ตอนที่ 2570 ใกล้จะล่มสลายเพราะสงคราม สภาสิบแปดปีกที่บ้าคลั่ง

ในตอนแรกผู้เล่นในล๊อบบี้นั้นได้ให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับกลุ่มลึกลับที่หยวนเทียนซินได้เชิญมา และเมลานโครอิคสไมล์ก็ไม่ได้พยายามทำให้เสียงของเธอเบาลงเลย ดังนั้นหลังจากเธอประกาศไปแล้ว ความเงียบจึงเข้าปกคลุมไปทั่วล๊อบบี้ของโรงแรม ในขณะที่ทุกคนจ้องมองไปยังเธอด้วยความประหลาดใจ

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ?”

“คนพวกนั้นน่าจะเป็นตัวแทนจากมหาอำนาจต่างๆ แต่เธอยังกล้าจะพูดกับพวกเขาแบบนั้นอีกงั้นหรอ ?”

“มหัศจรรย์ !! มหัศจรรย์มากจริงๆ !! แม้แต่ตอนนี้สภาสิบแปดปีกก็ยังทำตัวหยิ่งผยอง !! ตั้งแต่ฉันเข้าร่วม God domain มา ฉันก็ไม่เคยเห็นกิลที่คิดฆ่าตัวตายแบบนี้มาก่อนเลย !!”

ไม่มีผู้เล่นคนใดที่เป็นคนโง่เขลา และแม้ว่าพวกเขาจะซ่อนตัวตนไว้ภายใต้เสื้อคลุมสีดำ แต่มันก็สามารถบอกได้อย่างชัดเจนเลยว่าเหล่าคนที่หยวนเทียนซินเชิญมานั้นมาจากมหาอำนาจต่างๆ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังดูเหมือนจะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับต้นๆของมหาอำนาจต่างๆด้วย เมื่อพิจารณาจากออร่าของพวกเขา

ตอนนี้ประตูเทเลพอร์ตที่เชื่อมต่อกับโลกแห่งความมืดนั้นถูกเปิดใช้งานแล้ว และมันคงใช้เวลาอีกไม่นานก่อนที่ผู้เล่นจากโลกแห่งความมืดจะเข้ามาท่วมท้นป่าใบไม้ผลิ ซึ่งนี่จะทำให้แผนที่เป็นกลาง เลเวลหนึ่งร้อยนั้นตกอยู่ในอันตรายมากๆเช่นเดียวกับเมืองป่าหิน

แต่ถึงแม้จะอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ สภาสิบแปดปีกก็ยังคงรักษาความหยิ่งผยองต่อหน้ามหาอำนาจต่างๆ นี่มันบ้ามากๆ !!!

“มิสเมลานโครอิค คุณทำ …” หยวนเทียนซินรู้สึกตกตะลึงจนแทบพูดไม่ออก

เขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นเลย !!!

ถ้าเขาไม่รู้ว่าเมลานโครอิคสไมล์เป็นผู้บริหารระดับสูงของสภาสิบแปดปีกที่ก้าวขึ้นมาถึงตำแหน่งนี้ได้ด้วยความสามารถของเธอ เขาคงจะสงสัยว่าเธอเป็นสายลับไปแล้ว การประกาศของเธอนั้นมันเป็นการท้าทายมหาอำนาจต่างๆชัดๆ และไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่มันจะนำไปสู่การกำจัดสภาสิบแปดปีกออกจากป่าใบไม้ผลิ

“นี่ความตั้งใจของสภาสิบแปดปีกคืออะไรกันแน่ เทียนซิน ?” สกอร์ชชิ่งไชน์ถามจากข้างหยวนเทียนซินด้วยท่าทางเย็นชา

เขาคาดเดาแล้วว่าโอกาสที่แผนของเขาจะประสบความสำเร็จนั้นต่ำมาก เพราะโรงแรมอิสระของเมืองป่าหินนั้นมันน่าดึงดูดใจเกินกว่าที่จะทำให้มหาอำนาจต่างๆยอมแพ้ อย่างไรก็ตามนั่นมันก็เป็นเหตุผลที่ศาลาลับไม่ต้องการให้มหาอำนาจต่างๆเข้ามายุ่งกับเมืองนี้เช่นกัน

แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้คำประกาศของเมลานโครอิคสไมล์ได้ทำลายแผนการของเขาทั้งหมด และปิดโอกาสในความสำเร็จทุกๆอย่างที่เขาคิดไว้

มันคงไม่มีใครแปลกใจถ้าตอนนี้มหาอำนาจต่างๆเลิกทำเป็นเสแสร้งต่อหน้าสภาสิบแปดปีก และเริ่มเคลื่อนไหวในทันที ไม่ต้องพูดถึงการเจรจาเลย ….

ครู่หนึ่งหยวนเทียนซินพูดไม่ออก ….

ป่าใบไม้ผลิในตอนนี้นั้นอยู่ในสถานการณ์ที่ล่อแหลมมากๆ แม้แต่มหาอำนาจต่างๆเองก็จะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการพัฒนาในพื้นที่ ไม่ต้องพูดถึงสภาสิบแปดปีกเลย ดังนั้นมันจึงไม่มีทางที่สภาสิบแปดปีกจะควบคุมเมืองป่าหินได้อย่างสมบูรณ์อีกแล้ว และมันจะจัดเป็นเรื่องมหัศจรรย์มากแล้ว ถ้ากิลยังคงสามารถรักษาส่วนหนึ่งของเมืองไว้ได้

หยวนเทียนซินนั้นเคยทำงานกับซือเฟิงมาหลายครั้ง ดังนั้นเขาจึงพอจะรู้จักบุคลิกของนักดาบผู้นี้ในระดับหนึ่ง ชายคนนี้เป็นคนที่เกลียดการถูกบีบบังคับมากที่สุด และหากเขายืนยันว่าซือเฟิงจะต้องมอบส่วนแบ่งหุ้นของเมืองป่าหินมาเพื่อทำให้ตัวเองอยู่รอด การสนทนาระหว่างพวกเขาจะได้จบลงทันทีแน่นอน ดังนั้นหยวนเทียนซินที่รู้เรื่องนี้ดีจึงได้เลือกที่จะไม่ติดต่อกับซือเฟิงก่อนที่จะเจรจากับมหาอำนาจต่างๆ เพราะเขาคิดว่าเขาจะพยายามไปโน้มน้าวซือเฟิงทีหลัง เมื่อการเจรจาได้ข้อสรุปที่น่าพึงพอใจ เนื่องจากในสถานการณ์แบบนี้นั้นซือเฟิงน่าจะรู้ดีว่าสภาสิบแปดปีกจะต้องเสียสละหุ้นของเมืองป่าหินเพื่ออยู่รอด การจะรักษาการควบคุมทั้งหมดไว้มันเป็นไปไม่ได้แล้ว ….

อย่างไรก็ตามหยวนเทียนซินนั้นไม่คิดเลยว่าซือเฟิงจะโหดเหี้ยมมากพอที่จะส่งเมลานโครอิคสไมล์มาเพื่อดูหมิ่นและท้าทายมหาอำนาจต่างๆอย่างโจ่งแจ้ง คราวนี้เขาเป็นบ้าไปแล้วอย่างแน่นอน !!!

“ฮ่าๆๆ !!! นี่มันน่าสนใจจริงๆ !!! สภาสิบแปดปีกช่างเป็นกิลที่น่าประหลาดใจจริงๆ !!! แม้จนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังคงแสดงความมั่นใจแบบนี้ออกมา ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมพวกเขาถึงกล้ายั่วยุมหาอำนาจต่างๆมากมายขนาดนี้ !!! ดูเหมือนว่าการมาเยือนเมืองป่าหินของฉันครั้งนี้จะไม่เสียเปล่าแล้ว !!!” ชายสูงอายุที่มีดวงตาสีแดงเข้มที่มีตราสัญลักษณ์ของจักรวรรดิชาโด้วเลสติดอยู่ที่หน้าอก และถือคทาสีแดงอยู่กล่าวพลางหัวเราะ

