คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 910
ชายชาตรีสามคนก็ก้าวเข้ามาภายในห้องโถง!
ทางด้านซ้าย มีชายผู้ถือขวานด้ามยักษ์อยู่ในมือและเขามีรังสีสังหารคุกรุ่น เขาคือแด๊กซ์ แซนเดอร์สจากสำนักภูเขาบุปผา!
ทางด้านขวา มีชายผู้ถือพัดกระดาษอยู่ในมือ เขาดูเฉลียวฉลาดและอ่อนโยน เขาคือประมุขนิกายตำหนักอมตะ เชสเตอร์ วิลสัน!
แดร์ริล ยืนนิ่งไร้อารมณ์อยู่ตรงกลาง ดวงตาของเขาเป็นสีแดงเถือก!
“แดร์ริล?!” อีเว็ตต์ถึงกับกระโดดโลดเต้น เธอรู้สึกประหลาดใจและยินดีปรีดา!
‘แดร์ริลยังไม่ตาย! เขายังมีชีวิตอยู่!’ อีเว็ตต์ไม่รู้ว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร แต่เธอนั้นก็รู้สึกดีใจมาก เธอตื่นเต้นเป็นลิงโลด
อีกด้านหนึ่ง สโลนถึงกับหน้าบึ้งตึง เธอไม่ได้คาดคิดว่าแดร์ริลจะมีชีวิตรอดหลังจากที่เขาตกลงไปในปล่องภูเขาไฟ! เขาคือต้นเหตุที่ทำให้กองทัพโลกใหม่ต้องถอยร่นออกไปจากสมรภูมิรบที่หอคอยดาวปราถนา! เธอโมโหมากที่เห็นหน้าเขาอีกครั้งในวันนี้!
“ท่านอาจารย์!”
“แดร์ริล!”
มีเสียงดังสะท้อนขึ้นมาในเวลาเดียวกัน เจ้าของเสียงคือ เชอรีล มาร์คและเจ้าสำนักโอสถแอนดี้ เคอติส!
เชอรีลนั้นดีใจมากที่ได้พบกับแดร์ริล ผู้แต่งบทเพลง ‘หวานราวน้ำผึ้ง’ ให้กับเธอ มันโด่งดังไปทั่วทุกสารทิศ และทุกคนสามารถร้องมันได้ขึ้นใจ เชอรีลเฝ้าฝันถึงว่าสักวันจะได้กลับมาพบกับอาจารย์ของเธอเพื่อให้เขาแต่งเพลงให้เธออีกสักบทเพลง!
แอนดี้เองก็รู้สึกดีใจพอ ๆ กันที่ได้พบกับแดร์ริล ซึ่งก่อนหน้านี้ภรรยาของเขาต้องทุกข์ทรมานกับโรคภัยแปลกประหลาดที่เกิดจากการวางกระจกสองบาน แดร์ริลเป็นผู้ชำนาญในเรื่องฮวงจุ้ยและได้ช่วยชีวิตเธอไว้ หลังจากเหตุการณ์นั้นแอนดี้และแดร์ริลก็สนิทสนมกัน แดร์ริลจำเป็นที่จะต้องเดินทางออกจากทวีปตะวันออกอันยิ่งใหญ่และพวกเขาทั้งคู่ก็ไม่ได้พบเจอกันมานานเป็นปี แอนดี้คิดถึงเขาและไม่ได้คาดคิดว่าจะได้มาพบกับแดร์ริลที่นี่!
ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่แดร์ริล!
อย่างไรก็ตาม แดร์ริลไม่ได้ไหวติงต่อเสียงร้องเรียกรอบ ๆ ตัวเขา สายตาของเขาจ้องเขม็งไปที่มัตเตโอ
“พวกท่านไม่ได้เป็นสหายของสำนักประกายแสง ได้โปรด เชิญออกไปเดี๋ยวนี้” ลอร่าค่อย ๆ เดินเข้ามาหาพวกเขา
“อืม ดูเหมือนว่าในวันนี้พวกท่านทั้งสองกำลังเฉลิมฉลองงานวันเกิดกัน” ใบหน้าของแดร์ริลไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรออกมา รู้สึกราวกับว่าเขาจะต้องฝืนใจตัวเองให้กล่าวอะไรออกมา “พวกเราสามคนเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของสำนักประกายแสงมานานแล้ว และพวกเราก็อยากจะมาที่นี่เพื่อมอบคำอวยพรให้กับพวกท่าน”
ทั่วทั้งห้องโถงก็หัวเราะเกรียวกราว
“อ่อ พวกเขามาที่นี่เพื่อจะแสดงความเคารพนี่เอง!”
“ฮ่าฮ่า สำนักประกายแสงมีชื่อเสียงมากซะจนพวกสำนักเล็ก ๆ ไร้ชื่อที่ไหนก็ไม่รู้อยากจะมาประจบประแจงพวกเขา!”
“ใช่เลย!”
ท่ามกลางเสียงหัวเราะเกรียวกราว แม้แต่ลอร่าเองก็ฉีกยิ้ม เธอกล่าว “ในเมื่อพวกท่านมาที่นี่เพื่ออวยพรเราทั้งสอง แล้วของขวัญที่พวกท่านเตรียมมาล่ะ อยู่ที่ไหน?”
“จริงด้วย! พวกเขาอยากจะมาประจบสำนักประกายแสง แต่ก็ไม่เห็นพวกเขาเอาของขวัญอะไรมาให้เลย? พวกเขาคิดอะไรกันอยู่?!”
“มางานวันเกิดมือเปล่าแบบนี้ มันรับได้ที่ไหน?!”
แดร์ริลค่อย ๆ ฉีกยิ้มที่มุมปากและหัวเราะอย่างสุขุม มันเป็นรอยยิ้มที่น่ารังเกียจ “ใช่แล้ว ไม่ควรจะมีใครไปร่วมงานวันเกิดมือเปล่า แน่นอนว่าผมจะต้องเอาของขวัญมาให้ด้วย!”
“แล้วมันอยู่ที่ไหน?” ลอร่าถามขณะที่เธอหน้าบึ้งตึง
“เอาของขวัญมา!” แดร์ริลตะโกนสุดเสียงจนเสียงแหบแห้ง!
จากนั้นสาวกสำนักประตูสุราลัยสี่คนก็เข้ามาในห้องโถง!
ตุ้บ!
พวกเขาเตะประตูห้องโถงอาภาอลังการแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ในทันที
สาวกสี่คนถือโลงศพขนาดใหญ่สองใบเข้ามาภายในห้อง!
ปัง!
โลงศพสีดำทมิฬทั้งสองใบตกลงกระแทกพื้นอย่างแรง พวกมันถูกทาสีดำมืดสนิทราวกับความตาย!
“นี่คือของขวัญที่ผมอยากจะมอบให้พวกท่านทั้งสอง!”
แดร์ริลชักดาบกลืนโลหิตออกมา ดวงตาของเขาเป็นสีแดงก่ำ
“ขออวยพรให้พวกแกมีความสุขยิ่ง ๆ ขึ้นไปในวันนี้ และขอให้พวกแกเจริญรุ่งโรจน์ไปตลอดกาล!”