ตั้งแต่ที่หลูปิงเซ่อจากไปฉางกวนยวีซินที่ไม่เคยชอบความสามารถของหลูปิงเซ่ออยู่แล้วก็ยิ่งไม่พอใจเข้าไปอีก หลูปิงเซ่อเคยช่วยชูฮันแค่ครั้งเดียว และมันก็แค่เพียงเล็กน้อยแถมอีกฝ่ายก็มีความสามารถที่จำกัด แต่ชูฮันถึงกับให้หลูปิงเซ่อเป็นคนสนิทที่คอยติดตาม ถ้าไม่ใช่เพราะซงเสี่ยวที่เคยเรียนรู้เรื่องเฮลิคอปเตอร์มาละก็ ทุกอย่างก็คงจบสิ้นไปแล้ว!
แถมหลังจากนั้นการช่วยเหลือของฉางกวนยวีซินก็ถูกป่าวประกาศและโดนหลายคนต่อว่าอย่างหยาบคาย คำพูดน่าอับอายมากมายถาโถมเข้าใส่เธอไม่หยุด และความปรปักษ์ของผู้คนในค่ายหนานตู้ที่มีต่อค่ายเขี้ยวหมาป่าก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นไปอีก
ประสบการณ์แสนระทึกนี้ทำให้ฉางกวนยวีซินได้คิดทบทวนอย่างมากชูฮันเป็นคนที่พิเศษมากเกินไปและชูฮันก็มีคนเก่งกาจมากมายรายล้อมอยู่รอบตัว
หากในขณะเดียวกันก็มีหลายคนที่ต้องการจะเอาชีวิตชูฮันหลายคนมองชูฮันเป็นเสี้ยนหนามแม้ว่าชูฮันจะไม่ได้ทำอะไรเลย และมันก็จะมีการลอบสังหารชูฮันเกิดขึ้นไม่จบไม่สิ้น มีวิกฤตเกิดขึ้นทุกที่
ฉางกวนยวีซินไม่อยากจะคอยหลบอยู่หลังชูฮันตลอดไปแน่นอนว่าเธอรู้ดีว่าชูฮันไม่สนใจเรื่องนี้ แต่เธอสน!
แม้ว่าข้างกายชูฮันจะมีนักสู้ระดับสูงจากตระกูลลึกลับอย่างป่ายหวีเนอ แต่มีซางจิ่วตี้ผู้เก่งกาจคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง แต่สำหรับเธอล่ะ? นอกจากความสามารถด้านการแพทย์แล้ว เธอก็ทำอะไรไม่ได้เลย
และมันก็ไม่สามารถช่วยอะไรชูฮันได้เลยสักนิดรวมถึงไม่มีความหมายสำหรับชูฮัน!
เธอต้องการพัฒนาตัวเองเธอต้องการอยู่เคียงข้างชูฮันได้อย่างมีค่า ไม่ใช่แจกันที่คอยประดับข้างกายอย่างไร้ประโยชน์! เพราะฉะนั้นเธอจะต้องยอมฝืนใจตัวเองตอนนี้ มันดีกว่าที่จะเริ่มจากศูนย์ เริ่มตั้งแต่ตอนนี้และพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อที่เธอจะสามารถยืนเคียงข้างชูฮันได้อย่างภาคภูมิ
ค่ายหนานตู้ค่ายที่ใหญ่ที่สุดอันดับสามของจีน ถ้ากำจัดพวกที่ซ่อนตัวอยู่ในที่มืดออกไปได้ ทุกอย่างก็จะตกอยู่ในการดูแลของเธอ และเมื่อถึงตอนนั้นทั้งชูฮันหรือค่ายเขี้ยวหมาป่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอก็จะสามารถให้การสนับสนุนที่เป็นประโยชน์ได้
แล้วอะไรคือสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อชูฮัน?
แทนที่จะปล่อยให้พ่อของเธอต้องทำงานหนักเหนื่อยล้ากับการควบคุมดูแลค่ายหนานตู้ต่อไปมันก็น่าจะดีกว่าถ้าเธอรับช่วงต่อแทน แม้ว่ามันจะยาก แต่เธอไม่กลัวเลยสักนิด
เธอจะทำให้ดีที่สุด!
