บทที่427

ผู้แปล : N.

ก่อนที่จะมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์และอินเทอร์เน็ต ผู้ชมทางบ้านต่างก็รอคอยกันอย่างใจจดใจจ่อแล้ว ยังรวมไปถึงบริษัทรถยนต์และบริษัทเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องจำนวนมากอีกด้วย

การทดสอบระบบรถไร้คนขับครั้งนี้ของบริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟนั้นมีสำคัญเป็นอย่างมาก หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาละก็ มันจะทำให้เกิดผลกระทบเชิงลบที่ร้ายแรงต่อตัวผลิตภัณฑ์และบริษัทอย่างแน่นอน!

ในตัวรถที่จะใช้ในการทดสอบนั้น ก็มีเจียงซุนประธานบริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟที่ขึ้นมาทดสอบรถด้วยตัวเอง และก็ยังมีผู้อำนวยการวูชางเฟิง ผู้อำนวยการสำนักบริหารการขนส่งของจังหวัดเจียงเฉิงเองก็ได้ขึ้นมาทดสอบด้วยตัวเองเช่นกัน

นอกจากนี้ทางบริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟ ยังได้เชิญเจ้าหน้าที่ชำนาญการขับขี่รถยนต์ และพิธีกรรายการโทรทัศน์ขึ้นมาอีกด้วย

“รถคันนี้ปลอดภัยแน่เหรอ? ถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาดขึ้นละ? … ” ผู้ชมที่ดูการถ่ายทอดสดนี้ผ่านทางหน้าจอทีวีต่างก็ได้พูดคุยและแสดงความคิดเห็นกันจำนวนมาก

“นั้นใช้ผู้อำนวยการสำนักบริหารการขนส่งของจังหวัดเจียงเฉิงไหม?”

“พวกเขาจะขับไปถนนสายxx!  ที่นั้นมีรถยนต์จำนวนมากบนถนน ขนาดฉันไปเองยังไม่กล้าขับรถเร็วเลย!”

“พระเจ้า! พวกเขากล้าทำจริงๆ”

“นี่คือรถยนต์ที่ใช้ระบบไร้คนขับของบริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟใช้ไหม?  ฉันได้ยินมาว่าพวกเขาได้นำระบบเอไอตัวใหม่ล่าสุดที่พัฒนาจากบริษัทลู่เทคโนโลยีมาใช้ด้วยนะ!!”

เมื่อขึ้นมาบนรถ เจียงซุนที่เป็นประธานบริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟก็ได้พูดตอบคำถามที่ถูกส่งมาจากคนดูว่า

“รถของเรานั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากรถยนต์ทั่วไป ในเรื่องของความปลอดภัยนั้นมันยังมีความปลอดภัยมากกว่าการใช้คนจริงๆขับมากถึง 90%!”

“และหากในอนาคตรถยนต์ทั้งหมดได้ใช้ระบบไร้คนขับ ผมเชื่อว่าอุบัติเหตุและการจราจรติดขัดจะน้อยลง!”

“ดูเหมือนว่าประธานเจียงจะมีความมั่นใจมากในรถยนต์คันนี้นะค่ะ! ดังนั้นเรามารอติดตามในการลงไปทดสอบจริงกันเลย!!” พิธีการหญิงที่มาด้วยได้ทำการหันกล้องมาทางตัวเอง ก่อนที่เธอจะพูดตามสคริปที่เตรียมเอาไว้

ระหว่างนั้นเอง รถคันข้างหน้าก็ได้ทำการกดสัญญาณเลี้ยวซ้ายอย่างกะทันหัน  และเมื่อตัวเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งมาบนตัวรถยนต์จากบริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟตรวจสอบพบ มันก็ได้ทำการชะลอตัวลง ก่อนที่จะขับต่อไปได้ราบรื่น

หลังจากนั้นไม่นาน รถยนต์บริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟก็ได้เข้าถึงถนนที่จะใช้ในการทดสอบ ซึ่งในช่วงเวลานี้ได้ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่มีการจราจรที่คับคั่งมากที่สุดอีกด้วย

ส่วนภายในตัวรถ ผู้โดยสารสามารถมองเห็นสภาพแวดล้อมรอบตัวรถผ่านกล้องตัวจิ๋วและเครื่องฉายภาพเสมือนที่ติดเอาไว้ได้ตลอดเวลา ซึ่งในเรื่องนี้เองที่ผู้อำนวยการวูชางเฟิง ให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด และเขายังได้แสดงความกังวลออกมาตลอดเวลา

ซึ่งที่เป็นแบบนี้ก็เนื่องมาจากการตัดสินใจของเขาที่จะออกใบขับขี่รถยนต์ระดับ L5 ให้แก่ บริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟนั้นเอง และนี้ก็เป็นสาเหตุที่เขาได้ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมากมาโดยตลอด!

