คำเชิญ

 

 

 

 

นับตั้งแต่พระเอกเบอร์หนึ่งมาขอโทษหลินหว่านแล้ว ก็ไม่ได้เอ่ยปากเยาะเย้ยถากถางหลินหว่านอีก 

 

 

หลังจากนั้นการเข้าฉากของหลินหว่านก็ราบรื่นเป็นอย่างดี หนึ่งสัปดาห์ต่อมา บทของหลินหว่านในหนังเรื่องนี้ก็ถ่ายทำเสร็จสิ้น 

 

 

หลังถ่ายเสร็จ หลินหว่านจะเดินทางกลับประเทศ เพื่อการนี้วันที่เธอถ่ายฉากสุดท้าย ผู้กำกับนิกและทีมงานในกองถ่ายได้เตรียมจัดงานเลี้ยงส่งให้หลินหว่านเป็นพิเศษ 

 

 

หลินหว่านรู้สึกคาดไม่ถึงเอามากๆ และก็ดีใจมากๆ ด้วย ในงานเลี้ยงส่งหลินหว่านกับผู้กำกับและทีมงานได้ถ่ายภาพร่วมกันไว้จำนวนมาก เธอได้เลือกเอาหลายภาพในจำนวนนี้มาลงเวยปั๋ว พร้อมกับข้อความว่า ‘ขอบคุณผู้กำกับนิกและทีมงานกองถ่ายที่ช่วยดูแลฉันในช่วงเวลานี้ วันนี้บทของฉันถ่ายเสร็จหมดแล้ว พรุ่งนี้จะกลับบ้านแล้วล่ะ ดีใจจัง’ 

 

 

ไม่นานนักโพสต์นี้ของหลินหว่านได้รับการส่งต่อเป็นจำนวนมาก แฮชแท็กคำว่า ‘หลินหว่านปิดกล้อง’ ก็กลายเป็นคำค้นยอดนิยม 

 

 

วันต่อมา หลินหว่านขึ้นเครื่องบินกลับประเทศ พอลงจากเครื่องก็พบว่ามีแฟนคลับจำนวนมากมารอรับเธอที่สนามบิน 

 

 

หลังแจกลายเซ็นแฟนคลับกับถ่ายรูปร่วมกับพวกเขาเป็นที่ระลึกแล้ว หลินหว่านก็ขึ้นรถที่อวิ๋นซีส่งมารับเธอกลับบริษัท  

 

 

บนรถ หลินหว่านรู้สึกเบื่อขึ้นมาจึงหยิบมือถือมาเปิดดูเวยปั๋ว เหล่าแฟนคลับพากันลงรูปที่สนามบินกับ 

 

 

ที่ถ่ายร่วมกับหลินหว่านลงเวยปั๋ว ข่าวที่เธอกลับมาแล้วจึงเป็นคำค้นยอดนิยมไปในขณะนั้น 

 

 

บนเวยปั๋วมีจดหมายส่วนตัวกับข้อความ @ ถึงเธอจำนวนมาก แต่ในจำนวนนี้หลินหว่านกลับให้ความสนใจเพียงจดหมายส่วนตัวฉบับหนึ่งเท่านั้น 

 

 

‘สวัสดี หลินหว่าน อยากเจอกับฉันหน่อยไหม’ 

 

 

สิ่งที่สะกิดความสนใจของหลินหว่านไม่ใช่แค่เพียงเนื้อหาของจดหมาย แต่เป็นเพราะคนที่ส่งจดหมายฉบับนี้ให้เธอคือ เสวี่ยลี่ 

 

 

เสวี่ยลี่เป็นนักเขียนบทที่มีชื่อเสียงในประเทศ บทภาพยนตร์ของเธอได้รับการยอมรับอย่างสูง ว่ามีคุณภาพ พล็อตเรื่องเข้มข้นชวนติดตาม มีสไตล์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้เธอยังร่วมงานกับผู้กำกับชื่อดังอยู่เสมออีกด้วย หนังที่สร้างจากบทภาพยนตร์ของเธอก็มักจะเป็นที่นิยมและชื่นชอบจากผู้ชมเป็นอย่างมากจนไม่มีภาพยนต์ไหนทำเงินเทียบได้ 

 

 

เพียงแต่ไม่ทราบว่าเสวี่ยลี่ส่งจดหมายส่วนตัวฉบับนี้ให้เธอเพื่ออะไรกันแน่ หรือว่าอยากจะร่วมงานกัน 

 

 

นั่นก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ พอคิดถึงตรงนี้หลินหว่านตื่นเต้นขึ้นมา แต่พอมานึกดูแล้ว หลินหว่านก็ตกลงใจว่าจะกลับบริษัทก่อนแล้วจึงบอกเรื่องนี้กับอวิ๋นซี ปรึกษากับเธอแล้วค่อยตัดสินใจ 

 

 

