ตอนที่ 2002-2
เทพเซียวมาแล้ว
ชั่วเวลานั้น กลุ่มคนที่เฝ้าชมต่างฮือฮา
“เดี๋ยวก่อน ฉันเห็นอะไรผิดไปหรือเปล่า? การเดินตำแหน่งแบบนี้
ไม่เหมือนเทพลั่วเลย?”
“เฉียบแหลมไม่เหมือนคนอื่น ทำให้ฉันคิดถึงเทพเซียวเลย”
“อยากรู้ความจริงตามที่คอมเมนต์บนทัก”
“ฆ่าสามชีวิตติดต่อกัน ต้องเป็นเทพเซียวแน่”
“ทำไมเทพเซียวมาเล่นในไอดีของเทพลั่ว?”
“นั่นแหละปัญหา รู้สึกเจ็บในหัวอกแทนเทพหยาง ทำไงดี?”
“เทพหยางอุตส่าห์รอเล่นร่วมกับนางฟ้ามานาน แต่ดันมาเจอเทพ
เซียวเข้า?”
“เห็นเทพหลินเฟิงบอกว่าเทพหยางน่าจะมีเดทกับเทพลั่ว บังเอิญ
เซลล์ในสมองมีน้อยเลยคิดไม่ออก”
“มีอะไรที่คิดไม่ออก หรือเทพเซียวจะบุกเข้าไปกวนการเดทของคน
อื่นไม่ได้หรือไง! โปรดเรียกฉันว่าเทพแห่งความจริง”
“เป็นไปไม่ได้”
“เป็นไปไม่ได้+1!”
“อย่ามโนกันเกินไป เทพเซียวกับลั่วลั่วไปกันไม่ได้หรอก แค่อยู่ทีม
เดียวกันเท่านั้นเอง”
เมื่อพูดออกไป ผู้คนเริ่มเห็นว่าสิ่งที่คิดในตอนแรกเป็นไปไม่ได้ แถม
ยังใกล้ชนะในการแข่งแล้วด้วย
เฟิงหยางเข้าใจ แม้จะนั่งต่อไปไม่ไหว แต่กลับแก้อะไรไม่ได้ รู้สึก
เจ็บปวดนิด ๆ ในหัวใจ ทว่ายังไม่ยอมแพ้
เมื่อเห็นสิ่งที่โพสต์กันในอินเทอร์เน็ต ในฐานะที่เป็นแฟนคลับ เขา
รู้สึกว่านางฟ้าของเขาไม่เหมาะกับคนอื่น จึงอาศัยจังหวะที่ทั้งสอง
กำลังจะเดินจากไป โพล่งขึ้นมาด้วยเสียงที่ไม่ดังนัก แต่พอจะได้ยิน
กันทั้งสามคน “ลั่วลั่ว ผมจะติดต่อพี่ต่อได้ไหม?”
ลั่วลั่วชะงัก ก่อนจะยิ้มให้ “ได้สิ ส่งวีแชทมา ต่อไปเราค่อยใช้แอค
เคาท์สำรองเล่น ใช้แอคเคาท์จริงมันสะดุดตาเกิน”
“ครับ” เฟิงหยางมีนิสัยค่อนข้างทระนงตัว พูดจบหน้าก็แดงจัด ยังไง
เขาก็บรรลุจุดหมายแล้ว ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นเทพเซียวหรือไม่
ย่อมน่าจะเข้าใจแล้วว่านางฟ้าของพวกเขามีคนชอบมากมาย
แววตาสีอ่อนของเซียวจิ่งเริ่มจะหวั่นไหวตามคำพูดของอีกฝ่าย เขา
คิดว่าสองคนนี้แอดเฟรนด์กันในเกมเท่านั้น นี่แอดวีแชทกันด้วย
เหรอ?
