ตอนที่ 2005
ถือว่าเธอตอบตกลง
เซียวจิ่งไม่ได้รีบตอบ ราวกับกำลังคิดทบทวน
เขาเป็นคนระมัดระวังมาแต่ไหนแต่ไร
ไม่เหมือนฉินมั่วหรือป๋อจิ่ว และยิ่งไม่เหมือนอวิ๋นหู่กับหลินเฟิง
“ฉันไม่เคยคิดเรื่องความรักมาก่อน” เขาวางนิ้วบนเส้นผมของลั่วลั่ว
“เพิ่งจะมาคิดเมื่อไม่กี่วันมานี้ ถ้าการได้ข่าวว่าเธอไปเจอกับคนอื่น
แล้วสงบจิตสงบใจอ่านหนังสือกับซ้อมเล่นเกมต่อไม่ได้คือความรัก
งั้นก็น่าจะใช่”
ลั่วลั่วสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิบนปลายนิ้วของเขา ใบหน้าร้อนฉ่า แต่ก็
เข้าใจความหมายของเซียวจิ่ง
และเข้าใจดีว่าเธอชอบเขามากกว่าเขาชอบเธอ
ใครเป็นคนพูดไว้ว่าผู้หญิงอย่ารักผู้ชายมากเกินไป ไม่อย่างนั้นจะ
เสียเปรียบ
ทว่าอุตส่าห์ได้โอกาสมาอย่างไม่ง่าย แล้วเขายังเป็นฝ่ายบอกรักเธอ
เองอีก
ลั่วลั่วกำลังลังเล ไม่ใช่เพราะเธอรักเขามาก แต่เพราะ…
“ฉันเรียนไม่สูง”
เซียวจิ่งส่งเสียงตอบรับ “ฉันรู้”
ลั่วลั่วคิดในใจ…นี่ฉันอยากได้คำตอบว่า ‘รู้แล้ว’ งั้นเหรอ?
“ฉันชอบเงินมาก”
เซียวจิ่งมองเธอ “อยากให้ฉันซื้อสติกเกอร์ให้ตอนไลฟ์ สดให้เหรอ”
ลั่วลั่วรู้ดีว่าหัวหน้าอีคิวแย่มาก วัน ๆ หากไม่คิดเรื่องเกมก็นึกถึงแต่
ฉินมั่วที่เป็นคู่แข่ง
“อื้อ ให้หัวหน้าซื้อสติกเกอร์ให้ตอนไลฟ์ สด” ลั่วลั่วเผยยิ้ม “ซื้อเยอะ
หน่อย นี่หัวหน้า ไม่เข้าใจจริง ๆ เหรอว่าฉันชอบเงินแปลว่าอะไร
เช่นแม่หัวหน้าอาจจะจ่ายสักห้าล้านหยวนให้ฉันเลิกกับหัวหน้า ฉัน
อาจทำไม่ได้เพราะในบัญชีฉันยังเหลือเงินเยอะอยู่ แต่ถ้าแม่หัวหน้า
จ้างฉันให้เลิกกับหัวหน้าด้วยเงินห้าล้านไม่ได้ แต่จะให้ฉันชดใช้ค่า
ผิดสัญญาสิบล้านหยวนแทน ฉันอาจจะโบกมือลาหัวหน้าไปเลย”
เซียวจิ่งนิ่วหน้า เอ่ยขึ้นราวกับทนไม่ได้ “ช่วงนี้แบล็กพีชให้เธออ่าน
หนังสือจำพวกนั้นเหรอ?”
รายชื่อหนังสือของป๋อจิ่วประเภท ‘ประธานจอมเถื่อนหลงรักฉัน’
หรือ ‘เมียจ๋า เธอจะหนีไปไหน’ เป็นที่เลื่องชื่อในกรุ๊ปวีแชทจะตาย
แถมลั่วลั่วสนิทกับจิ่วอีก
เซียวจิ่งจะคิดเช่นนี้ย่อมไม่แปลก…สักเท่าไร
ระหว่างที่ลั่วลั่วคิดจะเลิกพูดแล้ว
เซียวจิ่งก็เริ่มบรรยายวิชาการอย่างเคร่งครัด “แม่ฉันก็เป็นหมอ ปกติ
ต้องสอนเยอะมาก แต่ไม่ได้มีเงินเยอะอะไร น่าจะมีน้อยกว่าเธออีก
แต่ต่อให้แม่ฉันมีเงินก็ไม่น่าทำเรื่องแบบนี้ลง ตอนนี้แม่ยิ่งกลัวว่าฉัน
จะเป็นเกย์อยู่ด้วย เพราะเห็นฉันเกาะติดฉินมั่วมาก อยากให้ฉันหา
แฟนจะแย่อยู่แล้ว ทีมเซียงหนานไม่ให้เธอจ่ายค่าปรับหรอก ต่อให้
ต้องจ่ายฉันก็มีเงิน ถึงเธอจะเรียนไม่สูงหรือชอบเงิน มันก็เป็นสิ่งที่
ฉันมีหมดแล้ว”
พูดมาถึงตรงนี้ เขาพลันชะงัก ก่อนจะพูดเสียงเรียบ “เวลามีแฟนต้อง
พูดเยอะขนาดนี้เลยเหรอ?”
เมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย ไม่รู้ว่าทำไมลั่วลั่วถึงอยากหัวเราะ “บ้าน
ฉันไม่ได้อยู่ในเจียงเฉิง อยู่ที่ตำบลเล็ก ๆ แถวถนนทางหลวง ห่าง
จากที่นี่มาก”
“เธอเขียนรายละเอียดไว้ในใบสมัครแล้วนี่” เซียวจิ่งมองดูเรียวปาก
ซีดของเธอ จากนั้นดึงผ้ามาห่มให้ “ถือว่าเธอตกลงแล้วกัน คนป่ วย”
ลั่วลั่วโดนอีกฝ่ายรุกจนหัวใจเต้นเร็วเร็วไปครึ่งจังหวะ ด้วยเพราะอยู่
ใกล้กันมาก เขานั่งอยู่ข้าง ๆ เธอ คิด ๆ ดูแล้วคงเพราะหัวหน้าไม่
อยากพูดอีกก็เลยสรุปเอาเองเสร็จสรรพ
เธอรับถ้วยน้ำขิงมาจากมือเขามา มองเขาที่โยนยาแก้ปวดบนหัวเตียง
ลงถังขยะ
ยังรู้สึกเหมือนไม่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง
เพราะไม่ว่าจะก่อนหรือหลังโดนบอกรัก ก็รู้สึกว่าความใกล้ชิด
ระหว่างกันยังคงเหมือนเดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป
เวลาคนอื่นมีแฟน น่าจะไม่ได้เป็นแบบนี้…
ตอนที่ 2006-1
ป๋อจิ่วและศิษย์ตัวน้อย
เขายังมีท่าทีเหมือนเดิม มองเธอดื่มน้ำขิงใส่น้ำตาลทรายแดง จากนั้น
ก็นั่งทำอะไรของตัวเองไป
นอกจากจะไม่กลับห้องตัวเองแล้ว
เมื่อก่อนแค่พูดไม่กี่คำ ตอนนี้ก็ยังพูดแค่ไม่กี่คำเหมือนเดิม
แต่เป็นอย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน หากหัวหน้าถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ
เหมือนจ้าวซานพั่ง เธอคงไม่ชิน
ถึงแม้เวลานี้ รู้สึกว่าเขากลายเป็นแฟนตัวเองแล้ว เธอกลับขัดเขินจน
พูดไม่ค่อยออก
หากเป็นเมื่อก่อน ตอนนี้เธอคงเลิกผ้าห่มออกแล้วเดินไปทำธุระใน
ห้องน้ำแล้ว ทำไมตอนนี้ถึงหัวใจเต้นแรงก็ไม่รู้
คงเพราะอากัปกิริยาของเธอดึงดูดความสนใจเขา
เซียวจิ่งวางหนังสือเกี่ยวกับการแพทย์ในมือลง หันมามองเธอ
“ทำไมยังไม่ไปห้องน้ำอีก?”
ยังจะอายอะไรอีก เป็นแฟนกันทั้งทีถามผู้หญิงแบบนี้เหมาะสมไหม?
ลั่วลั่วส่งสายตาให้เขา เดิมอยากให้เขารู้ตัวเรื่องอีคิวของตัวเองบ้าง
ไม่คิดว่าเขาจะเดินเข้ามาหา ก่อนจะก้มตัวอุ้มเธอจากเตียงขึ้นมาเลย
เสี้ยวหน้าของเขาที่เธอได้เห็นจากมุมนี้คมสันชัดเจนมาก
นิ้วมือลั่วลั่วชะงักไปนิด พยายามเอ่ยเสียงเรียบ ทั้งที่หัวใจเต้นแรงจน
ตัวเองยังได้ยินชัด “ทำอะไรน่ะ?”
“เธอคิดว่าไง?” เซียวจิ่งพยักเพยิด “ไปเปลี่ยนสิ”
ลั่วลั่วเอ่ยเสียงเบา “ฉันหมายถึงจู่ ๆ หัวหน้ามาอุ้มทำไม?”
