ตอนที่ 676 การเดินทางครั้งใหม่ / ตอนที่ 677 ชื่อของฉันคือเซี่ยซิงเหอ

ตามใจรัก สาวนักแฮก

ตอนที่ 676 การเดินทางครั้งใหม่

 

 

ถงเยียนไม่เคยเข้าใจว่าความสัมพันธ์นั้นต้องเกิดจากความทุ่มเทของทั้งสองฝ่าย ตบมือข้างเดียวไม่อาจมีเสียงดังได้ เช่นเดียวกันกับความสัมพันธ์ มิตรภาพ ความรัก หรือสายสัมพันธ์ภายในครอบครัว

 

 

เธอยังคงคิดว่าเธอสมควรได้รับความรักทั้งหมดที่พวกเขาเคยมีให้เธออย่างมากมายเพียงเพราะเธอคือถงเยียน

 

 

ดังนั้นคำถามสำหรับตอนนี้คือ เธอจะเรียนรู้บทเรียนนี้ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไปหรือไม่

 

 

 

 

ซิงเหอไม่มีเวลามารับมือกับความเดือดดาลของถงเยียน เธอกำลังเตรียมตัวที่จะเดินทางไปยังประเทศ R มันเป็นการเดินทางครั้งใหม่เอี่ยมสำหรับเธอและเธอไม่รู้เลยว่าจะมีอะไรรอเธออยู่ในอนาคต

 

 

แต่เธอจะทำมันให้ดีที่สุด มู่ไป๋ช่วยเธอจัดเตรียมทุกสิ่งและทำถึงขนาดไปส่งหญิงสาวถึงสนามบินด้วยตัวของเขาเอง

 

 

เขาปรารถนาที่จะร่วมเดินทางไปกับเธอแต่เขาไม่อาจทำตามใจตัวเองได้ เขายังไม่ได้กลับไปสีเอ็มไพร์เลยนับตั้งแต่อุบัติเหตุของเขาในครั้งนั้น ถึงแม้ว่าบริษัทจะกำลังดำเนินไปได้ด้วยดีแต่ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น บริษัทไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ตลอดกาลโดยไม่มีเขา

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น ซิงเหอเดินทางไปยังประเทศ R ในฐานะตระกูลเฉิน การที่เขาเดินทางไปด้วยจึงไม่มีประโยชน์ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือซิงเหอไม่ต้องการให้เขาละทิ้งหน้าที่ของตัวเองไปเพราะเธอ…

 

 

เขาต้องกลับไปยังบริษัทเดี๋ยวนี้ไม่อย่างนั้นเขากลัวว่าตัวเองอาจจะตามเธอขึ้นเครื่องบินไปด้วย

 

 

“จำไว้นะว่าคุณต้องดูแลตัวเองให้ดีและระวังอันตรายอยู่เสมอ ผมจะตามไปหาคุณหลังจากที่ทุกอย่างทางนี้เข้าที่เข้าทางหมดแล้ว” มู่ไป๋พร่ำบอกเรื่องนี้แก่ซิงเหอ

 

 

ซิงเหอยิ้มบาง “ฉันดูเป็นคนน่าเป็นห่วงในสายตาคุณงั้นเหรอ อีกอย่างฉันไม่ได้ไปนานสักหน่อย เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว”

 

 

“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็เยี่ยมเลย แต่ถ้าคุณต้องการอะไร โทรหาผมนะ อย่าแบกทุกอย่างไว้คนเดียวล่ะ”

 

 

“โอเค”

 

 

มู่ไป๋ลูบไล้เรือนผมของหญิงสาวและเอ่ยเรียกร้องด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “แล้วก็ อย่าลืมคิดถึงผมด้วยนะ”

 

 

“ตกลง” ซิงเหอให้คำมั่นพร้อมรอยยิ้มเป็นนัยแต่มู่ไป๋อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ จากนั้นชายหนุ่มดึงอีกฝ่ายเข้ามาสวมกอดอย่างแนบแน่น เขากอดเธอไว้แน่นจนถึงเวลาขึ้นเครื่องเขาจึงยอมปล่อยซิงเหอออกอ้อมกอดของตัวเอง

 

 

ซิงเหอกล่าวลาชายหนุ่มด้วยหัวใจที่หนักอึ้งและก้าวขึ้นไปยังห้องโดยสารของเครื่องบิน ก่อนที่เครื่องจะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าหลังจากนั้นไม่นาน

 

 

ซิงเหอนั่งอยู่ริมหน้าต่างและมองไปยังมู่ไป๋ที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิมเพื่อเฝ้ามองเธอจากไป สายตาของทั้งสองสอดประสานกันจนลับสายตาและไม่อาจมองเห็นอีกฝ่ายได้อีก

 

 

