บทที่424

ผู้แปล : N.

“สรุปแล้วฉันเป็นฝ่ายชนะแล้วใช้ไหม?” ลูชินได้ถามขึ้นมา

“ใช้! คุณเป็นฝ่ายชนะ!” ทางพนักงานเอไอมาสเตอร์ได้พูดออกมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

ซู่เสี่ยวได้พูดกับซูเฉิงด้วยความภาคภูมิใจว่า: “อ่า! เราชนะจริงๆ! เราชนะแล้ว!”

เสี่ยวจื่อเองก็ไม่มีอะไรจะพูดกับเรื่องที่เกิดขึ้น ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า และเขาเป็นเพียงกบในก้นบ่อเท่านั้น

ในเวลานี้ ก็ได้มีหนึ่งในเจ้าหน้าที่ของบริษัทเอไอมาสเตอร์ ได้เข้ามาหาลูชินอย่างตื่นเต้น ก่อนที่เขาจะถามออกไปว่า: “พี่ชาย! คุณช่วยขายเทมเพลตเอไอนี้ให้เราได้ไหม?”

ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็ถึงกับส่ายหัวออกมาโดยตรงและพูดว่า “ฉันต้องขอโทษด้วย! ฉันไม่คิดจะขาย”

“พี่ชายอย่าพึ่งพูดแบบนั้น! ทางเราจ่ายเงินให้คุณหนึ่งล้านหยวนเลยนะ!” ชายคนนั้นยังคงไม่ยอมแพ้ เขาพยายามยื่นข้อเสนอให้กับลูชิน

“อะไรนะ? เทมเพลตเอไอมีค่านับล้าน!” ผู้คนในงานต่างก็ตะลึงงันตะลึงกับสิ่งที่พวกเขาไดฟัง และได้มองดู ลูชินด้วยความอิจฉา

“มันจะง่ายเกินไปไหม? แค่คัดลอกเทมเพลตเอไอก็สามารถทำเงินได้เป็นล้าน!”

“พระเจ้า! กลับบ้านไปฉันจะต้องกลับไปศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจังแล้ว”

“ไม่! ถึงยังไงผมก็ไม่ขาย” ลูชินยังคงตอบปฏิเสธ

เมื่อชายคนนั้นได้ฟังแบบนั้น เขาก็ได้กัดฟันและพูดว่า “ห้าล้านหยวน! นี้คือราคาที่ผมสามารถให้คุณได้แล้ว! แต่ถ้าคุณสามารถขายคอมพิวเตอร์ควอนตัมของคุณได้ด้วย ทางเราจะเพิ่มให้เป็นสิบล้านหยวน!”

สิบล้าน! เมื่อได้ยินตัวเลขนี้คนส่วนใหญ่ไม่สามารถกลั้นอารมณ์ได้ พวกเขาจะถูกแทนที่ด้วยความโลภทันที และมันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะตอบปฏิเสธ!

เสี่ยวจื่อที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับสูดหายใจเข้าลึกๆ เทมเพลตเอไอที่เขาทำขายลงในชุมชนปัญญาประดิษฐ์ก่อนหน้านั้น เขาต้องใช้ทั้งความพยายามและเวลากว่าที่จะสามารถทำเงินได้ถึงแสนหยวน แต่กลับกันชายตรงหน้าของเขานั้นกับสามารถขายเทมเพลตเอไอของตัวเองได้ถึงสิบล้านหยวน นี้มันเป็นเหมือนกันตบหน้าเขายังไงยังงั้น!

“บู่!” แดงน้อยได้ร้องตะโกนออกมาด้วยความไม่พอใจ

ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้พูดปลอบโยนเธอไปว่า: “หนูมั่นใจได้ว่าพ่อจะไม่ทางขายหนูออกไปอย่างแน่นอน!”

“จริงนะ! หนูรักพ่อที่สุดเลย” แดงน้อยที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้เปลี่ยนน้ำเสียงเป็นความสุขทันที

“ พวกคุณหยุดคิดเกี่ยวกับมันเรื่องเทมเพลตเอไอไปได้เลย ถึงยังไงผมก็ไม่มีทางขายเด็ดขาด และเมื่อไหร่ผมจะได้เงินรางวัลที่คุณบอกเอาไว้ละ?” ลูชินได้ถามขึ้น

เมื่อเห็นการแสดงออกแบบนี้ของลูชิน ทางผู้จัดงานก็ได้แต่แสดงความผิดหวังออกมาได้เท่านั้น เขาจึงได้หันไปทางลูกน้องของเขา แล้วพูดขึ้นว่า: “นายช่วยไปนำรางวัลมามอบรางวัลให้กับสุภาพบุรุษท่านนี้ที เออ! มันจะเป็นอะไรไหมถ้าเราจะขอเบอร์ของคุณเอาไว้ เพื่อที่ว่าในอนาคตเราจะมีโอกาสร่วมมือกัน?”

