ตอนที่ 542 ไม่มีทางเลือก

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 542

ไม่มีทางเลือก

“เป็นอย่างไรขอรับท่านปู่ ที่พักของท่านน้าข้าอยู่สบายดีหรือไม่”ไป๋หลินเฟยถามพลางเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้ากรงขังที่ยามนี้มีจักรพรรดิไป๋ตัวปลอมถูกขังเอาไว้ข้างในโดยที่กรงข้างๆเองก็มีพวกลูกน้องของชายชรารวมถึงคนที่อ้างตัวว่าเป็นเหม่ยหลินกับไป๋หลินอีกด้วย

“องค์ชาย ข้าผิดไปแล้ว”จักรพรรดิไป๋ตัวปลอมที่พึ่งได้ทราบความจริงก้มหัวให้ไป๋หลินเฟยแทบจะทันที ไม่นึกเลยว่าพอได้พบไป๋จูเหวินเข้ามันก็โดนลากมาเข้ากรงขังทันที แถมยังได้ทราบอีกด้วยว่าไป๋จูเหวินที่พบก่อนหน้านี้คือจักรพรรดิไป๋ตัวจริง และเด็กที่ตนพานั่งรถม้ามาด้วยตลอดการเดินทางยังเป็นหลานชายคนเดียวของไป๋จูเหวินอีกต่างหาก

“เงียบซะ แค่พวกเจ้าไม่โดนประหารก็บุญหัวแค่ไหนแล้ว บังอาจแอบอ้างชื่อจักรพรรดิไป๋คิดหรือว่าจะไม่มีใครจับได้”จักรพรรดิชูที่เป็นคนพาไป๋หลินเฟยเข้ามาพูดตอกกลับคนพวกนั้นด้วยท่าทีโมโห อาณาจักรชูเป็นหนี้บุญคุณอาณาจักรอื่นๆตั้งเท่าไหร่ทำไมมันจะไม่รู้โดยเฉพาะสิ่งที่ไป๋จูเหวินทำให้อาณาจักรชูนั้นต่อให้รุ่นหลานของมันก็คงยังชดใช้ไม่หมด หากไม่ใช่เพราะไป๋จูเหวินขอเอาไว้มันคงสั่งประหารทั้งคณะไปแล้ว

“ยังไงท่านก็ได้มาอยู่ในวังสมใจแล้ว ขอให้สนุกนะขอรับ”ไป๋หลินเฟยยิ้มพลางโบกมือลากลุ่มตระกูลไป๋ปลอมแล้วเดินออกจากห้องขังไปด้วยท่าทียิ้มแย้ม แม้จะไม่โดนประหาร แต่โทษที่ต้องรับก็ไม่ได้เบาๆ เหล่าผู้ร่วมหลอกลวงต้องโดนขังเอาไว้ในคุกร่วม 20 ปี ส่วนผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณหลังจากติดคุกแล้วต้องถูกส่งไปใช้แรงงานอีก 40 ปี นั่นคือโทษสำหรับนำชื่อของไป๋จูเหวินมาใช้ ไม่ว่าจะอาณาจักรไหนในแผ่นดินก็มีโทษหนักกันทั้งนั้น

“ท่านแม่…คนที่ติดตามข้ามาเป็นอย่างไรบ้างขอรับ”ไป๋หลินเฟยพอกลับมาถึงห้องรับรองก็เข้าไปหามารดาของตนที่รออยู่ทันที ก่อนจะจับตัวไป๋จูเหวินตัวปลอม ไป๋หลินก็เข้าไปจัดการเรื่องงานของผู้ที่ถูกหลอกมาด้วยตนเอง ทำให้เหล่าชาวบ้านได้เห็นเสียทีว่าไป๋หลินผู้ถูกกล่าวขานกันไปทั้งแผ่นดินนั้นจริงๆแล้วงดงามเพียงไร

