ตอนที่ 168: ตัดสินใจ

เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก

ตอนที่ 168: ตัดสินใจ โดย Ink Stone_Romance

หลัวเหมยเล่าจบ บ้านเฉินก็มองหน้ากันไปมา แล้วก็เงียบ

แน่นอน หลัวเหมยไม่ได้เล่าละเอียดขนาดนั้น และไม่ได้บอกว่าเธอมาขอให้บ้านเฉินช่วย แค่บอกว่าเธอไม่มีที่ไปแล้ว เลยนึกถึงบ้านเฉิน อันที่จริงความหมายเธอก็ชัดเจนมากแล้ว ถ้าเธอไม่อยากจะมาขอความช่วยเหลือ ถ้าไม่ได้รู้สึกดีกับเฉินกุ้ยและบ้านเฉิน เธอก็คงไม่เลือกที่จะมาบ้านเฉิน แสดงให้เห็นว่าเธอตัดสินใจจะสู้จนถึงที่สุดแล้ว

เฉินเยี่ยนรู้สึกชื่นชมหลัวเหมย ยุคนี้ส่วนมากเรื่องการแต่งงานจะอยู่ที่พ่อแม่ตัดสินใจ พ่อแม่ดูตัวให้ คุณก็ต้องแต่ง มีผู้หญิงไม่น้อยที่ก่อนแต่งงานไม่เคยเห็นหน้าสามี แต่งไปแล้วไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นยังไง คุณก็ต้องยอม แต่งกับใครไม่ว่าจะดีเลวยังไงก็ต้องทนอยู่ พูดได้ว่าผู้หญิงไม่มีอำนาจของตัวเอง

เหมือนอย่างพ่อแม่บ้านจางก็มีจำนวนไม่น้อย ลูกสาวเป็นคนของคนอื่น ลูกชายต่างหากที่เป็นคนในครอบครัวตัวเอง กระทั่งเพื่อหาภรรยาให้ลูกชายแล้ว มีหลายบ้านที่ยอมแลกลูกสาว บอกว่าเท่าเทียมกัน นั่นเป็นไปไม่ได้

“อาเหมย แล้วเธอจะทำยังไง ฝั่งนั้นก็ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ถ้าพ่อแม่เธอมาหา พวกเราไม่สามารถให้เธออยู่ได้ แม่เธอก็ใช่ ทำไมถึงหาครอบครัวแบบนี้ให้เธอ”

หวางนิวสงสารหลัวเหมย แต่สงสารแค่ไหนหลัวเหมยก็เป็นลูกสาวบ้านอื่น พวกเขาเข้าไปยุ่งไม่ได้

ได้ยินคำพูดของหวางนิว หลัวเหมยตัวแข็งทื่อ เธอยิ้มอย่างขมขื่นออกมา ดูเหมือนเธอไม่มีหวังแล้ว คงต้องกลับไปแล้ว

ก็ใช่ บ้านเฉินกับเธอไม่ได้เกี่ยวข้องกัน จะมาออกหน้าแทนเธอได้ยังไง เธอไม่ควรหวัง เรื่องแบบนี้ บ้านเฉินจะทำอะไรได้? ไม่หัวเราะที่เธอหน้าไม่อายวิ่งมาหาก็ดีแค่ไหนแล้ว

เฉินเยี่ยนเห็นหลัวเหมยเหมือนสูญสิ้นแรงก็รู้สึกเสียใจ ลูกผู้หญิง ยังไงก็เป็นผู้ที่อ่อนแอตลอด ทุ่มเทไปมาก แต่ได้กลับมาน้อย สูญสิ้นความหวังนี่น่าสงสารมาก ถ้าวันนี้บ้านเฉินปฏิเสธหลัวเหมย คิดว่าหลัวเหมยคงยอมรับในโชคชะตาแล้วกลับไปแต่งงานกับบ้านจาง คิดว่าเธอน่าจะเป็นเหมือนภรรยาคนเก่าของจางอวี้เฉิงอีกคน

เฉินกุ้ยกำหมัดแน่น เขารู้สึกสงสาร เขาคิดว่าเขาไม่อาจให้หลัวเหมยกลับไปแบบนี้ได้

“คือว่า หลัวเหมย ผม…”

เฉินกุ้ยงึมๆ งำๆ ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี พอใจร้อนก็ยิ่งพูดไม่ออก