“เมื่อกี้เธอมองฉัน” เซียวจิ่งตอบสั้นมาก
ลั่วลั่วจึงค่อยเข้าใจว่าหัวหน้าตัวเองตีความสายตาของเธอผิด
พอเข้าห้องน้ำไป เธอล้างหน้าก่อนเพื่อลดความขัดเขิน เมื่อเดินออก
มาก็เห็นเขานั่งดูมือถือ เธอจึงเดินไปหา นี่เขาเล่นเกมอยู่เหรอ?
หากไม่เหลือบไปดูคงไม่เท่าไร แต่พอมองก็เห็นข้อความสั้น ๆ ที่เขา
ส่งไป แล้วดันส่งในออฟฟิเชียลเวยป๋ อ แถมยังแอดเธอด้วย ข้างหลัง
เขียนไว้สามคำว่า ‘คบกันแล้ว’
ชั่วเวลานั้น
ลั่วลั่วไม่รู้ว่าเธอควรจะดึงศีรษะกลับมาดีหรือไม่
ทั้งตัวเหมือนจมอยู่กับความหอมหวานบางอย่าง ปลายนิ้วยังคงเหลือ
รสชาติของน้ำหวานที่กินไปเมื่อครู่ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่า
รสชาติดีทีเดียว
เธอกำลังจะแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น จากนั้นแอบยิ้มหวานอยู่ใต้ผ้าห่ม
ก็เห็นเขาหลุบตามอง “บอกทุกคนแล้ว ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“อื้อ” ลั่วลั่วชอบจัดทรงผมตัวเองเวลาประหม่า แม้ท่าทางจะดูสวย
แต่จริง ๆ แล้วหูขาวนวลแดงก่ำไปแล้ว
เขายังคงอ่านหนังสือการแพทย์ต่อ ราวกับแค่ทำอะไรที่ควรทำไป
เท่านั้น
ทว่าลั่วลั่วกลับมีสภาพจิตใจไม่เหมือนเดิม ตอนกลับไปนอนที่เตียงก็
อดคว้ามือถือมาดูไม่ได้ ระหว่างมองหน้าจอที่ฮือฮากันเพราะข่าว
ออฟฟิเชียลนั้น ยังแอบแคปภาพข้อความของเขาไว้ด้วย
ทว่าแค่คิดดูก็รู้ เมื่อเซียวจิ่งโพสต์ไปจะก่อเกิดความร้อนแรงอย่างไร
แค่สั้น ๆ ประโยคเดียวก็ล่อแฟนคลับออกมาได้เยอะแยะ ไม่ต้องพูด
ถึงว่าแอดลั่วลั่วตามหลังด้วยเลย
ตอนที่ 2006-2
ป๋อจิ่วและศิษย์ตัวน้อย
“อุว้าว ๆ ๆ ๆ วันนี้ฉันกินข้าวเย็นผิดวิธีแน่เลย ฉันเห็นอะไรเนี่ย!”
“ขอเช็ดดวงตาไทเทเนี่ยมอัลลอยด์ของหมาโสดอย่างฉันก่อน ไม่ได้
ตาฝาดไป พี่เซียว@เจ้ลั่วของฉันด้วย”
“คบกันแล้ว ต้องไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดไว้แน่เลย”
“สองคนนี้คบกันได้ยังไง ไม่น่าเป็นไปได้เลย เพราะวันเอพริลฟูล
เดย์ชัวร์ พี่เซียวถึงได้ล้อเล่นแบบนี้!”
“คอมเมนต์บนตลกจัง พี่เซียวจะรู้เรื่องวันเอพริลฟูลเดย์ที่ไม่สำคัญ
ด้วยเหรอ”
“ก่อนหน้านี้ที่สัมภาษณ์กันอะ ก็ไม่เห็นมีวี่แววสักนิด นางฟ้าลั่วลั่ว
บอกว่าจะไม่หาแฟนในวงการเดียวกัน ฮ่า ๆ กล้าลงมือกับเทพเซียว
ด้วย อยู่ทีมเดียวกันอีกต่างหาก”
“อยู่ทีมเดียวกันแล้วไง ขนาดทีมไดมอนด์ยังคบกันเองเลย ทำไมทีม
เซียงหนานจะทำไม่ได้ คนบางคนก็ช่าง… ขอสนับสนุนเทพเซียวนะ
ถ้าจะถูกผู้หญิงอื่นที่ไหนก็ไม่รู้แย่งไป สู้คบกับลั่วลั่วดีกว่า สองคนนี้
รู้จักกันมานาน จะรักกันก็เป็นเรื่องปกติ”
“เอาเทพเซียวของฉันไปแล้ว ถึงจะไม่สนับสนุนเรื่องความรัก แต่ไม่
