ตอนที่ 262 อธิบาย / ตอนที่ 263 ไว้ใจ

จอมใจจ้าวพิษ

ตอนที่ 262 อธิบาย

 

 

ฉู่จิ่งเหยาท่าทางเหมือนไม่ใส่ใจ ใบหน้าฉายแววผิดหวังออกมา ถังเฉียนมองผู้หญิงสองสามคนที่ตามเข้ามาทีหลัง แล้วพูดว่า

 

 

“ใต้เท้าเจิ้ง ดูสิว่าในมือข้ามีอาวุธหรือไม่ แม้แต่เสื้อผ้าข้าก็ยังใส่ไม่เรียบร้อยดี ท่านคิดว่าข้ามาสังหารท่านอ๋องหรือ”

 

 

ไม่จำเป็นต้องค้นตัวถังเฉียนเลย มองเห็นอยู่โทนโท่ว่าไม่มีอะไร ถ้าบอกว่านางอาศัยวรยุทธ์ที่มีมาสังหารฉู่จิ่งเหยา อย่าว่าแต่ฉู่จิ่งเหยาจะไม่เชื่อ เจิ้งจยาเฉิงเองก็ไม่อาจพูดให้ตัวเองเชื่อได้ แต่เขาไม่ยอมรามือ จึงเค้นถามว่า

 

 

“ดึกดื่นป่านนี้ ผู้หญิงตัวคนเดียว ท่านหมอมาที่กระโจมท่านอ๋องเพื่อเหตุใด”

 

 

ถังเฉียนฟังที่เขาถามก็รู้สึกกระอักกระอ่วน นางไม่ทันได้แต่งตัวให้เรียบร้อยก็วิ่งออกมาแล้ว บุกเข้ามาในกระโจมของผู้ชาย ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไปชื่อเสียงนางคงป่นปี้แน่ นี่จะเป็นข้อยืนยันเรื่องที่นางถูกใส่ร้ายว่าแอบมีความสัมพันธ์ลับๆ กับท่านอ๋อง

 

 

ถังเฉียนมองมาที่ฉู่จิ่งเหยา แต่เขากลับจ้องมองแสงไฟข้างๆ เป็นการแสดงท่าทีว่าเขาไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ให้นางแก้ปัญหาเอง พอดีเหวินเยียนก็ตามเข้ามา เห็นนางยืนอยู่ท่ามกลางผู้คน

 

 

“เหวินเยียน ก็สาวใช้บ้าคนนี้แหละ นางบอกว่าท่านอ๋องโรคเก่ากำเริบ กำลังจะตาย ให้ข้ารีบมาดู ไม่เช่นนั้นดึกอย่างนี้ข้าจะมาที่กระโจมท่านอ๋องทำไม?”

 

 

ถังเฉียนอธิบายเช่นนี้ เหวินเยียนถึงกับนิ่งอึ้ง เวลานี้นางเป็นมนุษย์แมลง สมองคิดไม่ไวเหมือนก่อน ปกติเพียงทำตามคำสั่งเถิงอวิ๋นและถังเฉียน ถึงตอนนี้ไม่รู้ว่าจะโต้แย้งอย่างไรดี

 

 

“ข้า ข้า ข้า…”

 

 

“เจ้าเป็นอะไรไป บอกเพียงว่าที่ท่านหมอพูดจริงหรือไม่จริง”

 

 

ถังเฉียนไม่ใส่ใจนาง อย่างไรงานนี้เถิงอวิ๋นมอบให้นาง ใครใช้ให้นางแจ้งข่าวผิดพลาด ยาแม่ลูกพิษร้ายแรง ต้องให้นางรับหน้าแทนตนเอง

 

 

“ข้า ข้าจำไม่ได้ ดูเหมือนข้าจะฝันไป ฝันเห็นท่านอ๋องป่วยหนัก จากนั้น…”

 

 

จื่อเย่ว์ได้ยินเช่นนี้ก็โกรธสุดขีด ยังดีที่ซูซินเหลียนที่อยู่ข้างๆ ยิ้มแล้วพูดว่า

 

 

“ที่แท้ก็แค่ความฝัน นี่แหละเจ้านายเป็นเช่นไรก็มีบ่าวเช่นนั้น ค่ำนี้ข้าเห็นท่านหมอชอบกินลูกแพะหันมาก กินไปก็ไม่น้อย คงเพราะกินมากจึงทำให้แน่นท้อง เลยคิดมาที่กระโจมท่านอ๋อง เพื่อออกกำลังกับท่านอ๋องบ้าง”

 

 

ถังเฉียนได้ยินที่นางพูด ออกกำลังบ้าง ที่จริงก็ไม่เลว ครั้งนี้รอดพ้นอันตรายมาได้ ถังเฉียนก็สาบานว่าจะต้องเรียนวรยุทธ์กับฉู่จิ่งเหยาให้ดี วันหน้าไม่รู้ว่าจะสามารถมีชีวิตต่อไปได้หรือไม่ ในยามหน้าสิ่วหน้าขวานก็ต้องอาศัยตัวเอง

 

