ตอนที่ 2577 ความแตกต่างของเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบ และความมั่งคั่งที่น่ากลัว

ขณะที่โคล่าและไฟเออร์แดนซ์พุ่งผ่านป่าอันเงียบสงบ พวกเขาก็ทำให้เกิดความปั่นป่วนขึ้นไปทั่ว

วิญญาณเร่ร่อนกลุ่มเล็กๆรีบบินเข้ามาหาผู้เล่นเหล่านี้อย่างรวดเร็ว และมอนสเตอร์เหล่านี้นั้นก็เคลื่อนที่ได้เร็วมากจนแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญทั่วไปก็ยังไม่มีโอกาสจะหลบหนีได้เลย

อย่างไรก็ตามการถูกล้อมกรอบนั้นแทบจะเรียกได้ว่าไม่มีอยู่จริงเลยสำหรับโคล่าและแท๊งเกอร์คนอื่นๆของสภาสิบแปดปีก เพราะท้ายที่สุดพวกเขาเป็นเหมือนกับรถถังที่ตะลุยผ่านทุกสิ่งเข้าไป และพวกเขาก็จัดการสิ่งใดที่มาขวางทางของพวกเขาด้วยโล่ของตัวเอง ไม่มีวิญญาณเร่ร่อนตัวไหนสามารถจะหยุดการรุกคืบของพวกเขาได้ ในขณะเดียวกันไฟเออร์แดนซ์ และผู้เล่นสายความเร็วคนอื่นๆก็หลบหลีกวิญญาณเร่ร่อนได้อย่างสบายๆ โดยที่ไม่มีตัวไหนสามารถจะจับพวกเขาได้

พลังแห่งความตายที่วิญญาณเร่รอนแผ่ออกมานั้นดูเหมือนจะไม่มีผลใดๆกับโคล่า ไฟเออร์แดนซ์ และเพื่อนร่วมทางของพวกเขาเลย ดูเหมือนว่าจะมีบาเรียที่มองไม่เห็นบางอย่างคอยปกป้องพวกเขาจากพลังสึกกร่อนของพลังแห่งความตาย

ในเวลาไม่นาน โคล่าและคนอื่นๆก็ได้ลากมอนสเตอร์กว่าหกร้อยตัวเข้าหาสมาชิกในทีมที่เหลือ

[วิญญาณเร่ร่อน] (อันเดธ ลอร์ดบอสขั้นสูง)
เลเวล 115
HP 45,000,000/45,000,000

[วิญญาณเร่ร่อนขั้นสูง] (อันเดธ ลอร์ดบอสผู้ยิ่งใหญ่)
เลเวล 116
HP 120,000,000/120,000,000

[วิญญาณบ้าคลั่ง] (อันเดธ แกรนลอร์ด)
เลเวล 116
HP 400,000,000/400,000,000

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับวิญญาณเร่ร่อนมากกว่าสี่ร้อยตัว วิญญาณเร่ร่อนขั้นสูงมากกว่าหนึ่งร้อยตัว และวิญญาณบ้าคลั่งอีกหกตัว ทุกในทีมก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นสะท้าน

ไม่เหมือนกับมอนสเตอร์ทั่วไป วิญญาณเหล่านี้ล้วนเคยเป็นนักรบที่ทำหน้าที่ปกป้อเมืองพิษมาก่อน และแม้จะตายไปแล้ว พวกเขาก็ยังคงใช้สกิลเหมือนกับตอนที่พวกเขายังมีชีวิตได้อยู่ และเมื่อวิญญาณเร่ร่อนขั้นสูงหลายร้อยตัวรวมตัวกัน พวกนี้ก็สามารถที่จะเปิดใช้งานวงเวทย์การต่อสู้ได้ด้วย และแม้ว่าวงเวทย์นี้จะไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก แต่มันก็ช่วยเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่และความเร็วในการตอบสนองของ
มอนสเตอร์เหล่านี้ได้ และชั้นของมานาจางๆก็ปรากฎขึ้นรอบๆมอนสเตอร์เหล่านี้เช่นกัน ซึ่งมันก็ช่วยเพิ่มพลังป้องกันให้พวกมัน และช่วยเพิ่มพลังของสกิลกับเวทย์ให้พวกมันเช่นกัน

