บทที่ 1808 - ข่าวของโฮ่วเฟิง และจินเฟิง

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

AST
  บทที่1808 – ข่าวของโฮ่วเฟิง และจินเฟิง
  เวลา3 วันผ่านไปในชั่วพริบตา ทุกคนในที่แห่งนี้พัฒนาพลังก้าวข้ามขีดจำกัดไปอย่างน่าเหลือเชื่อ
  ”หลิงเยียนชิงเอ๋อ พวกเจ้าวางแผนจะอยู่ที่พระราชวังจอมอสูรอีกนานเพียงใด?”
  ”พวกเราวางแผนจะอยู่ที่นี่ไปอีกนานแต่พวกเราก็ต้องการมุ่งหน้าไปยังส่วนลึกของมหาทวีปอุดรเทวาเช่นกัน”ฉินชิงคิดเล็กน้อยก่อนจะกล่าว
  ชิงสุ่ยเข้าใจดีว่าทันทีที่พลังของพวกเขาพัฒนาขึ้นจนแข็งแกร่งความอยากไปเจอโลกย่อมต้องเติมเต็มจิตใจ หากได้เผชิญกับภัยอันตรายที่มากขึ้นโอกาสในการพัฒนาตนก็จะยิ่งมีมากขึ้นเช่นกัน
  ”ว่าแต่พวกเจ้ารู้จักภาคีวิหคอัคคีเทวะหรือไม่?”ชิงสุ่ยไตร่ตรองก่อนจะถามเขาตัดสินใจถามเนื่องจาก สถานที่ตั้งของพระราชวังจอมอสูรอยู่ตรงกลางระหว่าง 3 มหาทวีปและหนึ่งในนั้นก็มีมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ
  ”ข้าเองก็เคยได้ยินแต่ไม่เคยเจอตัวพวกเขาเลยแม้แต่คนเดียวบางทีพวกเขาอาจจะเป็นกลุ่มคนที่แข็งแกร่งที่สุดในมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำก็เป็นได้ ทำไมหรือ?”ฉินชิงจ้องมองชิงสุ่ยด้วยความสงสัย
  ”ตอนนี้ข้าเองเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสรับเชิญแห่งภาคีวิหคอัคคีเทวะว่าแต่พวกเจ้าเคยได้ยินเรื่องราวสงครามระหว่างมหาทวีปหรือไม่?”ชิงสุ่ยกล่าวถาม
  ภาคีวิหคอัคคีเทวะเกือบจะเป็นหนึ่งในจุดสูงสุดของมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำชิงสุ่ยเองก็รู้ว่ามหาทวีปอุดรเทวาน้ำแข็งแกร่งกว่ามหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ แม้แต่มหาทวีปมังกรอหังการก็ยังแข็งแกร่งกว่ามหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ ถ้าเป็นเช่นนี้พวกเขาจะเอาอะไรไปต่อกรกับอีก 2 มหาทวีปที่เหลือ?
