บัญชามังกรเดือด บทที่ 847 แผนการของหยินจ๋า
ฉินชวนนั้นสะบัดออกจากทุกคน แล้วได้พาฉินเทียนนั้นออกไป แล้วกลับไปยังที่เมืองฮั่น ก่อนที่จะให้เขานั้นได้ไปพักอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหู ซึ่งตอนนี้คือจวนราชาเถียสิบสาม
พวกเขาในตอนแรกนั้น ได้หาหมอที่ดีที่สุดเอาไว้แล้ว หลังจากที่ได้ทำการตรวจสอบร่างกายของฉินเทียนอย่างละเอียดแล้ว พบว่าทุกอย่างนั้นยังคงปกติดีอยู่
แต่ว่าสิ่งที่แปลกไปนั้นก็คือ ถึงแม้ว่าใบหน้าของเขานั้นจะได้กลายเป็นสีแดงไปแล้ว แต่ว่าการหายใจนั้นยังคงคงที่อยู่ แต่ว่ากลับไม่มีอาการที่จะฟื้นตื่นขึ้นมา
ส่วนฉินช่วยนั้นที่ได้เป็นศัตรู แต่ว่าทั้งเช้าและเย็นนั้น กลับกลายเป็นคนคอยปกป้องด้วยตนเอง
……
เมื่อที่ได้ออกมาจากเมืองจวนฉิน หยางหลิวเหมือนราวกับคนบ้า เมื่อมาถึงที่นอกเมืองทางด้านแถบภูเขา
“ฉินฉี ออกมาเดี๋ยวนี้นะ!”
“แกบอกมานะ ว่าแกนั้นทำไมถึงจะต้องทำกบฏเช่นนี้?หากวันนี้ไม่ออกมาอธิบายให้ข้าล่ะก็ ข้านั้นจะไม่มีวันจบกับแกแน่!”
เธอนั้นบ้าไปแล้ว ก่อนที่พุ่งออกเข้าไปอาละวาด และพวกนักบวชพวกนั้นต่างก็รู้ในตัวตนของเธอ และไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปขวาง
หลังจากนั้น หยางหลิวนั้นได้เข้าไปคว้านักบวชน้อยเอาไว้ ก่อนที่จะใช้มีดจี้ไปที่คอ และบังคับถามเกี่ยวกับเรื่องของฉินฉี
นักบวชน้อยจนปัญญาก่อนที่จะเอ่ยว่า นายฉินนั้นได้ปลีกวิเวกจำศีลแล้ว
“ปลีกวิเวกจำศีล? เขานั้นจงใจที่จะหลบซ่อนจากฉันชัดๆ!”
“ไม่ว่ายังไง ฉันก็จะต้องหาเขาออกมาให้ได้!”
หยางหลิวนั้นได้มาที่ด้านหลังภูเขาที่ฉินฉีนั้นปลีกวิเวกจำศีล ด้านหน้าที่ปากถ้ำนั้น เธอนั้นได้กระแทกประตูหินอย่างบ้าคลั่ง
แต่ทว่าหลังจากนั้น ประตูหินนั้นกลับไม่ได้ขยับแต่อย่างใด
จากที่ได้เอ่ยไว้ ว่าประตูหินนี้นั้นจะเปิดได้จากภายด้านในเท่านั้น จะเอ่ยได้ว่า หากคนที่เข้าไปปลีกวิเวกจำศีลนั้น อยากจะออกก็ต่อเมื่อตนเองนั้นอยากออกมา
มิฉะนั้น คนด้านนอกนั้น ไม่สามารถที่จะเข้าไปได้
หยางหลิวนั้นทั้งร้องไห้และตะโกนออกมา เสียงเหมือนแทบจะขาดใจ
“ฉินฉี คุณทำแบบนี้กับฉันมันคู่ควรแล้วหรอ?”
“ในปีนั้นหากไม่ใช่เพราะฉันนั้นมาแต่งงานกับคุณ หากไม่ใช่เพราะได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลหยาง คุณจะสามารถมาอยู่ในจุดตำแหน่งผู้นำตระกูลนี้ได้หรอ?”
“สมาชิกของตระกูลพวกนั้น จะยอมรับคุณได้อย่างงั้นหรอ?”
“ตอนนี้ ไอ้เจ้าลูกชายไร้ประโยชน์ของคุณนั้นได้ฆ่าพี่ชายของฉัน เขานั้นกลับฆ่าพี่ชายของฉัน!”
