยื่นมือออกไปรวบเส้นผมที่แก้มเธอไปไว้ที่หลังใบหู “ขอบใจที่คุณใจกว้างและเข้าใจ” ถ้าไม่ใช่เพราะเธอมองอย่างเข้าใจ คงกระแทกประตูผละออกไปนานแล้ว ไม่มีใครยอมถูกข่มเหงเช่นนี้ ทำให้เธอลำบากแล้ว

 

 

“ถ้าคุณอยากขอโทษฉันจริงๆ ก็ค่อยๆ ไปคุยปรับความเข้าใจกับปู่เถอะ ส่วนทางฉันนั้น คนตัวตรงย่อมไม่กลัวเงาเฉียง นายท่านผู้เฒ่าย่อมมองเห็นเองไม่ช้าก็เร็ว” จะว่าไปแล้ว จุดเริ่มต้นของนายท่านผู้เฒ่าก็เพื่อเฉวียนหมิง

 

 

ไม่ว่าเรื่องไหลย่ากรุ๊ปและเรื่องอื่น การตัดสินใจของผู้ชายคนหนึ่ง ถ้าผู้หญิงแทรกแซงมากเกินไป เกรงว่าจะส่งผลต่อการตัดสินใจและการดำเนินงาน ยิ่งไม่ต้องพุดถึงที่เฉวียนหมิงเป็นผู้กุมอำนาจบริหารของเฉวียนกรุ๊ป

 

 

เรื่องนี้แพร่ออกไปย่อมไม่ใช่เรื่องดี ทำให้ใจคนหวั่นไหวได้ เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่คอยคล้อยตามใคร แต่ในบางระดับจะให้เฉวียนหมิงตัดสินใจเอง เป็นการให้เกียรติแก่ผู้ชายของตน

 

 

“อาเสวี่ยมีความคิดแบบนี้ ถ้าปู่มองเห็นก็คงดีหรอก” เฉวียนหมิงยิ้มอย่างขมขื่น เขาเองไม่รู้จริงๆ ว่าปู่ตนคิดอะไรกันแน่ ปู่ไม่ใช่คนที่ให้ความสำคัญของชาติตระกูลมากนัก ทำไมถึงไม่พอใจอาเสวี่ย

 

 

อีลั่วเสวี่ยหลุบตาลง มีรอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าที่งดงาม “สักวันท่านก็คงเห็น” ที่จริงเธอไม่แคร์ว่านายท่านผู้เฒ่าจะเห็นหรือไม่ หลังจากนี้เธอจะใช้ชีวิตร่วมกับเฉวียนหมิง

 

 

สายตาและความเห็นของนายท่านผู้เฒ่าไม่สำคัญ ขอเพียงเฉวียนหมิงเสมอต้นเสมอปลายต่อเธอก็พอแล้ว นายท่านผู้เฒ่าไม่ชอบขี้หน้าเธอ ถ้างั้นเธอก็ไม่มาปรากฏตัวต่อหน้าเขา ก็แก้ปัญหาได้แล้ว

 

 

แกคงไม่คอยเฝ้าหลานชายตัวเองตลอดเวลาหรอก ไม่งั้นก็คงเป็นเรื่องแปลก

 

 

“หวังว่าจะเป็นอย่งนั้น อาเสวี่ย ผมจะไปส่งคุณ” เฉวียนหมิงพูดตจบก็จะพาอีลั่วเสวี่ยออกไป

 

 

“ไม่ต้องหรอกค่ะ เวลานี้นายท่านผู้เฒ่าสำคัญที่สุด คุณกลับไปอยู่เป็นเพื่อนท่าน อย่าทำให้เรื่องลุกลามเกินไป ไม่งั้นที่ฉันทนลำบากวันนี้ก็สูญเปล่า” อีลั่วเสวี่ยปฏิเสธข้อเสนอของเฉวียนหมิง

 

 

สุดท้ายเฉวียนหมิงพยักหน้าอย่างจนใจ “งั้นก็ได้ อาเสวี่ย ระหว่างทางระวังด้วย ทางนี้ผมจะพยายามเกลี้ยกล่อมปู่ พรุ่งนี้ผมค่อยไปหาคุณ”

 

 

“เฉวียนหมิง เรื่องนี้ไม่ต้องรีบร้อน จัดการทางคุณปู่ก่อน ระยะนี้เราอยู่ห่างกันบ้าง คุณดูแลเรื่องของบริษัทให้ดี คุณเข้าใจความหมายที่ฉันพูดไหม?”

