ตอนที่ 2017
อวิ๋นหู่ หลินเฟิ ง
“อะไรที่เรียกว่าอยู่เป็นแล้วอะไรที่เรียกว่าอยู่ไม่เป็น” ป๋อจิ่วตัดสินใจ
ที่จะถามก่อน ถึงเวลานั้นเขาจะได้ไม่หึงอีก
ฉินมั่วหลุบตาลง เอ่ยเสียงเรียบว่า “เธอถามคำถามเยอะเกินไปแล้ว”
ป๋ อจิ่วเพิ่งจะเอ่ยปาก ฉินมั่วก็ก้มจูบเธออย่างแนบแน่น ทำให้เธอสงบ
เงียบ แถมยังไม่ต้องไปสนใจเรื่องอื่นอีก ดังนั้นป๋ อจิ่วจึงพลาดข้อความ
ที่หลินเฟิงส่งมาให้
ความจริงแล้ว ตอนหลินเฟิงเห็นข้อความที่แบล็กพีชส่งมาถาม ก็คิด
อยู่ว่าจะตอบอย่างไรดี
ตอบตามจริง? จะเป็นไปได้อย่างไร เพราะมันพัวพันถึงชื่อเสียง
ลูกผู้ชายคนหนึ่งเลยนะ!
แต่ถ้าไม่ตอบล่ะ? เจ้าแบล็กจะต้องคิดว่าเขาเอาเจ้าหู่ไม่อยู่หมัด ตอน
พูดล่ะอวดเสียดิบดี แต่กลับไม่ทำให้คนเชื่อ
หลินเฟิงขยับพิมพ์ข้อความส่ง “กำลังดูแลหู่ เขาเจ็บเอว แค่นี้นะ ไม่
พูดต่อล่ะ” เมื่อตอบเช่นนี้ เขาก็รู้สึกว่าน่าเชื่อถือมาก ก่อนหน้านี้หนึ่ง
วันเขายังคิดอยู่ว่าจะโม้ฝีมือตัวเองอย่างไรในเช้าวันนี้ ทว่าเวลานี้เขา
เองก็ไม่รู้ว่าจะโม้อย่างไร แต่จะบอกเจ้าแบล็กไม่ได้เด็ดขาดว่าเขา
เป็นฝ่ายอยู่ข้างล่าง!
หลังจากที่ส่งข้อความเสร็จก็คิดจะพักเสียหน่อย ด้วยสภาพเขาใน
เวลานี้ ไม่ควรจะไปพบหน้าคนอื่นจริง ๆ
เมื่อตอนที่เข้าบ้านมา แม่ก็ถาม เขาได้แต่ตอบว่าเป็นหวัดไม่สบาย
พูดได้แค่นี้แหละ จะบอกได้ไงล่ะว่าเขากับหู่นอนด้วยกันแถมเขายัง
เป็นฝ่ายรับด้วย
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เขาพลันนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน ตอนที่เจ้านั่นก้ม
หน้าลงมา ทำไมเขาถึงไม่ปฏิเสธ? รู้สึกเพียงว่าอีกฝ่ายเป็นเหมือน
แม่เหล็กที่มีแรงดึงดูดเขามหาศาล จะบอกว่าเท่ดีหรือว่าฝีมือเจ้านั่น
เยี่ยมดีล่ะ
หลินเฟิงสะบัดศีรษะ คิดจะสลักภาพในหัวทิ้งไปให้หมด ไม่คิดว่า
สะบัดยังไม่จบ มือถือก็พลันดังขึ้น หน้าจอโชว์ชื่อของอวิ๋นหู่ หลิน
เฟิงเห็นชื่อนั้นก็ชะงักสักพักหนึ่งก่อนจะกดปิดเสียง มองสภาพมือ
ถือเหมือนสัตว์ร้ายที่มากับน้ำท่วม ดวงตากลมโต
ในฐานะที่เป็นลูกผู้ชายตัวจริง ศักด์ิศรีประจำตัวบอกเขาว่าถ้ายังไม่
รับสายอีกก็ไม่ใช่ลูกผู้ชาย
แค่นอนกับผู้ชายไม่ใช่เหรอวะ
แค่ถ้าไม่รุกก็ต้องรับ
แค่ตอนหลังของที่เขาซื้อมากลับถูกนำมาใช้กับตัวเอง?
จะมีอะไร จริงไหม? อย่างไรเสียเขาก็กลับถึงบ้านแล้ว ยังต้องกลัว
อวิ๋นหู่ที่อยู่ห่างไกลอีกเหรอ ไม่ต้องกลัว รับสายสิ!