หลัวเหมยเงยหน้ามองเฉินกุ้ย เธอไม่รู้ว่าเฉินกุ้ยจะพูดอะไร

“หลัวเหมย ฉันถามเธอหน่อย เธอคิดดีแล้วใช่ไหมว่าจะไม่แต่งงานกับบ้านจาง? ถ้าเป็นแบบนี้ เธอต้องทะเลาะกับพ่อแม่มาแน่ เธออยากจะต่อต้าน เธอหนีออกมา ฉันนับถือเธอ แต่เธอต้องนึกถึงผลที่ตามมาด้วย เธอจะรับได้ไหม พวกเราบ้านเฉินช่วยเธอได้ แต่เธอมีความกล้านั้นไหม? ถ้าไม่สนว่าพ่อแม่เธอจะทำยังไง เธอก็จะเด็ดเดี่ยวไม่แต่งงาน อย่าให้พวกเราออกหน้า แล้วพอแม่มาด่าหรือคุกเข่าอ้อนวอน เธอก็ใจอ่อนแล้วกลับไปกับเธอ ถึงตอนนั้นพวกเราก็ไม่มีทางช่วยแล้ว”

เฉินเยี่ยนเข้าใจความหมายของพี่ชาย แต่เธอคิดว่าควรจะพูดไว้ก่อน ดูว่าหลัวเหมยตัดสินใจแน่วแน่แล้วหรือเปล่า

หลัวเหมยมองเฉินเยี่ยน เรื่องเฉินเยี่ยนนั้นหลัวเหมยได้ยินมาบ้าง ชื่อเสียงเฉินเยี่ยนนั้นไม่ดี แต่เธอกลับมีความสามารถ ว่ากันว่าบ้านเฉินสามารถสร้างบ้านใหม่นี้ได้ เป็นหยาดเหงื่อแรงงานของเฉินเยี่ยน ว่ากันว่าที่เฉินกุ้ยกับช่างเหลียนหย่ากัน เฉินเยี่ยนก็มีส่วนเกี่ยวข้อง พูดได้ว่า ไม่ว่าใครจะแต่งงานกับเฉินกุ้ย พี่เฉินเยี่ยนนี่ใครก็ล่วงเกินไม่ได้

เฉินเยี่ยนถามเธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วใช่ไหม ถ้าไม่ เธอจะหนีมาบ้านเฉินทำไม? แต่เธอตัดสินใจเด็ดขาดจริงแล้วใช่ไหม? อย่างที่เฉินเยี่ยนพูด ถ้าแม่มาด่าเธอ ตีเธอ หรือคุกเข่าขอร้องเธอ เธอรู้ว่าแม่เธอทำได้หมด แล้วเธอจะทำอย่างไร?

ถ้าเธอทนไม่ได้กลับไปกับแม่เธอ แล้วคนบ้านเฉินที่ช่วยเธอจะเป็นอย่างไร? ต้องเสียคนแน่ๆ

หลัวเหมยมองดูคนบ้านเฉิน มองเฉินกุ้ย เธอสับสน

หวางนิวจะพูด เฉินเยี่ยนส่ายหน้ากับเธอ เฉินจงก็ตบไหล่เฉินกุ้ย ไม่ให้เขารีบร้อน ทั้งหมดนี่ต้องให้หลัวเหมยตัดสินใจด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้นถึงแม้พวกเขาอยากจะช่วย ก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้แค่ส่งหลัวเหมยกลับไป

“ฉัน ฉัน ฉัน”

พูดฉันติดต่อกันสามครั้ง หลัวเหมยไม่ได้พูดประโยคข้างหลังต่อ คิดว่าเธอคงสับสนมาก

“ถ้าฉันไม่มีอะไรเลย ที่บ้านก็ไม่ต้องการฉันแล้ว คุณจะคิดว่าฉันหน้าไม่อาย ดูถูกฉันไหม? คุณจะยังทำดีกับฉันหรือเปล่า?”

