บทที่ 295

เซียวเวยเวยได้ยินดังนั้น ก็ไม่ได้ตอบคำถามของเว่ยฉางหมิง แต่มองเซียวอี้เชียนอย่างทำตัวไม่ถูก

เธอไม่กล้าบอกว่าตนเองไม่มีแฟน เพราะว่าตนเองเป็นคนรักของเซียวอี้เชียน

แต่เธอไม่กล้าบอกคนนอก ว่าตนเองเป็นคนรักของเซียวอี้เชียน เพราะเซียวอี้เชียนก็มีครอบครัวอยู่แล้ว ตนเองจะเปิดเผยตัวไม่ได้ ถ้าตัวเองตัดสินใจไปเอง บอกว่าตนเองเป็นคนรักของเขา ก็จะสร้างปัญหามาให้เขา แล้วเป็นการหาเรื่องมาให้ตนเอง

แต่ว่า ที่เธอคิดไม่ถึงก็คือ ตอนนี้เซียวอี้เชียนใจกว้างมาก ยิ้มแล้วก็พูดกับเว่ยฉางหมิงว่า “น้องเว่ย ผมจะไม่ปิดบัง จริงๆ แล้วเวยเวยเป็นคนรักของผม แต่คุณต้องเก็บให้เป็นความลับนะ ห้ามบอกใคร”

เว่ยฉางหมิงก็มีทีท่าเสียดายเล็กน้อย เดิมคิดว่าจะเป็นหลานสาวของเซียวอี้เชียนจริงๆ ไม่คิดว่าที่บอกว่าเป็นหลาน จะเป็นการปกปิด จริงๆ แล้วเป็นคนรักกัน

ถึงแม้เขาจะต้องใจกับเซียวเวยเวย แต่ก็ไม่กล้าไปแย่งผู้หญิงกับเซียวอี้เชียน ก็เลยล้มเลิกความคิดเสีย

เซียวอี้เชียนก็มองท่าทีของเขาออก แล้วก็ยิ้มมุมปากเบาๆ แล้วก็คุยกับเว่ยฉางหมิงต่อ

เขาตั้งใจถามเว่ยฉางหมิงว่า “เอ่อน้องเว่ย ช่วงนี้คุณท่านเว่ยร่างกายเป็นอย่างไรบ้าง?”

เว่ยฉางหมิงก็ถอนหายใจพูดว่า “ไม่ค่อยดีนะสิ พ่อผมสมัยหนุ่มๆ ทำเวรกรรมกับผู้หญิงไว้เยอะ ตอนนี้กำลังรับกรรม ร่างกายทรุดลงทุกวัน”

เซียวอี้เชียนก็ถามอย่างสงสัย “คุณท่านเว่ยทำเวรกรรมกับผู้หญิงไว้เยอะงั้นหรือ?”

“แน่นอนครับ” เว่ยฉางหมิงพูดอย่างปฏิเสธไม่ได้ว่า “คุณยังไม่รู้อะไร พ่อผมคนนี้ ไม่ต่างจากผม ล้วนเป็นเครื่องเจาะชั้นดี สมัยเขาหนุ่มๆ ก็หล่อ พูดอ้อนผู้หญิงเก่ง อาศัยโอกาสที่ต้องไปทำธุรกิจเกี่วกับการซื้อตัวยา ไปถึงไหนก็ไปจัดผู้หญิงที่นั่น ที่ผมรู้มา คนรักของพ่อผม มีไม่น้อยกว่า20คน! ขนาดเท่าที่ผมรู้เท่านั้นนะ ก็ยังมากกว่าผมตอนนี้อีก!”

“โอ้โห!” เซียวอี้เชียนตกใจจนอุทานออกมา แล้วพูดว่า “พ่อคุณสมัยหนุ่มนี่ร้ายไม่เบาเลยนะเนี่ย?”

