ตอนที่ 632 : นัยน์ตาเพลิงนรก

Virtual World – Peerless White Emperor

ภายในบึงฟองอากาศร้อนบนโคลนเดือดขึ้นมากกว่าเดิม ทุกคนตื่นตัว ภายใต้คำสั่งของเย่เทียน ​​NalanPureSoul และทีมนักเวทของเขาก็เตรียมพร้อมที่จะใช้เวทมนตร์ ในขณะที่ LordAsked, จางเจิ้งเฉียง และคนอื่นๆ ยืนอยู่ด้านหน้าเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้

“มันคือสไลม์…” VastSea เห็นฝูงสไลม์สีน้ำตาลเข้มโผล่ออกมาจากโคลน

เย่ฉางมองสไลม์ และรีบใช้สกิลตรวจสอบทันที

Fallen Oil Swamp Slime (Slime – Elite): สไลม์ที่เกิดขึ้นจากมลพิษ ไม่ทราบแหล่งที่มาของมลพิษ, ไม่ทราบจุดอ่อน แต่มีสิ่งหนึ่งคืออย่าใช้ไฟกับมันโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวท [Hellfire] ฮิ ฮิ คุณไม่อยากรู้หรอกว่าทำไม

“นักเวทคนอื่นๆอยู่แถวกลาง ส่วนนักเวทธาตุไฟอยู่แถวสุดท้าย และเตรียมร่ายเวทโจมตี!” NalanPureSoul โยน [Rings of Hellfire] ออกไป

“เดี๋ยว…” เย่ฉางตกตะลึง เมื่อเขาเห็นท้องฟ้าเต็มไปด้วยลูกไฟที่บินไปทางสไลม์ “ …ก่อน”

NalanPureSoul มองเขาด้วยความสงสัย “มีอะไรผิดปกติ?”

“อืม…ฉันคิดว่าเราไม่สามารถใช้ไฟกับสไลม์นี้ได้…” เย่ฉางพูดเบาๆ เมื่อตอนลูกไฟทั้งหมดเกือบตกลงบนตัวสไลม์

“ …… ทำไมนายไม่รีบบอกเร็วๆกว่านี้!” NalanPureSoul รู้สึกเป็นกังวล

“ตูม!”

เมื่อเวทไฟทั้งหมดตกลงบนฝูงสไลม์ ทั้งบึงก็ระเบิดกลายเป็นทะเลเพลิงทันที ราวกับว่ามีคนราดน้ำมันลงในบึงแล้วจุดไฟ สไลม์ที่เคลื่อนไหวช้ามากในตอนแรก จู่ๆกลับมีความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ร่างกายของมันกำลังถูกเผาไหม้ด้วยเปลวไฟ และดวงตาของมันก็เปล่งประกายสีแดง สไลม์นั้นเหมือนปีศาจที่หลุดออกมาจากทะเลขุมนรก แล้วมันก็พุ่งเข้าหาพวกเขาด้วยปากที่เปิดกว้าง

“ยกเว้นนักเวทธาตุดิน นอกนั้นหยุดการร่ายเวทให้หมด! รวมถึงนักเวทธาตุสายฟ้า, ลม และน้ำด้วย!” เย่เทียนตะโกนสั่ง ‘ไฟแรงเกินไป! เราจะต้องไม่เพิ่มลมและน้ำ! สไลม์นี้ยากที่จะจัดการ หากมีลมและน้ำเพิ่มเข้ามาอีก พวกมันก็จะช่วยให้สไลม์ลุกไหม้ได้ดียิ่งขึ้น! และมันจะกลายเป็นหายนะ!’

“ตูม!” LordAsked กระเด็นลอยออกไป เขาหมุนตัวกลางอากาศ และปักดาบลงบนพื้นในขณะที่เขาร่อนลง เมื่อเห็นพลังชีวิตที่หายไปมากกว่าครึ่ง เขาก็ตกใจ ‘บ้าจริง! สไลม์นี้มันจะระเบิดเมื่อมันกำลังตาย! อีกทั้งพลังทำลายล้างและระยะโจมตีก็ไม่ใช่น้อยๆ!’ เขารีบตะโกนเตือน “อยู่ให้ห่างจากสไลม์เหล่านั้น!”

