บทที่ 368 หมื่นผีเสื้อเริงระบำเย้ยยมโลก

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

บทที่ 368 หมื่นผีเสื้อเริงระบำเย้ยยมโลก

เหตุผลที่หลิงตู้ฉิงคุ้นเคยกับภูตนางฟ้า เพราะในชาติก่อนเขาเคยมีภูตนางฟ้าอยู่ตนหนึ่งคอยเคียงข้าง

อย่างไรก็ตาม ภูตนางฟ้านั้นไม่ใช่ญาติของเขา แต่เป็นคนรับใช้ของเขา นางเป็นทาส! เป็นเพราะเหตุผลนี้เองที่เขาต้องการประมูลอี้ลั่วเอ๋อออกมา หลิงตู้ฉิงเองก็ไม่คิดว่าเจ้าหญิงเผ่าภูตนางฟ้าตนนี้จะเป็นแค่คนโง่ที่ไม่รู้อะไรเลย นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครจับนางมาขาย

“ตอนนี้เผ่าภูตนางฟ้าของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” หลิงตู้ฉิงถาม

“ข้าไม่รู้!” อี้ลั่วเอ๋อส่ายหัว “ข้าจากมานานแล้ว ข้าจะรู้ได้อย่างไร? ใช่ไหม? ว่าแต่ท่านจะส่งข้ากลับเมื่อไหร่?

“ป่าภูตของเจ้าอยู่ไกลมาก ดังนั้นในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ข้าจะยังไม่ไปที่ป่าภูต” หลิงตู้ฉิงส่ายหัว

อี้ลั่วเอ๋อพูดขึ้นอย่างเร่งรีบ “แต่ท่านเป็นคนบอกกับข้าเองว่าท่านจะส่งข้ากลับไป!”

“ถึงข้าจะพูดไปแบบนั้น แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าข้าจะพาเจ้ากลับไปในเร็ว ๆ นี้! ระหว่างนี้เจ้าต้องติดตามข้าและพยายามฝึกฝนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปก่อน ในอนาคตเจ้าจะได้กลับไปเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม” หลิงตู้ฉิงตอบกลับด้วยความเหนื่อยใจ

อี้ลั่วเอ๋อพูดอย่างรู้สึกผิดว่า “แม่ของข้าไม่ได้สอนอะไรเกี่ยวกับการบ่มเพาะในระดับสูงสักเท่าไหร่ ดังนั้นข้าเองก็ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ข้าจะต้องบ่มเพาะอย่างไรต่อไปและข้าเองก็ไม่สามารถฝึกวิชาของพวกท่านที่เป็นมนุษย์ได้ด้วยเช่นกัน”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและพูดว่า “ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น แค่แสดงให้ข้าเห็นว่าเจ้ากำลังบ่มเพาะอะไรก็พอ”

“นี่ท่านกำลังคิดที่จะเรียนรู้วิธีการบ่มเพาะของเผ่าภูตนางฟ้าของข้างั้นเหรอ? ข้าขอเตือนเอาไว้ก่อนเลยว่าวิชาของพวกเราเผ่าภูตนางฟ้า มนุษย์นั้นไม่สามารถฝึกฝนได้แน่นอน” อี้ลั่วเอ๋อพูดขึ้นด้วยสีหน้าระแวง

หลิงตู้ฉิงมองไปที่ภูตตัวน้อยด้วยอาการปวดหัว

เขาส่ายหัวและใช้นิ้วจิ้มไปที่หน้าผากของนาง ทำให้นางหลับไปทันทีโดยที่นางยังไม่ทันได้ขัดขืน

เมื่อหลิงตู้ฉิงเข้าสู่ห้วงความฝันของอี้ลั่วเอ๋อ เขาพุ่งเป้าไปที่การค้นหาข้อมูลที่เขาต้องการโดยใช้วิชาห้วงนิทราแห่งราชันย์

หลังจากเวลาผ่านไปสักพัก ในที่สุดเขาก็ออกจากห้วงความฝันของอี้ลั่วเอ๋อ และปลุกอี้ลั่วเอ๋อให้ตื่นขึ้น

หลังจากที่นางตื่น นางมองไปที่หลิงตู้ฉิงทันทีด้วยน้ำตาที่เอ่อล้น “ท่านล่วงเกินข้าไปแล้วใช่ไหม? ถ้าหากข้าตั้งท้องขึ้นมาท่านจะทำยังไง?”

