บทที่ 851 อยู่ทุกที่

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 851 อยู่ทุกที่

จนถึงตอนนี้นั้น ฉินเทียนนั้นจะยอมและขอชื่นชมในแผนการของฉินเปียวจริงๆ เขานั้นมองไม่ออกจริงๆ ว่าฉินเปียวนั้นกำลังเล่นกลอะไรอยู่กันแน่  

หรือว่า เขานั้นเตรียมพร้อมที่จะยอมรับ แล้วยอมรับความพ่ายแพ้และสร้างสันติภาพ?

เขานั้นได้อยู่ที่ด้านหน้าของฉินเปียว ก่อนที่จะนั่งลง

พี่น้องทั้งสองคน มองไปที่พระอาทิตย์ที่อยู่ไกลๆสีแดงๆที่กำลังตกลงไปในทะเลแล้วครึ่งหนึ่ง และอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ไม่ได้มีใครเอ่ยอะไร

หลังจากผ่านไปสามแก้วเหล้า ในที่สุดฉินเปียวนั้นก็ได้เอ่ยปากขึ้น 

“เขาอิงจุ่ย ยังมีอีกชื่อหนึ่ง เจ้าคงจะไม่รู้หรอกนะ?”

ฉินเทียนเอ่ยเบาๆ “รู้สิ คือเขาแห่งความตายไง”

ฉินเปียวนั้นขมวดคิ้ว“งั้นเมื่อเจ้ารู้ แล้วทำไมมันถึงเรียกว่าเขาแห่งความตายล่ะ?”

หัวใจของฉินเทียนนั้นแอบเต้นเร็ว ก่อนที่จะเอ่ยถามอย่างสงสัย “เจ้าอยากจะเอ่ยอะไร?”

ฉินเปียวนั้นถอนหายใจแล้วเอ่ย “ตอนนั้นพวกเรานั้นยังเด็ก ข้านั้นอาจจะจำไม่ค่อยได้ แต่ว่าในตอนนั้นเจ้าน่าจะจำเรื่องราวได้แล้ว”

“ยิ่งกว่านั้น คุณปู่และคุณลุง ดีกับเจ้าอย่างมาก”

“พวกเขาในสามปีนั้น หลังจากนั้นก็กระโดดลงจากที่นี่ หรือว่าเจ้าไม่สงสัยหรอ ว่าทำไมกัน?”

สีหน้าของฉินเทียนนั้นตื่นเต้น  

ใช่แล้ว ฉินเปียวเอ่ยไม่ผิด ในตอนนั้นเขานั้นจำเรื่องราวได้แล้ว 

ในตอนนั้น หลังจากที่ฉินเปียวเกิดแล้ว ตำแหน่งของเขาในตระกูลฉินนั้น ก็ได้เริ่มน่าเป็นห่วงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ว่า ในความจริงแล้วนั้น ไม่มีใครนั้นที่จะไม่กล้าเกรงใจกับหลานชายคนโตคนนี้

เพราะว่าคุณปู่และคุณลุงนั้น ต่างก็ชอบเขาอย่างมาก

ผู้นำตระกูลรุ่นก่อน นามว่าฉินว่างจู่ เขานั้นก็ได้แต่งงานกับหญิงสาวอายุสิบแปด ก็คือนายหญิงใหญ่ในวันนี้ ที่มีความสามารถตั้งแต่เด็ก อายุเล็กน้อย ก็สามารถที่จะมารับหน้าที่ดูแลกิจการของตระกูลที่ยิ่งใหญ่

เป็นเพราะเขา เลยทำให้ตระกูลฉินนั้น กลับคืนมารุ่งโรจน์อีกครั้งจากหนึ่งร้อยปีก่อน

ฉินเทียนและคุณปู่นั้นค่อนข้างที่จะสนิทกัน แต่ว่าทันใดนั้นช่วงเวลาหนึ่ง คุณปู่นั้นก็นิสัยเปลี่ยนเป็นหงุดหงิด และชอบที่จะเอาตนเองนั้นปิดล็อกไว้ในห้อง และเอ่ยคุยคนเดียว