“ผู้อาวุโสลู่ นี่คุณคิดว่าสภาสิบแปดปีกแค่แสดงความกล้าหาญงั้นหรอ ?” อีวิลฉีหลินจากวังปีศาจที่ถือขวานสงครามที่แผ่ออร่าแปลกๆออกมากล่าวถามชายสูงอายุที่มีดวงตาสีแดงเข้มจากจักรวรรดิชาโด้วเลสที่เขาเรียกว่าผู้อาวุโสลู่ “ตอนนี้สภาสิบแปดปีกกำลังขุดหลุมฝังตัวเองด้วยการยั่วยุเราชัดๆ !!!”

“ฉันคิดว่าคุณยังคงมีความขุ่นเคืองใจที่แพ้แบล๊คเฟรมอยู่นะ ฉีหลิน !!!” ผู้อาวุโสลู่ที่มีดวงตาสีแดงเข้มยิงคำถามกลับพลางหัวเราะเบาๆ เมื่อได้ยินคำถามของอีวิลฉีหลิน

แต่อย่างไรก็ตามแทนที่จะเถียงเรื่องนี้กับผู้อาวุโสลู่ต่อ อีวิลฉีหลินกับยิ้มและพูดว่า “สถานการณ์บนเกาะดราก้อนฮาร์ทนั้นมันก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ตอนนี้เราอยู่ในป่าใบไม้ผลิ ยิ่งไปกว่านี่ยังไม่ใช่การต่อสู้แบบทีมเล็กๆในสนามรบ เรากำลังพูดถึงความขัดแย้งกับโลกอื่นทั้งหมด สภาสิบแปดปีกไม่ได้พยายามจะเอาชนะเรา แต่กับส่งบางคนมาถ่มน้ำลายใส่หน้าเรา ถ้านี่ไม่เรียกโง่เขลา แล้วมันเรียกว่าอะไร ?”

สมาชิกคนอื่นๆของวังปีศาจพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของอีวิลฉีหลิน

เนื่องจากสภาสิบแปดปีก ชื่อเสียงขอวังปีศาจบนเกาะดราก้อนฮาร์ทจึงได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง แต่สถานการณ์นี้มันแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

ตอนนี้มีมหาอำนาจมากกว่าสิบกลุ่มมารวมตัวกันที่เมืองป่าหิน และแม้จะไม่รวมผู้เล่นจากโลกแห่งความมืด แต่พวกเขาก็มีผู้เล่นโดยรวมมากพอที่จะยุติการปกครองเมืองป่าหินของสภาสิบแปดปีกได้แน่นอน

แต่แทนที่จะเจรจาเพื่อสันติภาพ สภาสิบแปดปีกกับส่งตัวแทนออกมาตบหน้ามหาอำนาจต่างๆที่รวมกันมาอย่างโจ่งแจ้ง ถ้าพวกเขาไม่ได้โง่ พวกเขาก็ต้องบ้าไปแล้วแน่นอน !!!

หลังจากเงียบไปชั่วครู่ โทรเบิ้ลไทม์ก็ยิ้มออกมา ก่อนจะเดินไปหาเมลานโครอิคสไมล์อย่างไม่ลังเลใดๆ

“หญิงสาวจากสภาสิบแปดปีก เรามาที่นี่เพื่อจะก่อปัญหา คุณจะทำยังไงกับมันล่ะ ?” โทรเบิ้ลไทม์ถามขึ้นโดยเจตนาทำให้แน่ใจว่าผู้เล่นทุกคนในล๊อบบี้จะได้ยินเขา

เมื่อได้ยินคำพูดแกมข่มขู่ของโทรเบิ้ลไทม์ ความโกลาหลก็เข้าปกคลุมไปทั่วล๊อบบี้

“อะไรกัน ? นี่มหาอำนาจต่างๆจะสู้กับสภาสิบแปดปีกจริงๆงั้นหรอ ?”

