ตอนที่ 527

The Novel’s Extra

บทที่ 527 หลังจบสงคราม (3)

 

จินซาฮยอค พูดคำที่ผมไม่เข้าใจออกมาแต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้พูดเล่น พูดตามตรงพวกเราไม่สนิทพอที่จะคุยมุกตลกๆกันแบบนี้ ดังนั้นผมจึงถามกลับ

 

“…เธอกำลังปกป้องฉัน”

 

“ใช่ นายได้ยินถูกต้องแล้ว”

 

เธอวางการ์ตูนลงและมองผมอย่างจริงจัง

 

“…ฉันอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติม”

 

จินซาฮยอค ยักไหล่

 

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน มันเป็นคำสั่งจากเบลล์”

 

“เบลล์?”

 

“ใช่ เขาบอกว่า ยียอนจุน วางแผนที่จะฆ่านาย ฉันรู้ว่านายไม่ใช่คนที่จะตายง่ายๆแต่ชื่อที่เบลล์บอกมาเขาแข็งแกร่งเกินไป”

 

“… ?”

 

‘เป็นเพราะเรานอนละเมอหรือเปล่านะ?’ ผมรู้สึกเหมือนผมเพิ่งได้ยินเรื่องบ้าๆออกมา….

 

ผมมอง จินซาฮยอค ด้วยหน้าตาที่มึนงง จินซาฮยอค ส่ายหัวของเธอ

 

“ฉันบอกนายแล้วนะ ตอนแรกฉันจะพาคุณออกไปจากหลุมหลบภัย

เพราะเบลล์บอกว่ามันอันตรายที่นายจะอยู่กับ Chameleon Troupe ในตอนนี้ ดังนั้นฉันจึงช่วยชีวิตของนายเอาไว้”

 

“…เดี๋ยวก่อนนะ เธอพูดว่า ยียอนจุน?”

 

ผมรู้ว่า ‘ยียอนจุน’ คือใคร เขาเป็นอดีตหัวหน้า Chameleon Troupe

ที่เสียชีวิตเนื่องจากการทรยศของเบลล์ อย่างน้อย บอส พูดแบบนั้น

 

“ใช่.”

 

“เขายังไม่ตายเหรอ?”

 

“อืม … .”

 

จินซาฮยอค ลูบคางของเธอในขณะที่เธอพยายามที่จะเรียงลำดับความคิดของเธอ

 

“ฉันไม่รู้รายละเอียด แต่…ฉันได้ยินมาว่าเขากลับมามีชีวิตอีกครั้ง”

 

“เป็นไปได้ยังไง?”

 

“ฉันจะรู้ได้ยังไง? ที่สำคัญกว่านั้น” จินซาฮยอค วางนิ้วชี้บนหน้าอกของฉันแล้วพูดว่า “ถึงเวลาที่นายควรจะพูดออกมาแล้วนะ”

 

“พูดอะไรนะ?”

 

“นายพูดว่าเบลล์บอกนายแล้ว”

 

“บอกฉัน? เรื่องอะไร….”

 

ทันใดนั้นผมก็จำได้ เบลล์บอกผมว่าเขาเป็นร่างอวตารของ บาอัล และผมจะต้องฆ่าเขาเพื่อ จบเรื่องราวทั้งหมด จินซาฮยอค ปัดผมออกจากใบหน้าของเธอแล้วมองมาที่ผม

 

“…เบลล์บอกว่าเขาบอกความลับทั้งหมดกับนายไปแล้ว”

 

“อานั่นคือสิ่งที่เธออยากรู้สินะ ก็ดี….”

 

ผมยักไหล่และบอกจินซาฮยอค ทุกสิ่งที่ผมได้ยินจากเบลล์ ใบหน้าของ

เธอรุนแรงขึ้นเรื่อยๆขณะที่ผมพูดต่อไป เธอเริ่มกัดเล็บของเธอเมื่อผมบอกเธอว่าเบลล์เป็นร่างอวตารของ บาอัล

 

“…นั่นคือทั้งหมดที่ฉันได้ยินจากเบลล์”

 

ผมพูดจบและเปิด Smart Watch มีข้อความมากมายจากผู้คนมากมายรวมถึง คิมซูโฮ และ อีเวนเดล แต่ชื่อที่ดึงดูดความสนใจของผมที่สุดก็คือ ‘บอส’

 

[ฮาจิน นายเป็นใครกันแน่?]