บางครั้งก็เหมือนกับบ้าไปแล้ว ทำลายข้าวของ

หลังจากนั้น มีหนึ่งวันในตอนกลางวัน เขานั้นได้พุ่งออกมาจากห้อง แล้วเหมือนกับคนบ้า แล้วพุ่งออกไปด้านนอก

ผู้คนของตระกูลฉินนั้นต่างก็ตกใจและรีบตามไป ตามจนกระทั่งมาถึงที่นี่ ฉินว่างจู่นั้นหัวเราะออกมาสามครั้ง ก่อนที่กระโดดลงไป และเสียงของเขานั้นก็หายไป

เขาอิงจุ่ยถึงแม้ว่าจะลึกมา แต่ว่าคนของตระกูลฉินนั้นคิดหาวิธีอย่างละเอียดเพื่อที่จะทำการค้นหา แต่กลับไม่พบเจอร่างของ ฉินว่างจู่

ก็เอ่ยได้ว่า หรือว่าเขานั้นจะหายตัวไป?

ฉินเทียนที่ยังเด็ก บางครั้งก็มีความคิดแปลกๆ ว่าคุณปู่นั้นตอนที่ตกลงไปนั้น จะเหมือนที่นิยายบนอินเทอร์เน็ตบอกไว้หรือเปล่า ว่า ตกลงไปในห้วงอุโมงค์อวกาศ แล้วไปยังอีกโลกของช่วงเวลาหนึ่ง 

เมื่อผู้นำตระกูลนั้นหายไปเช่นนี้ ตระกูลฉินนั้นวุ่นวายอยู่หลายปี เมื่อสามารถที่จะปักฐานได้อย่างมั่นคง ฉินหลินที่บ้าวิชาบู๊ ได้ทิ้งจดหมายไว้ แล้วก็หายไป 

ฉินหลินและฉินฉี ซึ่งพ่อของฉินเทียน เป็นพี่น้องแม่คนเดียวกัน

หลังจากนั้น ตระกูลหลินที่อยู่ที่เขาอิงจุ่ย ก็ได้พบรองเท้าของฉินหลินข้างหนึ่ง ทุกคนเลยคาดเดา เขานั้นคงตามพ่อของเขาไป

แต่ว่าเรื่องทั้งสองเรื่องนี้นั้น ยังนับว่าเป็นคดีที่ยังค้างอยู่ของตระกูลฉิน นายหญิงใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังนั้นได้เดินเข้ามายืนเบื้องหน้า แล้วก็รับผิดชอบกิจการของครอบครัวแทนจากสามี

เธอนั้นออกคำสั่งให้ทุกคนในครอบครัวนั้น ไม่ให้พูดเรื่องเหล่านี้อีกต่อไป มิฉะนั้น จะฆ่าอย่างไร้ความปราณี  

มันก็นานมาแล้ว แต่ว่าเรื่องแปลกทั้งสองเรื่องนี้ ยังอยู่เป็นเงาและฝังลึกอยู่ในใจของผู้คน 

ทุกคนนั้นต่างก็คิดว่าพ่อและลูกชายทั้งสองคนนั้นเป็นบ้า และไม่ได้อยู่บนโลกนานแล้ว 

ฉินว่างจู่กับฉินหลินที่หายตัวไป ทำให้เกิดการสูญเสียใหญ่ให้กับตระกูลฉิน

แต่ว่าพ่อของฉินเทียนซึ่งฉินฉีนั้น ที่เป็นลูกชายคนโตของตระกูลฉินนั้น ที่ได้อุทิศตนเอง แล้วไปหาความสันโดษคนเดียวที่ภูเขา และไม่เอ่ยถามเกี่ยวกับทางโลกเลย ตระกูลฉินนั้นยังคงสามารถที่จะยืนในอาณาจักรมังกรได้เป็นเวลาหลายปี ทั้งหมดนั้นก็เป็นเพราะว่าต่งซวงจุนที่คอยบริหารจัดการ

หากจะเอ่ยจากทางด้านนี้นั้น ต่งซวงจุนนั้นทำให้ผู้คนนั้นต่างก็ยอมรับและชื่นชม

ฉินเทียนนั้นที่พยายามสงบสติอารมณ์ แล้วเอ่ยด้วยเสียงต่ำ  “เจ้ารู้ไหมว่าคุณปู่และคุณลุง ทำไมถึงกระโดดลงจากที่นี่?”

