ตอนที่ 1646 แผงระดับสุดท้าย

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 1646 แผงระดับสุดท้าย
“ทำไมเล่า? เอาไปสิ!”

เย่หยวนหยิบผลเจ็ดสมบัติวิเศษขึ้นมาโยนไปให้หนิงเทียนปิง

หนิงเทียนปิงรับมันไว้ด้วยความรู้สึกเหมือนว่าของชิ้นนี้มันร้อนมากๆ

ของระดับสี่เช่นนี้มันต่างจากระดับสามมาก มันต่างกันในหลักร้อยล้าน

หากไร้ซึ่งการสนับสนุนจากตระกูลใหญ่แล้วการใช้จ่ายไปกับของแบบนี้มันก็เป็นอะไรที่ยากเย็นมาก

เมื่อรับหนึ่งพันสองร้อยล้านไป เถ้าแก่คนนั้นก็ไม่คิดจะสนใจคนทั้งสองอีกและกลับมาวางท่าเหมือนเดิม

การที่นักยุทธอาณาจักรบรรพชนพระเจ้านำผลึกปราณเทวะออกมามากมายขนาดนี้ เขารู้ดีว่าเย่หยวนคงต้องตกเป็นเป้าสายตาของคนไปไม่น้อยแล้ว

แต่ยังดีที่เขามีหนิงเทียนปิงด้วย หากเย่หยวนมาตัวคนเดียวมันคงมีใครคิดอยากได้ทรัพย์สมบัติของเขาเป็นแน่

“น้องเย่ ข้าจะหาทางนำเงินนี้มาคืนท่านให้ได้!” หนิงเทียนปิงกัดฟันแน่น

เย่หยวนจึงยกมือขึ้นมาโบกปัด “ช่างมันเถอะ! หากเจ้าไม่ได้ออกมามันคงไม่เป็นปัญหากับเจ้า แต่ตอนนี้เจ้าจะเอาอะไรมาจ่ายข้าได้?”

หนิงเทียนปิงแทบสำลักเมื่อได้ยิน แต่เย่หยวนก็ไม่ได้สนใจและหันไปหาเถ้าแก่คนนั้นต่อ “เถ้าแก่ ข้าอยากถามอะไรท่านหน่อย ในกลุ่มเครือข่ายสวรรค์นี้มันมีข่าวคราวเรื่องศิลาอายุวิญญาณสวรรค์ยืนยาวบ้างไหม?”

คำพูดนั้นทำให้เถ้าแก่หรี่ตาลงอีกครั้งด้วยความแปลกใจ “เจ้าอยากได้ศิลาอายุวิญญาณสวรรค์ยืนยาว? พอดีเลย ข้าเองก็มีมันอยู่!”

เย่หยวนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ “เถ้าแก่ ท่านมีเท่าไหร่ ข้าขอซื้อทั้งหมดเลย!”

เถ้าแก่คนนั้นจึงมองเย่หยวนมาด้วยใบหน้าแปลกๆ “เจ้าคิดว่าศิลาอายุวิญญาณสวรรค์ยืนยาวมันเป็นผักกาดรึไง? ข้ามีแค่สองชิ้นขนาดเท่ากำปั้น หากเจ้าอยากซื้อจริงข้าก็จะลดให้ถูกๆ เอาเป็นสักหนึ่งพันล้านก็พอ!”

เย่หยวนพยักหน้าและนำผลึกปราณเทวะหนึ่งพันล้านชิ้นออกมาเพื่อซื้อศิลาอายุวิญญาณสวรรค์ยืนยาวในทันที

เถ้าแก่คนนั้นต้องตกใจเป็นครั้งที่สอง เขาไม่เคยคิดเลยจริงๆ ว่านักยุทธอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าคนนี้จะมีเงินมากมายกว่านักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าหลายๆ คนเสียด้วยซ้ำ

“เถ้าแก่ ท่านพอจะรู้ไหมว่าในกลุ่มเครือข่ายสวรรค์นี้ยังมีใครที่ขายศิลาอายุวิญญาณสวรรค์ยืนยาวอีก?” เย่หยวนถามต่อ

