บทที่ 642 เหตุผลที่ข้าชอบท่าน

Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน

Dual Cultivation บทที่ 642 เหตุผลที่ข้าชอบท่าน

 

“ข้าถึงขีดจํากัดของข้าแล้ว… สลับตัวกับข้า…” ซีหวังหันไปมองที่เจ้าซี หลังจากใช้พลังวิญญาณของเขาหมดในสี่ชั่วโมงซึ่งนานกว่าซีซิงฟางเพียงเล็กน้อยแม้ว่าจะอยู่ในเขตราชันวิญญาณก็ตาม

 

“ฮ่าาาาา … นี่เป็นครั้งแรกของข้าที่จะถ่ายโอนพลังวิญญาณของตัวเองไปให้คนอื่น และเมื่อมาคิดว่าคนนั้นเป็นซูหยางแทนที่จะเป็นคนอื่น … เจ้าชี้แอบถอนใจ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะปฏิเสธได้ เพราะ ซูหยางเป็นเหตุผลเดียวที่จะทําให้เขาได้ทําตามความฝันของตนเองในการเดินทางไปยังทวีปศักดิ์สิทธิ์กลาง

 

ไม่กี่อึดใจต่อมาเจ้าซีก็ได้แลกเปลี่ยนตําแหน่งกับซีหวัง และเริ่มถ่ายโอนพลังวิญญาณของเขาให้กับซูหยาง

 

เทพเจ้า อัตราการใช้พลังวิญญาณนี้ช่างเหลือเชื่อสิ้นดี ในอัตรานี้พลังของข้าจะหมดเวลาในสองชั่วโมง เจ้าซีตื่นตัวขึ้นในทันที กับความเร็วของพลังปราณไร้ลักษณ์ที่กําลังหายไป รู้สึกราวกับว่าเขากําลังป้อนอาหารในหลุมไร้กันด้วยพลังปราณไร้ลักษณ์ของเขา

 

และก็เป็นเช่นเดียวกับที่เขาคาดการณ์ไว้ สองชั่วโมงต่อมาเจ้าซีก็เกือบหมดพลังวิญญาณจากตันเถียน

 

“นี่คือทั้งหมดที่ขาสามารถช่วยได้ในตอนนี้ … “เจ้าซีกล่าวในขณะที่เขาหยุดถ่ายโอนพลังปราณไร้ลักษณ์ของเขาให้กับซูหยาง

 

“ข้าจัดการส่วนที่เหลือเองได้” ซูหยางพยักหน้าอย่างสบายๆ

 

“เจ้าเป็นคนบ้าคลั่งจากนรก ซูหยางเจ้ารู้ตัวใช่ไหม” เจ้าชีพูดกับเขาต่อจากนั้น และก็พูดต่อไปอีกว่า “ถ้ามิใช่เพราะเจ้าเกิดในตระกูลซู ข้าคงเข้าใจผิดว่าเจ้าเป็นคนจากต่างโลกที่มิได้อยู่ในโลกนี้ ผู้ที่มาจากฟากฟ้าดาราพราว”

 

“…” ซูหยางนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูด “จริงแล้ว เจ้าก็พูดได้ไม่ไกลเกินไปจากความเป็นจริงเลย”

 

“เอ๋” เจ้าซีมองเขาด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง แม้แต่ซีหวังและซีซิงฟางก็หยุดฝึกวิชา เพื่อที่จะมาจ้องมองเขาด้วยสีหน้าตกตะลึง บ้าแล้ว นี่ซูหยางหมายความว่ายังไง เมื่อตอนที่เขาพูดเช่นนั้น

 

“เอ้อ มิมีอันตรายอะไรหากจะบอกเจ้าในตอนนี้ เพราะความจริงก็จะเปิดเผยไม่ช้าก็เร็ว” ซูหยางหยุดเรือบินแล้วลุกยืนขึ้น

 

จากนั้นเขาก็มองไปที่ตระกูลซีและพูดด้วยสีหน้าจริงจัง แต่ด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ข้าอาจจะเกิดมาในโลกนี้ แต่นี่ไม่ใช่ชีวิตแรกของข้า เนื่องจากข้ามความทรงจําเกี่ยวกับชาติที่แล้วของข้าจากโลกอื่นในฐานะเซียน”

 

หลังจากเงียบไปนาน ซีหวังก็พูดด้วยเสียงสั่นสะท้าน “จ-จ-เจ้าหมายถึง … เหมือนกับการเกิดใหม่ …งั้นรึ”

 

ซูหยางพยักหน้าและกล่าวว่า “แม้ว่าข้าจะมิรู้ว่ามันเป็นการกลับชาติมาเกิดจริงๆหรือไม่ แต่เราก็อาจเห็นว่ามันเป็นเช่นนั้นก็ได้เช่นกัน”

 

จากนั้นเขาก็ดึงยาแปลงโฉมและกลืนมันลงไป

 

ในเวลาต่อมารูปร่างหน้าตาของเขาก็เปลี่ยนไป กลายเป็นหล่อเหลาและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

 

“ร่างกายของข้าอาจจะอายุแค่ 18 ปี แต่ข้ามีชีวิตอยู่มาหลายพันปีแล้ว …”

 