 

 

ที่นายท่านผู้เฒ่าบันดาลโทสะ ไม่ใช่จะขจัดไปได้ในช่วงเวลาสั้นๆ สำหรับทั้งคู่แล้วอนาคตยังยาวไกล พยายามเลี่ยงไม่ทำให้นายท่านผู้เฒ่าโกรธ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เธอก็คงไม่ได้พบเฉวียนหมิง

 

 

แม้ว่าเธอเองจะโมโห แต่ทำได้เพียงใช้วิธีแบบนี้เพื่อให้คลายโมโห ไม่เช่นนั้นถ้าสองฝ่ายตั้งตัวเป็นศัตรูกัน จะทำให้เฉวียนหมิงต้องลำบากใจ จะทำทำไม

 

 

เฉวียนหมิงถอนหายใจหนักๆ “ผมรู้ งั้นอาเสวี่ย ช่วงนี้คุณต้องอดทนหน่อยนะ”

 

 

“ไม่เป็นไรหรอก เอาละ ไม่พูดแล้ว ฉันไปก่อนนะ คุณรีบกลับไปเถอะ” อีลั่วเสวี่ยเขย่งปลายเท้า จูบแก้มเฉวียนหมิงเบาๆ จากนั้นจึงเดินจากไปอย่างผ่อนคลาย ไม่ใส่ใจบรรดาบอดี้การ์ดที่ยืนรออยู่ที่ประตูเหล็ก

 

 

เฉวียนหมิงลูบจุดที่อีลั่วเสวี่ยจูบ แล้วยกมุมปากขึ้น มองตามหลังเธอไป แล้วจึงกลับเข้าไปข้างใน

 

 

ลูกบอลเงิน “เจ้านาย เจ้าช่างว่าง่ายจริงๆ ข้านึกโมโหแทน เกือบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว อยากชกหน้าคน ทำไมตาแก่นี่ถึงได้ดื้นด้านนัก อยากจะดัดแปลงสมองตาแก่นั่นจริงๆ”

 

 

นี่มันอะไรกัน จิตนาการช่างบรรเจิดจริงนะ ไม่มีหลักฐานสักนิดก็พูดจาบ้าบอคอแตก น่าโมโหจริงๆ

 

 

 

 

ตอนที่ 373 เตรียมให้นายท่านโดยเฉพาะ

 

 

อีลั่วเสวี่ยยิ้มที่มุมปาก แล้วเดินช้าๆ ออกจากคฤหาสน์ของเฉวียนหมิง “จะไปถือสาคนแก่ทำไม ไม่มีประโยชน์หรอก” คนที่ครึ่งตัวอยู่ในดินแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปผูกใจเจ็บหรอก

 

 

ก่อนนี้เธอเคยเผชิญกับเรื่องที่น่าแค้นใจยิ่งกว่านี้ เวลานี้เจอเข้ากับนายท่านผู้เฒ่าเป็นแบบนี้ เธอจึงเฉยมาก

 

 

“แต่ข้านึกโมโหแทน ตาแก่นั่นไม่ควรถือว่าตัวเองแก่แล้วคอยข่มเหงคน ไม่งั้นก็ไม่ต่างกับตาแก่สติเลอะเลือน เห็นชัดๆ ว่าไม่มีเรื่องอะไร แต่ก็ยังคอยหาเรื่อง เจ้าคิดดูสิ คนแก่ที่สมองมีปัญหาแบบนี้ ทำให้ผัวเมียต้องแยกจากกันเท่าไรแล้ว ยังไม่พอใจอีก”

 

 

“โอ้โห ดูไม่ออกจริงๆ ว่าเจ้าคอยเป็นห่วงเป็นใยเรื่องของบ้านเมืองขนาดนี้” อีลั่วเสวี่ยยิ้มร่า เจ้าลูกบอลเงินคงใม่รู้หรอกว่าบนโลกนี้มีคนแก่แบบนี้ไม่น้อย แต่บางคนใช่ว่าจะเป็นอย่างเฉวียนหมิงที่ยืนอยู่ข้างเธอ

 

 

บางคนถ้าไม่เชื่อฟังคนแก่ ก็อาจจะหลับหูหลับตาอยู่ข้างเมีย เป็นปฏิปักษ์กับคนแก่ ทำให้ความแค้นรุนแรงขึ้น

 

 

ลูกบอลเงินชักเขิน “คริคริ ข้าก็แค่ดูที่บางคนเขียนระบายความทุกข์ใจในเน็ต แต่ว่าก็ว่าเถอะ ผู้หญิงเหล่านั้นทุกข์ยากกว่าเจ้ามาก ความร้ายกาจของพ่อผัวแม่ผัวเหนือกว่าตาแก่นั่นมาก”

 

 

“ก็ใช่ แค่เรื่องขี้ปะติ๋ว ข้าต้องถือสาด้วยหรือ ไป ไปเดินเที่ยวกัน แล้วถือโอกาสไปดูที่บริษัทหน่อย” อีลั่วเสวี่ยสลัดความรู้สึกแย่ๆ ในใจออกไป แล้วเรียกรถแท็กซี่ผละไป

