บทที่ 1551 วิญญาณอายุยืนสี่พันปี

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

ภูเขาตงฮันเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพที่มีเพียงหนึ่งเดียวบนโลกใบนี้

 

วิญญาณความเด็ดเดี่ยวจากภูเขาตงฮันเป็นสินค้าผูกขาด ตราบเท่าที่มีดวงวิญญาณมากพอ มันจะกลายเป็นเหมืองทองคำอันไร้จุดสิ้นสุด

 

ด้วยเหตุนี้มูลค่าของมันจึงมหาศาล จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาต้องชดเชยค่าเสียหายให้ฟางหยวนสิบเท่าของมูลค่านี้

 

หากที่นี่เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์หรือถ้ำสวรรค์ทั่วไป มันอาจไม่สามารถจ่ายค่าชดเชยดังกล่าว แต่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามีความสามารถเพียงพอที่จะจ่ายราคานี้

 

ย้อนกลับไปเมื่อฟางหยวนสร้างข้อตกลงกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา เขาจะไม่พิจารณาถึงประเด็นนี้ได้อย่างไร?

 

แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์อันดับหนึ่งของห้าภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากแดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวงของภาคเหนือถูกทำลาย มันอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก ฟางหยวนไม่สงสัยเลยว่ามันสามารถจ่ายค่าเสียหายให้เขาได้อย่างเต็มที่

 

ฟางหยวนกล่าวถึงวิญญาณสติปัญญาเป็นอันดับแรก “ข้าจะย้ายวิญญาณสติปัญญามาไว้ในมิติช่องว่างของข้า ดังนั้นข้าต้องการวิธีย้ายมันเป็นค่าชดเชยอันดับแรก”

 

วิธีนี้อยู่ในมรดกที่แท้จริงของนิกายหลางหยา ฟางหยวนพยายามมาตลอดเพื่อให้ได้รับมันมา แต่กระทั่งทั้งสองฝ่ายจะแลกเปลี่ยนมรดกที่แท้จริงกัน เขาก็ยังไม่ได้รับมัน

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเก็บวิธีนี้ไว้ลึกมาก เขาไม่ใช่คนโง่ หากเขาแลกเปลี่ยนวิธีนี้กับฟางหยวน มันไม่ได้หมายความว่าฟางหยวนจะสามารถนำวิญญาณสติปัญญาออกไปเช่นนั้นหรือ?

 

แม้วิญญาณสติปัญญาจะไม่รับคำสั่งและไม่ได้เป็นของนิกายหลางหยา แต่ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนก็เป็นคนนำมันมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู

 

การแสดงออกของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเปลี่ยนไปทันที

 

ฟางหยวนกล่าวถึงเรื่องนี้โดยตรง มันเหมือนกับดาบที่แทงทะลุหัวใจของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา อย่างไรก็ตามเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรับปาก

 

สิ่งที่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาวางแผนมาตลอดคือการพยายามควบคุมวิญญาณสติปัญญาโดยการให้อาหารมันอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะช่วยฟางหยวนเลี้ยงดูวิญญาณสติปัญญา

 

แต่น่าเสียดายที่จนถึงเวลานี้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาก็ยังไม่บรรลุเป้าหมาย แผนการของเขาไม่ประสบความสำเร็จ

 

เมื่อฟางหยวนร้องขอสิ่งนี้และเอ่ยอ้างกรรมสิทธิ์ ความพยายามทั้งหมดของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจึงกลายเป็นสูญเปล่า

 

แน่นอนว่าเขาไม่ต้องการ

 

แต่เขาไม่สามารถตอบโต้

 

ท้ายที่สุดแม้วิญญาณสติปัญญาจะเป็นวิญญาณป่าแต่มันก็ถูกนำมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ของฟางหยวน

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวอย่างลังเล “นั่น…จะดีหรือ? แท้จริงแล้วหากพวกเราสามารถควบคุมวิญญาณสติปัญญา พวกเราจะสามารถใช้มันเป็นแกนกลางของคฤหาสน์วิญญาณอมตะ ไม่เพียงเราจะสามารถป้องกันตัวเอง แต่มันยังสามารถต่อต้านการอนุมานจากผู้คนทั้งโลก!”

 

ฟางหยวนยิ้ม “ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง แผนการของท่านก็ดีแต่มันยากมากที่จะทำได้จริง ท่านมีความมั่นใจที่จะดำเนินการตามแผนการนี้ได้ในเร็ววันนี้หรือไม่?”