เว่ยฉางหมิงพยักหน้า แล้วก็พูดอย่างกลุ้มใจว่า “ไม่เช่นนั้น จะเอาน้องชายนอกคอกคนละแม่ กลับมาให้ผมได้อย่างไรกันเล่า? จริงๆแล้ว ลูกนอกคอกข้างนอกของพ่อผม มีหลายคน คนอื่นๆ เป็นผู้หญิง มีเพียงไอ้นอกคอกนี้คนเดียวที่เป็นผู้ชาย หลังจากที่พ่อผมรู้ข่าว ก็บอกว่าเชื้อสายของตระกูลเว่ย ไม่ควรจะไปเร่ร่อนด้านนอก แล้วก็บังคับผมให้พามันออกมาจากภูเขาฉางไบ”

พูดไปดังนั้น เว่ยฉางหมิงก็พูดต่อ “ไม่ใช่แค่พบที่ไม่อยากดูแลมัน พ่อผมเองก็เหมือนกัน แต่ก็ไม่มีทางอื่น ได้ยอมรับเป็นคนในตระกูล

แล้ว ไม่อาจจะไล่ไปข้างนอกได้ เดี๋ยวคนจะหัวเราะเยาะเอา ได้แต่เอามาทำงานยิบย่อยในบ้านเอา”

เซียวอี้เชียนได้ยินมาบ้างแล้วว่า ตระกูลเว่ยมีลูกชายสองคน คนโตก็คือเว่ยฉางหมิง ส่วนคนเล็กชื่อเว่ยเลี่ยง เป็นลูกเมียน้อย เป็นผลผลิตที่คุณท่านเว่ยสร้างไว้สมัยหนุ่มๆ อายุได้10กว่าปี ถึงได้รับเข้ามาอยู่ในตระกูล ดังนั้นไม่ค่อยมีใครได้เห็น แม้แต่ตัวอักษรชื่อลำดับขั้นในตระกูล ก็ไม่คู่ควรที่จะได้ใช้

โดยปกติแล้ว น้องชายของเว่ยฉางหมิง ควรจะได้ชื่อว่า เว่ยฉางเลี่ยง แต่เพราะว่าคุณท่านเว่ยไม่ชอบลูกชายนอกคอกคนนี้ ดังนั้นก็เลยไม่

ให้เขาใช้คำว่า ฉาง ก็เลยเรียกเขาเว่ยเลี่ยง

ที่แท้เว่ยเลี่ยงก็เติบโตจากสภาพแวดล้อมเช่นนี้ น่าเวทนาเสียจริง

เซียวอี้เชียนก็ถามอย่างสงสัยขึ้นมาทันใด “เอ่อ น้องเว่ย พ่อคุณร้ายไม่เบาอย่างนี้ เรื่องสมรรถภาพอย่างว่านั้น คงจะไม่ธรรมดา ไม่ทราบว่ามียาดีอะไรหรือเปล่า?”

เว่ยฉางหมิงพยักหน้า แล้วพูดยิ้มว่า “อย่าว่าไป มันมีสูตรยาหนึ่งจริงๆ พ่อผมไปได้มาจากด้านนอกโดยบังเอิญ ช่วยเสริมความเป็นชาย

ช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศของผู้ชายได้ไม่น้อยเลยทีเดียว”

“จริงหรือนี่?!” เซียวอี้เชียนพูดอย่างตกใจและตื่นเต้น “น้องชาย สูตรยานี้ ยังมีอยู่ไหม?”

เว่ยฉางหมิงตอบ “เอ่อ จะว่าอย่างไรดีล่ะ สมัยพ่อผมหนุ่มๆ กินมันไป23ปี ก็ได้ผลอยู่ ได้ยินว่าตอนที่เขาไปเก็บยาที่ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ คืนหนึ่งก็จัดไป10กว่ายก ผู้คนก็ตั้งฉายาว่า จอมเขมือบจิ๋ม……”

พอพูดถึงจุดนี้ เว่ยฉางหมิงก็ถอนหายใจ พูดว่า “แต่ว่าสูตรยานั่น ต่อมาผมได้เอามาตรวจจำนวนตัวยา แล้วได้ให้นักเภสัชศาสตร์วิจัยดู

พบว่า ยานี่มันมีความเป็นพิษต่อตับ และไต ดังนั้นผมเห็นพ่อผม อายุ60ต้นๆ ตับไตก็แทบจะหมดสภาพแล้ว หมอบอกว่า อย่างมากก็

อยู่ได้อีก2-3ปี เดี๋ยวก็จะได้ไปรายงานตัวกับพระยูไลที่แดนสุขาวดีแล้ว”