 

 

อีกด้านหนึ่ง เฉวียนหมิงเดินกลับเข้ามาในห้อง ใบหน้ามีรอยยิ้ม พอนายท่านผู้เฒ่าเห็นเข้า เดิมทีที่เฉวียนหมิงรู้สึกผ่อนคลายเพราะอีลั่วเสวี่ยก็รู้สึกโมโหทันที

 

 

“ว่าไง ไปส่งที่ประตูระยะทางไกลมากหรือ เด็กสาวคนนั้นใช้ยาอะไรมอมแก ถึงกับทำให้แกเปลี่ยนไปจนไม่ใช่ตัวเองมากขึ้นทุกที!” นายท่านผู้เฒ่าพูดจบก็ยิ่งโมโห

 

 

เปลี่ยนไปแล้ว หลานชายตนเองแทบจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ทำให้ผู้เฒ่ารู้สึกหวั่นใจและหงุดหงิด

 

 

เฉวียนหมิงขมวดคิ้ว แต่คิดถึงคำพูดอีลั่วเสวี่ย จึงนั่งลงตรงข้ามกับนายท่านผู้เฒ่า “ปู่ครับ ปู่พูดมาเถอะ อาเสวี่ยทำผิดอะไรกันแน่ ปู่ถึงกลับมาตั้งไกลเพื่อพูดเรื่องเหล่านี้”

 

 

“ไม่ใช่ความผิดเธอ เป็นความผิดปู่เอง ครึ่งปีก่อนฉันควรจัดการให้พวกแกหย่ากันแล้ว เป็นความผิดฉันเอง” เขาคิดว่าในเมื่อหลานใจตนพอใจก็รอดูก่อน รอจนหลานชายรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้รักเขาหรือพบว่าตนเองไม่ได้รักเธอแล้วค่อยหย่าก็ได้

 

 

แต่ผลกลับเป็นเรื่องที่เขาคาดไม่ถึง สองคนนี้ที่เดิมเหมือนจะไม่ได้รักกัน พออยู่ด้วยกันระยะหนึ่งกลับมีความรักเพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกบอกเขาว่านี่น่าจะเป็นแผนร้าย

 

 

“ปู่ครับ ปู่ก่อความวุ่นวายพอหรือยัง นับจากที่อาเสวี่ยมาที่บ้านสกุลเฉวียน เธอสร้างความเดือดร้อนอะไรให้ปู่หรือ? ผมรู้ดีว่าก่อนนี้ปู่ดูถูกฐานะของเธอ คิดว่าเธอก็แค่ลูกบุญธรรมของเจ้าของบริษัทเล็กๆ ยังปิดตัวไปแล้ว แต่ปู่รู้ไหมว่าเธอ…”

 

 

“กึก กึก กึก!” เฉวียนหมิงยังไม่ทันพูดจบ นายท่านผู้เฒ่าก็ลุกพรวดขึ้น ใช้ไม้เท้ากระแทกพื้นแรงๆ หลายที ทำตาโต

 

 

“พอที ฉันไม่อยากฟังเรื่องของผู้หญิงคนนี้แล้ว รวมทั้งชื่อเธอด้วย!”

 

 

เฉวียนหมิงอ้าปากค้าง สุดท้ายก็เบือนหน้าหนี สีหน้าย่ำแย่มาก

 

 

เหล่าเกายืนอยู่ข้างๆ เห็นไฟสงครามไม่ได้ลุกลามก็ถอนหายใจเบาๆ

 

 

“แฮ่ แฮ่ นายน้อย นายท่านผู้เฒ่า มีเรื่องอะไรไว้รอหลังทานอาหารเที่ยงแล้วค่อยคุยกันก็ได้ครับ นี่เป็นน้ำแกงที่นายน้อยตุ๋นไว้ บอกว่าลองหัดทำ แล้วรู้สึกว่ารสชิติไม่เลว ทำเตรียมไว้ให้นานท่านครับ”

 

 

เหล่าเกาโกหกเพื่อทำให้นายท่านผู้เฒ่าพอใจ

 

 

“ตุ๋นให้ฉันกินรึ เจ้าหนูนี่ใจดีอย่างนั้นเชียวหรือ?” กลัวว่าจะทำให้แม่นั่นกินมากกว่า อย่าคิดว่าเขาไม่รู้นะ

 

 

เหล่าเการีบอธิบายทันที “ที่นายน้อยมีความกตัญญู นายท่านย่อมรู้ดี หรือว่านายท่านไม่อยากชิมของที่นายน้อยทำ?”

 

 

คำถามของเหล่าเกาทำให้นายท่านผู้เฒ่าอยากกินขึ้นมาทันที แกร้องหึ แล้วลุกขึ้นเดินไปที่ครัว