พอกลับถึงบริษัท อวิ๋นซีชงกาแฟให้หลินหว่านแก้วหนึ่งเพื่อให้เธอคลายเหนื่อยจากการนั่งเครื่องบินลงบ้าง 

 

 

ส่งกาแฟให้หลินหว่านแล้วอวิ๋นซีก็มองหลินหว่าน “หว่านหว่าน เธอกลับมาแล้ว ตอนอยู่ต่างประเทศคิดถึงฉันบ้างหรือเปล่า” 

 

 

“อวิ๋นซี ฉันคิดถึงเธอจังเลย!” หลินหว่านรับถ้วยกาแฟมาแล้วพูดขึ้น นานแล้วที่ไม่ได้เจออวิ๋นซี หลินหว่านพอเห็นเธอก็ดีใจมากๆ เลย 

 

 

อวิ๋นซีพูดกับหลินหว่านว่า “หว่านหว่าน บอกข่าวดีเธอเรื่องหนึ่งนะ เสวี่ยลี่อยากจะร่วมงานกับเธอล่ะ เสวี่ยลี่นัดว่าบ่ายวันนี้จะมาพบเธอที่บริษัท ฉันตอบรับแทนเธอไปแล้วนะ” 

 

 

หลินหว่านที่กำลังดื่มกาแฟอยู่ชะงักไปนิดหนึ่ง จากนั้นเงยหน้าขึ้นอย่างคาดไม่ถึง “จริงเหรอ อวิ๋นซี” 

 

 

“ใช่แล้ว หว่านหว่าน รักษาโอกาสนี้ไว้ให้ดีๆ ล่ะ เธอต้องรู้นะว่ามีคนตั้งเท่าไหร่อยากจะร่วมงานกับเสวี่ยลี่แต่ไม่มีโอกาสน่ะ ครั้งนี้เสวี่ยลี่ระบุมาเลยว่าจะพบเธอ เธอต้องทำตัวดีๆ ล่ะ” 

 

 

พอเห็นว่าอวิ๋นซีไม่ได้ล้อเล่น หลินหว่านก็พูดว่า “แน่นอนอยู่แล้ว” จากนั้นบอกเรื่องที่เสวี่ยลี่ส่งจดหมายส่วนตัวถึงเธอในเวยปั๋วให้อวิ๋นซีฟัง 

 

 

อวิ๋นซีฟังแล้วยิ่งดีใจไปอีก เธอรู้สึกว่าโอกาสที่หลินหว่านกับเสวี่ยลี่จะได้ร่วมงานกันมีเปอร์เซ็นต์สูงขึ้น เนื่องจากเห็นได้ชัดว่าเสวี่ยลี่มุ่งเจาะจงมาที่หลินหว่าน 

 

 

ตอนบ่าย เสวี่ยลี่มาพบหลินหว่านที่บริษัทตรงตามเวลานัดหมาย 

 

 

“หลินหว่าน สวัสดีค่ะ” เสวี่ยลี่มีผมสั้นหยักศกสีน้ำตาล สวมแว่นตาทรงกลม เธอขยับแว่นขึ้นมองหลินหว่านอย่างสำรวจ จากนั้นพูดขึ้นด้วยสีหน้าท่าทีพออกพอใจเป็นอย่างมาก 

 

 

เสวี่ยลี่ยกถ้วยกาแฟตรงหน้าขึ้นดื่มอึกหนึ่ง จากนั้นเอ่ยว่า “หลินหว่าน คุณอยากจะแสดงบทนางเอกเบอร์หนึ่งในหนังเรื่องใหม่ของฉันไหมคะ” 

 

 

นางเอก? หลินหว่านคิดไม่ถึงว่าเสวี่ยลี่จะตรงไปตรงมาขนาดนี้ เธอได้ยินแล้วยังตกใจจนสะดุ้งเฮือก 

 

 

ตอนนั้นเองเสวี่ยลี่พูดขึ้นอีกว่า “หนังเรื่องต่อไปของฉันเป็นแนวแฟนตาซีผจญภัย ฉันเห็นว่าคุณเหมาะกับภาพลักษณ์ของนางเอกในหนังเรื่องนี้มาก ไม่ทราบว่าคุณสนใจจะลองดูไหมคะ” 

 

 

เสวี่ยลี่พูดขณะหยิบสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นบทหนังออกมาจากกระเป๋าของเธอ ในนั้นมีเรื่องย่อของหนังเรื่องนี้ 

 

 

หลินหว่านพลิกอ่านดูเนื้อหาในนั้น ขณะที่ในใจตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก เพียงแค่อ่านเรื่องย่อของหนังหลินหว่านก็ถูกโลกแห่งเวทมนต์ในหนังดึงดูดใจไว้แล้ว นอกจากนี้เนื้อเรื่องยังโลดโผนชวนติดตามอย่างมาก ตัวละครแต่ละตัวมีอุปนิสัยชัดเจน กล้ารักกล้าชัง 