“คนที่อยากกลับบ้านแม่ให้อสูรบินพาไปส่งแล้ว ส่วนคนที่อยากทำงานแม่ก็ให้คนของอาณาจักรชูช่วยหาให้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว”ไป๋หลินตอบพลางพาตัวไป๋หลินเฟยมากอดเอาไว้แน่น แม้จะทราบดีว่าบุตรชายเป็นเด็กฉลาด แต่ไป๋หลินเฟยก็ต้องอยู่กับพวกนักต้มตุ๋นมาหลายวันนางก็อดห่วงไม่ได้หรอก

“แต่ข้าไม่นึกเลยนะขอรับว่าท่านตาจะมาด้วยตนเอง”ไป๋หลินเฟยว่าพลางกะพริบตาปริบๆด้วยท่าทีตกใจ ตอนแรกมันกะจะให้ท่านแม่มารับคนเดียวก็พอ แต่ท่านตาตามมาด้วยแบบนี้ก็ทำให้เรื่องง่ายขึ้นและทำให้จักรพรรดิไป๋ตัวปลอมตกใจมากขึ้นด้วย

“คิกๆ ท่านตาของเจ้าตอนนี้อยู่แต่บ้านเฉยๆ ว่างจะตายไป”ไป๋หลินหัวเราะออกมาพลางพาหลินเฟยออกจากห้องรับรองไป หลินเฟยนั้นเกิดไม่ทันช่วงที่ท่านตาของมันยุ่งมากๆหรอก ตอนนั้นไป๋จูเหวินแทบจะไม่มีเวลาว่างต้องเดินทางไปโน่นมานี่ตลอด แต่ตอนนี้แค่อยู่ว่างๆในเขตอสูร และออกเดินทางไปไหนมาไหนตามใจนิดหน่อยเท่านั้น

“แล้วท่านตาไม่กลับกับพวกเราหรือขอรับ”หลินเฟยถามพลางเดินตามมารดาของตนไปหาท่านป้าไป๋ไป่ ตอนนี้บนหลังของไป๋ไป่มีแค่หลานฮวาคนเดียว นั่นหมายความว่าคนที่จะกลับไปมีเพียงแต่พวกไป๋หลินเฟยเท่านั้น ตัวไป๋จูเหวินไม่ได้กลับไปด้วย

“งานนี้จักรพรรดิชูช่วยเราอย่างเต็มใจ ท่านตาของเจ้าก็เลยอยู่ช่วยงานมันนิดหน่อย อีกอาทิตย์หนึ่งท่านถึงจะตามกลับไป”ไป๋หลินตอบพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีเอ็นดู นี่หลินเฟยคิดถึงท่านตาเหมือนกันงั้นหรือ

“งะ งั้นหรือขอรับ”ไป๋หลินเฟยยิ้มเจื่อนๆออกมาด้วยท่าทีแห้งๆ ตอนแรกมันอยากจะขอแรงท่านตาช่วยนำฟิล์มที่พี่หลานฮวาถ่ายตัวมันเอาไว้กลับมาเสียหน่อย แบบนี้ท่านตาก็ช่วยมันไม่ได้แล้วนะสิ ขืนรอตั้งอาทิตย์กลัวว่าจะสายเกินไปนะสิ

“หลานฮวา เจ้าสบายดีหรือไม่”ไป๋หลินถามพลางเดินเข้าไปหาหลานฮวาที่รออยู่บนหลังของไป๋ไป่ด้วยท่าทียิ้มแย้ม

“ข้าสบายดีเจ้าค่ะนายหญิง”หลานฮวาตอบพลางก้มหัวอย่างนอบน้อม ยามนี้นางไม่เหลือความแค้นอะไรให้กลัดกลุ้ม จิตใจปลอดโปร่งกว่าแต่ก่อนมากมายหลายเท่าเลย

“ดีแล้ว หลังจากนี้ก็ฝากเจ้าดูแลหลินเฟยต่อไปด้วยนะ”ไป๋หลินพูดจบก็นั่งลงบนหลังของไป๋ไป่ด้วยความเคยชิน แน่นอนว่าหลินเฟยเองก็มานั่งข้างๆนางด้วยเช่นกัน

