ตอนที่ 252 ยันต์ล่ามชีวิต / ตอนที่ 253 ระหว่างความเป็นความตาย

จอมใจจ้าวพิษ

ตอนที่ 252 ยันต์ล่ามชีวิต 

 

 

 

 

 

แม้คำพูดนี้จะไม่ผิด ถังเฉียนเห็นฉู่จิ่งเหยาหวาดกลัวจริงๆ จึงหยิบของสองชิ้นออกมาจากใต้ที่นั่งวางไว้บนอกเขา 

 

 

“ท่านอ๋องไม่ต้องกลัว เผ่าอินทรีเงินทำของวิเศษสำหรับสภาพการณ์เช่นนี้โดยเฉพาะ ท่านอาอิ๋นจ้านให้คนเอามาให้ ท่านอ๋องเก็บไว้ ถ้าเกิดเหตุร้ายขึ้น ให้สวมไว้กับตัว เมื่อใกล้ถึงพื้นดิน ดึงด้ายแดงด้านซ้าย ก็จะปลอดภัย” 

 

 

ถังเฉียนยื่นของชิ้นนั้นให้ ตัวเองปีนไปบนกราบเรือ มองดูทิวทัศน์ข้างนอก 

 

 

“เมื่อคืนยังร้องไห้จะเป็นจะตาย แค่ชั่วเวลาไม่นานเจ้าหายดีแล้วหรือ ข้าขอบอก เด็กสาวอย่างเจ้าเอาแต่ใจตัวเองจนเกินไป อย่าลืมความเป็นกุลสตรี มาอยู่ที่ดินแดนเหมียวเจียงก็ลืมฐานะตัวเองจนหมดสิ้น”  

 

 

ฉู่จิ่งเหยาพูดพลางทำเป็นใจกล้ายื่นยันต์ล่ามชีวิตคืนให้ถังเฉียน จากนั้นจึงยิ้มอย่างสบายอารมณ์ 

 

 

“ท่านอ๋อง ท่านทราบฐานะของข้า เหตุใดที่ผ่านมาจึงไม่เผยออกมาเล่า” 

 

 

ถังเฉียนกล้าเอ่ยปากเช่นนี้เพราะนางอยู่ในสถานที่ที่มีเพียงสองคนเท่านั้น แม้บนนี้ลมจะแรงมาก แต่พูดใกล้ตัวยังฟังได้ยิน 

 

 

“เมื่อคืน เจ้าดึงตัวข้าไว้ พูดอย่างหนักแน่นว่ามีคนจะสังหารข้า มีคนคิดร้ายวางแผนก่อกบฏ เจ้าลืมไปแล้วหรือ” 

 

 

ถังเฉียนได้ฟังเช่นนี้ก็กัดลิ้นตัวเอง ใช้กำปั้นเล็กๆ ของตนทุบหัวตัวเอง แล้วพึมพำว่า 

 

 

“ข้าสับสนไปหมด ไม่รู้ว่าเมื่อคืน พูดเพ้อสิ่งใดไปบ้าง?” 

 

 

ฉู่จิ่งเหยาไม่ใส่ใจกับการกระทำของนาง ลูบศีรษะนางเบาๆ แล้วพูดว่า 

 

 

“เจ้าช่วยชีวิตข้าไม่ใช่แค่ครั้งเดียว ถ้าหากยังไม่อาจไว้ใจเจ้า แล้วข้าจะไว้ใจใครได้เล่า อย่างครั้งนี้ เจ้าบอกว่านั่งเรือเหาะปลอดภัย ข้าย่อมเชื่อ” 

 

 

พอถังเฉียนได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกเครียดทันที มองดูยันต์ล่ามชีวิตในมือก็ยิ่งเครียดมากขึ้น แล้วโยนยันต์แผ่นนั้นออกไปจากเรือเหาะแทบจะทันที ถังเฉียนปีนอยู่บนกราบเรือ มองดูมันลอยอยู่กลางอากาศแล้วลุกไหม้พรึ่บขึ้น 

 

 

คราวนี้ฉู่จิ่งเหยากลับไม่หวาดกลัวแล้ว เขายืนพิงกราบเรือแล้วยิ้ม ถังเฉียนกลับรู้สึกกลัว 

 

 

“ท่านอ๋อง ยังยิ้มออกอีก มีคนต้องการให้เราสองคนตาย รีบคิดหาวิธีแก้เถอะ อยู่ต่อในที่บ้าๆ นี้ไม่ได้แล้ว” 

 

 