แม้กระทั่งลั่วลั่วยังไม่รู้เลยว่าหัวหน้ามาที่นี่ทำไม กำลังจะถาม แต่
เห็นเขาถอดเสื้อกาวน์ออกก่อนแล้วโยนให้เธอ “คลุมไว้ซะ”
หัวหน้าใจดีขนาดนี้ ลั่วลั่วไม่เคยชินจริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่ได้
หนาวสักหน่อย จึงกะพริบตา ไม่ขยับเขยื้อน
เซียวจิ่งมองเธอ รู้ว่าเธอยังไม่รู้ตัว คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงย่อตัวเล็กน้อย
แล้วดึงเอาเสื้อกาวน์สีขาวกลับมา
ลั่วลั่วตกตะลึงกับการเข้ามาใกล้ของชายหนุ่ม ทั้งสองอยู่ใกล้กันมาก
ตำแหน่งที่เธอยืนอยู่เห็นขวัญกลางศีรษะของเขาพอดี ลมหายใจเต็ม
ไปด้วยกลิ่นอายความเป็นนักวิชาการ
เซียวจิ่งไม่ได้พูดอะไร แต่เอาเสื้อกาวน์อ้อมตัวอีกฝ่ายแล้วมัดโบว์ให้
ที่เอว
เมื่อรู้ว่าเขาทำอะไร เธอก็ตะลึง มองเขาด้วยหน้าแดงเรื่อ “วันนั้นของ
เดือนมาเหรอ?”
“อื้อ” น้อยครั้งที่เซียวจิ่งจะเห็นเธอในสภาพแบบนี้ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็
เหมือนจะยิ้ม “แดงเป็นแถบเลย”
ลั่วลั่วยกมือกุมหน้า คนสวยสวยลึกถึงเนื้อในเป็นคำบรรยายที่
เหมาะสมกับเธอมาก “น่าขายหน้าจริง ๆ มาดฉันหมดเลย หัวหน้า
เมื่อกี้เฟิงหยางไม่น่าจะเห็นใช่ไหม?”
“เขามองเห็นหรือเปล่า มันสำคัญมากเหรอ?” เซียวจิ่งพูดพลางซุกมือ
ข้างหนึ่งลงกระเป๋ ากางเกง ก่อนจะเงยหน้ามองดูลิฟต์ แววตาหนักอึ้ง

ตอนที่ 2003-1
เธออยากมีแฟนมากเลยเหรอ?
“เขาเป็นแฟนคลับฉันนะ” ลั่วลั่วก้มหน้ามัดเสื้อกาวน์ให้แน่น “จะให้
คนเขาผิดหวังไม่ได้หรอก”
เซียวจิ่งไม่ได้พูดอะไร ลั่วลั่วรู้ว่าหัวหน้าไม่สนใจเรื่องพวกนี้
ตอนแรกอยากจะถามเขามาว่ามาที่นี่ได้ยังไง แต่พอเขาทักขึ้นมา ลั่วลั่ว
ก็รู้สึกเหนียวเหนอะไม่สบายตัว เธอรู้ว่าวันนั้นของเดือนใกล้จะมา
แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะมาวันนี้ เมื่อกี้เธอดื่มกาแฟเย็นด้วย หาเรื่องแท้ ๆ
เชียว
“ฉันไปซื้อของก่อน” ลั่วลั่วพูดเสียงต่ำ “หัวหน้า เสื้อหัวหน้าคงซัก
ไม่ออก”
เซียวจิ่งหันไปอีกทาง ยังคงพูดเสียงเรียบเหมือนเดิม “ฉันกะจะใส่
ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายพอดี ไปกันเถอะ ของที่เธออยากได้ ไว้ไปถึง
โรงแรมแล้วค่อยสั่งทางเน็ตแล้วกัน”
ลั่วลั่วไม่ยื้อต่อ หากอยู่ต่อหน้าคนอื่น เธออาจจะรู้สึกไม่ดี แต่ต่อหน้า
เขา เธอไม่รู้สึกขัดเขิน
