ตอนที่ 548 ตรงประเด็น

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 548

ตรงประเด็น

“งั้นก็ตกลงตามนี้”หลานฮวาพูดออกมาด้วยท่าทีโล่งใจเมื่อเหล่าสาวๆตัดสินใจเรื่องของไป๋จูล่งกันเสร็จแล้ว

“พวกเราก็ไม่น่าคิดมากเลย รู้กันอยู่แท้ๆว่าน้องจูล่งเป็นคนแบบไหน”ต้าหวานยิ้มเจื่อนๆออกมาอย่างช่วยไม่ได้ พวกนางเสียเวลาทั้งคืนช่วยกันวางแผนจะทำอย่างไรให้น้องจูล่งรู้ตัวว่าพวกนางนั้นรู้สึกอย่างไรกับมัน แต่ไม่ว่าจะเสนอแผนอะไรกันมาสุดท้ายก็โดนตีตกไปหมดเพราะคิดว่าจูล่งคงไม่รู้เรื่องแน่ๆ

“นั่นสินะเจ้าคะ กับพี่จูล่งบอกตรงๆนี่ล่ะดีที่สุดแล้ว”ผิงกั่วยิ้มรับออกมาเช่นกัน ในเมื่อทางอ้อมไม่ได้ผลสุดท้ายพวกนางก็เลือกทางตรงมันเสียเลย บางทีการจะทำให้ไป๋จูล่งเข้าใจว่าพวกนางคิดกับมันอย่างไรก็คือการบอกออกไปตรงๆให้รู้แล้วรู้รอดนั่นเอง

“พอน้องจูล่งกลับมา พวกเราก็แค่ชวนน้องจูล่งไปเที่ยวในเมือง และหาโอกาสดีๆสารภาพรักพร้อมกันก็พอแล้วสินะ”ต้าเฉียนพยักหน้าช้าๆด้วยท่าทีเห็นด้วย เพราะความใสซื่อของจูล่งต่อให้พวกนางแสดงท่าทีอย่างไรมันก็ไม่รู้เรื่อง ทางเดียวที่จะทำให้จูล่งรู้ตัวคงจะมีแต่บอกตรงๆนี่ล่ะ

“ทำเอาข้านึกถึงสมัยก่อนเลยนะ”หลี่เย่หัวเราะแห้งๆออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อก่อนอาจารย์ของนางลงแรงวางแผนแทบตายเพื่อหาทางเข้ามาในเขตอสูรผาไร้ก้นและนำสมุนไพรที่ต้องการออกไป สุดท้ายแผนก็ล่มจนหลี่เย่บากหน้ามาขอร้องมันตรงๆเสียเลย กลายเป็นว่าการขอร้องตรงๆกับคนตระกูลไป๋นั้นได้ผลกว่าการวางแผนแยบยลหลายเท่าเลยทีเดียว

“นั่นสิ ถ้าเป็นน้องจูล่งละก็….”ชางซีหัวเราะออกมาพลางนึกถึงวันที่นางเจอจูล่งครั้งแรก เด็กหนุ่มใสซื่อแบบนั้นทำเอานางจำได้ไม่มีวันลืมเลย

“………….เอาเป็นว่า พอจูล่งกลับมาก็เริ่มแผนเลยแล้วกัน”หลานฮวาว่าพลางเบ้ปากเล็กน้อย กลิ่นความรักในกลุ่มนี้มันตลบอบอวลจริงๆ ทำเอานางขนลุกเลย

.

.

วูบ….

อาจจะเพราะไป๋หลินเฟยไม่ได้วางแผนจะไปเที่ยวจริงๆเพียงแต่ต้องการหาเวลาให้หลานฮวาได้อยู่กับพวกสาวๆเท่านั้น ทำให้ไป๋จูล่งเดินทางกลับมาเขตอสูรผาไร้ก้นเร็วกว่าที่บอกเอาไว้ ทันทีที่เห็นร่างของตงฟางที่กำลังบินเข้ามาในเขตอสูรผาไร้ก้น เหล่าสาวๆก็พากันออกมารอที่หน้าปราสาทเพื่อทำตามแผนที่วางกันเอาไว้ทันที เพียงแต่…..

ตุบ..

ร่างของตงฟางร่อนลงมายืนบนพื้นอย่างนิ่มนวลเช่นที่เห็นเป็นประจำ และภาพจูล่งที่กำลังขี่หลังพี่ตงฟางก็เป็นภาพที่พวกนางชินตาเสียแล้ว เพียงแต่…..