อย่างไรก็ตาม รถคันนี้ได้เคลื่อนที่เป็นไปได้อย่างราบรื่นมาก ไม่ว่าจะความเร็ว การเบรก การเปลี่ยนเลนและการแซง นั้นเกือบจะเหมือนกับผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์ถึงสิบปี

“ ว้าว! มันเกือบจะเหมือนกับคนขับมืออาชีพจริงๆ ” ผู้ชมที่เห็นภาพถ่ายทอดสดต่างก็ได้แสดงความประหลาดใจเป็นอย่างมาก และในภาพรถยังสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆได้อย่างสมบูรณ์แบบ และความเร็วในการตอบสนองเองก็ค่อนข้างเร็วเป็นอย่างมาก!

“เราสามารถเห็นได้ว่ารถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตนเองของบริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟนั้นตอบสนองได้อย่างรวดเร็วเมื่อต้องรับมือกับสภาพการจราจรที่หลากหลาย และยังใช้เวลาตอบสนองเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ซึ่งเมื่อเทียบกับเราที่ต้องเจอกับสถานการณ์เดียวกัน เราจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งหรือสองนาทีกว่าที่สมองจะสั่งการออกมา! “ได้มีผู้เชี่ยวชาญบางคนออกมาอธิบายถึงเรื่องนี้ให้เป็นความรู้แก่คนทั่วไป

ในช่วงเวลานั้นเอง รถที่ใช้ในการทดสอบก็ได้ดำเนินต่อไป ซึ่งมันใช้เวลาถึงสองชั่วโมงกว่าที่มันจะกลับมายังจุดเริ่มต้นได้ และนั้นทำให้ผู้ชมที่ติดตามดูถึงกับเกิดอาหารเบื่อขึ้นมาจำนวนมาก

“มันน่าเบื่อเกิน! รถคนนี้มันเสถียรเกินไป!”

“ใช้! ฉันคิดว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นเสียอีก!”

“มันเป็นอะไรที่ดีเป็นอย่างมา! เห็นได้ชัดว่าเทคโนโลยีรถไร้คนขับนั้นใช้ได้! ฉันหวังว่าพวกเขาจะประกาศว่างขายมันเร็วๆนี้!”

……

ไม่ว่าพวกเขาจะคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ แต่ความจริงที่ว่ารถยนต์คันแรกของบริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟนั้นได้ผ่านการทดสอบแล้วก็ยังคงเป็นเรื่องจริง!

พวกสื่อเองก็ยังได้รายงานเหตุการณ์นี้กันอย่างร้อนแรง และยังถึงกับได้ทำนายอนาคตถึงการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้อีกด้วย

รถคันนี้และยานพาหนะคันอื่นๆ ที่มีแผ่นป้ายทะเบียนทดสอบแบบไม่ใช้คนขับระดับL5 ยังคงต้องขับบนถนนของจังหวัดเจียงเฉิงทั้งกลางวันและกลางคืน เป็นเวลาหนึ่งเดือนก่อนการพิสูจน์เบื้องต้นว่าเทคโนโลยีขับนี้ปลอดภัย

ครึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว และรถที่ใช้ระบบไร้คนขับของบริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟก็ยังคงไม่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น และในช่วงเวลานั้นเองพวกสื่อก็ได้รายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง

ระหว่างนั้นเองก็ได้มีการพูดถึงเรื่องการนำเทคโนโลยีมาใช้อีกด้วย ซึ่งก็ได้มีการแบ่งกลุ่มกันเกิดขึ้น คือฝ่ายที่สนับสนุนให้นำเทคโนโลยีมาใช้ กับ ฝ่ายที่คัดค้านมันอย่างชัดเจน

ในเช้าของอีกวัน รถที่ใช้ระบบไร้คนขับของบริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟ กำลังขับรถอยู่บนถนนอย่างราบรื่น และข้อมูลการทดสอบก็ได้ถูกป้อนกลับไปยังสมองควอนตัมอย่างต่อเนื่อง

และด้านหลังรถนั้นเองก็มีชายวันกลางคนที่มีอายุห้าสิบปีได้ขับรถตามมา เขามาพร้อมกับเพื่อนอีกหนึ่งคน