เหตุผลง่าย ๆ ก็เพราะพวกเธออยู่ในทีมด้วยกันทุกวัน แถมนี่ยังไม่ใช่
ครั้งแรกที่เขาเห็นเธอมีประจำเดือน
ลั่วลั่วยังจำตอนแรกที่โดนเขาเห็นได้ ตอนนั้นพวกเธอชนะการแข่ง
เขาเป็นฝ่ายเลี้ยงข้าว พอกินได้แค่ครึ่งเดียว เธอกำลังยกถาดเนื้อมา
เขาก็โยนเสื้อตัวนอกครอบศีรษะเธอ ‘เอาไปคลุมไว้’
ตอนนั้นเป็นฤดูร้อน เธอสวมกระโปรงลูกไม้สีครีม ไม่ได้รู้ตัวว่าวัน
นั้นของเดือนมาเหมือนวันนี้
ตอนแรกเธอไม่เข้าใจเจตนาของเขา ตอนหลังรู้ตัวก็เขินจะแย่ จ้าว
ซานพั่งยังแซวเธอเลยว่าอากาศร้อนจะตาย มาสวมเสื้อตัวนอกทำไม
ถึงได้บอกว่าพวกผู้ชายในวงการอีสปอร์ตไม่อ่อนโยนเอาเสียเลย เอา
แต่ทุ่มเทให้เกม เรียกเฮียเรียกน้องยังพอว่า แต่ดันทำเหมือนเธอเป็น
เพศเดียวกันนี่สิ
ตอนนั้นเธอนอนในหอพักของทีม ได้ห้องเดี่ยว เธอปวดท้องมาก
พอกลับไปก็นอนเลยจึงไม่ได้กินขนมที่จ้าวซานพั่งซื้อมาให้ ต่อมา
ได้ยินเสียงเคาะประตู เป็นหัวหน้านี่เองที่ยกถ้วยเข้ามาให้ ถ้วยนั้น
เป็นน้ำขิงผสมน้ำตาลทรายแดง แถมยังมียาอูจีไป๋ เฟิ่งซึ่งเป็นยาบำรุง
เลือดกล่องหนึ่ง
เวลานั้นลั่วลั่วไม่เข้าใจว่าทำไมหัวหน้าถึงรู้เรื่องผู้หญิงดีขนาดนี้
ต่อมารู้ว่าเขาเรียนด้านการแพทย์ก็เข้าใจ ตอนที่สบตาเขา เธอยังหอบ
ผ้าห่มติดตัวไม่ยอมปล่อยเลย
พอจ้าวซานพั่งรู้ว่าชายหนุ่มดูแลเธอ ก็ยังไม่ลืมแซว
หลังจากวันนั้น เขาเห็นเธอทีไรต้องขมวดคิ้วนิ่วหน้า ใช้ข้อศอกสะกิด
หัวหน้าตัวเอง “หัวหน้าคงไม่ได้เห็นว่าเจ้ลั่วสวยก็เลยหวั่นไหวหรอก
นะ? ฉันเห็นจะได้กินขนมแต่งงานก่อนล่วงหน้า พอได้กินแล้วก็จะ
เก็บความลับไง ดีไหม?”
“หมายความว่าไง?” ลั่วลั่วได้ยินเสียงอีกฝ่ายดังอย่างไม่ธรรมดา “ถ้า
นายมีเมนส์ละก็ ฉันจะดูแลนายเหมือนอย่างนี้เลย”
จ้าวซานพั่งบอก “ฉันเป็นผู้ชาย เกิดมีเมนส์ก็คงลำบากแย่เลย”
“ถึงได้บอกว่าอย่าได้คิดเรื่องไร้สาระแบบนี้อีก เดี๋ยวคืนนี้ฉันจะเช็ก
ความเร็วมือนาย”
“โอ้โน! หัวหน้า เราคุยกันได้นะ เปลี่ยนวันพรุ่งนี้ดีไหม…”
นั่นหมายความว่า นับแต่วันนั้นเป็นต้นมา จ้าวซานพั่งก็แทบหัวใจ
แหลกสลาย เพราะพูดผิดเลยถูกหัวหน้าสั่งให้ซ้อมเพิ่มอีกหนึ่งชั่วโมง
ทำให้ไม่แซวสองคนนี้อีกต่อไป
เช่นเดียวกัน ลั่วลั่วเข้าใจโดยพลันว่าที่เขาดูแลเธอ เหตุผลหลัก ๆ มา
จากการดูแลลูกทีมเท่านั้น แถมเธอเป็นผู้หญิงก็เลยต้องอดทนต่อเธอ
มากหน่อย