หลังจากที่หลินเฟิงทำใจก็สูดหายใจลึก หยิบมือถือมากดปุ่มรับแล้ว
แนบเข้าหู พยายามเอ่ยเสียงเข้ม เพื่อให้อีกฝ่ายได้ยินแล้วรู้สึกว่าเขา
สุขุมหนักแน่น “ฮัลโหล”
ใช่ คะแนนมาดเขาต้องมาเต็ม ห้ามโดนข่ม หลังจากหลินเฟิงให้
คะแนนตัวเอง ก็ได้ยินปลายสายเอ่ยขึ้นว่า “นอนตื่นแล้วก็หนีเลยนะ
จะเล่นแบบนี้ใช่ไหม เทพหลิน?”
เรียกเทพหลินบ้านแกสิ หลินเฟิงรู้ว่าอีกฝ่ายจงใจแน่นอน ขณะที่
กำลังจะอาละวาด เสียงอวิ๋นหู่กลับดังขึ้นอีก “ไม่สบายหรือเปล่า?”
“ยังโอเค” หลินเฟิงขยับตัวเขิน ๆ
อวิ๋นหู่ยังพูดเสียงเรียบ “ฉันลืมตาตื่นก็ไม่เห็นนายแล้ว นึกว่าเมื่อคืน
ฝันไปซะอีก เพราะหลายปีที่ผ่านมาก็ฝันจนชินแล้ว”
หลินเฟิง…หนอย นายเล่นฝันว่าทำอย่างนั้นกับฉันมาหลายปี ยังกล้า
พูดอีก!
ตอนที่ 2018-1
“ฉันซื้อยามาให้นาย” อวิ๋นหู่ที่อยู่ปลายสายกดเสียงให้ต่ำลง จึงฟังดู
เหมือนแหบเครือ “ต้องทายาตรงนั้นถึงจะดีขึ้น”
เดิมก็ไม่มีอะไรหรอก แต่คนแก่วิชาพูดเสียจนหลินเฟิงหน้าแดง ต้อง
หันหน้าไปอีกทาง “ไม่ต้อง นอนสักหน่อยก็ดีขึ้น แถมฉันไม่ได้อยู่
ตรงนั้นด้วย”
“นายอยู่ไหน? บ้านหลิน?” อวิ๋นหู่เหมือนแค่ถามไปงั้น ๆ
หลินเฟิงตอบรับ “อื้อ”
ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน เจ้านั่นจะทำอะไรเขาได้
แต่ใครจะคิดล่ะว่าอวิ๋นหู่กลับพูดขึ้น “รอเดี๋ยวนะ” หลินเฟิงได้แต่คิด
ในใจ…ขออย่าได้เป็นอย่างที่เขาคิดไว้เลย
ความคิดดังกล่าวยังไม่ทันได้ถ่ายทอดออกมา ก็เหมือนจะมีเสียงดัง
จากด้านล่าง
อวิ๋นหู่มาจริง ๆ ด้วย นอกจากเอายามาแล้วยังถือผลไม้มาสองถุง
เป็นของโปรดของคุณแม่หลินทั้งสิ้น
คุณแม่หลินเห็นอวิ๋นหู่แล้วดีใจสุดฤทธ์ิ “ทำไมวันนี้หู่ถึงว่างมาที่นี่
ได้ล่ะ?”
“มาเยี่ยมคุณแม่บุญธรรมน่ะครับ” อวิ๋นหู่พูดเก่งเสมอ
คุณแม่หลินยิ้มสวยยิ่งขึ้น “เพิ่งจะมาไม่นานนี้เอง วันนี้อย่าเพิ่งรีบ
กลับล่ะ คืนนี้จะทำปลาให้กิน”
“ครับ” อวิ๋นหู่พูดพลางทำเป็นบังเอิญถาม “หลินเฟิงล่ะครับ?”
“เขานอนอยู่ข้างบนจ้ะ ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไร ทำตัวแปลก ๆ จะออกไป
อยู่เองให้ได้ เป็นหวัดก็ไม่ยอมให้น้าเข้าไปดูแลในห้อง” คุณแม่ส่าย
หน้า “โตแล้วจริง ๆ รู้จักอายด้วย”
หลินเฟิงยืนฟังแม่อยู่ที่กรอบประตู สงสัยเหลือเกินว่าเธอเป็นแม่ของ
ใครกันแน่ นี่ล่อหมาป่าเข้าห้องเลยนะ หลินเฟิงกระโดดลงจากเตียง
ลังเลอยู่ว่าจะล็อคประตูด้านนอกดีไหม
ไม่ล็อคเหรอ ให้เขาเห็นอวิ๋นหู่ในเวลาอย่างนี้ มันก็กระอักกระอ่วน
นะ
ถ้าล็อค มันก็จงใจเกินไป
ในระหว่างที่หลินเฟิงกำลังลังเล เสียงแผ่วต่ำพลันดังขึ้นจากด้านล่าง
“งั้นผมขอขึ้นไปดูเขาหน่อยนะครับ”
“ไปเถอะ ไปเถอะ” คุณแม่หลินดีใจจริง ๆ “น้าจะไปเตรียมผลไม้
ให้”
หลินเฟิงได้แต่คิดในใจ…แม่เขาก็ช่างส่งเขาเข้าปากหมาป่าจริง ๆ เมื่อ
ก่อนเป็นยังไง เดี๋ยวนี้ก็เป็นอย่างนั้น หลินเฟิงรู้สึกว่า ‘อาการหวัด’
ของตัวเองคงไม่หายแล้วล่ะ ในเมื่อหลบไม่พ้นก็สู้เผชิญหน้าไปเลย
เขาตัดสินใจแล้วว่าจะเสียอะไรไปก็ตาม ห้ามเสียหน้าเด็ดขาด กลัว
อะไรวะ!