 

 

พออ่านจบหลินหว่านมองเสวี่ยลี่แล้วพูดว่า “อาจารย์เสวี่ยลี่คะ ขอบคุณนะคะที่ชื่นชมและเชื่อมั่นในตัวฉัน ฉันชอบผลงานชิ้นนี้ของอาจารย์มากๆ เลย ฉันยินดีอย่างยิ่งที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของหนังเรื่องนี้ค่ะ” 

 

 

เสวี่ยลี่ได้ฟังก็ยิ้มแล้วผงกศีรษะ กล่าวว่า “งั้นก็ดีแล้ว ฉันยังกลัวว่าเธอจะไม่รับปากซะอีกแน่ะ” 

 

 

“จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไงกันคะ” หลินหว่านรีบพูดขึ้น การได้ร่วมงานกับเสวี่ยลี่เป็นเรื่องที่นักแสดงไม่รู้เท่าไหร่ต่างพากันแย่งชิงกันแทบตาย จะมีคนที่ไม่ตอบตกลงด้วยหรือไงกัน 

 

 

เสวี่ยลี่พูดอีกว่า “เนื่องจากหนังเรื่องนี้เป็นแนวแฟนตาซีผจญภัย เธอต้องรู้นะว่าในประเทศเราเทคนิคด้านนี้ยังไม่นับว่าดีเลิศนัก ดังนั้นหนังเรื่องนี้จึงจะถ่ายทำกันที่ต่างประเทศตลอดเรื่อง นอกจากนี้ยังต้องไปถ่ายทำนอกสถานที่อีกหลายประเทศทีเดียว การจะถ่ายทำเรื่องนี้ให้ดีได้นั้นพวกนักแสดงจะต้องเสียสละอย่างมาก” 

 

 

หลินหว่านฟังแล้วกลับแค่ยิ้มแล้วพูดว่า “อาจารย์เสวี่ยลี่คะ คุณวางใจได้ค่ะ ไม่ว่าจะลำบากขนาดไหนฉันก็จะตั้งใจแสดงบทบาทของฉันให้ดีที่สุดค่ะ” 

 

 

เสวี่ยลี่ได้ฟังก็พอใจอย่างมาก ดูท่าว่าเธอไม่ได้มองคนผิดไป หลินหว่านไม่เพียงจะมีภาพลักษณ์ที่เหมาะกับนางเอกในใจเธออย่างมาก นิสัยยังมุ่งมั่นอดทนตรงไปตรงมาและอ่อนน้อมถ่อมตนอีกด้วย ถูกใจเธอมากทีเดียว 

 

 

เสวี่ยลี่ให้ที่อยู่กับหลินหว่าน ให้เธอไปทดสอบหน้ากล้องที่ต่างประเทศ หลังการทดสอบหน้ากล้องเสร็จสิ้นลง จะมีการประกาศตัวทีมนักแสดงทั้งหมดของหนังเรื่องนี้ทางอินเทอร์เน็ตอย่างเป็นทางการ 

 

 

หลังจากเสวี่ยลี่กลับไปแล้ว หลินหว่านดีใจแทบเสียสติไปเลย เธอมาที่ห้องทำงานของอวิ๋นซีแบ่งปันข่าวดีนี้ให้อวิ๋นซีอย่างไม่รีรอ 

 

 

“นางเอกเบอร์หนึ่ง จริงเหรอ หว่านหว่าน ดีใจด้วยจริงๆ นะ” อวิ๋นซีได้ฟังแล้ว หลังจากความประหลาดใจผ่านไปแล้วก็อดรู้สึกดีใจไปกับหลินหว่านด้วยไม่ได้ 

 

 

“ใช่แล้ว แต่ว่าอวิ๋นซี ถ้าหากแสดงหนังเรื่องนี้ ฉันอาจจะไม่ได้เจอเธออีกนานเลยล่ะ” หลินหว่านพูดอีก 

 

 

“ทำไมล่ะ” อวิ๋นซีมองหลินหว่านอย่างไม่เข้าใจ 

 

 

“เพราะว่าหนังเรื่องนี้ต้องถ่ายทำในต่างประเทศทั้งเรื่อง แต่จะต้องไปถ่ายทำนอกสถานที่ในอีกหลายประเทศนะสิ” หลินหว่านตอบ 

 

 

อวิ๋นซีฟังแล้วขมวดคิ้วครุ่นคิดอย่างจริงจัง ถ้าหากเป็นเช่นนั้น นั่นก็หมายความว่าในช่วงหลายเดือนที่หลินหว่านแสดงหนังเรื่องนี้อยู่ เธอจะไม่สามารถปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชน ถ้าหากเป็นเช่นนั้นก็จะส่งผลให้การแสดงตัว แฟนคลับและหัวข้อในการพูดคุยถึงหลินหว่านก็จะลดลง