Chapter 163 : พายุเขาวงกต
เดฟได้มาถึงที่ Undead Frontier และรอ โซว์ล็อคอินเข้ามา ตอนที่เธอปรากฏตัวขึ้นนั้นเขาก็ได้ทักทายเธอและส่งคัมภีร์วาร์ปอีกอันให้กับเธอ
โซว์มีเกราะใหม่ เกราะหนังสีฟ้าเขียวที่เข้ากับรูปร่างของเธอ
อันเดตมองไปที่โซว์ด้วยท่าทีอคติที่มีต่อสิ่งมีชีวิตแต่เพราะเดฟอยู่ด้วย พวกนั้นจึงไม่ได้โจมตีเธอ มันเป็นเรื่องน่ารำคาญสายตาที่เห็นมนุษย์ในดินแดนของอันเดตแต่ Kis’Shtiengbrah คือคนที่เธอเชื่อใจและเธอก็จะปลอดภัยเมื่ออยู่กับเขา
” เอาล่ะ เดฟวันนี้เราจะไปไหน ? “
” ไปที่ป้อมปราการ ฉันยังสำรวจพื้นที่รอบๆไม่เสร็จเลย เราอาจจะเจออะไรน่าสนใจก็ได้ “
” อู๊ว ป้อมในวิดีโอนั่นน่ะเหรอ ? นั่นโคตรสุดยอดเลยตอนที่นายยึดมันได้ ฉันยังไม่เชื่อว่านายหนีจากมอนสเตอร์นั่นได้ยังไง “
โซว์นั้นไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะใช้ประตูวาร์ปของอันเดต ดังนั้นเธอจึงต้องใช้คัมภีร์วาร์ปเอา
เดฟไปก่อน ตัวละครของเขาหายไป ตอนที่เขาหายไปนั้นอันเดตก็เริ่มมองมาที่โซว์ด้วยความอคติมากกว่าเดิม บางตัวถึงกับเดินเข้ามาหาเธอด้วย
โซว์ รีบฉีกคัมภีร์วาร์ปแล้วปรากฏตัวขึ้นที่ด้านในกำแพงของป้อมโดยมีอันเดตอยู่รายล้อม บางตัวกำลังคุ้มกันประตูอยู่ บางตัวกำลังฝึกอยู่และพากันทำงานต่างๆ
เดฟนั้นยืนอยู่ข้างๆ โซว์ ด้านหลังเขานั้นมี Dunlord สองตัว
” เราต้องขี่พวกนี้ไป ” – เดฟพูดแล้วโดดขึ้นหลัง Stinger ก่อนจะชี้ไปที่ Dunlord อีกตัว – ” เธอขี่ตัวนี้ “
” จริงเหรอ ? ! ” – โซว์ถามย้ำ
เธอโดดขึ้นหลัง Dunlord อีกตัว Dunlord 1ตัวนั้นดูหงุดหงิดและรำคาญที่ต้องมาแบกมนุษย์
” ว๊า ! นายดูดุจังเลย ! แต่ก็น่ารักดีนะ ! “- โซว์ยังคงชมพาหนะของเธอแล้วลูบไปที่หลังมัน
Dunlord ฮึดฮัดออกมาก่อนที่จะยอมสงบลง
” เขาชื่ออะไร ? ” – โซว์ถามเดฟ
” อ่ะ เขายังไม่มีชื่อ เธอตั้งชื่อเขาได้ถ้าเธอต้องการ “
” อืม งั้นเอาเป็น Pincher เพราะนายมีก้ามที่ใหญ่ ดีมั้ย ? “
เดฟถึงกับกุมขมับ
‘ เห้อ ! เซนส์การตั้งชื่อของเธอนี่แย่ยิ่งกว่าฉันอีก ‘
แต่ Dunlord ของ โซว์ นั้นดูเหมือนว่าจะไม่ได้รังเกียจชื่อนี้ เขาถึงกับเริ่มเต้นไปมานิดๆด้วย
” ดี งั้นจากนี้นายก็คือ Pincher “
เดฟส่ายหน้าและบอกให้ Stinger เดินหน้าออกจากป้อมปราการ
ทั้งสองได้เดินทางไปที่ราบและมุ่งหน้าไปยังเนินเขาใกล้ๆ พวก Dunlord และอันเดตยืนอยู่อย่างเป็นลำดับคอยระวังตัวตลอด
” ว๊าว มีอันเดตอยู่เยอะจริงๆ พวกนี้เป็นอันเดตของนายงั้นเหรอ ? ” – โซว์ถาม
” ใช่ พวกนี้เป็นของฉันทั้งหมด ! ” – เดฟพูดขึ้นด้วยเสียงที่ดูภูมิใจ เขาเร่งให้ Stinger เดินหน้าเร็วขึ้นไปอีก
” โว๊ว จริงเหรอ ? “