เสียงของแซมดังแทรกขึ้นมาจากด้านข้างของซิงเหอ “จำเป็นต้องทำแบบนี้จริงเหรอ ไปแค่อาทิตย์เดียวเองนะ”

 

 

อาลิเองก็ทำเสียงไม่พอใจ “อีกอย่าง นี่ใช้เวลาเดินทางแค่สองชั่วโมงเอง เราไม่ได้ไปที่ไหนไกลๆ สักหน่อย”

 

 

“ถ้าคุณสีต้องการละก็ เขาจะบินไปกลับระหว่างสองประเทศทุกวันยังได้เลย” แคร์นแนะด้วยน้ำเสียงนิ่ม แต่กระนั้นโทนเสียงของเขายังแทรกความรู้สึกอิจฉาและเหน็บแนม เพราะเขาเองก็เริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับฉากรักกระมุ้งกระมิ้งแบบนี้

 

 

วูลฟ์เอ่ยปากขึ้น “เราพูดก็ง่ายหรอกเพราะเราไม่เข้าใจความรู้สึกของพวกเขานี่”

 

 

“เฮ้ย แกจะอยู่ข้างใครกันแน่” แซมชำเลืองตามองเพื่อนของเขา

 

 

อาลิบ่นพึมพำเช่นกัน “นายนี่ไม่ทำงานเป็นทีมเลย”

 

 

“คนทรยศ” แคร์นตำหนิอีกฝ่ายด้วยใบหน้านิ่ง

 

 

วูล์ฟโต้แย้ง “ฉันแค่พูดความจริง พวกเราที่โสดกันทุกคนไม่มีทางเข้าใจความรู้สึกของพวกเขาหรอก!”

 

 

“แล้วถ้าฉันจะให้แกเข้าใจความรู้สึกของความตายล่ะ”

 

 

“ฉันเห็นด้วย!”

 

 

“จับมันไว้!”

 

 

ทั้งสามคนกระโดดทับวูลฟ์และเริ่มตะลุมบอน ซิงเหออดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นพวกเขากำลังเล่นกัน

 

 

ในขณะเดียวกัน ในที่สุดมู่ไป๋ก็ถอนสายตาออกจากเครื่องบิน เขาเดินกลับไปยังรถของเขาและขับออกไป เขาไม่ได้ยึดติดกับการแยกจากชั่วคราวนี้มากนัก เพราะเขาเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นในเป้าหมายเช่นเดียวกันกับซิงเหอ

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 677 ชื่อของฉันคือเซี่ยซิงเหอ

 

 

เป้าหมายในชีวิตของเขาคือการแข็งแกร่งเพียงพอที่จะแบกท้องฟ้าเอาไว้ให้ทุกคนที่เขาห่วงใยได้โดยเฉพาะซิงเหอ

 

 

หากเธอเป็นดั่งนกอินทรีที่เกิดมาเพื่อโผบินไปบนท้องฟ้าที่เปิดกว้าง เช่นนั้นเขาจะไม่พันธนาการเธอเอาไว้แต่เขาจะเฝ้าระวังท้องฟ้าเอาไว้เพื่อให้เธอได้โบยบินโดยไม่มีสิ่งใดมาขัดขวาง

 

 

 

 

ประเทศ R นั้นเป็นประเทศเพื่อนบ้านของจีน ทั้งสองประเทศมีต้นกำเนิดเดียวกันและมีวัฒนธรรมที่เหมือนกัน ดังนั้นถึงแม้พวกเขาจะมาถึงประเทศ R แต่พวกเขาก็รู้สึกราวกับไม่ได้จากประเทศจีนไปไหน กระนั้นมีเพียงสิ่งเดียวที่ย้ำเตือนพวกเขาว่าไม่ได้อยู่ประเทศจีนนั่นคือภาษาพูดและภาษาเขียนของที่นี่

 

 

แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับซิงเหอเพราะสิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจด้วยความยินดีคืออาลิและคนที่เหลือนั้นสามารถพูดได้หลากหลายภาอย่างคล่องแคล่ว

 

 

อาลิอธิบายพร้อมรอยยิ้ม “ฉันว่าเธอคงเดาได้ว่านี่เป็นความภาคภูมิใจของพวกเรา ในประเทศ Y น่ะมีอะไรให้เรียนรู้อยู่ไม่มากนักหรอก แต่ถ้าตั้งใจเพียงพอก็มีความรู้ด้านการใช้อาวุธและภาษาต่างๆ ให้เรียนรู้ได้ฟรีๆ เลยละ”

 

 

เนื่องจากประเทศ Y เป็นประเทศที่ได้รับความเสียหายจากสงคราม จึงมีความหลากหลายทางประชากรซึ่งทำให้พวกเขาได้มีโอกาสติดต่อสื่อสารกับคนจากหลายเชื้อชาติ นี่ทำให้หลายสิ่งเป็นเรื่องง่ายสำหรับพวกเขา

