ตอนที่ 2030
แข่งแล้ว
ยิ่งเป็นอย่างนี้ก็ยิ่งน่าสัมภาษณ์
มีคนบอกว่าจะต้องให้คำตอบกับทุกคน ดังนั้นจึงมารอกันที่ใต้ตึก
ของคลับ
ในสถานการณ์แบบนี้ ไม่ว่าหลินเฟิงจะออกมาหรือไม่ก็ไม่มีวัน
เปลี่ยนอะไรได้
เดิมทีทีมไดมอนด์ไม่อนุญาตให้คนบางกลุ่มเข้ามาด้านใน แต่เด็กฝึก
สามคนที่เคยให้สัมภาษณ์กลับคิดว่าตัวเองต้องถนอมความรู้สึกของ
แฟนคลับ จะให้คนบางกลุ่มเข้ามาก็ไม่เห็นเป็นอะไร
ยิ่งไปกว่านั้น หากไม่มีชนักติดหลัง ทำไมคนในทีมถึงไม่กล้า
เผชิญหน้า
การแข่งในรอบนี้เป็นการไลฟ์ สด คนในบริษัทต่างอยู่ในงาน กำลัง
ปรึกษากันว่าจะใช้กฎเกณฑ์ไหนเลือกสมาชิก
ก่อนอื่นเริ่มพิจารณาจากการให้ความร่วมมือกันในทีม แน่นอนว่าสิ่ง
ที่สำคัญที่สุดอยู่ที่ความสามารถเฉพาะบุคคล
ไม่ว่าจะเป็นทีมไหน ต่างก็อยากได้สมาชิกที่มีความสามารถในการ
เล่นเดี่ยว
เมื่อเลือกคนแบบนี้ออกมาได้แล้ว ก็เข้าสู่การพิจารณาด้านความรู้ใจ
กับเพื่อน ๆ ในการเล่นประเภท ซึ่งเป็นมาตรฐานในการคัดเลือก
สมาชิกเข้าทีม
แต่เด็กฝึกทั้งสามกลับไม่คิดเช่นนั้น พวกเขาคิดว่าทางบริษัทเลือก
คนด้วยอคติ ไม่เป็นไปตามหลักการที่ประกาศไว้แต่แรก ไหนบอก
ว่าจะเน้นที่ทีมไง ทำไมชอบหลอกคนอื่นตลอด
เด็กฝึกทั้งสามปรึกษากันแล้ว จึงเอาเรื่องไปเล่าให้พวกแฟนคลับที่
ตัวเองพาเข้ามาฟัง
พวกแฟนคลับที่อยากได้คำอธิบายพอดีได้ยินคำพูดเหล่านี้แล้วต่าง
รู้สึกผิดหวัง เสียใจ และโกรธเกรี้ยว
พวกเด็กฝึกก็รู้สึกอย่างเดียวกัน ถ้าใช้มาตรฐานนี้เลือกสมาชิก คนได้
ที่หนึ่งก็ต้องเป็นเจ้า Bey ที่โอหังไม่เบานั่นอยู่ดี
ทำไมพวกเขาต้องมาโดนเด็กคนหนึ่งกดหัวตลอดด้วย
เพียงเพราะมันประจบเอาใจแบล็กพีช Z เก่งงั้นเหรอ
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ พวกเขาก็ผิดหวังกับแบล็กพีช Z มาตั้งแต่แรกแล้ว
เป้าหมายของพวกเขาในตอนนี้ชัดเจน อุตส่าห์ขยันมานานหลายปี
จะมาโดนเขี่ยทิ้งอย่างนี้ไม่ได้ อย่างไรเสียพวกเขาสามคนได้อยู่กลุ่ม
เดียวกัน ถึงเวลานั้นก็หาแผนการเล่นเจ๋ง ๆ ขอแค่ลากคนอื่นให้อยู่
ด้วยกันถึงตอนท้ายได้ก็พอ
เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ การแข่งเปิดสนามใกล้เข้ามาถึง
แต่ในเวลานี้กลับมีคนโพสต์รูปภายในบริษัท พร้อมระบุว่ากติกาการ
แข่งในครั้งนี้มีปัญหา
เมื่อป๋อจิ่วและโคโค่เดินมาถึง แฟนคลับที่เข้ามาก็เอาแต่ถ่ายรูป ป๋อจิ่ว
ซุกมือข้างหนึ่งในกระเป๋ ากางเกง หันไปถามผู้ช่วยข้างตัว “พวกเขา
เป็นคนจากแผนกไหน เราน่าจะบอกแล้วนะว่าห้ามถ่ายรูปภายใน