[นายอยู่ที่ไหน?]

[ฉันมีคนที่อยากเจอให้นายเจอ นายอยู่ที่ไหน]

 

‘ไม่ต้องกังวลฉันอยู่ในเรือรบของ Genkelope’ ผมพิมพ์ตอบกลับไปและลุกขึ้นจากเตียง จากนั้นผมก็เดินไปทั่วสถานที่อย่างรวดเร็วผนังสีเทานั้นเรียบร้อย ห้องครัวและห้องน้ำก็สะอาด ผมเห็นทะเลตะวันออกทั้งหมดนอกหน้าต่าง มันเป็นตอนดึกและคลื่นมหาสมุทรก็ซัดเบาๆในความมืด สำหรับผมแล้วผมรู้สึกราวกับว่า ‘ส่วนสุดท้าย’ ที่ผมไม่เคยรู้มาก่อนมันแฝงตัวอยู่ในความมืดมิดเช่นเดียวกัน

 

“นายกำลังมองอะไร?”

 

จินซาฮยอค ขึ้นมาหาผม เธอหันมาจ้องมองทะเลผมถาม จินซาฮยอค

 

“เธอยังคิดว่าฉันเป็น ไคด์สปริง อีกไหม?”

 

ผมยิ้มแย้งๆเมื่อคิดถึงความเข้าใจผิดของจินซาฮยอคแต่พอคิดแบบนั้น จู่ๆการนึกถึง คิมชุนดง ก็ยกระดับ ‘การซิงโครไนซ์’ ขึ้น 0.3%

 

[การซิงโครไนซ์ปัจจุบัน – 13%]

 

จินซาฮยอค หันมามองมาที่ผมเธอไม่ได้อารมณ์เสียบ่อยๆแล้วในตอนนี้ บางทีอารมณ์ของ คิมชุนดง ก็ส่งผลกระทบต่อเธอเช่นกัน

เธอมองมาที่ผมและหัวเราะเบาๆ

 

“…ไม่ละ แต่ฉันแน่ใจว่านายมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับ ไคด์สปริง”

 

ผมยิ้ม มันเป็นการยืนยันอย่างเงียบๆ

 

จินซาฮยอค ประกาศออกมา “ฉันจะอยู่เคียงข้างนายจนกว่าฉันจะรู้ความสัมพันธ์ของนายกับ ไคด์สปริง”

 

“…นั่นเป็นคำสั่งจากเบลล์เหรอ?”

 

“ใช่. ดังนั้นฉันจะถามแบบนี้ทุก 1 ทุกเดือน” พูดและ จินซาฮยอค หันมาจ้องมองทะเล ผมเองก็ทำเช่นกัน สิ่งที่ผมยังไม่รู้ว่ากำลังเต้นรำอยู่ในเงามืด ทันใดนั้นก็มีบางสิ่งเกิดขึ้นในจิตใจของผม

 

ผมถามอย่างระมัดระวัง “…เธอยังวางแผนจะกลับบ้านเกิดไหม?”

 

“แน่นอน” จินซาฮยอค พยักหน้าอย่างไม่ลังเล

 

“ทำไม?”