เย่ฉางใช้สกิลตรวจสอบอีกครั้ง

Fallen Hellfire Swamp Slime (Slime – Abyss – Advanced elite) : สไลม์บึงที่ถูกจุดไฟด้วยเวท [Hellfire] ความเสียหายของมันนั้นสูงมาก! นอกจากนี้มันจะระเบิดเมื่อมันกำลังจะตาย ลูกตาที่ถูกไฟไหม้เป็นวัสดุที่หายาก เนื่องจากมีประโยชน์ในหลายๆด้าน ยิ่งเปลวไฟแรงมากเท่าไหร่ คุณภาพก็จะยิ่งสูงขึ้นมากเท่านั้น เคล็ดลับเล็กๆน้อยๆ : ควักลูกตาเมื่อตอนสไลม์บึงเตรียมที่จะระเบิด จะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในได้วัสดุคุณภาพที่ดี

เย่ฉางจึงเก็บปืนของเขา และหยิบมีดทำอาหารพร้อมกับเปิดใช้งาน [Pursuit] – [Powerful Attack] เขาเริ่มเล็งสไลม์ที่กำลังจะระเบิด ด้วยความเร็วและความคล่องแคล่วที่ไม่ธรรมดาของเขา เขาสามารถควักลูกตาที่ไหม้ได้เกือบทั้งหมด ก่อนที่ร่างสไลม์จะระเบิด ท่ามกลางลูกตาที่เขาเก็บรวบรวมมา ลูกตาบางส่วนมีเปลวไฟลุกอยู่ในนั้น ราวกับว่ามันเป็นวัสดุที่มีค่าซึ่งกำลังจะระเบิดได้ทุกเมื่อ

LordAsked รู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นทักษะของเย่ฉาง ด้วยการใช้มีดเฉาะและควักออกมา เย่ฉางก็ได้ลูกตามาได้อย่างง่ายดาย ‘ทักษะการแยกส่วนที่เขามีนั้นร้ายกาจมาก’

เนื่องจากการกระทำของเย่ฉาง ความกดดันของแนวหน้าจึงลดลงอย่างมาก แต่ถึงกระนั้นไฟบนบึงก็ไม่ได้จางหายไป แต่ดูเหมือนว่าพวกมันจะรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม ทันใดนั้นเย่เทียนก็สังเกตุเห็นว่าพวกสไมล์ที่ซึ่งกำลังจะออกมาจากเปลวไฟ จู่ๆพวกมันกลับล่าถอย บึงสีน้ำตาลเข้มเริ่มหมุนวนอีกครั้งจนกลายเป็นกระแสน้ำวน ทันใดนั้นลูกตาที่ลุกไหม้ขนาดยักษ์ก็โผล่ออกมาจากกระแสน้ำวน และบึงที่กำลังลุกไหม้อยู่รอบๆก็เคลื่อนที่เข้าหามัน

Fallen Eye of Hellfire – Evansrosas (Half slime assimilation – Abyss – Leader – Special field): นัยน์ตาเพลิงนรก มันคือสิ่งมีชีวิตที่อันตรายซึ่งมีอยู่ในนรก เชี่ยวชาญในเวทมนตร์ [Hellfire] มาก ร่างครึ่งหนึ่งมีเมือกผสมอยู่ มันเป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ผสม

เย่ฉางบอกข้อมูลของบอสกับเย่เทียน เธอรีบวิเคราะห์ความเป็นไปได้ทุกประเภทอย่างรวดเร็ว ‘ถ้ามันเป็นนัยน์ตาเพลิงนรกที่สมบูรณ์ ครึ่งหนึ่งของมันจะไม่ถูกหลอมรวมกับเมือกเด็ดขาด ที่เป็นเช่นนี้จะต้องเป็นเพราะแหล่งมลพิษ และมันน่าจะต้องหลับอยู่ในสภาพถูกปิดผนึก ซึ่งเวทไฟและเวท [Hellfire] ปลุกมันตื่นขึ้นมา’ เมื่อคิดเกี่ยวกับมัน เย่เทียนก็ขมวดคิ้ว ‘ตามข้อมูลในห้องสมุด นัยน์ตาเพลิงนรกเป็นสิ่งมีชีวิตที่อันตรายมาก ความแข็งแกร่งของมันมีมากกว่าเฮลฮาวนด์-ดูโดซ่า ซึ่งเป็นบอสที่เราพบในขณะที่ช่วย NalanPureSoul ทำเควสอาชีพ’

ดวงตาของสไลม์ยักษ์ในกระแสน้ำวนที่ลุกเป็นไฟทำให้ทุกคนสั่นสะท้าน ‘เจ้านี่รับมือยากมาก’