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเงียบ

 

ฟางหยวนกล่าวต่อ “สถานการณ์ปัจจุบันอันตรายมาก มันเป็นเรื่องยากที่ท่านจะปกป้องวิญญาณสติปัญญา ฟงจิวเก้อค้นพบมันแล้วซึ่งหมายความว่าวังสวรรค์จะรู้เรื่องนี้เช่นกัน พวกเขาย่อมไม่เต็มใจที่จะปล่อยมันไป เมื่อพวกเขาบุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาอีกครั้ง เราจะทำอย่างไรหากพวกเขาคว้าวิญญาณสติปัญญาไป”

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถอนหายใจลึก

 

สิ่งที่ฟางหยวนกล่าวคือความจริง คฤหาสน์วิญญาณอมตะเป็นเพียงจินตนาการในขณะที่วังสวรรค์ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว

 

ในความเป็นจริงจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาได้ซ่อนวิญญาณสติปัญญาไว้อย่างสุดความสามารถแล้ว แต่เขาก็ไม่สามารถทำสิ่งใดเพราะวิธีการตรวจสอบของฟงจิวเก้อทรงพลังเกินไป

 

วิญญาณสติปัญญาเคยเป็นวิญญาณหลักของเทพอมตะกลุ่มดาว ตอนนี้มันถูกค้นพบแล้วและแน่นอนว่าวังสวรรค์จะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ การโจมตีครั้งต่อไปของพวกเขาจะรุนแรงและอันตรายมากขึ้น

 

ฟางหยวนกล่าวถูกต้อง แต่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่เต็มใจที่จะล้มเลิกแผนการของเขา

 

ฟางหยวนกล่าวเสริม “ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง คฤหาสน์วิญญาณอมตะเป็นความคิดที่ดีแต่มันก็มีข้อเสีย หากเราทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยากลายเป็นสถานที่สงบสุข แล้วผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนจะมีแรงจูงใจในการพัฒนาตนเองงั้นหรือ? พวกเราต้องการนำเผ่ามนุษย์ขนขึ้นสู่จุดสูงสุด หากพวกเราอนุญาตให้ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนอาศัยอยู่ภายใต้การคุ้มครองของคฤหาสน์วิญญาณอมตะ พวกเขาจะไม่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขตลอดไปงั้นหรือ?”

 

“หือ?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตะลึง คำกล่าวของฟางหยวนสมเหตุสมผล

 

ก่อนหน้านี้ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนไม่เคยเผชิญหน้ากับภัยอันตรายใดๆ

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาผมขาวปกป้องผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนมากเกินไปและทำให้พวกเขาแทบไม่มีพลังการต่อสู้ เมื่อนิกายเงาบุกเข้าโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา พวกเขาเกือบพ่ายแพ้

 

พวกเขาไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมได้

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาสูดหายใจลึกและหยักหน้า “ฟางหยวน ข้าจะยอมรับคำขอของเจ้า ข้าจะมอบวิธีทั้งหมดให้เจ้า จากค่าชดเชยภูเขาตงฮันสิบส่วน นี่เท่ากับหนึ่งส่วนของมัน”

 

“ตกลง” ฟางหยวนไม่สงสัยคำกล่าวของจิตวิญาณแผ่นดินหลางหยา

 

จิตวิญญาณแผ่นดินไม่สามารถโกหก

 

“ต่อไปข้าต้องการวิญญาณอายุยืน” ฟางหยวนกล่าวคำขอที่สอง

 

หากเขาเก็บวิญญาณสติปัญญาไว้ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ เขาต้องแบกรับภาระเรื่องอาหารของมัน ฟางหยวนมีวิญญาณอายุยืนในคลังสมบัติของเขา แต่มันไม่ปลอดภัยที่จะพึ่งพาเพียงสิ่งที่เขามีอยู่

 

“ตกลง” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเห็นด้วยกับคำขอนี้อย่างมีความสุข

 

เขาเป็นจิตวิญญาณแผ่นดิน เขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไปตราบเท่าที่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยายังดำรงอยู่ ดังนั้นวิญญาณอายุยืนจึงไม่มีประโยชน์กับเขา

 

แน่นอนว่าผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนต้องใช้มันในการยืดอายุขัย อย่างไรก็ตามมนุษย์ขนมีอายุขัยมากกว่ามนุษย์ค่อนข้างมาก นอกจากนั้นการให้อาหารวิญญาณสติปัญญาก็มีความสำคัญมากกว่าการยืดอายุขัยของผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนอย่างเห็นได้ชัด

 

ฟางหยวนใช้ค่าชดเชยอีกส่วนหนึ่งเพื่อแลกเปลี่ยนกับวิญญาณอายุยืนจำนวนมาก

 

บรรพชนผมยาวเป็นบุคคลเมื่อสามแสนปีก่อน แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ดังนั้นคลังสมบัติของมันจึงเต็มไปด้วยวิญญาณอายุยืน

 

แม้ฟางหยวนจะนำวิญญาณอายุยืนส่วนใหญ่ไป แต่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยายังเหลือวิญญาณอายุยืนอีกมาก!