“พวกเขาไม่แน่อาจจะยังอยู่ในโลกนี้นะ”

“เจ้ารู้ไหมว่าพวกเขาไปที่ไหนกัน?”

ฉินเปียวหัวเราะก่อนที่จะเอ่ย “ไม่แน่ใจเหมือนกัน ข้าเพียงแค่คิดสงสัยช่วงเวลาหนึ่งเฉยๆ”

“พี่ เหลือเวลาไม่มากแล้ว พวกเรามาคุยเรื่องสำคัญดีกว่า”

“เจ้ามีเรื่องอะไรจะถาม สามารถถามได้แล้วล่ะ”

ฉินเทียนนั้นไม่คิดว่าฉินเปียวนั้นจะเปลี่ยนหัวข้อบทสนทนาไวขนาดนี้ เขานั้นตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง มีเงื่อนงำมากมาย ในเวลาหนึ่ง ไม่รู้ว่าควรจะถามจากตรงไหน

ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเอ่ย “หยางชังนั้นยังทำงานเพื่อเจ้าอยู่ใช่ไหม?”

“ที่หมู่บ้านจินซานั้นคือฐานทัพหมาป่าหอน จริงๆแล้วเจ้าต่างหากถึงจะเป็นเจ้านายที่แท้จริงที่อยู่ด้านหลัง ใช่ไหมล่ะ?”

คำถามนี้ นับว่ากล้าถามมาก ฉินเทียนนั้นก็ถามกันตรงๆ

เดิมทีเขานั้นคิดว่า ฉินเปียวนั้นจะอ้อมค้อม หรือไม่ก็เอ่ยอย่างไม่ยอมรับ

คิดไม่ถึงเลยว่า ฉินเปียวนั้นจะพยักหน้าเอ่ย “จะพูดอย่างงี้ก็ได้”

ฉินเทียนนั้นตกใจ ก่อนที่เขานั้นจะกลืนน้ำลาย แล้วกัดฟันเอ่ย “แล้วทำไมเจ้าถึงจะต้องยืมมือของข้าด้วยล่ะ เพื่อกำจัดหยางชัง”

“เขานั้นเป็นคุณลุงของเจ้านะ!”

ฉินเปียวหัวเราะแล้วเอ่ย“ง่ายมาก”

“หยางชังนั้นโลภมาก กลับคิดอยากที่จะมาควบคุมข้า ควบคุมตระกูลฉิน นี่มันเหมือนเกมที่งูกำลังกลืนช้างนะ ไม่สามารถที่จะปกปิดจากข้าได้หรอก”

“เขานั้นคือลุงของข้าแล้วจะทำไมล่ะ กิจการของตระกูลฉินนั้น จะมีแต่แค่คนตระกูลฉินเท่านั้นแหละที่จะเข้ามาจัดการได้”

เขานั้นมองไปที่ฉินเทียนแล้วเอ่ย“ไม่ว่าข้าฉินเปียว หรือว่าเจ้าฉินเทียน”

“ยังไงสะ ก็จะไม่ให้คนตระกูลอื่นนั้นยื่นมือเข้ามา”

ฉินเทียนคิดไม่ถึง ว่าฉินเปียวนั้นจะคิดคำนึงถึงเพื่อตระกูลฉิน เขาคิดสักครู่แล้วเอ่ยต่อ “ดังนั้นจะบอกว่า เจ้านั้นคือคนของวิหารเทพสังหารหรอ?”