เพราะแค่ศิลาอายุวิญญาณสวรรค์ยืนยาวสองชิ้นนี้มันไม่พอต่อความต้องการของเย่หยวนเลยแม้แต่น้อย

เถ้าแก่คนนั้นจึงถามขึ้นอย่างมึนงง “เจ้าจะเอาศิลาอายุวิญญาณสวรรค์ยืนยาวมากมายไปทำอะไร? หากเพื่อการบ่มเพาะแล้วชิ้นใหญ่แบบนี้มันคงไม่เหมาะกับเจ้าหรอก ที่สำคัญต่อให้เจ้าจะร่ำรวยแค่ไหน แต่ก็คงไม่มีทางรวยพอจะซื้อศิลาอายุวิญญาณสวรรค์ยืนยาวจำนวนมากมายได้ใช่ไหมล่ะ?”

หลังจากได้ผลึกปราณเทวะไปกว่าสองพันล้าน เถ้าแก่คนนี้จึงเริ่มมีท่าทีเป็นมิตรขึ้น

เย่หยวนยิ้ม “เพราะว่าสถานการณ์บางอย่างทำให้ข้าต้องการศิลาอายุวิญญาณสวรรค์ยืนยาวจำนวนมาก ช่วยชี้นำให้ข้าสักหน่อยเถอะ ส่วนเรื่องผลึกปราณเทวะนั้นเย่หยวนคนนี้พอจะมีวิธีอยู่บ้าง”

เถ้าแก่จึงบอก “ศิลาอายุวิญญาณสวรรค์ยืนยาวนั้นเป็นของที่สำคัญมากๆ มันช่วยในการบ่มเพาะพลังของนักยุทธได้อย่างดี ตัวข้าเองหากไม่ร้อนเงินจริงๆ ก็คงไม่คิดจะนำมันออกมาขายหรอก เพราะฉะนั้นจะมีใครบ้างที่ขายศิลาอายุวิญญาณสวรรค์ยืนยาวในกลุ่มเครือข่ายสวรรค์นั้นข้าไม่รู้ได้ เจ้าคงต้องไปเดินตระเวนถามเอาเองแล้วล่ะ แต่ว่า… ข้าได้ยินมาว่าอีกครึ่งเดือนข้างหน้า สามขั้วอำนาจใหญ่จะจับมือกันจัดงานประมูลขึ้น และของชิ้นหนึ่งที่จะขึ้นประมูลก็คือศิลาวิญญาณสวรรค์ไร้สิ้นสุด!”

เย่หยวนหรี่ตาลงทันทีที่ได้ยิน “เถ้าแก่ นี่เรื่องจริงรึ?”

เถ้าแก่คนนั้นจึงตอบกลับมา “เจ้าลองไปถามๆ ดูเดี๋ยวก็รู้เองว่าจริงไหม เรื่องนี้มันไม่ได้เป็นความลับอะไร แต่… ศิลาวิญญาณสวรรค์ไร้สิ้นสุดนี้มันคงเริ่มจากราคาหมื่นล้านแน่ๆ”

ศิลาวิญญาณสวรรค์ไร้สิ้นสุดนั้นเป็นของประเภทเดียวกันที่ระดับสูงกว่าศิลาอายุวิญญาณสวรรค์ยืนยาว พลังงานที่มันส่งออกมาจะบริสุทธิ์กว่า และมีพลังงานสะสมไว้ภายในมากกว่าด้วย

แต่หากเทียบความหายากของมันแล้ว ศิลาวิญญาณสวรรค์ไร้สิ้นสุดนั้นหายากกว่าศิลาอายุวิญญาณสวรรค์ยืนยาวหลายต่อหลายเท่านัก

เย่หยวนเองก็ไม่คิดว่าจะได้มาเจอศิลาวิญญาณสวรรค์ไร้สิ้นสุดในที่แบบนี้เช่นกัน

แต่หากเขาอยากจะประมูลศิลาวิญญาณสวรรค์ไร้สิ้นสุดให้ชนะ มันก็คงต้องใช้ผลึกปราณเทวะจำนวนมากมายมหาศาลเช่นกัน