บริษัท”
“เอ่อ ผมก็ไม่ทราบ” ผู้ช่วยทำหน้างง “ผมจะไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้ล่ะ
ครับ”
ป๋ อจิ่วหันไปมองทางนั้น สายตาจับจ้องใบหน้าพวกเขา เอ่ยช้า ๆ ว่า
“ไม่ต้องตรวจสอบ ไม่ใช่คนใน”
เวลานี้ คนเหล่านั้นก็เห็นป๋ อจิ่วและโคโค่
สายตาจับจ้อง ทั้งยังเดินเข้ามาหา
ผู้ช่วยคิดจะกันไว้ ทว่ากันไม่ไหว ถ้าเรียกยามมาเอาตัวออกไปก็คงมี
เสียงด่ามากมายในโลกออนไลน์ เช่นว่าไม่ถนอมน้ำใจแฟนคลับ
ยามของไอดอลผลักคนเป็นต้น ข่าวแบบนี้มีให้เห็นออกมากมาย
หากเป็นตัวป๋อจิ่วเองก็คงไม่สนใจอะไรแล้วเดินจากไปทันที แต่นี่
เธอมาเป็นตัวแทนทีมไดมอนด์จึงทำอะไรตามใจตัวไม่ได้
แบบนี้มันเซ็งจริง ๆ
ป๋ อจิ่วยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ไม่พูดอะไร ทำแค่ยิ้มมุมปาก สายตาจับจ้อง
หน้าจอมือถือของคนเหล่านั้น ในดวงตาพอจะเห็นความร้ายกาจอยู่
ราง ๆ
คงเพราะเห็นนัยแฝงจากรอยยิ้มนั่น คนที่โพสต์รูปจึงเปิดฉากทันที
“น่าผิดหวังจริง ๆ พวกเรารอทีมไดมอนด์มานานหลายวันก็ไม่ยอม
ออกมาอธิบายสักที ตอนนี้ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ แก้กติกาการแข่งขัน
เฉยเลย พวกเธอตั้งกฎกันอย่างนี้เหรอ?”
ตอนที่ 2031
ฉันเอาจริง
ป๋อจิ่วได้ยินแล้วเอียงศีรษะ “เปลี่ยนกติกา? เมื่อไร?”
“ก่อนหน้านี้บอกว่าเน้นเรื่องทีมเวิร์คไง ตอนนั้นเปลี่ยนมาเป็นตัว
บุคคลแล้ว”
ป๋อจิ่วเงยหน้ามองทันทีที่ได้ยิน “ดูเหมือนพวกเธอจะเข้าใจทีมได
มอนด์ผิดไปนะ หลักการคัดเลือกสมาชิกของเราก็เป็นแบบนี้มาแต่
ไหนแต่ไรแล้ว มา ดูฉันสิ ระดับปรมาจารย์ยอดนักฆ่าเลยนะ หรือจะ
ดูท่านเทพก็ได้ คนเดียวนำฟอร์มได้ทั้งเกม พวกเราอยากได้คนแบบ
นี้ ไม่งั้นจะแข่งไปทำไม เล่นอยู่บ้านสนุกกว่าเยอะ”
“เธอ…ช่างเถอะ” คนคนนั้นไม่อยากพูดอีก “เกิดเรื่องเยอะขนาดนี้
พวกเธอไม่สำนึกเลยนะ”
ป๋อจิ่วยิ้ม ๆ
โคโค่อยากพูดบ้าง แต่ถูกเธอห้ามไว้ ด้วยอยากให้พวกนั้นออกไป
แต่โคโค่เข้าใจว่าไร้ประโยชน์
หากเทียบกับเรื่องนี้แล้ว ป๋ อจิ่วสนใจมากกว่าว่าใครเป็นคนพาคน
นอกเข้ามา เมื่อหันไปมองก็เห็นร่างสามคนนั้นที่อยู่ไม่ไกล
เป็นอย่างนี้นี่เอง
ป๋ อจิ่วหันหน้าจะเดินจากไป ก็พลันได้ยินคนข้างหลังพูดขึ้นก่อน
“เรื่องของหลินเฟิง พวกเธอจะเอาแต่เงียบหรือไง เอาแต่เงียบอย่าง
เดียวใช่ไหม?”
ป๋อจิ่วซุกมือลงในกระเป๋ากางเกง “หลินเฟิงลาออกจากวงการไปแล้ว
ไม่เงียบแล้วจะให้ทำอะไร?”
“เก่งจังเนอะ โยนความรับผิดชอบให้พวกเรา ถ้าเขาไม่ทำอะไรผิดจะ
ลาออกทำไม!”
