ถังซี เซียวเหยา และเซียวเจี่ยนมาถึงเซียวกรุป 

 

 

ที่เซียวกรุป ฉินเย่ว์กำลังหน้าดำคร่ำเครียดรอเซียวโหรว ไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาถูกเด็กสาววัยยี่สิบสามปีหลอก! ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนเป็นเด็กไร้เดียงสา แต่กลับหลอกล่อเขาได้สำเร็จ! 

 

 

ที่สำคัญคือชีวิตฉินหลัว น้องสาวเขาอยู่ในมือเด็กผู้หญิงคนนี้! และ… ฉินเย่ว์เหลือบมองฉินซินหยิ่งซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ เขาด้วยสายตาเย็นชาแล้วขมวดคิ้ว นอกจากนี้ผู้ชายที่หลานสาวเขารักยังถูกเด็กผู้หญิงคนนี้แย่งไปอีกด้วย! 

 

 

ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งโกรธ! 

 

 

อย่างไรก็ตามฉินซินหยิ่งมีความสุขมากในตอนนี้ เธอเกลียดเซียวโหรวมาก เพราะเซียวโหรวแย่งเฉียวเหลียงไปจากเธอ ด้วยความแข็งแกร่งของเซียวโหรวเธอตอบโต้อะไรไม่ได้เลย แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าปู่เธอโกรธผู้หญิงคนนั้นมาก เซียวโหรวตกที่นั่งลำบากเสียแล้ว 

 

 

เธอได้ยินมาว่าเซียวโหรวได้เป็นตัวแทนภาพลักษณ์ของแบรนด์หรูแบรนด์หนึ่ง ถ้าคุณปู่กดดันแบรนด์นั้นไม่ให้จ้างเซียวโหรวเป็นตัวแทนภาพลักษณ์ เซียวโหรวจะตกงานอย่างแน่นอน 

 

 

ในเวลานั้นถังซีกำลังเดินตามเซียวเจี่ยนกับเซียวเหยาเข้าไปในลิฟต์ และกำลังคิดว่าจะทำให้คนตระกูลฉินชดใช้ให้เธอและคนในตระกูลเธอได้อย่างไร 

 

 

ฉินหลัว ฉินซินหยิ่ง ฉินเย่ว์ เธอไม่มีวันปล่อยคนพวกนี้ไปแน่! 

 

 

“กลัวหรือเปล่า” เมื่อเห็นเธอตกอยู่ในภวังค์ เซียวเจี่ยนก็ขมวดคิ้วมองเธอ 

 

 

ถังซีดึงสติกลับคืนมา หันไปมองเซียวเจี่ยน กะพริบตาปริบๆ ด้วยความงุนงง “อะไรนะคะ” 

 

 

“ถ้าน้องกลัว เหยากับพี่จะไปพบพวกเขาเอง เราจัดการเรื่องนี้ได้” เซียวเจี่ยนคิดว่าถังซีกลัว ในความเป็นจริงฉินกรุปไม่ได้มีอิทธิพลอะไรมากมาย แค่ลือกันว่าปู่ฉินเป็นคนเจ้าเล่ห์และรับมือยากเท่านั้นเอง 

 

 

ถังซีรู้ว่าเซียวเจี่ยนเป็นห่วงเธอ เธอส่ายศีรษะและยิ้ม “ฉันไม่เคยกลัวคนพวกนี้” 

 

 

สิ่งที่เธอพูดเป็นเรื่องจริง เธอต่อกรกับฉินเย่ว์มามากกว่าหนึ่งครั้งแล้ว เธอรู้เล่ห์เหลี่ยมคนพวกนี้ดี เธอจึงเป็นคนที่จะจัดการกับพวกเขาได้ดีที่สุด พี่ๆ เธอไม่เคยพบฉินเย่ว์มาก่อน และไม่เคยรับมือเขา เธอค่อนข้างกลัวว่าพี่ชายเธอจะหลงกลจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ตัวนี้มากกว่า 

 

 

เซียวเหยารู้ดีแน่นอนว่าถังซีเคยรับมือกับคนตระกูลฉินมาแล้ว มีรายงานข่าวมากมายเรื่องการขับเคี่ยวทางธุรกิจระหว่างฉินกรุปกับเอ็มไพร์กรุป และเอ็มไพร์กรุปเป็นผู้ชนะเสมอ เขากำลังคาดการณ์ว่าจะได้เห็นน้องสาวผู้เหมือนกระต่ายน้อยของเขา กลายเป็นแม่เสือที่ดุร้ายขนาดไหน ในการเผชิญหน้ากับสุนัขจิ้งจอกตัวนี้ 

 

 

พี่น้องตระกูลเซียวก้าวเข้าไปในห้องประชุม เมื่อเห็นพวกเขาทั้งสามคนหน้าตาดีและแต่งตัวดี ฉินเย่ว์ก็ขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ 

 

 

ถังซีได้รับการคุ้มกันจากเซียวเจี่ยนและเซียวเหยาซึ่งขนาบอยู่ทั้งสองข้าง ถังซีมองหน้าฉินเย่ว์และฉินซินหยิ่ง ทั้งสองก็จ้องมองเธอเช่นกันด้วยท่าทางหยิ่งผยอง เธอยิ้มมุมปาก แล้วเข้าไปนั่งตรงกันข้ามกับพวกเขา “สวัสดี คุณฉิน” 

 

 

“เธอคือเซียวโหรวเหรอ” ฉินเย่ว์หรี่ตา จ้องหน้าเธอ 

 

 

ถังซีเหลือบมองเขาด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก และถามอย่างเย็นชา “แล้วคุณอยากเจอใครล่ะ หรือคิดว่าฉันเป็นใคร” 

 

 

เธอไม่ชอบให้ใครมาพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงแบบนี้ โดยเฉพาะคนที่เธอเกลียด 

 

 

“รู้ไหมว่าเธอกำลังพูดอยู่กับใคร!” เมื่อได้ยินคำพูดอันเย็นชาของถังซี ฉินซินหยิ่งก็ตะคอก “รักษามารยาทด้วย!” 