ด้วยปริมาณผลึกปราณเทวะที่เขามีติดตัวตอนนี้ เขาคงไม่มีโอกาสแม้แต่จะจับมัน

“น้องเย่ หมื่นล้านนี่มัน…”

ต่อให้หนิงเทียนปิงจะเกิดมาบนกองเงินกองทองแค่ไหน แต่คำว่าหมื่นล้านมันก็ทำให้เขาไม่สบายใจไม่น้อย

ผลึกปราณเทวะหมื่นล้านชิ้นนั้นมันเป็นจำนวนที่ไม่น้อยเลย แม้แต่กับตระกูลหนิงก็ตาม

เย่หยวนจึงยิ้มตอบกลับ “เดิมทีข้าคิดจะทำตัวเงียบๆ ซื้อศิลาอายุวิญญาณสวรรค์ยืนยาวนิดหน่อยและจากไป แต่ดูท่าตอนนี้ข้าคงไม่สามารถทำตัวเงียบๆ ได้อีกแล้ว”

ร่างของหนิงเทียนปิงสั่นสะท้านขึ้นทันทีที่ได้ยิน “น้องเย่ หรือว่าท่าน…”

เย่หยวนตอบ “มาตั้งร้านกัน เริ่มอาชีพดั้งเดิมของข้า”

หนิงเทียนปิงหายใจเข้าลึก เขารู้ได้ถึงความหมายนั้นของเย่หยวน

แต่ว่าเถ้าแก่ที่อยู่ข้างๆ กลับไม่คิดเช่นนั้น “เจ้าเป็นแค่นักยุทธอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าจะมาขายอะไรให้ได้ถึงหมื่นล้านกัน? ที่สำคัญตอนนี้เพราะเรื่องของประตูกดสวรรค์โบราณมันจึงทำให้มีผู้คนมากมายมารวมตัวกันในเมืองนี้ ตอนนี้ตำแหน่งแผงดีๆ ถูกจับจองไปหมดแล้ว ขนาดแผงระดับสุดท้ายยังไม่เหลือที่ว่างมากขนาดนั้นเลย หากเจ้าคิดจะหาผลึกปราณเทวะทางนั้นมันคงเป็นเรื่องที่ยากเกินไป”

“ฮ่าฮ่า เด็กน้อยคนนี้มันคงเพิ่งเคยมาถึงกลุ่มเครือข่ายสวรรค์สินะ คิดว่าที่นี่เป็นหลุมสมบัติหรือไง? คิดว่าแค่ตั้งร้านก็จะรวยแล้วหรือ?”

“แค่นักยุทธอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าจะมีอะไรมาขายให้มันได้ผลึกปราณเทวะเป็นหมื่นล้าน? เด็กคนนี้มันฝันกลางวันหรือ?”

เมื่อเถ้าแก่แผงข้างๆ ได้ยินว่าเย่หยวนจะตั้งร้านพวกเขาต่างก็หัวเราะเยาะออกมาอย่างเปิดเผย

ของระดับสาม นั้นมันมีราคาที่ไม่สามารถเทียบเคียงกับของระดับสี่ ได้เลย

ต่อให้ขายพวกมันมากมายหลายชิ้นขนาดไหนมันก็ไม่มีทางเทียบกับของระดับสี่ ได้

หากอยากใช้พวกมันเพื่อหาผลึกปราณเทวะถึงหมื่นล้านนั้นมันเป็นเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้เลย

เย่หยวนจึงยิ้มตอบกลับไป “วางใจได้ แผงร้านของข้าต้องโด่งดังแน่ๆ”

เถ้าแก่คนนั้นจึงหัวเราะออกมา “โด่งดัง? ฮ่าฮ่าฮ่า เด็กน้อยเจ้ามันช่างไม่รู้จักฟ้าดิน! ช่างเถอะๆ หากเจ้าไม่คิดฟังคำเตือนก็จงไปลองให้มันรู้ด้วยตัวเอง”

ในพื้นที่จัดการกลุ่มเครือข่ายสวรรค์ มีนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสองดาวคนหนึ่งกำลังมองหน้าเย่หยวนอย่างไม่สนใจ “แผงระดับหนึ่ง วันละหนึ่งล้าน แผงระดับสอง วันละสิบล้าน แผงระดับสาม วันละห้าล้าน แผงระดับสี่ วันละหนึ่งล้าน แผงระดับสุดท้าย… วันละหนึ่งแสน อ่า แต่ตอนนี้แผงข้างหน้ามันเต็มหมดแล้ว เลยเหลือแค่แผงระดับสุดท้าย เจ้าจะเอาไหม?”