จู่ๆ หลัวเหมยก็ถามเฉินกุ้ยเหมือนยอมแลก

“ผมจะทำดีกับคุณ ผมต้องดีกับคุณแน่นอน ผมจะไม่ตีคุณ และไม่ด่าคุณ ไม่ดูถูกคุณ ขอแค่คุณใช้ชีวิตอยู่กับผมอย่างสบายใจ ผมจะไม่พูดเรื่องอื่น ผมจะไม่ให้คุณหิวอดอยาก และไม่ให้คุณทนทุกข์ พ่อแม่ผมก็เป็นคนดี น้องสาวผมก็ดี พวกเขาจะทำดีกับคุณ”

เฉินกุ้ยพูดอย่างจริงใจ เขาคิดว่าเขากับหลัวเหมยไม่มีหวังแล้ว คิดไม่ถึงว่าวันนี้หลัวเหมยจะมาหาเขา แสดงว่าตอนนั้นหลัวเหมยก็ชอบเขา ถ้าหลัวเหมยตกลงปลงใจกับเขา เขาก็ต้องทำดีกับหลัวเหมยแน่นอน

เฉินเยี่ยนเห็นเฉินกุ้ยยิ้มเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าเวลาสำคัญพี่ชายคนนี้ดูจริงจังขึ้นมาได้ เหมือนโชคมาถึงแล้วเลยให้คำสัญญากับหลัวเหมย

หลัวเหมยน้ำตาไหลลงมา เธอหวังอะไร? เธอแค่หวังอยากจะให้สามีในอนาคตดูแลเธอดี เห็นค่าเธอเท่านั้นเอง พ่อแม่สามีก็จริงใจ ครอบครัวใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหนเธอก็ยอม ตอนนี้เฉินกุ้ยให้คำสัญญาเธอแล้ว คนบ้านเฉินก็นิสัยดี เธอได้สิ่งที่เธอต้องการแล้ว เธอจะไม่ยอมแพ้ เธอไม่อยากสูญเสีย

“ฉันไม่อยากแต่งงานไปบ้านจาง ฉันแค่อยากจะใช้ชีวิตสงบสุข ฉันไม่ได้ต้องการบ้านหลังใหญ่ ขอแค่คนในครอบครัวอยู่อย่างเป็นสุข ต่อให้ลำบากฉันก็ยอม”

หลัวเหมยพูดกับเฉินเยี่ยน และก็เหมือนบอกความในใจกับเฉินกุ้ย ถึงแม้หน้าเธอจะแดง แต่น้ำเสียงเธอแน่วแน่ แสดงออกว่าเธอตัดสินใจแล้ว ไม่ได้พูดเล่นๆ

“ได้ งั้นพี่หลัวตัดสินใจแล้ว วางใจได้ พี่มีใจแน่วแน่ พวกเราต้องช่วยเหลือพี่”

เฉินเยี่ยนพยักหน้า เธอเปลี่ยนสรรพนามเรียก ถ้าหลัวเหมยแต่งงานกับเฉินกุ้ย ก็จะกลายเป็นพี่สะใภ้เธอ ดังนั้นเธอเรียกพี่ไม่ผิด ไม่ว่าจะยังไง หลัวเหมยมีใจเด็ดเดี่ยวถือเป็นเรื่องดี

ต่อมาบ้านเฉินเริ่มปรึกษากันว่าจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี คนอยู่บ้านเฉิน ย่อมต้องบอกให้บ้านหลัวรู้ ต่อมาต้องให้หลัวเหมยแต่งงานออกจากบ้านหลัว ไม่สามารถให้หลัวเหมยมาอยู่บ้านเฉินแบบหลบๆ ซ่อนๆ ได้ ส่วนฝั่งบ้านหลัว บ้านหลัวต้องโวยวายแน่นอน ก็ให้พวกเขาโวยวายไป ขอแค่หลัวเหมยตัดสินใจเด็ดขาด ไม่กลัวว่าบ้านหลัวจะไม่เห็นด้วย ส่วนบ้านหลัวจะขอก็ไม่พ้นเรื่องเงิน ไม่ใช่ว่าบ้านเฉินให้ไม่ได้ พวกเขาแค่ไม่อยากหาภรรยาที่ชอบเงิน ตอนนี้รู้ว่าหลัวเหมยไม่ใช่คนแบบนั้น พวกเขาก็สบายใจแล้ว

ส่วนอีกหน่อยบ้านหลัวจะดูถูกบ้านเฉินหรือไม่ ถ้าไม่ทำเกินไปพวกเขาก็ไม่สนใจ ถ้าทำเกินไป ก็ขอโทษด้วย คุณไปไกลๆ เลย หลัวเหมยบอกแล้วว่าไม่มีบ้าน เฉินกุ้ยจะทำดีกับเธอไหม นั่นหมายความว่าเธอพอรู้เรื่องพวกนี้บ้าง และเข้าใจได้ บ้านเฉินไม่กลัวจะทำผิดต่อบ้านหลัว

——————