ตอนที่ 894 คู่แข่งตัวฉกาจ

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

”สุกแล้ว!สุกแล้ว!” เกาช้าวฮุ่ยตื่นเต้นสุดขีดกับการย่างอาหาร เขารีบส่งเนื้อย่างที่สุกแล้วให้ชูฮันโดยไม่รู้ตัวเลยว่าหวังไคที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อชูฮันกำลังหวาดกลัวกับการกระทำของเขามากแค่ไหน
  ชูฮันรับมานิ่งๆไม่แสดงอารมณ์ก่อนจะกัดเข้าคำโตทันที หลังจากเคี้ยวอยู่สองสามทีเขาก็พูดออกมาด้วยสีหน้าเนือยๆ “ยังไม่นิ่มพอ”
  ”แบบนี้แหละเขาเรียกไม่เหมือนใคร!”เกาช้าวฮุ่ยไม่สนใจความเรื่องมากของชูฮัน ก่อนจะบอกข้อเสนอออกมาอย่างใจกล้า “วันพรุ่งนี้ ก้อนหินใหญ่ด้านหลังที่นายพิงอยู่ เราทำให้มันร้อนแล้วเอาเนื้อไปย่างบนนั้นเถอะ”
  ”ไอเดียเยอะเหลือเกิน”ไม่รู้ว่านัยน์ตาดำสนิทของชูฮันกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
  ”อีกอย่าง”ทันใดนั้นเกาช้าวฮุ่ยก็วางทุกอย่างในมือลง ก่อนจะถามคำถามที่ค้างคาในใจมานานออกมา “พวกเรามาทำอะไรที่นี้กันแน่? เราไม่ไปค่ายเขี้ยวหมาป่ากันเหรอ?”
  ชูฮันเคี้ยวเนื้อกระต่ายต่อไปแววตามีประกายวาววับวิ่งผ่านไปรวดเร็ว ตามด้วยยกยิ้มมุมปาก “ใช่ เราจะไปค่ายเขี้ยวหมาป่า”
  แม้ว่าก่อนหน้านี้ชูฮันเลือกที่จะอยู่ในเมืองหนานตู้เพื่อจัดการกับลูกผสมและเผ่าพันธุ์ปีศาจแต่หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว แน่นอนว่าในใจของชูฮันตอนนี้ได้บินไปอยู่ที่ค่ายเขี้ยวหมาป่าเรียบร้อยแล้ว ไม่จำเป็นต้องเดาให้เสียเวลา ชูฮันสามารถมองเห็นถึงโศกนาฏกรรมที่จะเกิดขึ้นกับเมืองอันลูได้เลยถ้าเขาไปช้ากว่านี้
  เป้าหมายของลูกผสมนั้นก็คือการทำลายค่ายเขี้ยวหมาป่าให้ย่อยยับซึ่งพวกมันคงวางแผนการโจมตีมาอย่างดีแล้ว และคงระดมซอมบี้ทั้งหมดรอบบริเวณเมืองอันลูให้แห่มาที่นี้ ชูฮันคาดว่าครั้งนี้จำนวนของศัตรูน่าจะมากเกินกว่าที่กองทัพเขี้ยวหมาป่าเคยรับมือมาแล้วทั้งหมดในอดีต!   ในขณะเดียวกันชูฮันเองก็ตระหนักดีถึงความสามารถของกองทัพเขี้ยวหมาป่าของเขาเองดีและตอนนี้ทั้งสี่ทีมก็อยู่ที่นั่นครบหมด แม้ว่าจำนวนทหารทั้งหมดจะไม่ถึงสองพันคนดี แต่ถ้านับรวมกับทีมรักษาความปลอดภัยในค่ายและทีมลาดตระเวนมันก็จะเกินสองพันคนได้
  ความอึดอัดที่สุมแน่นในอกจนแทบหายใจไม่ออกทำให้ชูฮันยิ่งเดือดดาลเข้าไปอีกเสียงหัวเราะสะใจของมู๋เย๋ดังก้องอยู่ในหัว…การเผชิญหน้าระหว่างชูฮันกับมู๋เย๋นั้นเสมือนกับว่าโลกทั้งสองด้านเผชิญหน้ากัน
  สำหรับชูฮันแล้วมู๋เย๋เป็นหัวหน้าใหญ่เขาต้องจัดการให้ได้ ทุกอย่างมันสั่งสมมาเป็นเวลายาวนานเกินไปแล้ว
  สำหรับมู๋เย๋การรับมือกับชูฮันนั้นเป็นแค่เรื่องปกติเท่านั้น
  ต่อให้จะมีการต่อสู้กันยังไงราชาก็คือราชาอยู่วันยังค่ำ!