 

“เพราะผู้คนกำลังรอฉันอยู่ที่นั่น”

 

“อคทรีน่า ล้มสลายลงไปแล้ว”

 

“ไม่ นายไม่รู้ อคทรีน่า แข็งแกร่งกว่าที่นายคิด”

 

“…”

 

ในฐานะผู้เขียนต้นฉบับผมรู้ว่า อคทรีน่า ได้ล้มสลายลงไปแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่อง 30 ปีผ่านไปหลังจากการตายของจินซาฮยอค อคทรีน่า จะอยู่รอดได้ยังไง

 

“ถ้า อคทรีน่า ไม่อยู่แล้วล่ะ? เธอจะกลับไปไหม” ผมถามอย่างเย็นชา ผมรู้สึกเห็นอกเห็นใจต่อกษัตริย์ที่หวังในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

 

“…มันไม่สำคัญหรอก”

 

ผมคิดว่าจินซาฮยอค อาจจะโกรธ แต่เธอกลับส่ายหัวอย่างใจเย็น

 

“หากไม่มี อคทรีน่า ฉันก็ไม่มีเหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้ว”

 

“…”

 

เธอมีความมุ่งมั่นแม้ว่า จินซาฮยอค จะสูญเสียหลายสิ่งไป แต่เธอก็ยังคงยึดถือความหวังนี้

 

“ฉันยินดีที่จะไปตายที่บ้านเกิดของฉัน”

 

‘อคทรีน่า’ นั้นคือทุกสิ่งของ จินซาฮยอค

 

[คนที่อยู่ข้างในคุณตอบสนองต่อความเชื่อมั่นของกษัตริย์]

[การซิงโครไนซ์เพิ่มขึ้น 2%]

[การซิงโครไนซ์ปัจจุบัน – 15%]

[คำเตือน! ระวังไม่ให้สูญเสียตัวเอง]

 

ดูเหมือนว่าความภักดีของคิมชุนดง ต่อจินซาฮยอค เองก็เป็นของแท้เช่นกัน

 

“…”

 

ผมหันหน้าหนีจากจินซาฮยอคเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจเรื่องนี้ต่อตัวเองผมเรียกสปาร์ตัน สปาร์ตันปรากฏตัวขึ้นจากความว่างเปล่าและร่อนลงบนไหล่ของผม

 

“นั่นอะไร?”

 

ผมเพิกเฉยต่อคำถามของ จินซาฮยอค และหันมาสนใจ smartwatch ของผม

 

[ฮาจิน, ฉันคิดถึงคุณ ㅠ – ㅠ]

[ฉันเบื่อ~]

[นี่คือสัตว์ร้ายที่ฉันทำวันนี้~ คิตตี้มันน่ารักมาก~ คุณชอบหรือเปล่า?]

[ㅠㅠทำไมคุณไม่ตอบหนู?]

[ฉันคิดถึงคุณ]

[ㅠㅠ]

 

ทั้งหมดนี้เป็นข้อความจาก อีเวนเดล ผมตอบไม่ได้เพราะผมหมดสติ

พวกมันเพียงพอที่จะทำให้ผมลืมเรื่องการซิงโครไนซ์ไปในทันที

 

“…สปาร์ตัน?”

 

– เจี๊ยบ?

 

“ไปหา อีเวนเดล กันเถอะ”

 

– ปี้ๆๆๆ

 

“อะไรนะ? นายกำลังจะไปไหน-”

 

เมื่อ สปาร์ตัน พยักหน้ามันก็เปิดใช้งาน เทเลพอร์ต ทันที

*************************************************************************

เรามาถึงป่าทึบที่เต็มไปด้วยพลังแห่งสัตว์ป่า ป่านี้เป็นของ อีเวนเดล

มนุษย์ส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าสู่ป้อมปราการตามธรรมชาตินี้ได้เนื่องจากพลังเวทมนต์ที่หนาแน่นแต่ผมทำได้ด้วย [ชุดดอกบัวดำ]

 

ผมเดินไปที่ห้องของ อีเวนเดล กับ สปาร์ตันบนไหล่ของผม

พรสวรรค์ [ปรมจารย์นักแม่นปืน] ของผมซึ่งเป็นระดับ 1 อนุญาตให้ผมเข้าใจโครงสร้างของป่าและตำแหน่งของ อีเวนเดล ทันทีที่ผมก้าวเท้าเข้าไปข้างใน

 

[♥กระท่อมของ อีเวนเดล ^ – ^ ★]

 