กระทบต่อความรักที่ฉันมีให้เขาหรอก”
“ยังไงฉันก็รับไม่ได้”
“ยินดีด้วยนะ”
“ชอบที่สองคนนี้คบกันมากที่สุด”
“เทพเซียว ดูแลลั่วลั่วดี ๆ นะ”
ลั่วลั่วสไลด์มือถืออ่านไปเรื่อย ๆ มีทั้งคอมเมนต์ดีและไม่ดี
ตอนแรกเธอคิดว่าแค่นี้คงจบ ไม่คิดว่าเซียวจิ่งจะโพสต์ความเห็นลง
ไปอีก ‘ที่โพสต์ลงไป แค่เป็นการบอกให้รู้’
หมายความว่า ไม่สนว่าคนอื่นจะรับได้หรือไม่
แฟนคลับบางคนเสียใจมาก บอกว่าจะเลิกเป็นแฟนคลับแล้ว
ลั่วลั่วไม่ได้พูดอะไรเมื่อเห็นเข้า ราวกับว่าหากเราอยู่ในวงการนี้นาน ๆ
เข้าก็จะเข้าใจ
การที่ทุกคนบอกว่าชอบ จริง ๆ แล้วไม่ได้ชอบ พวกเขาเปลี่ยนใจได้
เพราะคำวิจารณ์ของคนอื่นที่มีต่อเรา เมื่อไม่ได้ตัวเราก็จะแสดงความ
ผิดหวัง
อันที่จริงก็พอเข้าใจได้
ตอนเป็นเด็ก เธอพยายามสุดแรงเกิดเพื่อให้ได้รับความชอบจากทุก
คน คำวิจารณ์ในทางลบเพียงประโยคเดียว จะส่งผลต่ออารมณ์ของ
เธอมากมาย แต่เมื่อผ่านอะไรมาเยอะ เธอจึงเข้าใจว่าเป็นไปไม่ได้
ขอแค่คนที่ชอบเธอไม่เกลียดเธอก็พอแล้ว
เหมือนในเวลานี้ ดีออกจะตาย…
ลั่วลั่วเอียงคออ่านข้อความเหล่านี้จนหมด และหันไปมองผู้ชายที่
อ่านหนังสืออยู่
เขาคงจับสายตาเธอได้ จึงเงยหน้าขึ้น ชะงักเล็กน้อยก่อนเอ่ย “ลั่วลั่ว”
“หือ?” ลั่วลั่วที่โดนจับได้เขินอายเล็กน้อย
เซียวจิ่งเอ่ยปาก “ฉันไม่เคยมีประสบการณ์ด้านความรัก ถ้าตรงไหน
ทำได้ไม่ดี เธอก็บอกฉันแล้วกัน”
ลั่วลั่วไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้ เธอกอดเอวเขาไว้อย่างอดไม่ได้
หน้าแดงนิด ๆ “ไม่หรอก หัวหน้าทำดีแล้ว”
เซียวจิ่งอยากกอดเธอกลับหรือไม่ก็ขยี้ผมเธอเบา ๆ เหมือนเมื่อก่อน
แต่ดันเห็นเสื้อนอนเธอหลุดลง มือที่ยื่นออกไปชะงัก แววตาหนักอึ้ง
อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “สายเสื้อ”
สายเสื้ออะไร?
ลั่วลั่วกำลังคิด เมื่อมองตามสายตาของชายหนุ่มก็เห็นสายเสื้อชั้นใน
ตัวเอง หน้าแดงฉ่าทันที
เธอดึงสายเสื้อในกลับคืน ขัดเขินอยู่พักหนึ่ง ยังดีที่หน้าหล่อเหลา
นั่นไม่แสดงอาการอะไรออกมา ไม่งั้นเธอคงต้องหาที่มุดหนีแล้ว
เซียวจิ่งหันมาดึงผ้าห่มคลุมตัวเธอ เอ่ยอย่างไม่รู้ว่าอยู่ในอารมณ์ไหน
“ต่อไปอย่าใส่เสื้อนอนแบบนี้อีก”
“อื้อ…” ลั่วลั่วจะพูดอะไรได้อีก เธอยึดผ้าห่มไว้ หัวใจเต้นรัวเร็ว
สถานการณ์ในโลกออนไลน์ต่างไปจากทางนี้ โดยเฉพาะข้อความที่
หลินเฟิงโพสต์ “เซียวหน้านิ่งเจ๋งเป็นบ้าเลยว่ะ ท่าทางฉันกับเจ้าแบล็ก
จะเป็นพ่อสื่อจอมเสี้ยมได้สำเร็จ ต้องขอขอบคุณผู้มีบทบาทสูง เฟิง
หยาง”
แฟนคลับบางคนเย้ยหยัน “เมื่อกี้ยังบอกว่าเทพหยางของพวกเราชอบ
ลั่วลั่ว ตอนนี้รู้แล้วล่ะสิว่าเขาแค่ช่วยเฉย ๆ”