“แน่นอนเจ้าค่ะ ข้าจะดูแลน้องหลินเฟยอย่างดีเลย”หลานฮวาว่าพลางยิ้มให้หลินเฟยที่เข้ามานั่งด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“จริงสิเจ้าคะนายหญิง ข้าคิดมานานแล้วว่าหลินเฟยเหมาะกับเสื้อผ้าสีอ่อนๆมากเลย”อยู่ๆหลานฮวาก็เริ่มพูดเรื่องอันตรายสำหรับหลินเฟยขึ้นมาเสียอย่างนั้น ทำเอาหลินเฟยรีบจ้องหลานฮวาเพื่อขู่ทันที

“นั่นสิ ข้าอยากหาเสื้อผ้าสีสันสวยๆมาให้หลินเฟยใส่เหมือนกัน แต่หลินเฟยไม่ชอบเลยนี่สิ”ไป๋หลินตอบพลางถอนหายใจออกมา ความจริงนางก็อยากแต่งตัวให้บุตรชายเหมือนกัน ไม่ถึงกับเป็นชุดของเด็กผู้หญิงเหมือนที่หลานฮวาจับใส่หรอก แต่เป็นชุดผู้ชายโทนอ่อนที่เข้ากับหน้าหวานๆของหลินเฟยต่างหาก

“งั้น ก่อนถึงเขตอสูรพวกเราแวะหาซื้อชุดสักหน่อยดีหรือไม่เจ้าคะ เพื่อหลินเฟยจะชอบสักชุด”หลานฮวาเสนอออกมาทำเอาหลินเฟยค้อนสายตามองนางไปวงใหญ่ แต่น่าเสียดายนางไม่สะทกสะท้านเลย

“ท่านแม่ ข้าคิดถึงท่านน้าแล้วข้าขอกลับไปหาท่านน้าเลยได้หรือไม่”ไป๋หลินเฟยขอร้องพลางกระตุกชายเสื้อมารดาของตนเองเบาๆ

“งั้นเราค่อยไปหาซื้อเสื้อผ้ากันวันหลังนะหลานฮวา”ไป๋หลินว่าพลางยิ้มให้บุตรชายอย่างเอ็นดู นี่แค่โดนหลานฮวาชวนคุยเท่านั้น หากท่านแม่เห็นรูปตอนมันแต่งชุดนั้นเข้ากลัวว่าท่านแม่จะนึกอยากเอาชุดเด็กผู้หญิงมาให้มันใส่อีกเหมือนกันนะสิ

.

.

.

“ท่านน้า ข้ามีเรื่องอยากจะขอร้องขอรับ”หลังจากกลับมาถึงเขตอสูรผาไร้ก้น ไป๋หลินเฟยก็ใช้ข้ออ้างเรื่องคิดถึงท่านน้ารีบมุ่งหน้าไปยังที่พักของไป๋จูล่งทันที

“หลินเฟยมีอะไรงั้นหรือ”ไป๋จูล่งถามพลางมองไปทางไป๋หลินเฟยด้วยท่าทีประหลาดใจ หลินเฟยดูรีบร้อนมาก ไม่ทราบมีเรื่องอะไรกันแน่

“ท่านน้า ข้าทราบว่าเป็นเรื่องไม่สมควร แต่ข้ามีแต่ท่านน้าคนเดียวเท่านั้นที่ช่วยได้”ไป๋หลินเฟยว่าพลางกุมมือของไป๋จูล่งเอาไว้แน่น

.

.