ไม่ช้าผมก็มาถึงบ้านพร้อมแผ่นหน้าประตูที่น่ารัก ผมรอยยิ้มอย่างพึงพอใจและเคาะประตู ผมได้ยินเสียงดังจากข้างใน ผมผไม่สามารถรอได้อีกต่อไปผมแอบมองผ่านประตู อีเวนเดล กลิ้งไปมาอยู่บนเตียง ดูเหมือนเธอเพิ่งตื่นขึ้นมา

 

“อีเวนเดล ฉันเอง”

 

ผมกระซิบที่หน้าประตู ทันใดนั้นดวงตาของ อีเวนเดล ก็เบิกกว้าง

เธอรีบลุกจากเตียงแล้วรีบไปที่ประตูเพื่อเปิดมัน

 

“… !”

 

ดวงตาของเธอเบิกกว้างเมื่อเธอเห็นผม

 

“เธอเป็นยังไงบ้าง?”

 

“…อาาาาาาา!”

 

หลังจากถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังเป็นเวลาหลายเดือน อีเวนเดล ก็กระโดดเข้ามาในอ้อมแขนของผมพร้อมน้ำตาเธอเรียกชื่อผมซ้ำๆ

 

‘ฮาจินนน~ ฮาจินนนน~’ มันทำให้ผมหัวใจแตกสลายผมกอด อีเวนเดล แล้วลูบหัวเธอเบาๆ

 

…มันเป็นการเจอกันที่น่าประทับใจอย่างแน่นอนที่สุด

 

ผ่านไป 4 ชั่วโมงผมมองไปรอบๆกระท่อมพร้อม อีเวนเดล ที่ผมพาเดินออกมาเพื่อเล่นกับอีเวนเดลและสัตว์ป่าของเธออีเวนเดลแนะนำสัตว์ป่าทั้งหมดของเธอให้ผมทีละตัวแล้วกลับไปที่ห้องพัก

 

“เธออยากเจอเรเชลตอนนี้หรือไหม?”

 

“เรเชล ?!”

 

อีเวนเดล แสดงความดีใจออกมา

 

“ใช่ แต่พวกเราไม่สามารถเจอเธอได้โดยตนเอง เราจะโทรหาเธอ”

 

“… อ่า.”

 

ตอนแรกเธอดูผิดหวังเล็กน้อย แต่ในไม่ช้ารอยยิ้มก็ปรากฎบนใบหน้าของเธอเพื่อประสบการณ์ที่สดใสยิ่งขึ้นผมเปิดแอปที่ชื่อว่า[โฮโลแกรม] จากนั้นผมก็ส่งข้อความให้เรเชลเพื่อขอคุยวิดีโอกับผม

 

ดิ้งงงงง

 

ในไม่ช้า smartwatch ของผมก็ดังขึ้นและผมก็รับสายของเรเชลทันที

 

[เข้าสู่ห้องแชทโฮโลแกรม]

 

โฮโลแกรมของเรเชลปรากฏต่อหน้าพวกเรา มันเหมือนจริงมากจนผมรู้สึกเหมือนว่าเรเชลอยู่ที่นี่ด้วยตัวเอง

 

“สวัสดี.”

 

เกิดอะไรขึ้น? คุณเข้าไปที่นั่นได้ยังไง ฮาจิน?

 

“ฉันมีวิธีของฉันน่ะ”

 

“เรเชล ~”

 

อีเวนเดล กางแขนออกและวิ่งไปหาเรเชล เธอกำลังจะกอด แต่

เพราะเรเชลเป็นเพียงโฮโลแกรม อีเวนเดล เลยเดินผ่านร่างของเรเชล

 

“อา.”

 

…รออีกไม่นานนะ อีเวนเดล พวกเราจะเจอกันอีก

 

เรเชลยิ้มอย่างอ่อนโยน อีเวนเดล พยักหน้า แต่บรรยากาศที่อบอุ่นเป็นกันเองก็อยู่ได้ไม่นาน

 

ปี๊บ – ปี๊บ –

 

ทันใดนั้นข้อความจำนวนหนึ่งโผล่ขึ้นมาในอากาศพร้อมกับเสียงเตือน

——————-2——————