หลิงตู้ฉิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย “จริง ๆ แล้วเจ้าไม่ได้ไม่รู้เรื่องเหมือนอย่างเจ้าบอกกับข้ามาสักนิด เจ้าเองรู้เรื่องราวทุกอย่างมากมายแต่เจ้ากลับปฏิเสธที่จะไม่บอกมันกับข้า ในฐานะที่เจ้าเป็นหนึ่งในเผ่าภูตนางฟ้า ข้าขอยอมรับว่าการแสดงของเจ้านั้นค่อนข้างน่าประทับใจมาก”

อี้ลั่วเอ๋อเช็ดน้ำตาของนางและยิ้มทันที “ข้านึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าท่านจะจับโกหกข้าได้ง่ายขนาดนี้ แต่ให้ข้าบอกท่านเรื่องหนึ่ง ท่านควรส่งข้ากลับไป ไม่เช่นนั้นท่านจงเตรียมใจได้เลยที่ท่านแม่ของข้าจะมาฉีกท่านออกเป็นชิ้น ๆ ด้วยสมบัติวิเศษของเผ่าเรา!”

“สมบัติวิเศษที่เจ้าพูดถึงมันใช่ปีกคู่หนึ่งรึเปล่า?” หลิงตู้ฉิงเอียงคอถามนาง

อี้ลั่วเอ๋อจ้องมองไปที่หลิงตู้ฉิงทันทีพร้อมกับเบิกตากว้าง และถามด้วยความประหลาดใจ “นี่ท่านรู้ได้ยังไง ท่านทำอะไรลงไปกับข้า?”

“ห้วงนิทราแห่งราชันย์!” หลิงตู้ฉิงหัวเราะ อันที่ตอนนี้เขารู้สึกมีความสุขมากเมื่อได้คุยกับภูตนางฟ้าน้อยตนนี้ ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะฉากภาพเหล่านี้มันเคยเกิดขึ้นในชีวิตก่อนหน้านี้จนทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูกหรือเปล่า?

“ห้วงนิทราแห่งราชันย์?” อี้ลั่วเอ๋อยิ่งประหลาดใจ “นั่นมันวิชาที่สูญหายไปเมื่อหลายหมื่นปีก่อน ข้าเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน ท่านใช้มันได้ยังไง? เดี๋ยวนะ! นี่ท่านบังอาจแอบดูความลับของข้าผ่านห้วงความฝันของข้างั้นเหรอ!” อี้ลั่วเอ๋อทำหน้าตกตะลึงปนโมโห

จากนั้นนางเหลือบมองไปที่หลิงตู้ฉิงพลางครุ่นคิดอยู่สักพัก และถามเขาด้วยเสียงต่ำ “ในเมื่อท่านเห็นความลับของข้า ดังนั้นท่านต้องรับผิดชอบข้า แม้ว่าข้าจะเป็นเจ้าหญิงของเผ่าภูตนางฟ้า แต่ในเมื่อท่านมีความสามารถถึงขนาดใช้ห้วงนิทราแห่งราชันย์ได้ เช่นนั้นท่านก็มีค่าพอจะมาเป็นคู่ครองของข้า”

ในตอนแรกที่นางเริ่มพูดประโยคนี้ นางแสดงออกด้วยสีหน้าที่เขินอายแต่เมื่อนางพูดจบประโยค การแสดงออกของนางกลับกลายเป็นอาการตื่นเต้น

เมื่อเห็นการแสดงออกของอี้ลั่วเอ๋อเช่นนี้ หลิงตู้ฉิงก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสับสน

นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกันขึ้น?