นี้คือสิ่งที่ฉางกวนยวีซินเชื่อมั่นเต็มอกเธอตระหนักมันได้ระหว่างสงครามที่ค่ายหนานตู้เผชิญ ฉางกวนหลงช็อคกับการตัดสินใจฉับพลันของลูกสาวเขาพูดอะไรไม่ออกอยู่พักหนึ่ง ความทะเยอะทะยานและความแน่วแน่ในแววตาของยวีซินที่เขาเห็นเป็นของจริง แต่เขาคิดไม่ออกเลยว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับลูกสาวเขาแบบนี้?
ยวีซินต้องการแต่งงานกับชูฮันไม่ใช่เหรอ?
ดูเหมือนว่าความคิดนี้ก็ไม่เลวเลย!
ดังนั้นฉางกวนหลงจึงเปลี่ยนใจทันทีและมองยวีซินอย่างภูมิใจดีนี่! ชูฮันทำดี แม้จะไม่ค่อยดีกับลูกกะตาเขาเท่าไหร่ ก่อนหน้านี้ฉางกวนยวีซินไม่เคยคิดสนใจเรื่องการจัดการค่ายเลย เขาจึงตัดสินใจปกป้องลูกโดยการส่งออกไปจากที่นี้
แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้วทัศนคติของฉางกวนยวีซินพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ แล้วชูฮันล่ะ? ยวีซินไม่สนใจเรื่องค่ายเขี้ยวหมาป่าแล้ว!
นี่มันเรื่องดีสุดๆ! ท่ามกลางความเข้าใจผิดของฉางกวนหลงฉางกวนยวีซินก็เรียนรู้และรับฟังคำแนะนำเรื่องการปกครองจากผู้เป็นพ่ออย่างหนักหน่วง
————
ค่ายซือฉวนเฉินยุนโหลวเหนื่อยล้าจากการเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ กลิ่นตัวเหม็นหึ่งที่สามารถได้กลิ่นมาแต่ไหล หลายคนที่มารอต้อนรับต่างชะงักกันหมด
หากเฉินยุนโหลวไม่สนใจเขาเพียงเดินลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ทันทีและมุ่งหน้าไปยังห้องทำงานของพลเอกแห่งค่ายซือฉวนอย่างไม่คิดหยุดพักหรือทีท่าทีลังเลให้เห็น รวมถึงเมินเฉยต่อสภาพจิตใจและร่างกายที่แสนจะเหนื่อยล้าของตัวเอง
”ปึง!”
เฉินยุนโหลวไม่คิดจะเคาะประตูประตูห้องของพลเอกถูกผลักกระแทกเปิดออกอย่างรุนแรงทันที เจ้าหน้าที่รักษาการณ์ก็ไม่คิดจะห้าม แถมกลับกันยังก้มโค้งทำความเคารพต่อเฉินยุนโหลวอย่างสงบนิ่ง
เฉินยุนโหลวไม่คิดจะสนใจการกระทำของตัวเองเลยเขาเดินเข้าไปในห้องปัดประตูให้ปิดลง ก่อนจะเหลือบมองเจ้าหน้าที่รักษาการณ์ทั้งสองคนหน้าประตูด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก
ในขณะที่เฉินยุนโหลวเดินผ่านประตูเข้ามาน้ำเสียงของชายสูงอายุในห้องก็ดังขึ้นมา “ผมได้ชัยชนะมา ไม่มีงานฉลองให้ผมหน่อยเหรอ?”