ในระหว่างที่อวิ๋นหู่เดินเข้ามา เขารีบปรับสีหน้าก่อนจะแกล้งนั่งเล่น
เกมไลฟ์ สดอยู่บนเก้าอี้ ส่วนอวิ๋นหู่ที่ขึ้นมาแล้วได้เห็นภาพดังกล่าว
ก็คิดว่าอีกฝ่ายน่าจะนอนบนเตียง แต่นี่ยังเล่นเกมอีก?
หลินเฟิงรู้สึกว่ามีคนเข้ามา จึงแสร้งหันไปมองอย่างเฉยชา “นาย
มาแล้วเหรอ?”
อวิ๋นหู่ไม่ได้พูดอะไร เดินไปยื่นมือแนบหน้าผากอีกฝ่ายตรง ๆ
หลินเฟิงชะงัก มาดที่เก๊กไว้อย่างดุดันลดน้อยลดลงทันที “นายจะพูด
ก็พูดดิ มาแตะเนื้อต้องตัวทำไม” เฮ้ย เกินไปแล้วนะเว้ย
“ไม่แตะเนื้อต้องตัว?” อวิ๋นหู่เลิกคิ้วก่อนจะหลุบตาก้มลงเอาหน้าผาก
ของตัวเองชนกับหน้าผากอีกฝ่าย ทำให้หลินเฟิงนึกถึงเหตุการณ์เมื่อ
คืนอีกครั้ง เขินนะ!
“ฉันไม่ได้มีไข้” หลินเฟิงผลักอีกฝ่ายออก แต่เมื่อทำแบบนี้ก็ส่องผล
ให้ให้เอวขยับเขยื้อน เจ็บจนตัวเกร็งเลยทีเดียว
อวิ๋นหู่มองออกว่าหลินเฟิงเจ็บจึงแตะนิ้วที่บั้นเอว ทำให้หลินเฟิงตก
ตะลึง รู้สึกว่าหน้าร้อนขึ้นเรื่อย ๆ แต่แรงนวดของอวิ๋นหู่ที่ส่งมากลับ
กำลังพอเหมาะ
ตอนที่ 2018-2
ไม่ผิดคาด เสือร้ายตกภูเขาย่อมโดนหมากัด โอกาสหน้าเขาจะไม่
ยอมอยู่ด้านล่างอีกแล้ว แล้วถ้าเจ้าของร้านนั่นในครั้งหน้า เขาจะสั่ง
ให้หาสินค้าปกติให้เขา พวกเร่งอารมณ์กำหนัดน่ะ ไม่เอาอีกแล้ว ถ้า
ไม่ใช่เพราะมัน เขาคงไม่ถึงกลับหมดแรงต่อต้านหรอก เสียแผน
หมด ใช่ เสียแผน!
หลินเฟิงไม่ยอมรับเด็ดขาดว่าตัวเองฝีมือสู้เขาไม่ได้ “ครั้งหน้าฉันจะ
เอาคืน” ฝ่ายอวิ๋นหู่ได้ยินแล้ว เลิกคิ้วครู่หนึ่ง มุมปากซ่อนรอยยิ้มไว้
“โอเค”
ครั้งหน้า? เรื่องแบบนี้ขึ้นอยู่ฝีมือของแต่ละคน เจ้านี่คงไม่รู้ตัวถึง
ตำแหน่งแห่งหนของตัวเองสักที แต่ไม่เป็นอะไร สำหรับอวิ๋นหู่แล้ว
เขาออกจะสนับสนุนความฝันของหลินเฟิง เพราะปกติแล้ว สิ่งที่ไม่
มีวันเกิดขึ้นได้ตลอดกาลถึงจะถูกเรียกว่า ‘ความฝัน’
“ขึ้นเตียงเถอะ”
หลินเฟิงได้ยินแล้วถอยหลังหนึ่งก้าว “เฮ้ย นายจะให้ฉันขึ้นเตียงไป
ทำอะไร?”