“ฉันไม่สนใจหรอก ฉันขอสาบาน ว่าจะต้องลงโทษเขาอย่างสาสม!”
ด้านหลังภูเขาที่ว่างเปล่า ที่ได้มีแต่ความสงบ ประตูหินที่ผิดสนิท ราวกับว่าเหมือนรูปปั้นแกะสลักที่สงบ
“คุณหญิง ใจเย็นๆก่อนนะ”
“พวกเรานั้นจะต้องมาปรึกษากัน ว่าต่อไปนี้จะจัดการกันยังไง”
ยายแม่มดที่ตามมาในภายหลังนั้น เอ่ยกระซิบกันเสียงเบา
เวลาผ่านไปนาน หยางหลิวนั้นถึงจะค่อยระงับสติอารมณ์ได้ ในดวงตาของเธอนั้นเป็นสีแดง ก่อนที่จะปรากฏถึงความโกรธแค้น ที่ดุร้ายดุจหมาป่า
“ตระกูลฉินนั้นไม่สามารถที่จะช่วยพวกเราล้างแค้นใช่ไหม?งั้นข้าจะไปล้างแค้นด้วยตนเอง!”
“ไปกัน!”
เมื่อกลับมาถึงที่ เธอนั้นได้เรียกหยินจ๋าออกมา
“หยินจ๋า ถ้าหากข้าจำไม่ผิดล่ะก็ นายหญิงใหญ่นั้นได้มอบหมายภารกิจให้ไปจับตัวฉินเทียนมานั้น ได้มองให้กับเจ้าไปแล้ว”
“เวลาผ่านไปก็นานแล้ว แต่ว่าเจ้านั้นกลับไม่ได้ลงมืออะไรเลย”
“เจ้าไม่อยากที่จะอยู่ต่อไปแล้วหรือไง?”
เมื่อต้องถูกกดกันอาละวาดจากหยางหลิวแล้ว หยินจ๋านั้นไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแต่อย่างใด เขามองไปแล้วภายในหัวก็ได้มีความคิด
“คุณหญิง ผมนั้นได้มีความคิดแผนการเอาไว้แล้ว”
“จนในตอนนี้นั้นฉินเทียนนั้นยังไม่ฟื้นคืนสติ แต่ว่าเขานั้นได้รับการปกป้องลับๆจากเผ่ามังกรซ่อนรูป อยากที่จะจัดการเขา นั้นอาจจะเป็นไปไม่ได้”
“แต่ว่า ข้านั้นรู้จุดอ่อนที่จะเอาชีวิตของเขา”
หยางหลิวกัดฟันเอ่ยถาม“มันคืออะไร?รีบเอ่ยมาสิ!”
หยินจ๋าเอ่ยตอบเสียงเบาๆ“ฉินเทียนนั้นได้ไปอยู่ที่เมืองเล็กๆทางตอนใต้ตั้งหลายปี แล้วได้แต่งงานกับสาวในแดนใต้พื้นเมืองคนหนึ่ง จากที่ผมทราบมานั้น ฉินเทียนนั้นให้ความสำคัญกับเธอเป็นอย่างมากครับ”
“หญิงสาวผู้นั้น จนวันนี้เธอนั้นได้อยู่ในช่วงการตั้งครรภ์แล้ว ได้มีเลือดเนื้อเชื้อไขของเจ้าฉินเทียนแล้ว”
หยางหลิวกัดฟันเอ่ย“ที่เขานั้นมีผู้หญิงฉันนั้นรู้ดี แต่ว่ายัยคนหน้าด้านคนนั้นกลับได้ท้องแล้วมีเลือดเนื้อเชื้อไขให้กับเขา?”
“งั้นจะต้องจัดการถอนรากถอนโคนส่ะ!”
“เจ้านั้นอยากที่จะเอาหญิงสาวคนนั้นมาบีบบังคับฉินเทียนใช่ไหมล่ะ?รายละเอียดแผนการคือยังไงล่ะ?”
“ตอนนี้ฉินเทียนนั้นได้ไปอยู่ที่ซีเป่ย เขานั้นมีพี่น้องมากมาย ที่ตามไปด้วยกัน แต่ที่แดนใต้นั้นกลับว่างเปล่า ……”หยินจ๋าเอ่ยเสียงเบาก่อนที่จะเล่าอธิบายแผนการของเขา
หลังจากที่หยางหลิวนั้นได้ฟังแล้ว ก็ได้ปรากฏเผยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย
“แผนการนี้ฉันอนุญาต”
“หยินจ๋า เจ้านั้นพาทัพไปด้วยตนเอง รีบไปที่ยังแดนใต้ แล้วไปจัดการจับตัวยัยผู้หญิงหน้าด้านคนนั้นมาให้ฉัน!”