เมื่องุนงงอยู่ได้สักพัก เขาจึงปัดทิ้งความคิดไร้สาระต่าง ๆ ออกไปจากหัวก่อน และถามไปขมวดคิ้วไป “เจ้ายังไม่ได้รับการถ่ายทอดวิชาผีเสื้อยมโลกเริงระบำมาก่อนงั้นเหรอ? วิชาผีเสื้อยมโลกเริงระบำที่เป็นหนึ่งในชุดวิชา หมื่นผีเสื้อเริงระบำเย้ยยมโลก ของพวกเจ้าน่ะ?”

อี้ลั่วเอ๋อ ซึ่งแต่เดิมยังมีรอยยิ้มบนใบหน้า แต่เมื่อนางได้ยินที่หลิงตู้ฉิงเอ่ยออกมา ร่างของนางก็สั่นสะท้านขึ้นทันที นางจ้องมองไปที่ใบหน้าของหลิงตู้ฉิงด้วยสายตาตกตะลึง

“ท่านเป็นใครกันแน่?” อี้ลั่วเอ๋อถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา

หลิงตู้ฉิงตอบกลับอย่างรวดเร็ว “เจ้ายังไม่จำเป็นต้องสนใจว่าข้าเป็นใคร แค่ตอบในสิ่งที่ข้าถามเจ้ามาก่อน!”

การแสดงออกของอี้ลั่วเอ๋อดูเย็นชายิ่งขึ้น นางถามอย่างระมัดระวัง “ท่านรู้จักชื่อวิชาทั้งหมดนั่นได้ยังไง? หรือว่าท่านรู้มันมาจากในความฝันของข้า? แต่ข้าเสียใจด้วยที่ข้าไม่เคยได้รับการถ่ายทอดเนื้อหาของมันมาก่อน ข้ารู้จักเพียงแต่ชื่อของมันเท่านั้น! ถ้าหากท่านผิดหวังล่ะก็ ข้าก็ขอสมน้ำหน้าท่าน! ข้ากล้าบอกกับท่านไว้ตรงนี้เลยว่าต่อให้ท่านจะใช้เวลาหามันไปอีกนานแค่ไหนก็ตามท่านจะไม่มีวันหาวิชาของพวกข้าเจออย่างแน่นอน วิชาเหล่านั้นมันได้ตายไปพร้อมกับบรรพบุรุษของพวกเราเมื่อนานมากแล้ว ซึ่งแม้แต่พวกข้าเองก็ยังไม่มีใครรู้เนื้อหาของพวกมันเลยด้วยซ้ำ พวกท่านนี่มันน่าไม่อายคอยแต่จะรังควานตามหาวิชาที่สาบสูญของพวกเราอยู่ได้!”

หลิงตู้ฉิงเลิกคิ้วและถามว่า “มีคนต้องการแย่งชิงวิชานี้ของพวกเจ้าด้วยงั้นเหรอ?”

อี้ลั่วเอ๋อหัวเราะเยาะ “มีผู้คนมากมายที่ต้องการได้มันไปครอบครอง อย่างไรก็ตามนอกจากพวกเราภูตนางฟ้าแล้วมันไม่มีใครที่สามารถเรียนรู้วิชานี้ได้แน่นอน แต่น่าเสียดายที่แม้แต่พวกข้าเองก็ยังไม่มีใครรู้เนื้อหาของมันด้วยซ้ำ เอาล่ะตอนนี้ถึงเวลาที่ท่านจะบอกกับข้าได้แล้วว่าท่านจะเอายังไงกับข้ากันแน่? จะลอกเนื้อลอกหนังของข้าไปขาย หรือท่านคิดจะย่ำยีข้า?”