  ”เพราะงั้นฉันถึงได้ถามว่า…นี้เป็นเส้นทางไปค่ายเขี้ยวหมาป่าใช่มั้ย?หรือว่าเรามาผิดทาง?” เกาช้าวฮุ่ยเกาหัวอย่างงงวย
  หวังไคเองก็หยุดชะงักเพื่อรอดูปฏิกิริยาของชูฮันในสถานการณ์นี้เหมือนกันมันเบิกตากว้าง ความสงสัยในใจฝังลึก
  ครั้งนี้ค่ายเขี้ยวหมาป่ากำลังตกอยู่ในกองไฟร้อน แต่ทำไมชูฮันถึงไม่เลือกมุ่งหน้าไปยังเส้นทางเพื่อไปเมืองอันลู? แต่เลือกเส้นทางที่นำไปเมืองอันลูแทน?
  แววตาของชูฮันคมกริบราวกับลูกธนูเขาก้มหน้าลงและเคี้ยวต่อไปนิ่งๆ “ตอนนี้มันมีการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่ค่ายเขี้ยวหมาป่า นายรู้ใช่มั้ย?”
  เกาช้าวฮุ่นยิ่งงงมากขึ้นไปอีก”ฉันไม่รู้ แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับการที่นายกำลังมุ่งหน้าไปทิศทางตรงข้าม? ตอนนี้ที่ค่ายของนายไม่มีผู้บัญชาการรบสงคราม นายต้องกลับไปเดี๋ยวนี้สิ ทุกอย่างมันจะแย่ลงเรื่อยๆ ตอนนี้มันน่าจะยังทันอยู่นะ!”
  ”สมองนายมันเสื่อมไปมากขนาดไหนกัน?”ชูฮันเหลือบมองเกาช้าวฮุ่ย ก่อนจะพูดต่อโดยไม่สนใจคำท้วงของอีกฝ่าย “การไปทางนั้นอาจจะโอเคสำหรับนายที่เหมือนมีจรวดติดอยู่ที่เท้า แต่สำหรับฉัน การเดินทางคงใช้เวลาหนึ่งหรือสองเดือน ซึ่งป่นนั้นมันก็คงไม่ทันการแล้ว กว่าฉันจะเดินทางไปถึงค่ายเขี้ยวหมาป่า ทุกอย่างคงหายไปไม่เหลือเศษซากแล้ว ทุกคนคงจะถูกซอมบี้และลูกผสมเข่นฆ่าตายจนหมด!” novel-lucky
  เกาช้าวฮุ่ยสบตาชูฮันก่อนจะพยักหน้าตามและพูด “เข้าใจแล้ว ที่แท้นายไม่สามารถเร่งความเร็วได้”
  หน้าผากของชูฮันเดือดปุดมองเกาช้าวฮุ่ยอย่างเอือมระอาสุดขีด “เพราะนายฆ่าไม่ได้ จะส่งนายไปสู้แทนฉันมันก็เปล่าประโยชน์”
  ”เชื่อใจฉันได้!แค่หยุดพวกมันเอาไว้ ไม่ต้องฆ่าก็ได้ใช่มั้ย?” เกาช้าวฮุ่ยกลัวและถามออกมาตรงๆ แต่แล้วเมื่อเห็นสีหน้าของชูฮัน เขาก็รีบเปลี่ยนเรื่องทันที “ถ้างั้นนายจะไปเมืองหนานตู้เพราะ…”   ชูฮันยิ้มก่อนจะหลุบตามองขวานซิ่วโหลในมือ จากนั้นก็เอ่ยประโยคที่ทำให้เกาช้าวฮุ่ยและหวังไคตะลึงไปพร้อมกัน “ฉันจะไปขโมยเฮลิคอปเตอร์!”
  เพื่อมุ่งหน้าไปเมืองอันลู?
  ชูฮันไม่ได้โง่อย่างนั้น!
  เฮือก!