ถังเฉียนมองดูซ้ายขวา อยากรู้ว่าตนเองมองข้ามอะไรไปหรือไม่ ถ้าที่นี่มีจุดอ่อนแค่เล็กน้อย ตัวนางกับท่านอ๋องคงจบชีวิตที่นี่แน่ นางประมาทเกินไป นางลืมไปแล้วว่าถึงเถิงอวิ๋นจะบอกว่าไม่ฆ่านาง แต่มีคนที่อยากให้พวกเขาตาย เหตุใดตนเองจึงรับของขวัญและข้าวของจากคนอื่นติดขึ้นมาอย่างง่ายๆ 

 

 

อิ๋นจ้านกับนางไม่มีความเกี่ยวข้องกัน แต่จู่ๆ เหตุใดจึงมอบของล้ำค่านี้ให้นาง ต้องเป็นอุบายแน่นอน เวลานี้ดูแล้วอิ๋นจ้านคงเป็นบุคคลลึกลับอีกคนที่ร่วมมือกับเถิงอวิ๋น 

 

 

“ไม่ต้องกลัว อย่างไรก็นั่งบนเรือโจรแล้ว มาแล้วต้องทำใจให้สงบ” 

 

 

ถังเฉียนไม่มีสภาพจิตใจอย่างฉู่จิ่งเหยา นางยืนขึ้นตรวจดูเชือก เพิ่งยืนขึ้นมาก็พบว่าเชือกที่มัดทางหางเรือเปลี่ยนเป็นเล็กมาก เมื่อถูกลมพัดก็ค่อยๆ เล็กลง จากนั้นก็ขาดออก เรือที่นั่งอยู่เอียงไปทางด้านหลังทันที ฉู่จิ่งเหยายืนตั้งหลักอย่างมั่นคง เกาะกราบเรือไว้แน่นพลางดึงถังเฉียนไว้ 

 

 

“ท่านอ๋อง ทำอย่างไรดี” 

 

 

ถังเฉียนจับมือฉู่จิ่งเหยาแน่น พร้อมกับยึดเชือกเส้นหนึ่งไว้ ฉู่จิ่งเหยาชี้ไปที่เขาสูงลูกหนึ่งไกลออกไป 

 

 

“ไม่ต้องกลัว จับเชือกเส้นนั้นให้แน่น เราหาวิธีกระโดดลงไปที่หน้าผานั่น” 

 

 

ฉู่จิ่งเหยาเพิ่งพูดจบ เชือกอีกเส้นก็ขาดออก ฉู่จิ่งเหยารีบคว้าเชือกเส้นนั้นไว้ ถ้าเชือกข้างหน้าเส้นนี้ขาดออก พวกเขาจะเสียสมดุล จะทำให้สถานการณ์อันตรายยิ่งขึ้น 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 253 ระหว่างความเป็นความตาย 

 

 

 

 

 

ถังเฉียนเห็นสภาพเช่นนี้ ก็เชื่ออย่างสิ้นเชิงแล้วว่าการเดินทางของพวกเขาครั้งนี้ เผ่าอินทรีเงินวางแผนให้ทั้งสองตายกลางอากาศ นางเข้าใจดี การที่นางยังอยู่บนเรือจะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น ต่อให้ฉู่จิ่งเหยามีพลังแขนที่น่าอัศจรรย์ แต่จะยื้อออกไปจนถึงจุดที่เขาบอกนั้นย่อมเป็นไปได้ยาก 

 

 

ถังเฉียนมองสำรวจรอบๆ แล้วจู่ๆ ก็ปล่อยเชือกข้างตัว นางวิ่งไปที่หัวเรืออย่างรวดเร็ว ย่ำเท้าไปบนจุดที่สูงสุดบนกราบเรือแล้วกระโดดขึ้นไปคว้าเชือกไว้ ท่าเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องของนางทำให้ฉู่จิ่งเหยาตาลาย ชั่วพริบตาเด็กสาวก็คว้าขาอินทรีเงินไว้ แล้วค่อยๆ ไต่เชือกขึ้นไปบนคอเจ้าพายุเงิน 

 

 

ก่อนหน้านี้เถิงเฟิงเคยบอกว่าสามารถขี่เจ้าพายุเงินได้ ตอนเด็กเขาจะจับเจ้าพายุเงินมาแล้วปีนขึ้นไปบนหลังของมัน กอดคอมันไว้เหมือนขี่ม้า ใช้ขาควบคุมทิศทางบินของมัน 

 

 

ถังเฉียนเกาะขนเจ้าพายุเงินไว้แน่น แล้วปีนขึ้นไปบนคอ นางออกแรงหนักเกินไป จนเกือบบีบคอเจ้าพายุเงินตาย เพิ่งปีนขึ้นไป เจ้าพายุเงินก็นำอีกสามตัวพุ่งลงข้างล่าง ใกล้จะกระแทกหน้าผาแล้ว ฉู่จิ่งเหยารีบตะโกนบอก 

 

 

“คลายมือออกหน่อย!” 