เดฟได้ให้ Stinger หยุดอยู่ตรงหน้าทีมอันเดต
” อันเดต ! เราจะเดินหน้าไปทางใต้ ! ” – เดฟสั่งการออกมา
อันเดตตคะโกนกลับมาเป็นเสียงเดียวกันและเริ่มเดินหน้าไปทางใต้
เดฟได้เดินนำหน้าและมี โซว์ตามมาติดๆ
” นั่นอะไร ? ! ” – โซว์เห็นอันเดตแบบใหม่ในหมู่ทีมอันเดต
” โอ้ นั่น Dog the Dullahan เขาขี่ Basilisk ซึ่งเขาได้จับมันมา ” – นี่ยังเป็นจุดที่เดฟเจ็บใจอยู่
โซว์ได้ทำการตรวจสอบกิ้งก่าแล้วก็ต้องตาเบิกกว้าง
” นั่นมันเกินไปแล้ว กิ้งก่านี่มีตั้งหลายสกิล ! “
” ใช่ กิ้งก่านี่น่ะแข็งแกร่ง ฉันว่าจะเลี้ยงพวกมันอยู่ ฉันอาจจะใช้มันเป็นพาหนะได้ พวกมันถือว่าเป็นรถถังดีๆนี่เอง “
Ghoul บนหลัง Dunlord ได้เดินเข้ามาหาโซว์
” เอลฟ์สาวสุดสวย…ยินดี…ต้อนรับ….กลับมา “
” แล้วสุดหล่อนี่เป็นใคร ? ” – โซว์ชมกลับเมื่ออันเดตชมเธอออกมา
” นี่คือ Bud เขาคือพวกอันเดตแรกๆของฉัน เธออาจะจำเขาไมได้เพราะเขาพัฒนามาหลายครั้งแล้ว “
” สวัสดี Bud นายก็ดูเท่ดีนิ ! ” – โซว์ได้ใช้ผีดิบเงาทันที
เดฟสาบานได้เลยว่าเขาเห็น Bud หน้าแดงจากคำชมของ โซว์ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปได้
” งั้นยังไงต่อเดฟ ? เราจะไปที่ไหนเป็นพิเศษรึเปล่า ? “
” ฉันยังไม่ได้สำรวจทางใต้มากนัก ดังนั้นฉันจึงไม่รู้ว่าเราจะไปหาอะไร อย่างน้อยๆเราก็หามอนสเตอร์เพื่อเก็บเลเวล “
” ทำไมไม่ไปเขตสามของดันเจี้ยนโลกล่ะ ? “
” ชิ ฉันจะไม่กลับไปที่นั่นสักพัก ที่นั่นน่ะอันตราย เราต้องสู้กับมอนสเตอร์เป็นพันๆตอนที่จะไปที่นั่น “
” เป็นพันเลยเหรอ ? “
” ใช่ บางทีอาจจะเป็นหมื่นเลยก็ได้ ฉันจะส่งวิดีโอให้เธอ เธอจะได้ดูมันเองตอนที่เราเดินทาง “
หลายครั้งที่หน่วยสอดแนมได้กลับมารายงานว่าพบกับเสือเงาแต่เดฟไม่ได้สนใจที่จะไล่ล่ามอนสเตอร์อ่อนๆ โซว์ ได้ดูวิดีโอมอนสเตอร์หมาที่เดฟส่งมาให้เธอ
” นั่นมันเจ๋งดีแต่ก็เสี่ยง เดฟนายอาจจะตายและเสียทุกอย่างได้นะ “
” ฮี่ ใช่สิ ฉันไม่ต้องกังวลเรื่องการจะเสียการสืบทอดตอนตายอีกต่อไปแล้วรึสิทธิในดินแดนอันเดตก็ด้วย แม้แต่ส่วนอีเวนต์อันเดตก็ไม่ได้เกี่ยวกับการตายของฉันอีกแล้ว “
” อะไรนะ ? ” – โซว์ถึงกับต่อยที่แขนเขา – “นี่สำหรับที่ทำให้ฉันเป็นห่วง ! ” – จากนั้นเธอก็ต่อยเขาอีกครั้ง – ” และนี่สำหรับการที่นายไม่บอกฉันจนถึงตอนนี้ ! “
อันเดตได้ยินคำอุทานแรกของเธอและเริ่มมองไปรอบๆเพื่อหาศัตรูรวมไปถึงเตรียมตัวการป้องกันการโจมตี ตอนที่โซว์ต่อยเดฟอีกครั้ง พวกนั้นก็ไม่มั่นใจว่าต้องตอบรับยังไง
เนื่องจากหัวหน้า Death Knight ของพวกเขาเอามือถูแขนแล้วยิ้มออกมา อันเดตก็เริ่มไม่สนใจเรื่องที่เกิดขึ้นจากเอลฟ์สาวและทำการเดินหน้าต่อ
ต่อมาโซว์ก็ได้อุทานออกมา – ” เฮ้ ดูตรงนั้นสิ ! “
