เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 690
หรือว่า…….

คนที่ไม่เคยทำให้ตนเองผิดหวังคนนี้ จะทำให้ตนเองผิดหวังเป็นครั้งแรก……

ในโทรทัศน์

“มีผู้ชมอีกคนหนึ่งโทรศัพท์เข้ามาด้วยความกระตือรือร้น ให้พวกเรารับสายหน่อย!”

ผู้ดำเนินรายการสบตากับเย่เทียน ก็เห็นถึงความพึงพอใจบนใบหน้าทั้งสอง

ไม่ว่าจะเป็นผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ หรือผู้ดำเนินรายการ ล้วนถูกเย่โหรวซื้อตัวไปหมดแล้ว

จุดประสงค์ก็คือทำให้เย่ไห่เสื่อมเสีย!

ทำให้เฟิงเมิ่งกรุ๊ปเสื่อมเสีย!

ทำให้ชื่อเสียงของเย่ไห่ป่นปี้!

ทำให้เฟิงเมิ่งกรุ๊ปล้มละลาย!

“นายท่านเย่ คุณไม่ต้องเศร้าเสียใจไปนะ เย่ไห่คนนั้นยิ่งเสียกว่าสัตว์เดรัจฉาน ต่อไปพวกเราจะไม่ซื้อสินค้าของเฟิงเมิ่งกรุ๊ปอีกแล้ว!”

“คนที่โหดเหี้ยมอำมหิตแบบนี้ยังจะสามารถเปิดบริษัทได้อีกเหรอ? พวกเราทั้งหมดต้องการคว่ำบาตรเฟิงเมิ่งกรุ๊ป!”

“ถูกต้อง! พวกเราจะคว่ำบาตรเย่ไห่! คว่ำบาตรเฟิงเมิ่งกรุ๊ป!”

……

ชั่วพริบตา อารมณ์ของมวลชนนั้นซัดสาดเข้ามาอย่างรุนแรง

เกือบทุกคนที่กัดฟันเคียดแค้นต่อเย่ไห่

จนแทบจะกินเนื้อ ดื่มเลือดของเย่ไห่แล้ว

นี่จึงทำให้เย่ไห่ไม่อาจแก้ตัวได้

เฟิงเมิ่งกรุ๊ป ก็กลายเป็นเป้าโจมตีของประชาชนในทันที

“ประธานเย่ ต้องขอโทษด้วย! บริษัทของพวกเราไม่อาจร่วมมือกับเฟิงเมิ่งกรุ๊ปได้เป็นการชั่วคราว!”

“ประธานเย่ ในขณะที่คุณยังไม่สามารถจัดการแก้ไขวิกฤตการณ์ครอบครัวได้ บริษัทของพวกเราทำได้เพียงหยุดการร่วมมิไปชั่วคราว”

“ประธานเย่ ขอโทษด้วย สำหรับคุณลักษณะของพ่อคุณ พวกเราจึงเกิดความสงสัยอย่างมาก ดังนั้นไม่สามารถร่วมมือต่อไปได้อีก!”

……

ในเวลานี้

โทรศัพท์สายแล้วสายเล่า โทรเข้ามาที่มือถือของเย่เมิ่งเหยียน

คนเหล่านี้ที่โทรศัพท์เข้ามา ล้วนเป็นผู้ร่วมมือทางการค้าของเฟิงเมิ่งกรุ๊ป

พวกเขาต่างก็แสดงออกถึงความกังวลใจต่อเฟิงเมิ่งกรุ๊ป

ถ้าหากเฟิงเมิ่งกรุ๊ป ไม่สามารถจัดการวิกฤตการณ์ความเชื่อมั่นในครั้งนี้ให้ดีได้

พวกเขาก็คงเลือกที่จะยกเลิกความร่วมมือกับเฟิงเมิ่งกรุ๊ป!

ด้วยสายโทรศัพท์ที่เข้ามามากเกินไปจริงๆ

มือถือของเย่เมิ่งเหยียน ก็แทบจะระเบิด ต่อมาจึงแบตหมดและปิดเครื่องไปโดยตรง

“เกินไปแล้ว! เกินไปแล้วจริงๆ!”

“ทำไมคุณปู่ถึงทำแบบนี้? เขาพูดจาแบบนี้ได้อย่างไร?”

“ไม่สิ! เขาไม่ใช่คุณปู่ของฉัน! ฉันไม่มีคุณปู่แบบนี้!”

เย่เมิ่งเหยียนโมโหจนหน้าเขียว

เธอในเวลานี้ โกรธเดือดดาลจริงๆ

ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป

ครอบครัวของตนเองกับเฟิงเมิ่งกรุ๊ป ก็คงจะต้องกลายเป็นคนที่น่าสมเพชเวทนาของตงไห่อย่างแน่นอน

ต่อไปใครจะกล้าร่วมมือกับคนที่ชื่อเสียงป่นปี้อย่างนี้?

ใครจะเชื่อถือคนเลวที่ประทุษร้ายพ่อฆ่าพี่ชาย?

เผชิญหน้ากับการฟ้องร้องของพ่อตนเอง!

เผชิญหน้ากับการประณามของพ่อตนเอง!

เผชิญหน้ากับการใส่ร้ายป้ายสีของพ่อตนเอง!

เย่ไห่ในเวลานี้ รู้สึกชาไปหมดแล้ว

เขากลับไม่ได้รู้สึกโกรธแม้แต่น้อย

ถึงพ่อของตนเองใส่ร้ายป้ายสีเช่นนี้

เขาแค่รู้สึกเศร้าใจ!

“เหอๆ!”

เย่เทียนอดไม่ได้ที่จะฝืนใจหัวเราะด้วยความปวดร้าว

หลังจากที่เขารู้ว่าเย่เทียนตายแล้ว ก็รู้สึกเศร้าเสียใจอย่างมาก

กระทั่งยังคิดว่า จะจัดงานศพให้ยิ่งใหญ่อย่างไรดี

ที่แท้ เย่เทียนก็ไม่เคยปฏิบัติต่อตนเองในฐานะลูกชายเลย

ช่วงเวลานี้

เย่ไห่รู้สึกผิดหวังต่อเย่เทียนอย่างมาก

สุดท้ายความรักความผูกพันระหว่างพ่อลูกที่อยู่ภายในใจ ก็ได้หายสาบสูญไปจนหมดสิ้น!

เห็นท่าทีที่ชินชาสิ้นหวังของพ่อตนเองแล้ว

หัวใจของเย่เมิ่งเหยียนก็ราวกับมีเลือดออก

พ่อของตนเองถูกคนใส่ร้ายป้ายสีเช่นนี้

ในฐานะที่เป็นลูกสาว

เธอก็รู้สึกเข้าใจเหมือนกับตนเองได้รับ

เธอไม่ยินยอม ที่จะเห็นพ่อของตนเองชื่อเสียงป่นปี้อย่างแน่นอน

แต่ว่า เธอจะสามารถทำอะไรได้อีกล่ะ?

ในที่สุดเย่เมิ่งเหยียนก็หลั่งน้ำตา

ในเวลานี้หยางเฟิงก็กล่าวขึ้นทันทีว่า: “ที่รัก โอกาสมาแล้ว! เย่เทียนจะต้องจบเห่!”

พูดจบ

หยางเฟิงก็ต่อสายไปที่หม่าตง

“เตรียมพร้อมแล้วหรือยัง?”