“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านจูล่ง”เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งที่ซ้อนท้ายไป๋จูล่งมาด้วยดังออกมาพร้อมร่างของนางที่กำลังลงมาจากหลังของตงฟาง

“…….ท่านมารี”ต้าหวาน ต้าเฉียน หลี่เย่ และ ชางซี เมื่อเห็นว่าผู้ใดมาก็เดินเข้าไปทักทายทันที พวกนางเคยเดินทางไปร่วมประชุมกับไป๋จูล่งมาแล้ว ทราบดีว่าหญิงสาวที่มาด้วยคือใคร ทำให้พวกนางไม่ได้มีท่าทีตกใจนักเพราะทราบความในอยู่แล้วว่านางมีบทบาทอะไร

“เอ๊ะ……”ตรงกันข้าม ผิงกั่วที่ไม่รู้จักมารีได้แต่เบิกตากว้างมองไปที่มารีด้วยท่าทีงุนงง อยู่ๆพี่จูล่งก็พาสาวงามที่ไหนมาก็ไม่รู้ แถมพวกพี่ต้าหวานยังมีท่าทีเคารพอีกฝ่ายด้วย….

“สวัสดีทุกท่านเจ้าค่ะ ไม่ได้พบกันนานเลย”มารีตอบพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทียินดี นางกับพวกต้าหวานคุ้นเคยกันดี เพราะนางออกตัวช่วยเหลือจูล่งเรื่องแรงกดดันจากตระกูลของนางทำให้พวกต้าหวานรู้สึกขอบคุณนางไม่น้อย และไม่ได้มีความรู้สึกว่านางเป็นศัตรูหัวใจแต่อย่างไร

“ท่านมารีมาที่นี่มีธุระอะไรหรือเจ้าคะ”ต้าหวานถามพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีอ่อนโยน

“ข้ามาเพื่อพบท่านไป๋จูเหวินเจ้าค่ะ และจะมาเยี่ยมชมโรงงานที่ท่านจูล่งกำลังสร้างด้วย”ได้ยินเช่นนั้นพวกต้าหวานก็เข้าใจทันทีว่ามารีมาเรื่องงานนั่นเอง

“น้องผิงกั่ว ท่าทางแผนของเราคงต้องเลื่อนไปก่อนนะ”หลี่เย่เดินเข้ามาหาผิงกั่วพลางบอกเรื่องธุระของมารี ทำให้ผิงกั่วได้ทราบว่าจริงๆแล้วมารีมาเพื่อดูงานร่วมกับพี่จูล่งของนางนั่นเอง เพียงแต่ท่าทีสนิทสนมของนางกับจูล่งทำให้ผิงกั่วมีท่าทีไม่ไว้ใจอย่างเห็นได้ชัดเลย

“……….”หลังจากพามารีมาที่เขตอสูรผาไร้ก้น ไป๋จูล่งก็พามารีเข้าไปพบไป๋จูเหวินผู้เป็นพ่อของตนทันที ส่วนพวกต้าหวานเพราะเห็นว่าเป็นงานของจูล่งก็เลยไม่ได้ตามเข้าไปด้วย ได้แต่ยืนอยู่ที่หน้าห้องเท่านั้น ทำให้ผิงกั่วเองก็ไม่กล้าเข้าไปด้านในเช่นกัน สุดท้ายผิงกั่วเลยได้แต่ยืนมองไป๋จูล่งที่กำลังพูดคุยกับมารีและท่านไป๋จูเหวินด้วยท่าทียิ้มแย้มอยู่ห่างๆ

“ผิงกั่ว เจ้าเป็นอะไรงั้นหรือ”ชางซีถามพลางมองไปทางผิงกั่วที่แก้มเริ่มจะป่องออกมาเรื่อยๆเสียแล้ว

“เปล่าเจ้าค่ะ”ผิงกั่วส่ายหน้าน้อยๆด้วยท่าทีหงอยๆ พวกนางช่วยกันวางแผนมาทั้งคืน กลายเป็นว่าแผนต้องมาล่มเพราะผู้หญิงที่ชื่อมารีแท้ๆ แม้จะต้องเข้าใจว่านางมาเพื่อทำงานก็เถอะ แต่นางเล่นดูสนิทสนมกับพี่จูล่งมากแบบนี้ทำเอาผิงกั่วอดติดไม่ได้จริงๆว่าจะมีเรื่องอื่นนอกจากงานด้วย

“เจ้านี่ดูออกง่ายจริงๆเลย ไม่ต้องห่วงหรอกพอท่านมารีกลับไปแล้วเราก็ทำตามแผนเหมือนเดิมก็พอ”ต้าหวานว่าพลางยิ้มด้วยท่าทีเอ็นดู เห็นได้ชัดเลยว่าผิงกั่วกำลังหึงจูล่ง แต่ก็ช่วยไม่ได้หรอกเพราะท่านมารีมาเจรจางานสำคัญกับท่านไป๋จูเหวิน จะเอาอารมณ์ของตนเองมาขัดงานของจูล่งก็คงไม่ได้เสียด้วย

.