“นักเวทลม, ไฟ, น้ำ และสายฟ้าให้ใช้เวทลับ! เตรียมตัวยิง!” NalanPureSoul สั่งทีมนักเวททันที ในอีกด้านหนึ่งเย่ฉางเห็นว่าลูกธนูของนักธนูถูกเผาด้วยเปลวไฟ ในขณะที่พวกมันโดนตัวบอสโดยไม่สร้างความเสียหายอะไรเลย ‘ความต้านทานทางกายภาพของบอสตัวนี้สูงมาก ที่แย่ที่สุดคือสกิลตรวจสอบไม่บอกจุดอ่อนของมันเลย ถ้าเราสามารถแช่แข็งมันได้ก็คงจะดี แต่ถ้าเวทมนต์ธาตุน้ำไม่สามารถถึงปริมาตรที่กำหนดได้ ก็จะเป็นเหมือนการเติมน้ำมันลงไปในไฟแทน’

อย่างไรก็ตาม ThornyRose สังเกตเห็นบางสิ่งที่แปลก ซึ่งเธอเห็นปฏิกิริยาตอบสนองของบอสช้าลงเล็กน้อย “มีหลายครั้งที่มันตอบสนองต่อการโจมตีที่เข้ามาช้ากว่าที่ควรจะเป็น”

เย่เทียนขมวดคิ้ว ‘ปฏิกิริยาตอบสนองของบอสไม่ได้ช้าเลย แต่เป็นเพราะมันกำลังปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม เหมือนคนพิการที่เรียนรู้วิธีเดินอย่างกะทันหัน ร่างกายของมันต้องการการปรับตัวสักพัก ความต้านทานทางกายภาพของมันนั้นสูงเกินไป อีกทั้งการร่ายเวทมนตร์ธาตุน้ำจะช่วยให้เปลวไฟเผาไหม้ได้มากขึ้นอีกด้วย ตอนนี้เราจะทำอย่างไรดี? ตอนนี้เราได้แต่พึ่งพาพี่ใหญ่เฉียงและตัวแท้งค์คนอื่นๆสกัดกั้นมันเท่านั้น ถึงกระนั้นผู้เล่นสายต่อสู้ระยะประชิดหลักๆ ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเข้าโจมตีบอสได้ คนอื่นจะตายถ้าพวกเขาเข้าไปในระยะโจมตีของบอส นอกจากนี้มันเริ่มที่จะใช้เวทมนตร์บ้างแล้ว ดูเหมือนว่าเราจะเสียคนไปไม่น้อย เฮ้อ! เราไม่ควรจุดไฟใส่บึงน้ำมันนี่ตั้งแต่แรก’ เธอถอนหายใจและมองท้องฟ้าผ่านหินงอก ‘มันเริ่มมืดแล้ว ทักษะกลยุทธ์ของพ่อควรจะคูลดาวน์เสร็จในไม่ช้า เราสามารถใช้ทักษะนี้และพยายามโจมตีมันด้วยธาตุน้ำอย่างเต็มรูปแบบ ถ้าไม่สำเร็จ…เราจะติดเหงกอยู่ที่นี่’

เมื่อพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า หญิงสาวสวยที่สวมผ้าคลุมหน้าสีฟ้ากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ทำจากคริสตัลพระจันทร์สีฟ้า สถานที่ทั้งหมดนั้นเต็มไปด้วยคริสตัลพระจันทร์ แต่บริเวณนี้กลับเงียบมาก เธอกำลังจ้องภาพในคริสตัลน้ำ มันเป็นภาพสีหน้าของคนหลายๆคนที่รู้สึกทำอะไรไม่ถูก จากนั้นคริสตัลน้ำก็แสดงใบหน้าของเย่ฉาง ‘สามพี่น้องเทพธิดาโง่เง่านั่นพยายามจะฟื้นพลังกลับคืนมา ตอนนี้มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น ก่อนที่พวกเธอจะกลายเป็นเทพธิดาระดับสอง’ จากนั้นเธอก็นึกถึงช่วงเวลาที่เธอดื่มกับอันย่า เธอรู้จากอันย่าว่ามีผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อ PaleSnow ที่เรียกตัวเองว่านักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ชายคนนี้คอยช่วยพวกสามเทพธิดาในการฟื้นพลัง ยิ่งไปกว่านั้นด้วยเสียงที่เมาของอันย่า เธอรู้ว่าอันย่านับถือนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่คนนี้มากเพียงใด ถึงขนาดมีแม้แต่ความกลัวอยู่เล็กน้อย เธอจ้องมองรอยยิ้มอันสงบของเย่ฉางขณะสวมฮู๊ดหัวหมาป่า เธอครุ่นคิด ‘เขาดูมีบุคลิกที่เข้าหากับคนอื่นได้ดี’ เธอตัดสินใจบางอย่าง ‘เนื่องจากสามพี่น้องเทพธิดานั่นเริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้น ฉันในฐานะเทพธิดาจันทร์เสี้ยว ฉันไม่สามารถอยู่ในอันดับที่สามได้ ฉันต้องฟื้นความรุ่งโรจน์ของฉันกลับคืนมา!’