“ใครติดตามวิชานี้บ้าง” หลิงตู้ฉิงถามเบา ๆ

“เยอะ!” อี้ลั่วเอ๋อเยาะเย้ย “มีทั้งเผ่ามนุษย์ของท่าน เผ่าผี เผ่าปีศาจ หรือแม้แต่เผ่าอสูรก็ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเผ่าพันธุ์ปีศาจ เนื่องจากพวกเขามีลักษณะที่ใกล้เคียงกับพวกเรามากที่สุด ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการมันเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งพวกเขาจะไม่มีวันได้มันไปแน่นอนเนื่องจากหลังจากที่บรรพบุรุษของข้าตายลง เขาก็ได้นำความลับของวิชานี้ตายไปกับเขาด้วยเช่นกัน”

“บรรพบุรุษของเจ้าตายได้ยังไง?” หลิงตู้ฉิงถามขึ้น

“เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส และจากนั้นเขาก็เสียชีวิตระหว่างปิดด่าน!” อี้ลั่วเอ๋อพูดอย่างเย็นชา

หลิงตู้ฉิงเงียบไป หลังจากนั้นไม่นานเขาเงยหน้าขึ้นมองไปที่อี้ลั่วเอ๋อ และโบกมือ “เข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของข้า!”

อี้ลั่วเอ๋อจ้องมองไปที่หลิงตู้ฉิง แม้ว่านางจะรู้ว่าต่อจากนี้จะต้องมีบางสิ่งที่เลวร้ายเกิดขึ้น แต่นางก็ยังคงเดินไปหาหลิงตู้ฉิงและนั่งบนตัก นางพูดอย่างเย็นชาว่า “ท่านต้องการให้ข้าถอดเสื้อผ้าเองไหม?”

หลิงตู้ฉิงยิ้มและกดหน้าผากของอี้ลั่วเอ๋ออีกครั้ง ก่อนจะพานางเข้าสู่ห้วงความฝันของตัวเขาเอง

อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้อี้ลั่วเอ๋อสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าหลิงตู้ฉิงอยู่ตรงหน้านาง

“ท่านกำลังจะทำอะไร?” อี้ลั่วเอ๋อถามขึ้นอย่างรวดเร็ว “อย่าบอกนะว่าท่านต้องการย่ำยีข้าในความฝัน?”

หลิงตู้ฉิงพูดว่า “นี่ไม่ใช่ห้วงความฝันของเจ้า แต่มันเป็นห้วงความฝันของข้าเพราะข้าต้องการแสดงอะไรบางอย่าง เจ้าจงดูให้ดี!”

เมื่อพูดจบ ร่างกายของหลิงตู้ฉิงก็ค่อย ๆ กลายเป็นภูตวิญญาณขนาดยักษ์ ร่างนี้สูงหลายร้อยเมตรและมีปีกสองคู่ที่กว้างกว่าหนึ่งกิโลเมตร

ด้วยเสียง ‘ปัง’ ร่างของเขาก็ระเบิดกลายเป็นผีเสื้อสีน้ำตาลเข้มนับไม่ถ้วน ผีเสื้อสีน้ำตาลเข้มเหล่านี้เต้นระบำตามวิถีที่ลึกซึ้ง และภายใต้การเต้นระบำของผีเสื้อสีน้ำตาลเข้ม ประตูสีดำทมิฬก็ปรากฏขึ้น

เมื่อประตูปรากฏขึ้น อี้ลั่วเอ๋อก็รู้สึกราวกับว่าวิญญาณของนางกำลังจะบินเข้าไปในประตูสีดำทมิฬนี้อย่างไม่สามารถควบคุมได้ นางรู้สึกราวกับว่านางกำลังจะตาย อย่างไรก็ตามนางไม่กลัว แต่กลับรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก ในขณะที่นางพึมพำกับตัวเอง ‘นี่มันคือ หมื่นผีเสื้อเริงระบำเย้ยยมโลก!’