“พี่หลานฮวา ท่านพ่อจะมีเวลาว่างหรือไม่ขอรับ”พอโดนหลายชายขอร้องแบบนั้นไป๋จูล่งก็ได้แต่มาหาหลานฮวาตามที่หลินเฟยขอร้องเท่านั้น

“น้องจูล่ง เจ้า….มีอะไรงั้นหรือ”หลานฮวาถามพลางเลิกคิ้วด้วยท่าทีสงสัย นางพึ่งคลายใจเรื่องของจูล่งไป แต่นางเกลียดจูล่งมาหลายปีจะให้ทักทายกันเหมือนคนสนิททันทีเลยก็คงไม่ได้

“พี่หลานฮวา ท่านช่วยมาประลองกับข้าได้หรือไม่ขอรับ”ไป๋จูล่งว่าพลางยิ้มเจื่อนๆออกมาด้วยท่าทีน่าสงสัยสุดๆ หลินเฟยขอร้องให้จูล่งนำม้วนฟิล์มออกมา และโอกาสที่ง่ายที่สุดก็คือระหว่างประลองฝีมือ แบบนั้นจูล่งจะสามารถเข้าไปใกล้หลานฮวาได้อย่างง่ายดาย และอาศัยเวลานั้นล้วงเอาม้วนฟิล์มออกมาจากมิติของนางเสีย

“พูดอะไรของเจ้า ข้าจะไปสู้เจ้าได้อย่างไรกัน”หลานฮวาหัวเราะออกมาน้อยๆ พอนึกถึงตอนนี้แล้ววันที่นางคิดจะประลองกับไป๋จูล่งช่างเป็นวันนี้น่าอายจริงๆ

“แค่นิดเดียวขอรับ”ไป๋จูล่งขอร้องด้วยท่าทีขัดเขิน มันไม่เคยโกหกคนอื่นเพื่อผลประโยชน์มาก่อน หากไม่ใช่วันนี้หลินเฟยขอร้องมันคงไม่ทำเช่นนี้แน่ๆ

“เป็นอะไรของเจ้ากัน…..”หลานฮวาถามพลางมองไปด้านหลังไป๋จูล่ง พริบตานั้นนางก็สบตาเข้ากับไป๋หลินเฟยทันที ทำให้นางพอจะทราบแล้วว่าไป๋หลินเฟยต้องเป็นคนขอร้องอะไรจูล่งแน่ๆ แต่น่าเสียดายที่หลานฮวาไม่ทราบเรื่องวิชาแทรกแซงมิติ ก็เลยได้แต่สงสัยว่าทำไมถึงมาชวนนางประลองกันแน่

“เอาอย่างนี้ ข้าจะประลองกับเจ้าก็ได้ แต่ห้ามีข้อตกลงอะไรทั้งนั้น แค่การประลองฝีมือเฉยๆเข้าใจหรือไม่”หลานฮวาพอจะเดาออกแล้วว่าการที่จูล่งมาขอประลองเช่นนี้ก็เพื่อฟิล์มที่นางใช้ถ่านหลินเฟยแน่ๆ แต่นางก๋ยังไม่เข้าใจว่าจูล่งจะเอาฟิล์มไปอย่างไร หากใช้การประลองเป็นข้ออ้าง บางทีมันอาจจะอยากประลองแล้วยื่นเงื่อนไขว่าหากมันชนะมันจะขอฟิล์มไปก็ได้

“ได้ขอรับ ได้แน่นอน”จูล่งยิ้มออกมาด้วยท่าทีดีใจ ก่อนจะเริ่มตั้งท่าทันที

“ก็ได้ งั้นมาเริ่ม…….”หลานฮวายังไม่ทันจะได้ตั้งตัวไป๋จูล่งก็มาโผล่ตรงหน้าแล้ว ปกติจูล่งไม่โจมตีคนอื่นก่อน นี้เป็นครั้งแรกเลยที่มันชิงลงมือโดยที่ศัตรูยังไม่ทันโจมตี ทำให้หลานฮวาโดนรวบเอวอย่างง่ายดาย ก่อนที่มือขวาของจูล่งจะมุ่งไปที่อดของหลานฮวาเพื่อใช้วิชาแทรกแซงมิติ

“กรีดดด”หลานฮวาเผลอกรีดออกมาด้วยท่าทีตกใจ เพราะหากไม่ใช้วิชาแทรกแซงมิติ มือของจูล่งยามนี้ก็เล็งไปที่จุดไม่สมควรเอาเสียเลย