 

จื่อเย่ว์ฟังแล้วก็รู้สึกว่าเป็นความหมายในแง่ลบ แต่ถังเฉียนไม่เข้าใจ นางพยักหน้าแล้วพูดว่า

 

 

“ท่านอ๋อง คราวหน้าถ้านอนไม่หลับถังเฉียนจะมาหาท่านอ๋องเพื่อออกกำลังบ้าง ช่วยให้อาหารย่อย ไม่เช่นนั้นในท้องมีไฟสะสมอยู่ กลัวว่าจะทำให้ไม่สบาย”

 

 

ถังเฉียนพูดจบก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรไม่เหมาะไม่ควร แต่ทุกคนกลับมองดูถังเฉียนด้วยสายตาประหลาด แต่ฉู่จิ่งเหยายิ้มแล้วพูดว่า

 

 

“เด็กโง่ รอให้เถิงเฟิงสำนึกผิดแล้วตามมา เจ้าก็จะรู้ว่าตัวเองโง่เพียงใด”

 

 

ซูซินเหลียนมองดูถังเฉียนแล้วหัวเราะเสียงดัง เพียงแต่ถังเฉียนยังคงไม่รู้ว่าตนเองพูดผิดตรงไหน หรือที่นางพูดอย่างนี้ไม่ได้คำนึงถึงความไม่สะดวกของฉู่จิ่งเหยา นางรู้สึกว่าควรจะพูดแก้ตัวบ้าง จึงพูดว่า

 

 

“แต่ว่า ถ้าหากท่านอ๋องไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร หากท่านอ๋องไม่ยินดี ข้าย่อมไม่ฝืนใจ”

 

 

ถึงตอนนี้จื่อเย่ว์อดใจไม่อยู่ เจิ้งจยาเฉิงพูดว่า

 

 

“บางทีข้าคงประเมินเจ้าสูงเกินไป อายุสิบสี่เพิ่งแตกเนื้อสาว ยังคงไม่ประสีประสา”

 

 

คำว่าไม่ประสีประสาทำให้ถังเฉียนหน้าแดงทันที แล้วเบือนหน้าหนี ไม่กล้ามองคนอื่นอีก นางรู้สึกว่าตัวเองถูกทุกคนในกระโจมลบหลู่

 

 

“เวลานี้ เจ้าควรจะรู้แล้วว่าเหตุใดท่านหมอฮว่าเหยียนจึงให้เจ้าใส่หน้ากากคนแก่ต่อหน้าผู้คน เด็กโง่ คนปากกับใจตรงกันอย่างเจ้าเป็นสายลับไม่ได้ แต่ต้องระวังว่าจะถูกคนอื่นสืบความลับ”

 

 

คำพูดนี้มีความหมายลึกซึ้ง ทุกคนกำลังหัวเราะ มีเพียงถังเฉียนที่ไม่หัวเราะ ตรงกันข้ามนางนึกโมโหว่าเหตุใดถึงมีเพียงนางที่ไม่เข้าใจ

 

 

 

 

ตอนที่ 263 ไว้ใจ

 

 

ถังเฉียนโกรธ อยากหนีออกไปจากกระโจมหลังนี้ แต่ฉู่จิ่งเหยากลับสั่งให้คนอื่นออกไป เขารู้สึกเจ็บที่หน้าอก ต้องการให้ถังเฉียนช่วยรักษา

 

 

ไม่รู้ว่าที่เขาทำอย่างนี้เพื่อให้เธออยู่ต่อหรือไม่ เขาจะได้ลบหลู่นางตามลำพัง

 

 

“โมโหหรือ”

 

 

“อาหรูน่ามิบังอาจ!”

 

 

ถังเฉียนห่อปาก ท่าทางเหมือนไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วย แล้วหยิบมีดเตรียมจะกรีดแขนตัวเอง แต่ฉู่จิ่งเหยาคว้าข้อมือนางไว้ ไม่ให้นางลงมือ

 

 

“เจ้ายังไม่ได้บอกข้าเลยว่าคืนนี้เหตุใดจึงมากระโจมข้า อย่าเอาเหวินเยียนมาหลอกข้า คนอื่นก็ไม่เชื่อ พียงแต่ซูซินเหลียนหาทางลงให้เจ้า และเป็นหาทางลงให้ข้าด้วย”

 

 

ถังเฉียนเข้าใจทุกคำในคำพูดนี้ แต่เมื่อเชื่อมเข้าด้วยกันก็ไม่เข้าใจนัก เหตุใดซูซินเหลียนต้องหาทางลงนางด้วย นั่นไม่ใช่ผู้หญิงที่แค้นจนอยากกัดนางให้ตายหรอกหรือ

 

 

“ท่านอ๋อง ท่านคงป่วยจริงๆ ซูซินเหลียนไม่ใช่แม่นางจื่อเย่ว์ นางเกลียดข้าจนอยากกัดข้าให้ตาย เหตุใดถึง…”

 

 

ฉู่จิ่งเหยาได้ยินที่นางพูดแต่กลับไม่รู้สึกแปลกใจ เพียงแต่ยกยิ้มแล้วพูดว่า

 