  ชิงสุ่ยไม่มีความมั่นใจเลยว่ามหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำจะเอาชนะได้
  ”ตอนนี้เจ้าของร่วมกับภาคีวิหคอัคคีเทวะแล้วจริงๆหรือ”ถานท่ายหลิงเยียนถามด้วยความประหลาดใจ
  ”อืมทำไมรึ?”ชิงสุ่ยรู้สึกแปลกใจในสีหน้าประหลาดใจของเธอ
  ”เช่นนั้นเจ้าก็น่าจะรู้ว่ามีอีก2 ภาคีที่เกี่ยวข้องกับภาคีวิหคอัคคีเทวะ ดูเหมือนว่าหัวหน้าของทั้งสองภาคีจะเป็นศิษย์ที่ไม่ก็ศิษย์น้องของผู้นำภาคีของเจ้า มีข่าวลือว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด แม้จะเป็นสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน แต่ข้าเชื่อว่า พวกเขาจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของเจ้า” ถานท่ายหลิงเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงปกติ
  ”ข้าเองก็ได้ยินเรื่องราวเหล่านี้แม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม และข้าเองก็ไม่แน่ใจ แต่ที่ข้ารู้คือ ชายทั้งสองคนชอบในตัวผู้นำภาคีวิหคอัคคีเทวะ ข้าสงสัยเหลือเกินว่าหญิงสาวผู้นั้นจะคิดอย่างไรกับพวกเขา?” ชิงสุ่ยกล่าวคำตอบด้วยคำถาม
  ”ข้าเองก็ไม่รู้แต่ที่ข้าได้ยินมาหญิงสาวผู้นั้นชื่นชมพี่น้องของเธอ แต่หลังจากที่มีปัญหาเนื่องจากมีสาวผู้อื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง สุดท้ายเธอก็เลิกที่จะสนิทสนมกับบรรดาศิษย์พี่ศิษย์น้องของเธอทันที แต่ทั้งคู่ยังคงตามตอแยเพื่อให้เธอกลับมา” ถานท่ายหลิงเยียนจ้องมองชิงสุ่ยและกล่าวอย่างรอบคอบ
  ”เหตุการณ์พวกนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนอย่าบอกนะว่าตอนนี้นางยังคงไม่มีคู่ครอง”ชิงสุ่ยถามด้วยความสงสัย
  ”หญิงสาวผู้นั้นยังไม่แต่งงานกับชายใดฉะนั้นนางยังคงไร้คู่ครอง”ถานท่ายหลิงเยียนตอบกลับ
  ”จริงๆแล้วจะมีคู่ครองหรือไม่คุ้มครองก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต ส่วนบรรดาผู้ชายที่ทรงพลังขนาดนั้นย่อมมีผู้หญิงไม่ขาดสาย…..”ชิงสุ่ยกล่าว
  ชิงสุ่ยพูดด้วยความลืมตัวเพราะเขาเองก็มีหญิงสาวรอบกายโดยเฉพาะตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นถานท่ายหลิงเยียนหรือฉินชิง
  ”ไม่มีผู้ชายคนใดเก่งที่สุดในเรื่องนี้ยกเว้นเจ้าชิงสุ่ย”ฉินชิงยิ้มให้กับชิงสุ่ย
  ชิงสุ่ยได้แต่ถูจมูกเพื่อลดความเขินอาย”จะพูดแบบนั้น มันก็ถูกของเจ้า”
  ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าตอนนี้ฉินชิงรู้สึกเช่นไรเธอเหมือนนางฟ้าในโลกมนุษย์ แต่ก็มีตัวตนที่คาดเดาได้ยากเหมือนกับอีเย่เจี้ยนเก้อ ติ๊เฉินและจรู้ชิง
  ที่สำคัญเธอเป็นคนที่มีไหวพริบและมีเสน่ห์เหลือล้น