ลูชินยังคงปฏิเสธกลับไป ก่อนที่เขาจะเลือกรับรางวัล และได้เดินออกไปจากสถานที่จัดงานพร้อมกับสองสาว

……

เนื่องจากพวกเขาได้ทำสิ่งที่สุดยอดไป มันจึงทำให้พวกเขาต่างก็ตกเป็นที่เป้าสายตาจากคนอื่นเป็นจำนวนมาก ดังนั้นทางลูชินจึงไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องไปหาที่ทานอาหารที่อื่น

“สุขสันต์วันเกิด! “ลูชินได้นำเค้กก้อนใหญ่มอบให้กับซู่เสี่ยว เธอที่เห็นแบบนั้นก็แสดงสีหน้าแปลกใจเป็นอย่างมาก ” พี่เขย! พี่รู้ได้ไงว่าวันนี้เป็นวันเกิดของหนู? “

“จะไม่ให้พี่รู้ได้ยังไง! ก็ตั้งแต่เดือนที่แล้ว เธอได้แต่พูดเตือนพี่ทุกครั้งที่พี่ทักแชทไปหาเธอ!” ลูชินได้เหลือบตาไปทางซู่เสี่ยวอย่างมีความหมาย ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นต่อว่า “ส่วนพี่สาวของเธอนั้นต้อนนี้เธอไม่ได้อยู่ที่นี้ เธอได้เดินทางไปทำธุรกิจในสหราชอาณาจักร แต่เธอได้ฝากมาบอกว่าเธอจะโทรหาเธอในตอนกลางคืนเอง”

ซูเฉิงเองก็ได้พูดขึ้นว่า “เธอควรจะอธิษฐานได้แล้ว”

ซู่เสี่ยวที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้นำวางมือมาไว้บนหน้าอก ก่อนที่เธอจะปิดตาพร้อมกับพูดออกมาเสียงดังว่า “ความปรารถนาของหนูก็คือ การหาแฟนเหมือนพี่เขย!”

“งี่เง่า! ใครเขาอธิษฐานกันแบบนั้น เธอจะต้องอธิษฐานมันในใจสิ!” ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้ลูบหัวของซู่เสี่ยว

ซูเฉิงเองก็ยิ้มออกมาเมื่อได้ฟังแบบนี้

……

ลูชินได้ใช้เวลามากกว่าครึ่งเดือนในจังหวัดเจียงเฉิง ก่อนที่เขาจะได้เดินทางกลับไปที่นิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ แต่คราวนี้แทนที่เขาจะไปที่สำนักงานของวังถัง เขากลับตรงไปที่โรงงานแพนแพนแทน

“ประธานลู! โครงการรถยนต์พลังงานใหม่ทางเราได้เริ่มดำเนินการสำเร็จแล้ว” ในบริษัท เจียงซุน ประธานปัจจุบันของบริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟ ได้เข้ามารายงานกับเขาว่า “ในเดือนนี้โรงงานยานพาหนะพลังงานใหม่แห่งแรกของบริษัทก็จะสามารถเปิดไลน์การผลิตได้แล้ว”

เจียงซุนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานของบริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟเป็นเวลาเกือบสองปีนับตั้งแต่ได้รับการแต่งตั้งจากลูชิน เขาได้ทำการพัฒนาบริษัทอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับบริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟนั้นกับไม่พอใจอยู่เล็กน้อย

เมื่อเทียบกับผลกำไรที่บริษัทของเขาทำได้กับบริษัทอื่นในเครือของบริษัทลู่เทคโนโลยีแล้ว เห็นได้ชัดว่าผลกำไรของเขานั้นอยู่ในช่วงคงที่ ซึ่งมันไม่สามารถเทียบได้กับบริษัทลูกอื่นๆ

แต่ตอนนี้สถานการณ์นั้นกำลังจะเปลี่ยนไป ด้วยที่เขาจะทำการเปิดตัวโครงการใหม่และนั้นทำให้เขาเห็นโอกาสในการยกระดับให้บริษัทของเขาก้าวขึ้นไปอีกระดับ

ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้เรียกดูรายงานโครงการตลอดในช่วงก่อนหน้านี้ทั้งหมด และมันไม่ได้แตกต่างจากครั้งก่อนหน้านี้มากนัก

ส่วนในเรื่องของยานพาหนะพลังงานใหม่ที่เขาจะทำการผลิตนั้น มันจะทำการติดตั้งระบบการขับขี่อัจฉริยะเข้าไปด้วย, แบตเตอรี่พลังงานที่ใช้ยานพาหนะเองก็จะเป็นตัวแบตเตอรี่ลิเธียม-แอร์รุ่นใหม่ที่ได้รับการปรับปรุง ซึ่งเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้แล้ว จะเห็นได้ชัดว่าประสิทธิภาพที่มันทำได้นั้นมีมากกว่าถึงสิบเท่า เพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวมันก็ทำให้รถยนต์พลังงานใหม่ตัวนี้ของเขานั้นได้กลายเป็นแบรนด์อันดับต้นๆของประเทศไปแล้ว