“ทายาไง” อวิ๋นหู่จ้องอีกฝ่าย เอ่ยเสียงเรียบ “ไม่งั้นนายคิดว่าฉันจะ
ทำอะไร?”
หลินเฟิงเขินเล็กน้อย แต่จากนั้นก็พูดขึ้นอีก “ต่อไปอย่าพูดอะไรที่
ชวนคิดลึกแบบนี้อีกนะ ทายาก็ทายา”
อวิ๋นหู่กวาดตามองอีกฝ่าย “ได้”
หลินเฟิงเขินนิด ๆ ตอนเจ้านั่นทายาให้เขา ทาที่ลำคอเขาด้วย “ลด
บวม”
หลินเฟิงได้แต่พูดในใจว่า นายยังรู้ตัวนี่ว่าเวลาจูบคนทีแทบจะสิ้นชีวิต
กันเลย
แต่เขาพูดตรง ๆ อย่างนั้นไม่ได้ จะต้องเป็นฝ่ายรุกเอง
อวิ๋นหู่ก็ไม่ได้พูดอะไร เอายามาวางไว้ในมือก่อนจะกวาดตามอง
เตียงที่ยับยู่ยี่ คนบางคนก็ช่างเสแสร้งเก่ง เล่นเกมบ้าอะไร เป็นไปได้
เหรอ อวิ๋นหู่หันไปมองยังร่างที่นอนบนเตียง
ฝ่ายหลินเฟิงโดนมองจนไม่รู้ว่าจะขยับอย่างไรดี พลันได้ยินอีกฝ่าย
พูดขึ้นว่า “ถอดกางเกงด้วย”
ครั้งนี้หลินเฟิงไม่ได้วู่วาม “ถอดกางเกงทำไม”
“นายว่าจะทำไมล่ะ?” อวิ๋นหู่กดขาเพื่อนไว้ “ฉันจะช่วยทายาให้นาย
ที่ตรงนั้น มันสะดวกกว่า”
หลินเฟิงมองดูใบหน้าคมสันที่เข้าใกล้ทุกขณะ…ใกล้จนเขาไม่อาจ
ขัดขืน ได้แต่ห่มผ้าห่ม กระทั่งหลังคอยังแดงเรื่อ ไม่มองดูคนที่นั่งริม
เตียง จากนั้นเขาก็หลับจริง ๆ
จนถึงเวลากินข้าว
คุณแม่หลินย่อมเป็นฝ่ายมาเรียกทั้งสอง “อุ๊ย พอหู่มา เราก็หายไข้เลย
นะ”
หลินเฟิงพูดอย่างลำบากใจ “คนสวยครับ ผมกำลังฝืนสังขารเพราะ
ต้องกินข้าวเป็นเพื่อนคุณนะครับ”
“อย่าพูดบ้า ๆ ลงมากินข้าว” คุณแม่หลินลงไปด้านล่างอย่างอารมณ์ดี
หลินเฟิง…เขาพูดล่ะหาว่าบ้า ทีอวิ๋นหู่พูดกลายเป็นฉลาด คุณแม่ที่
เคารพอย่างสูงนี่เหลือเชื่อจริง ๆ พูดอะไรทีเป็นต้องแบ่งแยกสายเลือด
หรือไง!
เขาไม่ได้กินอะไรเลยมาตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้จึงหิวมาก เมื่อเห็น
อาหารบนโต๊ะก็คุมตัวเองไม่อยู่ ขยับตะเกียบทันที ไม่ว่าจะเป็นไก่
ผัดพริกใส่มันฝรั่ง ปลาราดพริก รากบัวยัดหมูนึ่ง ล้วนแต่เป็นของที่
พวกเขาชอบกินทั้งนั้น ปกติแล้วแม่เขาชอบบ่นว่าทำยากจะตายเลย
ไม่ทำ นี่เพราะลูกชายตัวจริงมาล่ะสิ!
หลินเฟิงแขวะในใจพลางก้มหน้ากะจะกินให้เต็มที่ ทว่าไม่รู้ว่าอวิ๋น
หู่เป็นอะไร ไม่ว่าเขาจะยื่นตะเกียบไปที่ไหน เจ้านั่นก็ยื่นตามเหมือน
เป็นศัตรูกับเขา จนเมื่อเขาอยากคีบเนื้อไก่มากิน อวิ๋นหู่ก็มาแย่งจาก
ตะเกียบเขาไปเป็นครั้งที่สาม ทำให้เขาโมโหจะอาละวาด ก็เห็นอวิ๋น
หู่คีบผักมาใส่ถ้วยเขา “นายไม่สบาย อย่ากินของเผ็ดเลย”
คุณแม่หลินคิดว่าอวิ๋นหู่หมายถึงว่าลูกตัวเองเป็นหวัด “หู่พูดถูกแล้ว
ไป ไปตักซุปมากินเอง”