 

“เวลานั้นต่างจากเวลานี้ เจ้าจำไว้ก็พอ ไว้ใจนางชั่วคราวได้ มอบเพียงหนึ่งในสิบของความไว้ใจที่เจ้ามีต่อข้าให้นาง อย่างน้อยก็ช่วยนางบ้าง แล้วคอยดูผลที่เกิดขึ้น ข้าเคยบอกแล้วว่าข้าชอบผู้หญิงที่ฉลาด”

 

 

เมื่อครู่ถังเฉียนทำเรื่องวุ่นวายขาดเหตุและผล ดูเซ่อซ่า นางยิ้มแล้วว่า

 

 

“ถ้าอาหรูน่าบอกว่าตัวเองไม่กล้านอนคนเดียว อยากมาหาท่านอ๋องเพื่อนอนด้วย ท่านอ๋องจะคิดว่าอาหรูน่าโกหกหรือไม่”

 

 

ฉู่จิ่งเหยาผงะเล็กน้อย ข้างนอกลมพัดหวีดหวิว ลมที่ค่ายใหญ่เหนือพัดแรงสมคำร่ำลือ เขาส่ายหน้าแล้วพูดว่า

 

 

“คืนนี้ข้าท้าพนันกับซูซินเหลียน ข้าพนันว่าเจ้าต้องมาช่วยข้าแน่ นางแพ้ จึงช่วยเจ้า ทีนี้บอกข้าได้หรือยัง”

 

 

นี่เป็นการที่ฉู่จิ่งเหยาให้โอกาสนางพูดความจริง

 

 

“เหวินเยียนเป็นคนของคุณชายใหญ่ ข้ามีจุดอ่อนอยู่ในกำมือคุณชายใหญ่”

 

 

ฉู่จิ่งเหยาพยักหน้าแล้วพูดว่า

 

 

“ข้าเข้าใจ แต่มีเรื่องหนึ่งที่ไม่เข้าใจ คนที่ทำร้ายเราเป็นคุณชายใหญ่หรือลุงของเขา”

 

 

ระหว่างทางฉู่จิ่งเหยาคงมีหลายเรื่องที่อยากสอบถามถังเฉียน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เอ่ยปาก สาเหตุเพราะตอนนั้นเขายังไว้ใจนางไม่พอ จนกระทั่งคืนนี้ถังเฉียนรีบวิ่งมาทั้งๆ ที่ยังสวมเสื้อผ้าไม่เรียบร้อย ทำให้เขารู้สึกวางใจ ไว้ใจนางมากพอ

 

 

“เป็นท่านลุง แต่คุณชายใหญ่ยิ่งเล่ห์เหลี่ยมจัดกว่า ข้าไปได้ยินเรื่องที่ไม่ควรได้ยิน ย่อมต้องถูกฆ่าปิดปาก แต่ท่านอ๋องก็พลอยเดือดร้อนไปกับอาหรูน่าด้วย แต่เรื่องคืนนี้ก็ไม่แน่แล้ว พวกนั้นต้องการยิงนัดเดียวได้นกสองตัว ทั้งสังหารท่านอ๋องและป้ายความผิดให้อาหรูน่า”

 

 

มุมปากฉู่จิ่งเหยาเชิดขึ้น แล้วใช้ฝ่ามือกดศีรษะนางเบาๆ พลางพูดว่า

 

 

“อ๋องอย่างข้ากับเจ้า ไหนเลยจะยอมให้พวกมันสมหวัง แต่ว่าถึงเวลาที่จะโจมตีกลับแล้ว เพราะถึงอย่างไรที่นี่ก็เป็นอาณาเขตของข้า”

 

 

ขณะที่ถังเฉียนออกมาจากกระโจม นางไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรตอนที่ฉู่จิ่งเหยาพูดเช่นนั้นจึงดูสง่างามเป็นพิเศษ พอกลับมานอนใต้ผ้าห่มค่อยๆ ครุ่นคิด บางทีคงเป็นเพราะเขาอดกลั้นมานานเกินไป คงต้องตอบโต้กลับบ้างแล้ว

 

 

“นีสิถึงจะเป็นจินซิวอ๋องในความทรงจำของข้า ย่อมไม่ใช่ผู้ชายที่เอาแต่ร้องโอดครวญว่าเจ็บ เขาต้องต่อต้าน มีแต่ตอนที่เขาตอบโต้จึงจะทำให้ดูมีเสน่ห์น่าหลงไหล”

 

 

แต่วันนี้ฉู่จิ่งเหยายังเอ่ยถึงเถิงเฟิง ช่างน่าโมโหจริงๆ แค่คิดนางก็แค้นชื่ออาหรูน่ามาก มักคิดอยู่เสมอว่าทำหน้าที่ให้เสร็จแล้วกลับไปรับน้องสาว หนีไปให้พ้นๆ ไปหาหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ ยังดีกว่าต้องคิดถึงผู้ชายที่คิดไม่ซื่อ นึกถึงแล้วก็รู้สึกคลื่นไส้