“ฉินเทียน ในรอบนี้นั้น ฉันจะคอยดูว่าแกนั้นจะหนีไปที่ไหนได้!”
……
หลงเจียง ณ อุทยานมังกร
ระยะเวลาห่างจากรอบก่อนที่ฉินเทียนนั้นกลับมาครั้งสุดท้ายนั้น ก็ผ่านไปแล้วช่วงเวลาหนึ่ง ท้องของซูซูตอนนี้เริ่มเห็นได้ชัดแล้ว อีกทั้งเมื่อมองไปแล้ว ยังใหญ่กว่าท้องคนอื่นที่อยู่ในระยะเวลาเดียวกัน อีกทั้งยังทั้งใหญ่และกลมโต
เธอจริงๆแล้วนั้นไม่ได้อ้วนแต่อย่างใด สีหน้าและขาแข้งที่ดูผอม ดังนั้นจึงเหมือนกับใส่เสื้อผ้าแล้วใส่แตงโมเอาไว้ด้านล่าง
เธอมองไปแล้วเหมือนจะลำบาก
ไม่รู้ว่าทำไมกัน หยางยู่หลันนั้นทุกวันทำอาหารให้คนท้องหลากหลายชนิด เธอนั้นก็กินไปไม่น้อยแล้ว แต่เหมือนกับว่าพลังงานทั้งหมดนั้นจะโดนเด็กน้อยที่อยู่ในท้องนั้นดึงดูดเอาไปสะหมด
เด็กน้องนั้นได้ดูดเอาพลังงานสารอาหารไปแล้วไม่พอ อีกทั้งยังจะดูดเอาพลังงานในร่างกายของซูซูไปอีก
ดังนั้นนอกจากท้องของเธอแล้ว เธอนั้นก็ยังเหมือนคนผอมแห้ง โดนเฉพาะตรงใต้ดวงตาที่ลึกลง อีกทั้งในดวงตานั้นยังเหมือนไม่มีแสงสว่างอีกด้วย
ตั้งแต่เช้าจนเย็นนั้น คิดอยากที่จะเอาแต่นอนหลับ
นี่ยิ่งทำให้หยางยู่หลันนั้นร้อนรน อีกทั้งยังเป็นกังวลอีก
แท้จริงแล้วรอบก่อนที่ฉินเทียนนั้นกลับมา ซูซูนั้นยังมีอาการ แต่เพียงเกรงว่าจะทำให้ฉินเทียนนั้นเป็นกังวล ซูซูนั้นเลยจงใจที่จะเก็บเรื่องนี้เอาไว้แล้วไม่ได้เอ่ย
หยางยู่หลันหลายครั้งแล้วที่อยากที่จะโทรศัพท์ไปหาฉินเทียน แต่ไม่รู้ว่าทำไม ฉินเทียนไม่ได้อยู่ข้างๆแล้ว เธอนั้นรู้สึกเหมือนว่าในใจของเธอนั้นไม่มีจุดที่สิ้นสุด
ราวกับว่าได้มีเรื่องที่ไม่ได้นั้นกำลังจะเกิด
แต่นั้นเป็นเพราะว่าซูซูนั้นคอยห้ามเอาไว้
เมื่อก่อนซูซูนั้น ก็เป็นคนจิตใจแกร่ง หยิ่งผยอง นั้นเป็นหญิงสาวสวยที่จิตใจแข็งกระด้างและเย็นชา เหมือนกับสาวที่เป็นระดับผู้บริหาร แต่หลังจากที่ได้ตั้งครรภ์ นิสัยของเธอนั้นก็ค่อยๆเปลี่ยนไป
เปลี่ยนไปเป็นเงียบสงบ เปลี่ยนไปเป็นอ่อนโยน เธอนั้นจะคอยระมัดระวังเกี่ยวกับเด็กน้อยในท้องของเธอ และไม่อยากที่จะสร้างปัญหาให้กับฉินเทียน
เพราะว่าเธอนั้นรู้ดี ว่าฉินเทียนนั้นอยู่ที่ด้านนอกนั้นก็ยุ่งแต่กับเรื่องใหญ่ๆที่ด้านนอก
เขานั้นจะต้องไปไหนไม่ได้ มิฉะนั้นไม่จำเป็นต้องเอ่ยออกมา แน่นอนว่าเขานั้นจะต้องรีบกลับมาอยู่กับเธอ
เธอรู้สึกว่า ตนเองนั้นต้องทำนั่นก็คือพยายามที่จะไม่สร้างปัญหา แล้วปล่อยให้พ่อของเขานั้นออกไปจัดการทำเรื่องธุรกิจส่ะ
