TQF:บทที่ 604 หยกแกะสลักนับหมื่นรูป (1)

 

 

“ไม่ต้องใช้เวลานานขนาดนั้นหรอก” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวส่ายหัวเบาๆ “ถึงเวลาก็ปล่อยให้ผู้อาวุโสเผ่าอสูรจัดการต่อก็พอ”

 

“ก็ใช่ ยังไงพวกเขาก็มีความทรงจำของมนุษย์แล้ว ในด้านการจัดการไม่จำเป็นต้องให้เราช่วยแล้ว” หยูเฮงน้อยกล่าวยิ้มๆ

 

“เจ้าพูดถูก” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวขยี้หัวนาง “ผู้อาวุโสเผ่าอสูรที่เจ้าเรียกออกมายังไม่พอ ข้าว่าเจ้าเลิกขี้เกียจได้แล้ว เรียกออกมาอีกเยอะๆ ถึงเวลาเราอาจจะต้องส่งคนจำนวนไม่น้อยไปปักหลักอยู่ตามแต่ละเมือง เราจะมามัวเสียเวลาที่นี่ไม่ได้ ต้องรีบไปที่ชิงยาง”

 

“ไม่มีปัญหา คุณหนูจะเอาตอนไหนข้ารับประกันว่าจะเรียกออกมาได้” หยูเฮงน้อยรับประกันด้วยรอยยิ้ม

 

ฟางซูหยุนที่อยู่ข้างๆนั่งอมยิ้มฟังทั้ง 2 คุยกันด้วยสายตาเอ็นดู

 

หลังจากที่เดินทางมา 10 วัน รถลากสัตว์วิญญาณของพวกนางก็มาถึงส้งเฉิง พวกนางซื้อบ้านไว้ทันที ดังนั้นในส้งเฉิงก็มีบ้านตระกูลเฉิงกำเนิดขึ้นเช่นกัน หลังจากที่ไปเยี่ยมเยือนท่านเจ้าเมืองส้งเฉิงและเหล่าผู้อาวุโสแล้ว ผู้เฒ่าหยิงก็เจอตึกที่เหมาะจะทำร้านตึกนึง เก็บกวาดตกแต่งไปครึ่งเดือนตึกจงหยวนก็ถือกำเนิดขึ้นที่เมืองส้งเฉิง

 

เหมือนว่าคนที่นี่จะรู้จักกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนและตึกจงหยวนนานแล้ว แต่ละอิทธิพลจึงไม่ได้มีความเห็นอะไร

 

โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นสมาชิกจักพรรดิ์อมตะหลายร้อยคนที่ตึกจงหยวน พวกเขาจะพูดอะไรได้อีก

 

1 เดือนให้หลัง เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็ออกเดินทางต่อ เหลือเพียงผู้อาวุโสเฮื่อที่แปลงร่างมาจากกระเรียนเซียน แน่นอนว่าเผ่าอสูรที่ประจำอยู่ที่นี่ไม่ใช่แค่หลักร้อย แต่มากถึง 1,500 คน รับรอบว่าเผชิญได้กับทุกเรื่อง

 

7 วันให้หลัง ผู้เฒ่าหยิงขับเคลื่อนรถลากสัตว์วิญญาณมาที่อำเภอชั้น 3 ชื่อว่าจิงโจว ผ่านไปอีกครึ่งเดือน กลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนและตึกจงหยวนก็มาปรากฏที่นี่เช่นกัน พร้อมกับผู้อาวุโสเผ่าอสูร 1 คนและทหารรับจ้างอีก 1,500 คน

 

คนของกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนเป็นที่ต้อนรับมั้ยไม่มีใครบอกได้ แต่ทรัพยากรที่ตึกจงหยวนได้รับการอุดหนุนจากผู้ฝึกฝนวิทยายุทธมากมาย ถ้าไม่ใช่เพราะมีกฏการจำกัดจำนวนขายในแต่ละกัน เกรงว่าทรัพยาสำหรับหลายสิบปีก็สามารถถูกกว้านซื้อจนหมดในเวลาอันรวดเร็ว

 

การจะทำมาค้าขายต้องค่อยเป็นค่อยไปจึงจะอยู่ได้นาน เฉิงเสี่ยวเสี่ยวไม่อยากให้พวกเขาซื้อไปทีเดียวเยอะๆ ดังนั้นเหล่าผู้ฝึกฝนวิทยายุทธจึงต้องรอกันวันแล้ววันเล่าเพื่อได้ซื้อของที่ตัวเองต้องการ

 

เนื่องจากพวกเขาต้องการของพวกนี้มากจริงๆ ตึกจงหยวนจึงสามารถเปิดสาขาไปทั่วทุกที่ได้โดยไม่มีใครขัดขวาง แม้แต่พวกพ่อค้าที่อิจฉาตาร้อนก็ต้องยอมรับการปรากฏตัวของตึกจงหยวน

 

คนของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวจะหยุดอยู่ที่อำเภอชั้น 2-3 เท่านั้น ส่วนอำเภอชั้น 4 และอำเภอเล็กๆที่เหลือก็ส่งผู้อาวุโสเผ่าอสูรพาคนไปปักหลักกันเอง ส่วนพวกเขาจะทำได้ขนาดไหนก็ปล่อยพวกเขาทำเลย

 