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เจ้าซีก็เริ่มหัวเราะออกมาดังๆ “ม-ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทําไมเจ้าถึงมีพลังมากขนาดนี้ทั้งที่อายุยังน้อย ข้ารู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครที่จะมีพรสวรรค์พ้นโลกเช่นนี้ นี่หมายความว่าหงอี้วเอ๋อร์ก็ คือเซียนที่กลับชาติมาเกิดใหม่และเธอก็ยังคงเก็บความทรงจําในชีวิตก่อนหน้านี้ไว้ใช่ไหม”

 

“ไม่ สถานการณ์ของหงอวี่เอ๋อร์นั้นพิเศษอยู่บ้าง แต่เธอก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่ถือกําเนิดมาในโลกนี้ อย่างไม่ต้องสงสัย” ซูหยางกล่าวและต่อไปอีกว่า “อย่างไรก็ตาม เพียงเพราะข้าได้เปรียบจากความทรงจําของเซียนนั้น มิได้หมายความว่าพรสวรรค์เช่นนั้นจะไม่มีอยู่จริง แม้ว่าเจ้าจะไม่รู้ แต่ก็มีอัจฉริยะจํานวนนับไม่ถ้วนในที่ ข้าจากมาที่สามารถเปลี่ยนมุมมองของเจ้าเกี่ยวกับยุทธภพด้วยพรสวรรค์ของพวกเขาเอง”

 

“ละแล้วเทพธิดาทั้งสองนั้นล่ะ พวกเธอเป็นผู้ฝึกวิชาจากโลกของเจ้าด้วยงั้นรี” ซีหวังถามเขารู้สึกราวกับว่าตนเองกําลังรู้แจ้งด้วยข้อมูลเหนือโลกมากมายเหล่านี้

 

“อื้อ” ซูหยางพยักหน้า

 

“ไม่น่าเชื่อ… เมื่อมาคิดว่าจะมีโลกอื่นอยู่ด้านนอกท้องฟ้านี้จริง…” ซีหวังมองไปที่ท้องฟ้าใส ด้วยใบหน้าที่สับสน

 

“ซูหยาง… เมื่อท่านบอกว่าท่านจะออกจากที่นี่ในอนาคตและอาจจะไม่กลับมา ท่านกําลังจะบอกว่าท่านจะกลับไปที่โลกของท่าน โลกที่ท่านจากมางั้นรึ” ซีซิงฟางพูดเป็นครั้งแรก

 

“ถูกต้องแล้ว เจ้าผิดหวังไหมหลังจากที่ได้รู้ความจริงที่ว่า ข้าไม่ใช่ชายหนุ่มอัจฉริยะอย่างที่เจ้าคิด” จู่ๆซูหยางก็ถามเธอ

 

อย่างไรก็ตาม ซีซิงฟางรับส่ายหน้าและพูดว่า “นั้นผิดแล้ว ซูหยาง ข้ามิได้ผิดหวัง แม้ว่าตอนนี้ข้าไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกในใจตอนนี้ได้อย่างไร แต่ก็ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน”

 

และเธอพูดต่อหลังจากหายใจเข้าลึกๆว่า “สิ่งที่ข้าชอบเกี่ยวกับท่าน เหตุผลที่ข้าชอบท่าน ซูหยาง ไม่ใช่เพราะความสามารถของท่าน เหตุผลที่ข้าชอบท่าน ซูหยาง เป็นเพราะวิธีที่ท่านพูดกับข้า และวิธีที่ท่านมองข้า ข้าชอบน้ําเสียงที่สงบและผ่อนคลายของท่านเมื่อตอนที่พูดกับข้า และข้าชอบวิธีที่ท่านมองเข้ามาในดวงตาของข้าอย่างอ่อนโยน ท่านเป็นคนเดียวที่สามารถจ้องมองข้าโดยไม่ทําให้ข้ารู้สึกอึดอัด ที่จริงข้าชอบเวลาที่ท่านมอง ข้าด้วยดวงตาสดใสคู่นั้น”

 

“ดังนั้น แม้ว่าท่านจะไม่ใช่อัจฉริยะที่สามารถครองยุทธภพได้ข้าก็ยังคง…”ซีซิงฟางหยุดประโยคของเธ ทันที โดยไม่กล้าที่จะพูดต่อไปอีก เพราะกลัวว่าเธอจะตกหลุมรักเขาจริงๆ ถ้าเธอทําเช่นนั้น

 

ในขณะเดียวกัน เจ้าซีและซีหวังก็กําลังจ้องมองเธอด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อในสิ่งที่พวกเขาเพิ่งได้ยิน แม้ว่าซีซิงฟางจะยังพูดไม่จบประโยค แต่แม้กระทั่งคนงี่เง่าที่ไม่มีประสบการณ์ด้านความรักก็ยังสามารถบอกได้ถึงสิ่งที่เธอต้องการจะพูดออกมาได้

 

สําหรับซูหยางแล้ว เขายิ้มอย่างอ่อนโยนตลอดเวลา และเขาก็พูดในอีกสักครู่ต่อมาว่า “ข้ารู้สึกยินดีกับความรู้สึกของเจ้า และถ้าเจ้ารู้สึกต้องการจะพูดประโยคนั้นต่อให้จบ ข้าก็ยินดีรับฟังเสมอ”

 

“อื้อ…” ซีซิงฟางพยักหน้าพร้อมกับใบหน้าแดงระเรื่อ เพราะนี่อาจเป็นสิ่งที่น่าอับอายที่สุดที่เธอเคยพูดกับใครมาในชีวิตของเธอ