เฉินยุนโหลวอยู่ที่พักอยู่ค่ายหนานตู้เป็นเวลาเกือบเดือนได้ประสบกับการลอบสังหารชูฮันทุกครั้ง รวมถึงสงครามกองทัพซอมบี้ แถมยังได้ร่วมต่อสู้อย่างกระทันในตอนที่เกิดการบุกโจมตีกระทันหันของกองทัพซอมบี้ จนกระทั่งวันนี้ที่กองทัพซอมบี้หยุดโจมตี ค่ายหนานตู้ได้ชัยชนะ และตัวเขาก็กลับมาค่ายซือฉวนทันที เสื้อผ้านั้นชุ่มไปด้วยเลือดทั้งของคนและซอมบี้จนหนาแถมยังส่งกลิ่นเหม็นคาวไปฟุ้งไปทั่ว เฉินยุนโหลวยืนเงียบๆอยู่พักหนึ่งหากด้วยความที่เหนื่อยล้าเต็มที่แล้วเขาจึงตัดสินใจพูดเข้าตรงประเด็นโดยไม่รักษาระเบียบการทางทหาร “ท่านลุง ผมมีรายงานด่วน”
ที่นั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ชายสูงวัยเงยหน้าขึ้นเป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่เฉินยุนโหลวเข้ามาในห้อง เขาเบนสายตาจากเอกสารที่สูงกว่าครึ่งเมตรตรงหน้ามาที่เฉินยุนโหลว
ถ้าชูฮันอยู่ที่นี้มันคงจะเป็นเรื่องน่าประหลาดใจสุดๆ เพราะท่านลุงของเฉินยุนโหลว ซึ่งก็คือผู้นำสูงสุดแห่งค่ายซือฉวน แท้จริงแล้วคือชายแก่ที่ชูฮันเจอที่เมืองในช่วงแรกของการปะทุโลกาวินาศ
เหวินชี่เชิง!
แววตาของเหวินชี่เชิงจับจ้องไปที่เฉินยุนโหลวเงียบเขาหยุดทุกอย่างในมือลงทันที “จุดประสงค์ เป้าหมาย รายงานตำแหน่ง เวลา คนและผลลัพธ์!”
เหวินชี่เชิงที่รู้ดีว่าเฉินยุนโหลวจะต้องกลับมาทันทีหลังจาากได้ชัยชนะครั้งใหญ่เพราะงั้นเขาจึงต้องถ่วงเวลาเพราะรู้ดีว่ามันจะต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นตามมาแน่นอน!
เฉินยุนโหลวพยักหน้าสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามสงบอารมณ์และตั้งสมาธิเพื่อรายงานเหตุการร์ไร่เรียงตามลำดับที่เกิดขึ้นในค่ายหนานตู้
รายงานเกี่ยวกับเขี้ยวมังกรนั้นแสนจะสั้นเพราะการมาเยือนของเขี้ยวมังกรนั้นแสนจะสั้นและกระทันหันการรายงานทุกอย่างใช้เวลามากกว่าครึ่งชั่วโมงเพราะเฉินยุนโหลวรายงานทุกรายละเอียดอย่างถี่ถ้วยและตาาามระเบียบการอย่างไม่ขาดตกบกพร่องและสมบูรณ์แบบ
ซึ่งความสามารถนี้ของเฉินยุนโหลวแล้วนอกจากเหวินชี่เชิง ทุกอย่งจบลงในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีด้วยซ้ำ ทว่าครั้งนี้เหวินชี่เชิงก็ไม่มีใครเคยได้เห็น เฉินยุนโหลวเป็นอัจฉริยะ ถ้าฉางกวนหลงได้มาเห็นละก็คงช็ออคหัวใจวายตายไปแล้ว คิดจะกินเสื้อ? หลังจากรายงานทุกอย่างเสร็จครบถ้วนเฉินยุนโหลวก็เหนื่อยล้าจนแทบขยยับตัวไม่ได้ หากเฉินยุนโหลวก็ยังยืนนิ่งไม่ขยับ เพื่อรอให้เหวินชี่เชิงเปิดปากพูด
เพราะเขารู้การมาฉุกเฉินของเขี้ยวมังกรในครั้งนี้มันต้องอะไรมากกว่าแค่การมาส่งข่าวแน่ๆ!
เฉินยุนโหลวไม่รอนานเกินไปเพราะปฏิกิริยาตอบสนองของเหวินชี่เชิงนั้นเหนือควาามคาดหมายของเขาไปมาก
เหวินชี่เชิงแสยะยิ้มออกมาหลังจากนิ่วหน้าคิ้วขมวด”แล้วฉางกวนหลงก็เลือกที่จะไม่สนับสนุน?”
เฉินยุนโหลวตอบกกลับหลังจากผ่านไปจังหวะหนึ่ง”ครับ”
”เรียนรู้ได้ดี”เหวินชี่เชิงก้มหล้าลงจัดการกับกองเอกสารตรงหน้าตวัองต่อ “หลังจากสงคราม สิ่งที่พวกเขาต้องการก็คือการพักฟื้น”