  เรื่องน่าตกใจที่พลิกผันไปมาทำให้เกาช้าวฮุ่ยหลุดเสียงตกใจออกมาหน้าตาบิดเบี้ยวจนน่าตลก ตาข้างหนึ่งโต อีกข้างหนึ่งหรี่ใส่ชูฮันราวกับเห็นผี
  หวังไคเองก็ตะลึงจนสมองไม่ทำงานมันไม่เคยตามความคิดของชูฮันได้ทันเลย จู่ๆชูฮันไปได้ความคิดนี้มาจากไหน?
  ขโมยเฮลิคอปเตอร?
  เขาเสียสติไปแล้ว!
  เกาช้าวฮุ่ยอยากจะกรีดร้องใส่ชูฮันอย่างหมดความอดทนหากทันใดนั้นเขาก็ต้องกลืนทุกอย่างลงคอไป แล้วจู่ๆแววตาก็เปล่งประกายจ้า ท่าทางดูตื่นเต้นผิดปกติ “ค่อยน่าสนุกขึ้นมาหน่อย!
  ”ใช่แล้ว!”เกาช้าวฮุ่ยกำลังตื่นเต้นมากในตอนนี้ หน้าเริ่มมีเลือดฝาด ราวกับว่ามันกำลังจะมีเรื่องๆดีเรื่องใหญ่มาที่ “ก่อนอื่นเราขโมยเฮลิคอปเตอร์ของค่ายหนานตู้ก่อน แล้วก็ขับเฮลิคอปเตอร์ไปอีกที่เพื่อขโมยอีกอย่างกัน!”
  ”ขโมยอีกอย่าง?”ชูฮันชะงักกับประโยคสุดท้ายที่ได้ยิน ก่อนจะปฏิเสธทันที “ไม่มีเวลา”
  ”เชื่อฉันได้!”เกาช้าวฮุ่ยตะโกนเสียงดัง เต็มไปด้วยความมั่นใจ เขารีบพยายามหว่านล้อมชูฮันต่อทันที “เชื่อฉัน เรื่องขโมยของนี้ฉันทำได้สบายๆ ไม่มีอันตรายทั้งนั้น”
  ”ฉันใจร้อนอยากจะรีบกลับไปค่ายเขี้ยวหมาป่าเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงของชูฮันเรียบนิ่ง เขาไม่แม้แต่จะมองหน้าเกาช้าวฮุ่ย
  เกาช้าวฮุ่ยมองดูท่าทางเฉยเมยของชูฮันแต่ในเมื่อมันเป็นเรื่องเร่งด่วน เขาจึงทนไม่ไหวและต้องโพล่งความจริงออกมา “ที่จริงฉันจะพานายไปค่ายลับของคู่แข่งตัวฉกาจของฉัน เพื่อไปขโมยจานบินสุดไฮเทค! ไม่ต้องพูดถึงเมืองอันลูเลย มันง่ายแสนง่ายที่จะเดินจากเหนือสุดไปใต้สุดภายในวันเดียว! เราสามารถไปไหนก็ได้ที่ต้องการ!”
  ชูฮันแอบตกใจอยู่ข้างในสิ่งที่เกาช้าวฮุ่ยพูดมามันเป็นเรื่องใหญ่
  ถ้าเรื่องที่เกาช้าวฮุ่ยพูดเป็นเรื่องจริงถ้างั้นนั่นก็คือที่มาของเทคโนโลยีขั้นสูงในชาติที่แล้วงั้นเหรอ? ถ้าเราสามารถใช้ของพวกนี้ไปประยุกต์ใช้ในด้านอื่นๆได้ ไม่ต้องพูดถึงเมืองอันลูเลย ทั่วทั้งจีนก็สามารถตกอยู่ใต้การควบคุมของชูฮันได้
  และเขาก็ไม่ต้องสนใจลูกผสมแค่ต้องตามหาตัวป่ายหวีเนอให้เจอแค่นั้นเอง เขาแทบรอไม่ไหวแล้ว!
  มันก็แค่นั้น…
  ”แล้วคู่แข่งตัวฉกาจของนายคือใคร?”ชูฮันเลิกคิ้ว พยายามกดอารมณ์ที่ปั่นป่วนภายในของตัวเองเอาไว้ และถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัยและใคร่รู้