ฉินเปียวพยักหน้า“น้องนั้นไม่มีความสามารถ เลยเข้าไปอยู่ในวิหารเทพสังหารสิบแปดปี และปีที่แล้ว ได้ตำแหน่งเลื่อนขั้นขึ้นมาเป็น หนึ่งในสิบแปดเทพสังหาร”

“เจ้าเอ่ยว่ายังไงนะ?”เสียงของฉินเทียนเริ่มสั่นคลอน

ฉินเปียวเอ่ยยิ้มตอบ“ทำไมล่ะ ข้านั้นไม่ได้ทำให้ตระกูลฉินนั้นขายหน้าหรอกใช่ไหม?”

“พวกเรานั้นต่างก็เป็นผู้สืบทอดตระกูลฉิน หากพวกเรานั้นจะเป็นโจร ก็จะเป็นโจรที่เก่งที่สุดเลยล่ะ!”

“ไม่ใช่นะ!”ฉินเทียนนั้นขมวดคิ้ว“จากการตรวจสอบของจินหู่ เขานั้นเมื่อยี่สิบปีก่อนนั้น ได้ค้นพบเบาะแสของเผ่าหมาป่า”

“เขาเพราะเหตุนี้ถึงได้เสียชีวิต”

“งั้นในตอนนั้นเจ้าอายุเท่าไหร่ล่ะ?”

“คนที่ฆ่าเขานั้นไม่ใช่เจ้า แล้วจะเป็นใครกัน?”

ฉินเปียวหัวเราะ“เรื่องนี้เจ้านั้นไม่จำเป็นที่จะไปจำสิ่งพวกนี้ เพราะว่าเจ้านั้นคือคนที่ได้ฆ่าล้างแค้นแทนให้กับจินหู่แล้ว”

“ในตอนนั้น ข้านั้นยังไม่ได้เข้าร่วมวิหารเทพสังหาร รับผิดชอบธุรกิจพวกนี้ คือฮุยเฮ้อ”

“แต่ชายคนนั้นก็เป็นเพราะโดนเจ้านั้นฆ่าตายที่ วังตะวันออก”

ฉินเทียนถอนหายใจก่อนที่จะเอ่ย  “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้”

“ข้านั้นได้ยินเรื่องของเจ้านั้นมาจากสองคน ว่าที่เจ้านั้นได้รวบรวมปรมาจารย์พิษที่ต่างประเทศน่ารังเกียจเอาไว้ และลิเหลียงแห่งตระกูลลิที่อยู่ทางแดนใต้นั้น เจ้ารู้จักพวกเขาไหม?”

ฉินเปียว“รู้สิ”

“จากที่ข้าทราบมาแล้ว ปรมาจารย์พิษนั้นต่างก็จงใจที่จะสมัครตัวตนเข้าไปเป็นที่ปรึกษา แต่ว่าลิเหลียงนั้น เป็นหัวหน้าองค์กร”

“แต่ว่าข้านั้นได้ดูแลส่วนของเขา”

“สิบแปดเทพสังหาร ทุกคนนั้นจะมีพลังอำนาจของตนเอง เขานั้นอยู่ในส่วนไหนของการสังหาร ข้านั้นก็ไม่ค่อยแน่ใจ”

ฉินเทียนเอ่ยอย่างตื่นเต้น“เขารู้ไหมว่าพวกเขานั้นอยู่ที่ไหน?”

ฉินเปียวค่อยๆพยักหน้าช้าๆ สายตาของเขานั้นได้เปลี่ยนเป็นลึกลับอีกทั้งยังแปลก

สีท้องฟ้าค่อยๆมืดลง

อารมณ์ของเขานั้น ก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นลึกลับขึ้น

“ถึงแม้ว่าข้านั้นจะกลายเป็นเทพสังหารที่มีตำแหน่งแล้ว แต่ว่าเรื่องภายในวิหารนั้น ข้ารู้ไม่ได้เยอะมากเท่าไหร่”

“แต่ว่าข้าสามารถที่จะบอกเจ้าได้ ว่าพวกเรานั้นไม่มีตัวตนอยู่ แต่ว่า กลับอยู่ไปทั่วทุกที่”