“ แกพูดว่ารถข้างหน้านั้นเป็นรถที่ใช้ระบบไร้คนขับจากบริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟใช้ไหม?! ถ้าเกิดเจ้ารถบ้านั้นมันกลายเป็นที่นิยมขึ้นมาจริงๆละก็ ในอนาคตเราคงจะต้องตกงานอย่างแน่นอน” ชายขับรถที่เห็นแบบนั้นก็ได้พูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจ

“ฉันต้องการทุบรถคันนั้นจริงๆ!” เพื่อนรวมทางเองก็ได้พูดขึ้นมาเช่นกัน เขาเองก็เป็นพนักงานขับรถเช่นกัน

“หยุดความคิดนั้นเลย! ถ้าแกทำแบบนั้นจริงๆ เราได้เสียเงินก้อนโตแน่!” ชายขับรถได้พูดห้ามเสียงดัง

“ฉันได้ยินมาว่าไอ้รถคันนี้มีราคาแพงอย่างมา และมันยังมีกล้องติดอยู่รอบคันอีกด้วย!”

“จริงเหรอ?” ชายที่นั่งมาด้วยกันได้ถามขึ้นมาอย่างสงสัย

“ใช้! นี้แกไม่ได้ดูมันในวันเปิดตัวเหรอไง?” คนขับรถที่พูดมาถึงตรงนี้ก็ได้หยุดไป ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาอีกว่า “เฮ้อ! ถ้ารถคันนั้นมันเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาละก็…มันคงจะส่งผลดีต่อเราอย่างแน่นอน!”

“แกต้องการแบบนั้นเหรอ?!” เพื่อนที่นั่งมาด้วยได้พูดต่อว่า “มันก็มีหลายสถานการณ์ที่ถือว่าเป็นการละเมิดกฎจราจรอยู่นะ”

ทั้งคู่เป็นคนขับรถมาเป็นเวลานาน ดังนั้นพวกเขาเองก็ต้องรู้เรื่องของกฎหมายการจราจรเอาไว้บ้าง และบางครั้งพวกเขาก็ได้ใช้ช่วงโหว่ของกฎหมายในการละเมิดกฏอยู่บ่อยครั้ง แต่เห็นได้ชัดว่าไอ้รถยนต์ตรงหน้าของพวกเขานั้นรู้เพียงกฏเท่านั้น มันไม่ได้รู้ถึงการใช้ช่องโหวอย่างพวกเขา

“อย่าบอกนะว่าแกมีวิธี!” ชายที่ขับรถได้พูดออกมาอย่างสนใจเล็กน้อย “ถ้าเราสามารถทำแบบนั้นได้จริงๆ มันจะต้องเป็นเรื่องที่ดีกับพวกเราอย่างแน่นอน”

“โอเค! ให้ฉันค้นหาเล็กน้อย!” เพื่อนที่นั่งมาด้วยได้หยิบโทรศัพท์มือถือออก แล้วได้เริ่มค้นหาวิธีที่พวกเขาต้องการ ก่อนที่เขาจะเจอมันและอ่านพูดขึ้นมา: “รถยนต์แบบไร้คนขับของบริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟนั้น มีประกันภัยสูงเป็นอย่างมาก และเมื่อรถยนต์ของพวกเขาได้ก่อให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น พวกเขาจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด… “

“โอ้?” หลังจากที่ชายคนนั้นอ่านจบ เขาถึงกับเผลอร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ

ชายขับรถที่ได้ฟังแบบนั้นก็ถึงกับพูดขึ้นว่า “นี้แกจะพูดว่าถ้าเกิดรถคันนั้นชนเรา พวกนั้นไม่เพียงแต่จะเสียชื่อเสียงเท่านั้น แต่พวกมันจะต้องจ่ายค่าเสียหายให้เราด้วยใช้ไหม?”

“ใช้!” ชายที่นั่งมาเป็นเพื่อนได้พูดต่อว่า “แต่ไอ้รถคันนั้นมันกับเสถียรนี้สิ! แล้วเราจะทำยังไงให้มันมาชดเราได้กัน”

“ภายใต้สถานการณ์ปกติมันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก! แต่ถ้าเป็นกรณีพิเศษก็ไม่แน่?” ชายที่เป็นคนขับได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงแปลกๆ และเห็นได้ชัดว่าในน้ำเสียงของเขานั้นมันมีความปีติยินดีซ่อนเอาไว้