เธอนั้นก็รู้อีกว่า ฉินเทียนนั้นทำเพื่อเธอและลูก และพยายามทำทุกอย่าง
แล้วท้องลูกที่ไหนล่ะจะไม่ลำบาก?ดังนั้นเธอจึงค่อยๆยอมรับ และรู้สึกว่าแค่ผ่านช่วงเวลานี้ไปเดี๋ยวก็จะดีขึ้นเอง
ในวันนี้ เธอนั้นได้รับโทรศัพท์แปลกหนึ่งสาย ฝั่งตรงข้ามนั้นบอกว่าเป็นคนของตระกูลฉินจากทางเมืองซีเป่ย เป็นหนึ่งในห้าราชา นามว่าราชาหยินจ๋า
ราชาหยินจ๋าในโทรศัพท์นั้น เขานั้นยังยอมรับอย่างเต็มใจอีกเกี่ยวกับเรื่องความแค้นระหว่างฉินเทียนและตระกูล
เขานั้นบอกซูซู ว่าตอนนี้ฉินเทียนนั้นอยู่ที่ซีเป่ย และเขานั้นได้ถูกตระกูลฉินนั้นกักขังเอาไว้ ส่วนนายหญิงใหญ่เป็นเพราะว่าฉินเทียนนั้นไม่ยอมที่จะก้มหัวลงให้ เลยอยากที่จะฆ่าฉินเทียน
ทุกคนนั้นอยากที่จะช่วยฉินเทียน เลยพยายามที่จะคิดหาหนทางเพื่อช่วยเหลือ
นั่นก็คือ อยากให้ภรรยาของฉินเทียนคือซูซูนั้น เข้าไปพบกับนายหญิงใหญ่ด้วยตนเอง
ตอนนี้ซูซูนั้นได้ท้องเลือดเนื้อเชื้อไขของฉินเทียน นั่นก็เหมือนกับว่าตระกูลฉินนั้นได้มีทายาทใหม่แล้ว
นายหญิงใหญ่ที่อายุมากแล้ว หากเธอนั้นมีความหวังอยากที่จะกอดเหลน เธอนั้นจะต้องมีความสุขอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้น ไม่ต้องเอ่ยเลย เธอนั้นจะปล่อยฉินเทียนอย่างแน่นอน
ดังนั้น หยินจ๋านั้นเลยแอบมาที่เมืองหลงเจียง ต้องการอยากที่จะมารับซูซูไปที่เมือง เมืองฉิน เพื่อไปพบกับนายหญิงใหญ่
หยินจ๋านั้นยังกำชับกับซูซู ว่าเรื่องนี้จะต้องปกปิดเป็นความลับ เมื่อเวลาที่ออกเดินทางนั้น ไม่สามารถที่จะให้ใครนั้นทราบ
โดยเฉพาะ พวกองครักษ์ในพื้นของฉินเทียนพวกนั้น เช่นเหลิ่งเฟิง เหลยเป้าและคนอื่นๆ
เพราะว่าหากพวกเขานั้นทราบเข้า จะต้องเข้ามาห้ามอย่างแน่นอน งั้นเรื่องนี้จะไม่สำเร็จ
ชีวิตของฉินเทียนนั้นตอนนี้กำลังตกอยู่ในอันตราย
อย่างที่ว่าเมื่อที่ท้องก็จะเหมืองโง่ไปสามปี ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหลังจากท้อง ความคิดเลยเปลี่ยนไปเชื่อคนง่ายอีกทั้งยังเป็นกังวลไปทั่ว
หลังจากที่ซูซูนั้นคิดพิจารณา แล้วก็ได้รับปากไปกับหยินจ๋า
ในวันที่สอง เธอนั้นจะออกไปด้านนอกโดนบอกว่าจะไปเดินเล่น จะเข้าไปในเมือง และใช้โอกาสในตอนนี้คนนั้นไม่ได้สนใจ แล้วรีบไปขึ้นรถพาณิชย์สีดำที่จอดอยู่ข้างทางพร้อมทั้งไม่มีป้ายทะเบียน
เมื่อรถสตาร์ต ก่อนที่จะค่อยๆขับจากไปจากเมืองหลงเจียง แล้วมุ่งหน้าไปยังทางซีเป่ย