เดฟมองตามที่ โซว์ ชี้และพบกับเสาสูงสีดฟ้า บางอันนั้นยังอยู่ดี บางอันนั้นพังลงมาแล้วพร้อมกับเศษหินที่กระจายไปทั่ว
ทีมอันเดตเดินหน้าไปที่เสานั้น
ทั้งเดฟและโซว์ต่างก็ได้รับแจ้งเตือน
[ คุณเป็นพวกแรกที่พบกับ Storms Labyrinth
การฆ่ามอนสเตอร์ด้านในนี้จะมีโอกาส 100% ที่จะได้ไอเท็มที่ดีที่สุด]
โซว์ตัวสั่นเพราะความตื่นเต้น – ” นี่มันดันเจี้ยน เดฟ ! ดันเจี้ยน ! แล้วทางเข้ามันอยู่ไหน ? ! “
เดฟเองก็มองหาทางเข้าดันเจี้ยนแต่เขาก็ไม่เห็นอะไรนอกจากเสาพวกนั้น
มีเสาเพียงคู่เดียวที่ยังคงเชื่อมต่อกันและทีมอันเดตก็ได้เดินผ่านมันไป ในตอนที่เดินผ่านเสาประตูนั้นมาได้สายตาเขาก็พร่ามัวและโลกรอบตัวก็มืดมิดลง
เขามองกลับไปและตระหนักได้ว่าเสาสองต้นนั้นคือประตูที่นำไปสู่อีกที่
ตอนนี้พวกเขาเดินอยู่บนพื้นที่ปูด้วยหินแทนที่จะเป็นพื้นดินธรรมดา
ถนนหินนี้นำไปสู่ประตูที่ทำขึ้นจากทองและผิวของมันก็ตกแต่งด้วยเพชรหลากสีแต่สิ่งที่ทำให้ เดฟสนใจคือรูปปั้นขนาดเท่ากับ Drahma สองตัวที่ยืนอยู่ในแต่ละฝั่งของประตู
ตัวที่อยู่ด้านขวาเป็นคนผมแดง, ตัวที่มีอวบหนาพร้อมกับกล้ามเนื้อรวมไปถึงกล้ามท้องแน่น อีกตัวนั้นหัวล้านโดยมีพุงเหมือนกับรูปปั้นพุทธรูป เขาถือถุงพาดไว้ที่ไหล่และคอพร้อมกับสนับมือที่มีหนามที่ต้นแขนกับหมัด ทั้งสองตัวใส่เข็มขัดผ้าคาดไว้ที่กลางตัว
น่าแปลกที่มีห่วงเหล็กรอบตัวรูปปั้นนั้นซึ่งรอบๆห่วงเหล็กนั้นเป็นกองเล็กๆ ในมือของรูปปั้นนั้นมีไม้กองขนาดใหญ่ พวกนี้ดูเหมือนว่าจะรับหน้าที่ในการตีกลอง
” ฉันรู้จักพวกนี้ ! ” – โซว์พูดขึ้นแล้วมองไปที่รูปปั้นทั้งสอง – ” จากตำนานแล้วคนพวกนี้คือ Raijin กับ Fujin พวกนี้คือผู้ปกป้องประตูของอีกโลก ! “
” ฉันประทับใจนะ มาหวังกันว่าพวกมันจะเป็นแค่รูปปั้นละกัน หวังว่าพวกมันจะมีไว้ประดับที่นี่เฉยๆไม่ใช่เกิดมีชีวิตขึ้นมาโมตีเรา นั่นคงเป็นเรื่องแย่แน่ “
เดฟเดินเข้าไปที่ประตูพร้อมกับจับตาดูรูปปั้นโดยหวังว่าพวกมันจะไม่ขยับ
ในตอนที่อยู่ห่างจากประตูไม่กี่ก้าว ประตูนั้นก็ได้เปิดออกเอง ใจของเดฟหล่นวูบทันที – ” อ๊า ! น่ากลัวจริงๆ “
เขามองไปรอบๆอีกครั้งเพื่อมองหาว่าจะมีบางอย่างโดดมาใส่เขารึเปล่า เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไร เขาก็ได้ยักไหล่แล้วให้ Stinger เดินหน้าต่อโดยมี โซว์ กับอันเดตของเขาเดินตามไป
หลังจากที่สมาชิกคนสุดท้ายของทีมอันเดตเดินผ่านประตูไป ประตูนั้นก็ค่อยๆปิดตัวลง ดังนั้นมันจึงไม่มีใครเห็นว่ารูปปั้นทั้งสองตัวนั้นได้หันหน้ามามองหน้ากันก่อนจะยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายก่อนที่จะเกิดเสียงหัวเราะดังก้องขึ้นมา