“เกิดอะไรขึ้น”เพราะเสียงกรีดของหลานฮวา ทำให้คนที่อยู่ใกล้ๆรีบตรงเข้ามาทันที แต่กว่าจะมาถึงไป๋จูล่งก็ล้วงเอาฟิล์มออกมาเสียแล้ว

“ท่านเหม่ยหลิน”เมื่อหลานฮวาเห็นว่าใครเป็นผู้มาก็พลันบีบน้ำตาทันที ความจริงก่อนหน้านี้พอนางเห็นว่าจูล่งเพียงล้วงมือเข้ามาในมิติของนางก็เข้าใจแล้วว่าจูล่งไม่ได้จะลวนลามนางแต่อย่างไร แต่เจ้าหนูนี่กล้าใช้วิธีนี้แย่งของๆนางไปคงต้องสั่งสอนเสียหน่อย

“น้องจูล่ง…..น้องจูล่งล้วงมือเข้ามาที่หน้าอกข้าเจ้าค่ะ”หลานฮวาว่าพลางบีบน้ำตาออกมาเพื่อจะแกล้งจูล่งเสียหน่อย

“มะ ไม่ใช่นะขอรับท่านแม่ ข้าแค่….”พอหลานฮวาฟ้องไปแบบนั้นจูล่งก็ลนลานรีบแก้ตัวทันที เพียงแต่เหม่ยหลินผู้เป็นแม่ไม่คิดว่าจูล่งจะทำแบบนั้นอยู่แล้วเสียด้วย

“ท่านยาย ท่านน้าไม่ได้จะทำแบบนั้นนะขอรับ ข้าแค่ขอให้ท่านน้าช่วยนำของบางอย่างคืนมาจากพี่หลานฮวาเท่านั้นเอง”ไป๋หลินเฟยกลัวว่าท่านยายจะเข้าใจท่านน้าผิดก็เลยออกมาแก้ตัวให้แทนเช่นกัน

“นำของคืน…ของอะไรกัน”เหม่ยหลินถามพลางมองไปทางหลานฮวาด้วยท่าทีสงสัย แถมในมือของจูล่งยังมีม้วนฟิล์มถือเอาไว้ในมือด้วย

“น้องหลินเฟยน่าจะหมายถึงสิ่งนี้เจ้าค่ะ”หลานฮวาว่าพลางนำรูปถ่ายใบหนึ่งออกมาส่งให้เหม่ยหลินดู

“นั่น…”ไป๋หลินเฟยเห็นรูปถ่ายในมือของหลานฮวาก็สะดุ้งวาบทันที นี่นางแอบไปล้างรูปมาตอนไหนกัน

“รูปนี้งั้นหรือ”เหม่ยหลินมองรูปในมือหลานฮวาก็เข้าใจเรื่องทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น มิน่าเล่าหลินเฟยถึงขอให้จูล่งนำของที่หลานฮวามาคืน และหลานฮวาก็คงโดนหวิชาแทรกแซงมิติเอาของคืนเข้าให้ แต่ว่ารูปหลินเฟยโดนจับแต่งตัวแบบนี้ก็น่ารักจริงๆ มิน่าเล่าหลานฮวาถึงเก็บไว้ไม่ยอมคืน

“เฟยเอ๋อ ล่งเอ๋อ การแย่งของๆคนอื่นถือเป็นเรื่องผิด เย็นนี้ข้าจะลงโทษพวกเจ้า”เหม่ยหลินพูดพลางเก็บรูปของหลินเฟยลงมิติส่วนตัวของนางไป ส่วนทางด้านหลานฮวานั้นก็ยิ้มออกมาให้หลินเฟยด้วยท่าทีร่าเริง รูปนั่นนางแอบไปล้างที่วังของอาณาจักรชูมาแล้ว แถมยังล้างสำรองเอาไว้อีกด้วย หรือก็คือที่นางยังมีรูปอีกหลายใบเชียวล่ะ