“โครงการนี้จะต้องมีการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพราะนี่ถือว่าเป็นรถคันแรกของบริษัทของเรา ซึ่งฉันไม่ต้องการให้เกิดข้อผิดพลาดใดๆ !” ถึงแม้ว่านี้มันจะเป็นความคิดโบราณ แต่ลูชินก็ยังพูดเน้นย้ำอีกครั้ง

“ประธานลูโปรดว่างใจได้! ผมได้ตรวจสอบตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบไปจนถึงผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ” เจียงซุนได้ตอบกลับมาอย่างมั่นใจ

“ เอาล่ะ! แล้วตอนนี้ศาสตราจารย์เฉิงมู่อยู่ที่นี่หรือเปล่า? พอดีฉันอยากจะคุยกับเขาเกี่ยวกับโครงงานใหม่” ลูชินได้ถามออกมา

“อยู่ครับ! ตอนนี้เขากำลังอยู่ในห้องเครื่องจักรกล ผมจะรีบไปแจ้งให้เขาทราบทันที” เจียงซุนที่ได้รับฟังแบบนั้นก็ได้รีบออกไปตามตัวศาสตราจารย์เฉิงมู่มาทันที

เฉิงมู่เป็นศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมเครื่องกลและไฟฟ้าที่มหาลัยเจียงเฉิง และก่อนหน้านี้เขาเองก็ได้มีส่วนช่วยแก้ปัญหาของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย อาจจะพูดได้ว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการว่าจ้างจาก บริษัทของเขามาตั้งแต่ต้นก็ว่าได้

“ประธานลู!” เฉิงมู่ได้ใช้เวลาไม่นานก่อนที่เขาจะมาถึงห้องที่ลูชินอยู่

“ศาสตราจารย์เฉิง! คุณมีความคิดยังไงเกี่ยวกับยานพาหนะที่ใช้ระบบแม่เหล็กที่ฉันได้พูดถึงครั้งล่าสุด” ลูชินได้เข้าประเด็นทันทีที่เขาเห็นศาสตราจารย์เฉิงมู่

“ในเรื่องนั้น! ผมเองก็ได้ลองไปพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญสองสามคน และพบว่าความเป็นไปได้ที่เราจะสร้างมันขึ้นมาได้นั้นไม่สูงมากนัก” ศาสตราจารย์เฉิงมู่ได้พูดออกมาตรงๆ และเขายังได้ทำการเปิดเนื้อหาที่เกี่ยวข้องให้กับลูชินได้ดูอีกด้วย

“ ประธานลู! คุณดูสินี่สิ! นี้คือโมเดลรถที่ใช้ระบบแม่เหล็กไฟฟ้าจากประเทศญี่ปุ่น” ตรงหน้าของลูชินได้ปรากฏรูปแบบสามมิติของรถยนต์แปลกตาขึ้นมา

“ ถึงแม้ว่าตัวโมเดลนี้จะทำงานได้อย่างราบรื่น แต่ถ้าหากเราต้องการนำมันมาใช้ในเชิงพาณิชย์จริงๆ มันอาจจะมีปัญหาตามมามากมายได้”

“ตัวอย่างเช่น ปัญหาการลอยการลอยของแม่เหล็ก การที่มันจะสามารถสร้างแรงลอยตัวหรือแรงผลักได้นั้น มันจำเป็นจะต้องผ่านการปฏิสัมพันธ์ระหว่างสนามแม่เหล็กบนพื้นผิวถนนและแม่เหล็กบนตัวถังรถยนต์ ซึ่งตรงจุดนี้ที่มันจะเกิดปัญหาขึ้น โดนที่รถยนต์นั้นไม่เหมือนกับรถไฟความเร็วสูงที่มีพื้นผิวที่ยาวและราบเรียบ”

“ซึ่งในเรื่องนี้เอง ผมก็ได้ทดลองนำแร่ที่มีชื่อว่า จีโอเมคเนติค มาใช้ แต่ผลที่ได้ก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ เนื่องมาจากแรงของสนามแม่เหล็กที่แร่นี้สร้างได้นั้นมันอ่อนเกินไป “

ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็ถามขึ้นว่า: “ถ้าเราสร้างเป็นตัวแทร็กละจะได้ไหม? “

ศาสตราจารย์เฉิงมู่ที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้พูดขึ้นว่า: “ในเรื่องนั้นมันเป็นไปได้! แต่ถ้าเราจะนำวิธีนี้มาใช้จริงๆ เราจะต้องเจอเข้ากับปัญหาของเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงเป็นอย่างมาก นี้ยังไม่รวมถึงการใช้ทรัพยากรอื่นที่จะตามมาอีก ฯลฯ “

“และปัญหาต่อมาคือ รถยนต์แม่เหล็กนั้นจะกินพลังงานมากกว่ารถยนต์ทั่วไปเป็นอย่างมาก และมันเป็นเรื่องยากมากที่จะทำการหยุดรถที่มีน้ำหนักมากขนาดนั้นได้ เมื่อมันลอยอยู่บนอากาศ ผมเกรงว่าถ้าเราไม่สามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้มันจะต้องเกิดอุบัติเหตุขึ้นอย่างแน่นอน “