 

 

เซียวเจี่ยนและเซียวเหยาขมวดคิ้ว 

 

 

“ใช่ รักษามารยาทของเธอด้วย” ถังซีหัวเราะเยาะ มองหน้าฉินซินหยิ่ง “ฉันไม่ได้พูดกับเธอ ไม่รู้สึกเลยหรือว่ามันหยาบคาย ที่มาขัดการสนทนาของคนอื่น” 

 

 

ทีแรกฉินเย่ว์คิดว่าคงง่ายเหมือนปอกกล้วยในการจัดการกับเซียวโหรว เด็กสาววัยยี่สิบสาม แต่ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะจัดการไม่ได้ง่ายๆ อย่างที่คิดเสียแล้ว 

 

 

เขายิ้ม มองถังซีอย่างอ่อนโยน “สาวน้อย เธอนี่พูดเก่งนะ แต่เธอรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร” 

 

 

ถังซียิ้ม ยกมือข้างหนึ่งขึ้นเท้าคางกับโต๊ะ มองหน้าฉินเย่ว์ด้วยท่าทางสบายๆ “รู้สิ ฉันรู้ดีว่าคุณเป็นใคร ฉินเย่ว์อดีตประธานฉินกรุป และปัจจุบันเป็นประธานกลุ่มกิจการร่วมค้าฉิน” 

 

 

ฉินเย่ว์ไม่คาดคิดว่าในเมื่อเธอรู้ว่าเขาเป็นใคร แล้วยังกล้าพูดกับเขาเช่นนี้ 

 

 

ฉินเย่ว์มองเธอด้วยหางตาอย่างไม่พอใจ “ในเมื่อเธอรู้ว่าฉันเป็นใคร เธอก็ควรรู้ว่าสิ่งที่เธอทำอยู่นี้สร้างความระคายเคืองให้ฉัน” 

 

 

ถังซียิ้ม “ฉันก็แค่จัดการย้ายคนที่ทำร้ายคุณแม่ฉันไปขังไว้ที่คุกอีกแห่งหนึ่ง ฉันไปสร้างความระคายเคืองให้คุณอย่างไรไม่ทราบ คุณฉิน” 

 

 

“ฉันไม่สนว่าพวกเขาจะทำร้ายแม่ของเธอหรือเปล่า สิ่งที่ฉันเป็นห่วงคือน้องสาวฉันต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในคุกเพราะเธอ สาวน้อย เธอคิดว่าฉันควรทำให้ยังไงดีเพื่อให้เธอเสียใจ ที่มาสร้างความระคายเคืองให้ฉัน” ฉินเย่ว์หรี่ตาลง “เธอรู้ไหม แค่ฉันขยับนิ้วเพียงนิ้วเดียว เซียวกรุปก็จะพังพินาศ” 

 

 

“ฮ่า ฮ่า” ถังซีหัวเราะเบาๆ เธอเลิกคิ้ว ชี้ไปที่เซียวเหยาและถามฉินเย่ว์ “ฉันรู้ว่าคุณพอจะมีอิทธิพลอยู่บ้างในเมืองหลวง แต่คุณรู้ไหมว่าเขาคือใคร คุณเอาอะไรมาคิดว่าเราจะรับมือกับการก่อกวนของคุณไม่ได้ แล้วอีกอย่าง คุณเองก็ยังต้องคอยรับมือกับการฟาดฟันของเอ็มไพร์กรุปอยู่ไม่ใช่เหรอ” 

 

 

ฉินเย่ว์มองหน้าฉินซินหยิ่ง และฉินซินหยิ่งกระซิบกับเขาว่า “เขาคือเซียวเหยา ลูกชายคนโตของเซียวหงลี่ค่ะ” 

 

 

ฉินเย่ว์ถามว่า “เขาทำงานอะไร” 

 

 

ฉินซินหยิ่งส่ายศีรษะ “เราไม่พบข้อมูลอะไร เกี่ยวกับเขาเลยค่ะ” 

 

 

ถังซีมองหน้าคนทั้งสอง แล้วส่ายศีรษะด้วยรอยยิ้ม “อันที่จริงฉันต้องชื่นชมความกล้าหาญของคุณนะ คุณฉิน กล้าประกาศสงครามกับเราโดยไม่รู้ภูมิหลังของเรา คุณรู้อะไรไหม เพียงแค่ฉันเอ่ยออกมาคำเดียว เอ็มไพร์กรุปก็จะร่วมมือกับเรากำจัดฉินกรุปให้สิ้นซาก” 

 

 

ฉินเย่ว์หรี่ตาลงมอง ส่วนฉินซินหยิ่งหน้านิ่วคิ้วขมวด เมื่อเห็นท่าทีที่คนทั้งสองแสดงออก ถังซีก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ในเมื่อน้องสาวคุณคือฉินหลัว คุณก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ว่าน้องสาวคุณทำอะไรไว้กับคุณแม่ฉันบ้าง อ้อ… ฉันลืมบอกคุณไปว่า คุณแม่ฉันได้พบบิดาผู้ให้กำเนิดท่านแล้วนะ” 

 

 

เมื่อฉินเย่ว์ได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าเขาก็เข้มคล้ำลงในทันที