แผงที่เรียกว่าระดับหนึ่งนั้นย่อมเป็นแผงที่มองเห็นได้ง่าย แต่ผู้คนเดินเข้ามาในกลุ่มเครือข่ายสวรรค์พวกเขาก็จะเห็นร้านที่ตั้งแผงแถวนั้นทันที

ตำแหน่งแบบนี้ ขอแค่ของที่ขายไม่แย่จนเกินไป การจะขายวันละสิบล้านมันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย

และร้านของเถ้าแก่คนนั้นเองก็เป็นแผงระดับสอง

ส่วนแผงระดับสุดท้ายนั้นมันเป็นแผงที่ตั้งอยู่ในมุมในซอก ปกติแล้วมันคงไม่มีใครคิดจะสนใจร้านที่ตั้งในพื้นที่แบบนั้น แค่หาให้ได้วันละแสนก็คงจะเป็นเรื่องยากไม่น้อย

เพราะแผงระดับสุดท้ายนั้นมันอาจจะขายได้ไม่ถึงวันละแสนเสียด้วยซ้ำ จึงไม่มีใครคิดจะไปตั้งร้านที่นั่น

เย่หยวนกล่าวออกมาอย่างเรียบเฉย “แผงระดับสุดท้ายแล้วกัน ข้าอยากเช่ามันครึ่งเดือน”

เย่หยวนจ่ายผลึกปราณเทวะออกมา และรับเหรียญไปก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ “อ่า จริงด้วย ระบบการเก็บส่วนต่างกำไรของแผงระดับสุดท้ายเป็นยังไง?”

เพราะเหรียญนี้มันไม่ใช่เหรียญธรรมดาๆ มันสามารถตรวจจับการไหลของผลึกปราณเทวะในแต่ละแผงร้านได้

และอย่างการที่เย่หยวนจ่ายไปเมื่อสักครู่ เหรียญของเถ้าแก่ร้านคนนั้นสามารถตรวจจับจำนวนผลึกปราณเทวะในแหวนได้ทันที

ในแผงดีๆ หากจำนวนยอดขายขึ้นไปได้ถึงจุดหนึ่ง พวกเขาก็ต้องจ่ายส่วนแบ่งกำไรให้กับกลุ่มเครือข่ายสวรรค์ด้วย

ยิ่งขายได้เยอะ ก็จะยิ่งโดนหักเยอะ!

เพราะสามขั้วอำนาจทุ่มแรงไปกับการสร้างกลุ่มเครือข่ายสวรรค์มาก ไม่แปลกหรอกที่เขาจะรีดผลึกปราณเทวะจากมันให้ได้มากที่สุด

เพราะการดูแลตลาดแห่งนี้มันไม่ใช่งานง่ายๆ พวกเขาถึงขั้นต้องจ้างยอดฝีมือมารักษาความปลอดภัยเลยด้วย

ในกลุ่มเครือข่ายสวรรค์นี้ การต่อสู้นั้นเป็นสิ่งต้องห้าม หากไม่เช่นนั้นก็ต้องโทษประหารสถานเดียว

อย่างน้อยๆ ในกลุ่มเครือข่ายสวรรค์นี้เหล่านักยุทธก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเจอภัยอันตราย

นักยุทธคนนั้นจึงยกมือขึ้นมาโบกปัด “แผงระดับสุดท้ายจะมีการเก็บส่วนต่างกำไรบ้าบออะไร? หากเจ้ามีปัญญาขายได้ก็ขายไปเถอะ ไปๆ ข้ายุ่ง!”