 

ฟางหยวนคำนวนว่าหากเขาใช้วิญญาณอายุยืนทั้งหมดกับตัวเขาเอง เขาจะสามารถยืดอายุของเขาได้มากกว่าสี่พันปี!

 

กระทั่งเทพปีศาจบัวแดงก็มีชีวิตอยู่เพียงสามพันปีเท่านั้น

 

นี่หมายความว่าหากฟางหยวนใช้วิญญาณอายุยืนเหล่านี้ เขาจะมีอายุยืนกว่าเทพปีศาจบัวแดง! แน่นอนว่ามันอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าเขาต้องไม่ถูกฆ่าตายในช่วงเวลานี้

 

วิญญาณอายุยืนเหล่านี้สามารถแก้ปัญญาเรื่องอาหารของวิญญาณสติปัญญาได้เป็นเวลานาน

 

ท่ามกลางผู้อมตะระดับเก้าทั้งหมด เทพปีศาจบัวแดงมีอายุขัยสั้นที่สุด เทพปีศาจไร้ขอบเขตและเทพปีศาจคลั่งมีชีวิตอยู่มากกว่าหกพันปี เทพปีศาจปล้นสวรรค์มีอายุมากกว่าเจ็ดพันปี และเทพอมตะตะวันเดือดมีอายุมากกว่าแปดพันปี สามคนที่อายุยืนที่สุดได้เข้าร่วมกับวังสวรรค์ เทพอมตะบัวสวรรค์มีชีวิตอยู่มากกว่าหนึ่งหมื่นสองพันปี เทพอมตะกลุ่มดาวอยู่นานกว่าหนึ่งหมื่นเก้าพันปี และเทพอมตะแรกกำเนิดมีอายุเกินสองหมื่นห้าพันปี เขาเป็นผู้อมตะระดับเก้าคนแรกในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติและมีอายุยาวนานที่สุด

 

‘เทพอมตะและเทพปีศาจทั้งหมดมีอายุขัยที่ยาวนาน แต่ในประวัติศาสตร์ ผู้อมตะระดับแปดและผู้อมตะระดับเจ็ดก็มีชีวิตยืนยาวเช่นกัน บางคนถึงกับมีชีวิตอยู่หลายพันปี’

 

‘แต่ด้วยสงครามห้าภูมิภาคที่กำลังจะมาถึง ยุคที่ยิ่งใหญ่กำลังจะเปิดม่าน วิญญาณอายุยืนจะหายากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทพอมตะแห่งความฝันปรากฏตัวขึ้น วิญญาณอายุยืนจะยิ่งหายาก โลกจะไม่ผลิตมันขึ้นมาอีกนาน’

 

ฟางหยวนครุ่นคิด วิญญาณอายุยืนมีค่ามหาศาลและมูลค่าของมันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไป

 

ตามบันทึกในประวัติศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญและสัตว์ประหลาดเฒ่ามากมายยอมจ่ายด้วยทุกสิ่งเพื่อยืดอายุของพวกเขาแม้จะเป็นเวลาเพียงสองสามวันก็ตาม

 

วิญญาณอายุยืนเป็นเพียงวิญญาณระดับมนุษย์แต่มีตัวอย่างมากมายในประวัติศาสตร์ที่มันถูกแลกเปลี่ยนกับวิญญาณอมตะ

 

ค่าชดเชยของฟางหยวนถูกคำนวณโดยจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตามมูลค่าในปัจจุบันของมัน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าฟางหยวนเสนอราคาที่ถูกมาก

 

นอกจากวิญญาณอายุยืน ฟางหยวนยังใช้ค่าชดเชยแลกเปลี่ยนกับแต้มผลงานของนิกายหลางหยารวมถึงวิญญาณอมตะทาสสัตว์อสูร

 

ฟางหยวนเคยยืมวิญญาณอมตะทาสสัตว์อสูรมาก่อนหน้านี้และมันมีประโยชน์มาก

 

สำหรับวิญญาณบัวสวรรค์อมตะ มันไม่ใช่เรื่องง่าย ฟางหยวนรู้ว่าจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจะไม่แลกเปลี่ยนกับวิญญาณอมตะดวงนี้

 

ดังนั้นจากค่าชดเชยสิบส่วนของภูเขาตงฮันยังเหลืออยู่อีกเจ็ดส่วน

 

ตอนนี้ฟางหยวนกำลังจะร้องขอสิ่งที่ยิ่งใหญ่

 

“ข้าต้องการใช้ค่าชดเชยนี้เพื่อแลกเปลี่ยนกับบางสิ่งในนิกาย” ฟางหยวนกล่าวกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากลายเป็นเคร่งเครียด เขาเร่งถาม “อา…เจ้าต้องการแลกเปลี่ยนสิ่งใด?”