“สภาสิบแปดปีกเรียกร้องเองนี่ แม้ว่าเราจะอยู่กันในเมืองป่าหิน แต่คุณคิดหรอว่ามหาอำนาจต่างๆจะยอมให้มีคนมาดูถูกพวกเขาโดยเจตนาแบบนี้ ?”

“สภาสิบแปดปีกนั้นจบสิ้นอย่างแท้จริงแล้วแน่นอนในคราวนี้ ตอนนี้พวกเขาไม่เพียงแต่จะต้องรับมือกับการรุกรานจากโลกแห่งความมืดเท่านั้น แต่พวกเขายังต้องเผชิญหน้ากับความโกรธเกรี้ยวของมหาอำนาจต่างๆอีกด้วย ผู้เชี่ยวชาญที่พึ่งจะเข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีกจะต้องเสียใจอย่างสุดซึ้งกับการตัดสินใจของพวกเขา”

สมาชิกของมหาอำนาจหลายคนต่างเริ่มสนทนากันเอง ขณะที่พวกเขาเฝ้ามองการสนทนาที่ตึงเครียด พวกเขานั้นแทบไม่เชื่อเลยว่าสภาสิบแปดปีกจะทำแบบนี้ ไม่มีใครคาดคิดว่ากิลจะกล้ายั่วยุมหาอำนาจต่างๆแบบนี้ แม้ว่ากิลจะอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลมมากก็ตาม

ในขณะที่ทุกคนคิดว่าเมลานโครอิคสไมล์จะมีท่าทีตื่นตระหนกนั้น เธอกับยิ้มขึ้นมาแทน และตอบโทรเบิ้ลไทม์ไปว่า “ถ้าเป็นเช่นนั้น สภาสิบแปดปีกก็จะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลบพวกคุณออกไปจากป่าใบไม้ผลิ !!!”

อีกครั้งที่ล๊อบบี้กลับมาเงียบสงัดจนน่ากลัว ….

การตอบสนองของเมลานโครอิคสไมล์นั้นถึงกับทำให้โทรเบิ้ลไทม์ต้องตกตะลึง เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมเธอถึงกล้าทำมากขนาดนี้ ตอนนี้เธอควรจะร้องไห้และขอความเมตตาไม่ใช่รึไงกัน ?

“คราวนี้ดูเหมือนว่าสัญชาตญาณของคุณจะผิดนะอิลูซะรี่ ผู้หญิงคนนี้บ้าพอๆกับหัวหน้ากิลของเธอเลย ตอนนี้เธอได้ผลักดันให้สภาสิบแปดปีกไปอยู่ในจุดที่กู่ไม่กลับแล้ว ….” ชายผู้ดุร้ายจากจักรพรรดิคริมสันกล่าวอย่างเย้ยหยันความกล้าหาญของเมลานโครอิคสไมล์

แรกเริ่มนั้นตัวแทนของมหาอำนาจต่างๆก็ต้องการจะประกาศสงครามกับสภาสิบแปดปีกอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าพวกเขายังไม่พบเหตุผลดีๆก็เท่านั้น แต่ตอนนี้สภาสิบแปดปีกกับให้เหตุผลพวกเขาแล้ว ….

หลังจากนั้นชายผู้ดุร้ายก็มองไปยังอิลูซะรี่เวิร์ด และคิดว่าตัวเองจะได้เห็นรอยยิ้มขมขื่นของเธอ หลังจากที่เธอตัดสินสภาสิบแปดปีกผิดไป แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้เขากับมองเห็นว่าเธอกำลังสนใจอ่านข้อความที่เธอพึ่งได้รับมาอย่างมาก และหลังจากนั้นครู่หนึ่งเธอก็เงยหน้าขึ้น ก่อนที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆและบอกพรรคพวกของเธอว่า “สัญชาตญาณของฉันอาจจะผิด แต่คำประกาศของเธอไม่ได้เป็นเช่นนั้น !!!”