 

 

แต่กระนั้นซิงเหอยังไม่ได้เผยแผนการทั้งหมดออกมา เป้าหมายคร่าวๆ ของเธอคือการตามหาที่อยู่ของลูกสาวคนที่สองของตระกูลเฉินและตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเฮ่อหลานกับโปรเจกต์กาแล็คซี่ เธอจะตัดสินใจว่าจะทำอะไรต่อไปเมื่ออยู่หน้างาน

 

 

เครื่องบินเดินทางมาถึงประเทศ R หลังจากนั้นไม่นาน ตระกูลเฮ่อหลานได้รับข้อมูลการมาถึงของพวกซิงเหอจากตระกูลเฉิน พวกเขาจึงส่งคนมารอรับกลุ่มของซิงเหออยู่ที่สนามบิน

 

 

แต่ซิงเหอไม่คาดคิดว่าคนที่ตระกูลเฮ่อหลานส่งมาจะเป็นคนที่มีความสำคัญมากขนาดนี้

 

 

“ผมเป็นลูกชายคนโตของตระกูลเฮ่อหลานชื่อเฮ่อหลานฉีครับ ผมเป็นตัวแทนของตระกูลเฮ่อหลานในการต้อนรับทุกคนสู่ประเทศ R” ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาตัวสูงโดดเด่นแนะนำตัวเองอย่างสุภาพต่อกลุ่มของซิงเหอ

 

 

พวกเขาประหลาดใจเมื่อพบว่าตระกูลเฮ่อหลานได้ส่งผู้นำตระกูลในอนาคตมาต้อนรับพวกเขาเช่นนี้ ชายคนนี้ดูรุ่นราวคราวเดียวกับพวกเขา บางทีอาจจะมีอายุมากกว่านิดหน่อย การปรากฏตัวของเขาเป็นเครื่องเน้นย้ำความสำคัญที่ตระกูลเฮ่อหลานมีให้แก่พวกซิงเหอ

 

 

ด้วยอายุที่ไล่เลี่ยกันทำให้บรรยากาศที่น่าอึดอัดคลายลงไปบ้าง ซิงเหอแนะนำตัวเองอย่างสุภาพเช่นกัน “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณเฮ่อหลาน ฉันเป็นหลานสาวบุญธรรมของผู้อาวุโสเฉิน ฉันมาที่นี่ในฐานะของท่านเพื่อตามหาลูกสาวที่หายสาบสูญไปของท่านค่ะ เราคงต้องพึ่งพาความช่วยเหลือของพวกคุณอีกมาก ดังนั้นต้องขอขอบคุณล่วงหน้าด้วยนะคะ”

 

 

เฮ่อหลานฉียิ้มด้วยความใจดี “ถ้างั้นคุณคือคุณเซี่ย ต่อไปช่วยเรียกผมด้วยชื่อนะครับ พอถูกเรียกว่าคุณเฮ่อหลานแล้วฟังดูประหลาดและทำให้ผมรู้สึกไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ ว่าแต่จะให้ผมเรียกคุณเซี่ยว่ายังไงดีครับ ไม่ทราบว่าผมขอทราบชื่อเต็มของคุณเซี่ยได้ไหม”

 

 

ก่อนที่ซิงเหอจะมาถึง เธอบอกกับผู้อาวุโสเฉินให้บอกเพียงนามสกุลของเธอให้ตระกูลเฮ่อหลานทราบ เธอกำลังเฝ้ารอโอกาสนี้อยู่

 

 

ซิงเหอสบตาอีกฝ่ายและกล่าวอย่างเชื่องช้า “ซิงเหอ ชื่อของฉันคือเซี่ยซิงเหอค่ะ”

 

 

ซิงเหอมองเห็นความอึ้งและความประหลาดใจปรากฎขึ้นอย่างรวดเร็วในดวงตาของเฮ่อหลานฉี!

 

 

อย่างไรก็ตาม เขากลับมาตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว อันที่จริงเขาแกล้งทำเป็นประหลาดใจและอ้าปากค้าง “เป็นชื่อที่ไม่เหมือนใครดีนะครับ ผมไม่เคยได้ยินชื่อแบบนี้มาก่อนเลย แต่มันเหมาะกับคุณดีนะ โดยเฉพาะเมื่อผมมองเห็นจักรวาลกำลังส่องประกายระยิบระยับอยู่ในดวงตาทั้งสองข้างของคุณ”

 

 

เฮ่อหลานฉีเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ในการพูด ประกอบกับหน้าตาอันหล่อเหลาและภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา เรียกได้ว่าถ้าเขาต้องการแล้วละก็เขาสามารถดึงดูดผู้หญิงคนไหนก็ได้ นี่คือสิ่งที่เขาทำแม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่ได้พบกับซิงเหอ