  ”ชิงเอ๋อ หลิงเยียน ข้าเองก็คิดว่าข้าควรจะไปที่มหาทวีปอุดรเทวาต่อในภายหลัง เพราะที่ข้าอยู่ตอนนี้เหมือนจะมีปัญหามากมายที่ข้าจะต้องจัดการให้เสร็จสิ้นก่อน”ชิงสุ่ยกำลังคิดถึงปัญหาของภาคีวิหคอัคคีเทวะ เขาจำเป็นต้องทำให้มันเสร็จสิ้นลุล่วงเพื่อไม่ให้กลายเป็นสิ่งที่ค้างคาในใจ  ถ้าหากภาคีวิหคอัคคีเทวะกลายเป็นกลุ่มภาคีที่แข็งแกร่งที่สุดภายในมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำคนในภาคีจะได้ช่วยเหลือชิงสุ่ยในการดูแลที่เขาเป็นห่วง นี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขาเข้าร่วมกับภาคีวิหคอัคคีเทวะ
  ชิงสุ่ยต้องการช่วยเหลืออี่หวงและเฉินหวงในการเพิ่มพูนพลังเพื่อก้าวขึ้นสู่ระดับถัดไปด้วยวิธีนี้เขาจะได้จากไปท่องโลกกว้างด้วยหายห่วง เขาเป็นกังวลว่าสงครามระหว่างมหาทวีปจะกระทบต่อคนตระกูลชิง ฉะนั้นเขาจะต้องทำให้ภาคีวิหคอัคคีเทวะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่กำลังจะเกิด
  ชิงสุ่ยในตอนนี้อาจจะไม่แข็งแรงเท่าเฉินหวงแต่ถ้าหากนับในอัตราการพัฒนาความแข็งแกร่ง ชิงสุ่ยไม่เป็นรองใครนั่นคือความพิเศษของเขา
  ”ปัญหาที่เจ้าทางแก้ไขคือปัญหาของภาคีวิหคอัคคีเทวะใช่หรือไม่?”ถานท่ายหลิงเยียนหันไปมองชิงสุ่ย
  ”อืมหลังจากที่ข้าเข้าร่วมภาคีวิหคอัคคีเทวะ ดูเหมือนบนมหาทวีปแห่งนี้จะมีปัญหามากมาย ข้าจึงพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อให้เกิดความสงบสุข”
  ”พวกเราจะรอแล้วไปพร้อมกับเจ้าบางทีพวกเราอาจจะช่วยก็ได้” ถานท่ายหลิงเยียนกล่าวหลังจากเห็นสีหน้าชิงสุ่ย
  ”ใช่แล้วล่ะพวกเราจะคอยช่วยเหลือเจ้าเอง”ฉินชิงหัวเราะ
  ”ก่อนที่พวกเจ้าจะช่วยเหลือข้าตอนนี้ ข้าจะต้องช่วยเหลือพัฒนาพลังของพวกเจ้าให้อยู่เหนือกว่าระดับ 30,000 เต๋าให้จงได้”ชิงสุ่ยยิ้มและตอบกลับอย่างมีความสุข
  …………………………….
  2วันถัดมา ชิงสุ่ยก็เดินทางกลับไปยังตระกูลชิง ส่วนถานท่ายหลิงเยียนและฉินชิงตัดสินใจรอคอยเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนจะมุ่งหน้าเข้าสู่เขตมหาทวีปอุดรเทวาพร้อมกับชิงสุ่ย ชิงสุ่ยเตรียมความพร้อมปรับปรุงพลังของทุกคน ฉะนั้นทุกคนเองจึงต้องพยายามฝึกฝนให้มากที่สุดเพื่อเตรียมความพร้อมในพลังที่เพิ่มพูนมาอย่างฉับพลัน
  ในวันที่3 หลังจากที่กลับมาที่บ้าน เฉินหวงได้ส่งข้อความโดยตรงถึงเขา โดยใจความของข้อความบอกให้ว่าติดที่ของเธอกำลังส่งคนมาหาชิงุส่ย พวกเขารู้แล้วว่าชิงสุ่ยในตอนนี้ได้กลายเป็นผู้พิทักษ์ประจำภาคีวิหคอัคคีเทวะ
  ชิงสุ่ยจดจำชื่อทั้งสองคนได้นั่นก็คือโฮ่วเฟิง และจินเฟิง ทั้งสองคนมาจากที่เดียวกันกับเฉินหวง ในตอนที่เธอเล่าเรื่องราวให้ชิงสุ่ยฟัง สองคนนี้คือคนที่ต้องการแต่งงานกับเฉินหวง พวกเขาเป็นคนที่เก่งกาจและมีความมั่นใจสูง
  ชิงสุ่ยไม่กล้าที่จะผ่อนคลายแต่ก็ไม่ปล่อยให้ใครกล้าขู่ทำร้ายตัวเขา ถ้าหากพวกเขามาดี ทุกอย่างก็จะดี แต่ถ้าหากประสงค์ร้าย ชิงสุ่ยอาจจะไม่ได้แข็งแกร่ง แต่เขามีความสามารถในการสังหารผู้อื่นโดยไม่หวั่นเกรง