.

.

“ผิงกั่ว เจ้ามาทำอะไรที่นี่งั้นหรือ”หลานฮวาถามพลางเดินเข้ามาในเขตเทือกเขาเหมันต์

“ก็ท่านมารีนะสิ นี่มัน 3 วันแล้วนะยังไม่ยอมกลับอีก”ผิงกั่วบ่นขณะกำลังนั่งเล่นอยู่ริมสระน้ำแข็งด้วยท่าทีหงอยๆ นางเป็นคนที่อยากจะสารภาพรักไป๋จูล่งที่สุด แต่แผนกลับต้องมาสะดุดเพราะการมาของมารีแท้ๆ แม้พวกพี่ๆจะบอกว่าท่านมารีไม่ได้คิดอะไรกับไป๋จูล่งแต่อย่างไร แต่ 3 วันที่ผ่านมากลับไม่ทำให้ผิงกั่วคิดแบบนั้นเลย

“อะไรกัน เจ้าหึงงั้นหรือ”หลานฮวายิ้มออกมาน้อยๆเมื่อเห็นใบหน้าน้อยใจของผิงกั่ว ช่วยไม่ได้นี่นาใครใช้ให้ผิงกั่วตอนกำลังทำหน้าเศร้าดูน่าเอ็นดูขนาดนี้กัน

“แน่นอนสิเจ้าคะ ท่านเองไม่ใช่หรือที่บอกว่าหากมีผู้หญิงคนอื่นมาพาพี่จูล่งไปจากพวกข้าขึ้นมาจะทำอย่างไรน่ะ”ผิงกั่วพูดออกมาด้วยท่าทีกังวล จะว่าไปหลานฮวาก็เคยขู่พวกนางเอาไว้แบบนั้นจริงๆ

“เรื่องนั้นข้าแค่พูดกระตุ้นพวกเจ้าเฉยๆ น้องจูล่งไม่ทิ้งพวกเจ้าไปไหนหรอก”หลานฮวาหัวเราะออกมาพลางลูบเส้นผมของผิงกั่วด้วยท่าทีเอ็นดู

“แต่…ถ้าพี่จูล่งไม่ได้รักข้าจริงๆขึ้นมาล่ะ”ผิงกั่วก้มหน้าลงช้าๆ ตัวนางหลงรักไป๋จูล่งมาตั้งแต่เด็ก ยอมฝึกวิชาฝึกภาษาเพื่อเดินทางมายังอาณาจักรไป๋เพื่อจะได้พบกับไป๋จูล่ง แม้นางจะไม่เคยพูดแต่นางก็กังวลมาตลอดเลยนะ

“ไม่หรอก อะไรทำให้เจ้าคิดแบบนั้นกัน น้องสาวของข้าน่ารักขนาดนี้ใครจะกล้าไม่รักลง”หลานฮวาตอบพลางยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน

“แต่…..”

“ผิงกั่ว เจ้าอยู่นี่เอง”ผิงกั่วยังไม่ทันพูดอะไรออกมาต่อ ต้าหวานก็เข้ามาหานางด้วยอีกคน แต่ท่าทางนางจะไม่ได้มาเพื่อนั่งคุยอย่างหลานฮวาเพราะตัวนางสวมเสื้อผ้าที่ต่างออกไปจากตอนเช้า

“มีอะไรหรือเจ้าคะพี่ต้าหวาน”ผิงกั่วถามพลางมองไปทางต้าหวานด้วยท่าทีสงสัย นางเปลี่ยนชุดเช่นนี้หรือว่าจะออกไปข้างนอกกัน

“วันนี้น้องจูล่งจะพาท่านมารีไปชมโรงงาน เจ้าจะไปด้วยหรือเปล่า”ต้าหวานถามด้วยท่าทีสงสัย ผิงกั่วดูไม่ชอบมารีเท่าไหร่ หากนางจะไม่ไปนางก็เข้าใจได้

“ไปเจ้าค่ะ….”ผิงกั่วตอบพลางพยักหน้าด้วยท่าทีลำบากใจ นางไม่ชอบมารีจริงๆนั่นล่ะ แต่นางไม่อยากปล่อยให้พี่จูล่งอยู่กับท่านมารีตามลำพังนี่นา

.

.