ป๋ อจิ่วหยักยิ้ม “พูดอะไรไปก็มีคนบิดเบือนความหมายหมด ถ้าเลือก
ที่จะเงียบมันผิดตรงไหน”
“เธอ! ฉันจะให้ทุกคนได้รู้โฉมหน้าที่แท้จริงของพวกเธอ”
ป๋ อจิ่วหันกลับมา ก่อนจะก้าวเดินอีกครั้ง “ตามสบาย”
เวลานี้มีอีกคนร้องตะโกนว่า “พวกเราสนับสนุนพวกเธอมาตั้งนาน
นี่เราสนับสนุนใครกัน แน่ใจเหรอว่าพอมีคนที่นำฟอร์มได้ทั้งเกม
ตามที่เธอว่าแล้ว ทีมไดมอนด์จะไปรอด”
“ไม่แน่ใจหรอก” ป๋อจิ่วตอบเสียงเรียบ “แต่เจอพอดีเลย จะได้แนะนำ
ให้พวกเธอรู้จัก ลูกศิษย์ฉันเอง Bey ที่ลือกันว่าเข้ามาได้เพราะ
หน้าตา อันที่จริงพวกเราก็ชอบเขามากนะ ฉันเลือกเขามา ไม่ได้จะ
ให้เขาแบกทีมไดมอนด์ตลอดไป เขาทำได้เท่าไรก็เอาเท่านั้น ทีมได
มอนด์ไม่ใช่ทีมที่ผูกมัดใคร”
“พวกเธอก็เลยไม่รับผิดชอบต่อทีมแบบนี้น่ะเหรอ!”
ป๋ อจิ่วไม่ได้ตอบคำถามนี้ เธอเดินจากไปจริง ๆ
แต่ตอนที่จะเลี้ยวก็เห็นร่างเล็ก ๆ นั่น
ร่างนั้นไม่ได้สวมชุดของตัวเอง แต่เป็นชุดยูนิฟอร์มที่มีสัญลักษณ์
ทีมและแบกเป้เหมือนเดิม ในเป้มีคีย์บอร์ด red switch ด้วย
เมื่อก่อนเจ้าหล่อนมักมีสีหน้าไร้อารมณ์ ทำให้โคโค่เห็นทีไรเป็น
ต้องหยิกแก้มเธอ ทั้งยังล้อว่าเด็กหน้านิ่ง ตอนนี้เจ้าหล่อนยิ้มออก
แล้ว หูยังแดงอีกด้วย
โคโค่มีสีหน้าตกใจ ลากป๋อจิ่วมาคุยด้วย “แบล็กพีช รีบไปดูซิว่าเด็ก
มันไข้ขึ้นหรือเปล่า ยิ้มอยู่นั่นแหละ เฮ้ย! ฉันละนึกว่าเด็กนั่นจะยิ้ม
ไม่เป็น”
ป๋ อจิ่วกลับอ่อนใจ “ขึ้นชื่อว่าเป็นคนก็ต้องยิ้มเป็นทั้งนั้นแหละ นาย
ตื่นเต้นไปทำไม”
“ว้าว นายใจเย็นเกินไปแล้ว หยิบมือถือมาถ่ายรูปมั่วเป่ ยเร็ว” โคโค่
กอดตุ๊กตากระต่ายตัวเองไว้ หยิบมือถือไม่ได้ จึงตัดสินใจยัดตุ๊กตา
ใส่อ้อมแขนของเด็กน้อยแล้วหยิบมือถือขึ้นมา “ฉันต้องส่งให้พวก
หลินเฟิงกับเฮียเย่าดู มั่วเป่ยยิ้มที น่ารักมาก พวกที่ฆ่าคนในเกมโหด ๆ
นี่หน้าตาน่ารักกันหมดเลยเหรอ?”
ป๋ อจิ่วยื่นมือขยี้ศีรษะอีกฝ่ายเบา ๆ มุมปากยังคงแยกยิ้ม เธอคิดในใจ
ว่านายไม่เคยเห็นท่านเทพยิ้มตอนเด็ก ยิ่งน่ารักจนอยากกอดเลย
ทีเดียว
มั่วเป่ ยยังคงหน้าแดง ทว่าสีหน้ายังเท่เหมือนเดิม เธอเงยหน้าพูดกับ
ป๋ อจิ่ว “รองหัวหน้า ฉันเป็นลูกศิษย์ของรองหัวหน้าตั้งแต่เมื่อไร?
ฉันได้เป็นจริง ๆ งั้นเหรอ…”