 

 

ถังเฉียนคว้าที่ขนบนคอนก เลิกรัดคอนกแล้ว เจ้าพายุเงินมีโอกาสหายใจ จึงบินโฉบผ่านช่องเขาไป ร่างถังเฉียนห้อยอยู่กลางอากาศ ได้ยินเพียงเสียงท้องเรือครูดกับหินหน้าผา เชือกด้านขวาก็ขาดแล้วสุดท้ายจึงเหลือเพียงถังเฉียนเกาะเจ้าพายุเงินและฉู่จิ่งเหยาเกาะอินทรีเงินสองตัวลอยอยู่กลางอากาศ พวกมันลู่ปีกเข้า บินฉวัดเฉวียนตามเจ้าพายุเงินอยู่ในป่าทึบ 

 

 

เดิมถังเฉียนยังสามารถเกาะไว้แน่น แต่นางเกรงว่าจะรัดแน่นเกินไป อาจเผลอรัดเจ้าพายุเงินตายได้ แล้วจะร่วงลงไปทั้งคู่ 

 

 

ถังเฉียนรับมือได้ทุกอย่างแต่ที่นางกลัวที่สุดคือเวียนหัว นางเผลอเกาะไม่แน่นขณะที่เจ้าพายุเงินบินเลี้ยวจึงตกลงมา แม้ความสูงขณะนี้ไม่สูงเท่าเดิมแล้ว แต่ตกลงไปก็ยังทำให้ตายอย่างไม่ต้องสงสัย 

 

 

ถังเฉียนหดตัวแน่น เตรียมรับกับความเจ็บปวดเมื่อกระแทกตามที่คิดไว้ในใจ แต่คาดไม่ถึงว่าทันใดนั้นจะรู้สึกว่าเอวถูกรัดแน่น รออยู่นานแต่ไม่ตกลงไปอีก 

 

 

“อย่ามัวตะลึง รีบปีนขึ้นมา กอดข้าไว้” 

 

 

ถังเฉียนลืมตาขึ้นมอง พบว่าฉู่จิ่งเหยาใช้สองขารัดนางไว้ ถังเฉียนซาบซึ้งใจที่เขาช่วยชีวิตตนไว้แบบนี้ นางไม่ลังเลเลย รีบเกาะขาและเสื้อผ้าเขาไต่ขึ้นไป 

 

 

“เจ้าไว้ใจข้าไหม?” 

 

 

ถังเฉียนพยักหน้า นางไม่รู้เพราะอะไรคนที่นางไว้ใจที่สุดคือเขา เมื่อตนเองบาดเจ็บหรือทุกข์ใจก็อยากมาหาเขาเพื่อใกล้ชิดบ้าง ฉู่จิ่งเหยาไม่สามารถกอดถังเฉียน จึงตะโกนบอก 

 

 

“ใช้ขาเจ้ารัดเอวข้าไว้ เมื่อเจอจุดที่เหมาะ ข้าจะพาเจ้ากระโดดลงไป ตื่นเต้นมากขึ้นทุกทีแล้ว ฮ่าฮ่า…” 

 

 

ถังเฉียนไม่คิดว่าเขาจะไม่โมโหหรือหงุดหงิด กลับสะใจแบบนี้ และไม่มีการกังวลเรื่องระหว่างชายกับหญิง ขณะนี้เอาชีวิตรอดสำคัญที่สุด ถังเฉียนใช้ขารัดเอวฉู่จิ่งเหยาไว้แน่น มือเกาะที่ไหล่เขา 

 

 

พอเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นมุมปากเขาเชิดขึ้นเล็กน้อย รวมทั้งสายตาที่เปี่ยมด้วยความเชื่อมั่น ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เมื่อเห็นสายตาเขาแล้ว ต่อให้ตกอยู่ในสภาพการณ์เช่นนี้ซึ่งอาจตายได้ทุกขณะ แต่ถังเฉียนกลับรู้สึกว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาต้องมีชีวิตรอดแน่ บางทีนี่อาจเป็นพลังที่ผุดออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ 

 

 

“เตรียมพร้อมนะ ข้าจะกระโดดลงไปแล้ว กลั้นหายใจซะ” 

 

 

“ได้!”