ในเวลาเพียงครึ่งปีก็มี 20 อำเภอที่มีกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนและตึกจงหยวนปรากฏตัวอยู่แล้ว เป็นที่ฮือฮาไปทั่วผืนดินฉางไห่

 

เพราะไม่มีใครรู้ว่าคนของกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนมาจากที่ไหน นอกจากชื่อแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์จงหยวนแล้ว ก็ไม่มีข้อมูลอื่นใดอีก

 

สิ่งที่น่าตกใจที่สุดก็คือสมาชิกทุกคนของกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนล้วนเป็นจักพรรดิ์อมตะทั้งหมด แค่เฉพาะที่ทุกคนรู้ก็หลายหมื่นคนแล้ว แล้วยังมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามอำเภอต่างๆ จะไม่ให้คนอื่นทึ่งได้ยังไง

 

ต่อให้เป็นกลุ่มทหารรับจ้างเอ้าชังก็ไม่มีฝีมือถึงขั้นโปรยทหารเหมือนหว่านเมล็ดถั่ว ไม่สิ นี่ไม่ใช่แค่โปรยทหารแล้ว นี่มันโปรยแม่ทัพ จักพรรดิ์อมตะเชียวนะ ใครจะเห็นจักพรรดิ์อมตะเป็นแค่ทหารกัน

 

ไม่ว่าผืนดินฉางไห่จะฮือฮาครึกโครมขนาดไหน ก็ไม่ได้ส่งผลใดๆต่อกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนเลยแม้แต่น้อย ทุกอย่างก็ยังเป็นแบบที่มันควรจะเป็น

 

หลังจากการเดินทางครึ่งปี คนของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็เข้าใกล้ชิงยางมากขึ้นทุกทีแล้ว ด้วยความเร็วของพวกนางอย่างมากอีก 3-4 เดือนก็น่าจะถึง

 

พวกนางเป็นที่ฮือฮาอยู่ที่นี่ ส่วนที่โถงหลังวิหารสวรรค์ก็ปั่นป่วนราวกับเกิดเรื่องใหญ่โตอะไรเช่นกัน

 

และก็เกิดเรื่องที่สะเทือนไปทั้งโถงวิหารสวรรค์จริงๆ

 

สาเหตุก็เพราะท่ามกลางศิษย์ใหม่ที่รับเข้ามาในปีนี้ ได้มีคนหนึ่งที่ชื่อโม่อู๋เซอเป็นอันดับหนึ่งด้วยวิชาวิหารสวรรค์ กดเหล่าลูกศิษย์ชั้นยอดลงไปจนหมด

 

ดังนั้น เหล่าปีศาจเฒ่าแห่งโถงวิหารสวรรค์จึงออกโรงกันหมด พวกเขาล้วนอยากจะได้โม่อู๋เซอคนนี้ไปเป็นลูกศิษย์

 

มีลูกศิษย์ที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ผู้เป็นอาจารย์ก็ย่อมเพิ่มพูนบารมี เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วเหล่าปีศาจเฒ่าพวกนี้จะปล่อยลูกศิษย์สุดโดดเด่นคนนี้ไปได้อย่างไรกัน

 

ภายในโถงหลัก ปีศาจเฒ่า 10 กว่าปรากฏตัวกันครบ เนื่องจากผู้มีแววในงานแข่งฝีมือครั้งนี้หลายคน เจ้าพวกนี้ตาเขียวกันหมด

 

โม่อู๋เซอที่ยืนอยู่ในโถงหลักมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่รู้มีความปิติที่ได้อันดับ 1 เขาเพียงแต่จูงมือภรรยาตัวเองนิ่งๆแล้วรอให้ปีศาจเฒ่าพวกนี้คัดเลือกคน

 

บอกตามตรงพวกเขา 2 สามีภรรยาไม่ได้มีความกระตือรือร้นในการหาอาจารย์เท่าไหร่ ถ้าไม่ใช่เพราะอยากจะตามหาลูกศิษย์ตัวเองที่นี่ละก็ พวกเขาก็ไม่ได้อยากจะอยู่ที่นี่

 

หลังจากการสังเกตุการณ์และการสืบข่าวคราวมาครึ่งปี 2 สามีภรรยาโม่อู๋เซอเริ่มหมดหวัง ที่โถงหลักวิหารสวรรค์พวกเขาไม่เจอแม้เงาของลูกศิษย์ตัวเองเลย ราวกับเขาไม่ได้อยู่ที่โถงวิหารสวรรค์

 

ผ่านไปเกือบ 2 ปีก็ยังหาลูกศิษย์ตัวเองไม่เจอ พวกเขาปวดใจเหลือเกิน เพื่อให้ได้มาซึ่งฐานะตำแหน่งที่สูงขึ้น เขาไม่ปิดบังวิชาวิหารสวรรค์ของตัวเองแม้แต่น้อย จุดประสงค์ก็อยากจะใช้ตำแหน่งของตัวเองในการเรียกร้องให้คนของโถงวิหารสวรรค์ช่วยตามหาลูกศิษย์ตัวเอง

 

“โม่อู๋เซอ…”

 

เสียงที่แม้จะอ่อนโยนแต่ก็แฝงไว้ด้วยความองอาจดังขึ้น โม่อู๋เซอจูงมือภรรยาตัวเองเดินออกมา พลางประสานมือคำนับกับ 10 กว่าคนตรงหน้า “ศิษย์โม่อู๋เซอ คารวะเจ้าโถง คารวะผู้อาวุโสทุกท่าน”

———————-