“…………”เมื่อมาถึงโรงงาน ไป๋จูล่งก็พามารีเดินชมโรงงานด้วยตนเองร่วมกับไป๋หลินเฟยผู้เสนอแผนในครั้งนี้ แต่พอเริ่มชมงานผิงกั่วกลับเริ่มรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดเสียแล้วที่ตามมาเช่นนี้ เพราะตลอดการเดินชมโรงงาน มารีอยู่ข้างๆไป๋จูล่งไม่ยอมห่างเลย

“พี่ต้าหวาน ข้อขอออกไปเดินเล่นข้างนอกสักครู่นะเจ้าคะ”ผิงกั่วว่าพลางขอตัวออกไปนอกโรงงานสักพักแม้น้ำเสียงของนางจะไม่ต่างจากเดิมมากแต่พวกต้าหวานก็สัมผัสได้ถึงความน้อยใจของผิงกั่วอย่างเห็นได้ชัด

“ท่านมารี ข้าขอตัวสักครู่นะขอรับ”แม้จะไม่ทราบความในใจของเหล่าสาวๆ แต่จูล่งก็ไม่ใช่คนไม่ละเอียดอ่อนขนาดจะสัมผัสอาการผิดปกติของพวกนางไม่ได้ ตั้งแต่มารีมาผิงกั่วก็ไม่ร่าเริงเอาเสียเลย เรื่องนี้จูล่งเองก็รู้ตัวเช่นกัน ทำให้พอได้ยินน้ำเสียงของผิงกั่วเปลี่ยนไปจูล่งเลยขอตามนางออกไปทันที

“เชิญเลยเจ้าค่ะ”มารียิ้มหวานก่อนจะบอกให้ไป๋จูล่งตามผิงกั่วไปเสีย เพราะนางเองก็ทราบความผิดปกติที่เกิดขึ้นเช่นกัน

.

.

“ผิงกั่ว เจ้าเป็นอะไรไปงั้นหรือ”ไป๋จูล่งถามขณะเดินตามผิงกั่วออกมาถึงที่ประตูทางออกด้านข้างโรงงาน

“เปล่าเจ้าค่ะ ข้าแค่รู้สึกว่าข้างในโรงงานอากาศไม่ค่อยถ่ายเทนิดหน่อย”ผิงกั่วพยายามเก็บอาการก่อนจะยิ้มบางๆออกมาด้วยท่าทีเป็นปกติที่สุด

“หลายวันมานี่เจ้าไม่ร่าเริงเลย มีอะไรงั้นหรือ”ไป๋จูล่งถามด้วยท่าทีเป็นห่วง ปกติผิงกั่วเป็นเด็กร่าเริงยิ้มแย้มตลอดเวลา แต่หลายวันนี้นอกจากจะไม่ยิ้มแล้วยังเอาแต่ก้มหน้าอีกต่างหาก

“เรื่องนั้น ข้าแค่คิดถึ…….”ผิงกั่วกำลังจะแก้ตัวว่าเพียงคิดถึงบ้านเท่านั้น แต่อยู่ๆก็นึกถึงแผนที่พวกนางเตรียมจะทำขึ้นมาได้ คนเช่นจูล่งนั้นหากไม่พูดออกไปตรงๆ เกรงว่าจะสื่อไม่ถึง

“เป็นเพราะพี่จูล่งนั่นล่ะ”ผิงกั่วพูดพลางมองไปที่ดวงตาของไป๋จูล่งด้วยท่าทีโกรธๆ ทำเอาจูล่งที่ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นได้แต่ทำหน้าประหลาดใจออกมา

“เพราะท่านเอาแต่ต้อนรับท่านมารีจนไม่สนใจข้ากับพวกพี่ๆเลยนี่นา”ผิงกั่วตอบพลางจ้องมองไปที่ไป๋จูล่งด้วยท่าทีจริงจัง

“เจ้าโกรธข้าเรื่องนั้นงั้นหรือ”จูล่งถามพลางกะพริบตาปริบๆด้วยท่าทีอึ้งๆ

“เปล่าหรอกเจ้าค่ะ ที่ข้าโกรธพี่เพราะพี่ไม่ยอมรู้เสียทีว่าข้ารักพี่ต่างหาก”ผิงกั่วตอบพลางก้มหน้าลงด้วยท่าทีอายๆ นางไม่ว่าอะไรหรอกที่จูล่งจะอยู่กับผู้หญิงคนอื่น แต่ที่ทำให้นางอึดอัดเป็นเพราะจูล่งไม่ยอมทราบความรู้สึกของนางต่างหาก

“รักงั้นหรือ…..”จูล่งพูดออกมาช้าๆ ก่อนจะเลื่อนมือมาจับมือของผิงกั่วเอาไว้แน่น ก่อนจะแสดงสีหน้าลำบากใจออกมา

“ผิงกั่ว พี่ขอโทษ”