อย่างไรก็ตามทั้งทีมก็ต้องเต็มไปด้วยความประหลาดใจมากขึ้น เมื่อพบว่าวิญญาณเร่ร่อนเหล่านี้ไม่ได้ใช้กลยุทธ์การรวมตัวกันตามแบบมอนสเตอร์ทั่วไป แต่พวกมันกับเลือกจะเคลื่อนไหวในรูปแบบที่เหมาะสมแบบเป็นกองกำลังแทน วิญญาณเร่ร่อนที่มีโล่และอาวุธระยะประชิดนั้นจะเคลื่อนตัวมาด้านหน้าของกลุ่ม ในขณะที่พวกใช้ธนูและคทาก็จะยืนอยู่ในแนวหลัง โดยกองกำลังขนาดเล็กนี้ค่อยๆเคลื่อนที่อย่างเป็นระบบและระเบียบ

“นี่คือดินแดนลับเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบงั้นหรอ ?” บลูเรนโบว์นั้นตกตะลึงมากๆ เมื่อเธอมองไปยังมอนสเตอร์ที่ดาหน้าเข้ามากันเหมือนกองทัพที่ได้รับการฝึกมาอย่างดี

แม้ว่าเธอจะรู้ว่าดินแดนลับเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยนั้นจะมีความพิเศษ แต่นี่มันก็ทำให้เธออดจะประหลาดใจไม่ได้ เมื่อเธอได้ประสบกับมันด้วยตัวเอง มอนสเตอร์เหล่านี้นั้นจัดเป็นความท้าทายที่ยากมากอยู่แล้ว เนื่องจากค่าสถานะของพวกมันสูงกว่าผู้เล่นในเลเวล และขั้นเดียวกัน แถมพวกมันยังมี HP และพลังป้องกันมากกว่า และตอนนี้พวกมันก็สามารถต่อสู้ได้ในรูปแบบกองทัพ NPC ที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี ซึ่งนี่มันก็ช่วยเพิ่มพลังการต่อสู้ของพวกมันขึ้นอย่างมาก

หากทีมของพวกเขาไม่ได้มีข้อได้เปรียบเชิงตัวเลข ทีมของพวกเขาก็ไม่ควรจะมีโอกาสชนะได้เลย

แม้แต่เฮลรัชก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เมื่อได้เห็นกองกำลังที่เข้ามา

โดยปกติเหล่าผู้เชี่ยวชาญของกองกำลังนรกนั้นไม่ได้มีปัญหาใดๆเลยในการต่อสู้กับมอนสเตอร์เหล่านี้แบบตัวต่อตัว แม้แต่วิญญาณบ้าคลั่งที่เป็นมอนสเตอร์ระดับแกรนลอร์ดก็ยังไม่ได้มีปัญหาสำหรับกองกำลังนรกที่จะฆ่ามันลงให้ได้ แต่ตอนนี้มอนสเตอร์เหล่านี้นั้นกับมีวงเวทย์การต่อสู้เป็นของตัวเอง ซึ่งวงเวทย์การต่อสู้เหล่านี้ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางกายภาพของวิญญาณเร่ร่อนเท่านั้น แต่มันยังช่วยลดจุดอ่อนที่พวกมันมีลงไปอย่างมาก และนี่ก็ยังไม่นับรวมข้อได้เปรียบอื่นๆของพวกมันในฐานะมอนสเตอร์อีก ดังนั้นตอนนี้แม้ว่ากองกำลังนรกจะเริ่มการต่อสู้กับมอนสเตอร์เหล่านี้ด้วยอาวุธและอุปกรณ์ชั้นยอดครบมือ พวกเขาก็จะยังคงรับมือกับกองกำลังมอนสเตอร์แบบนี้ได้อย่างยากลำบากอยู่ดี

มีเพียงซือเฟิงเท่านั้นที่ดูเหมือนจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับมอนสเตอร์ที่น่ากลัวเหล่านี้

เพราะท้ายที่สุดเขารู้ดีว่านี่คือพลังการต่อสู้ที่แท้จริงของมอนสเตอร์ใน God domain และมอนสเตอร์ทุกตัวก่อนเลเวลหนึ่งร้อยสิบห้านั้นก็ล้วนเป็นอุปสรรคที่มีไว้เพื่อทำให้ผู้เล่นคุ้นเคยกับเกมเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้เล่นใกล้มาถึงเกณฑ์เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบ มอนสเตอร์จะไม่ได้มีไว้เพื่อรองรับผู้เล่นอีกต่อไป แต่ผู้เล่นจะต้องปรับตัวให้และรับมือกับมอนสเตอร์ใน God domain เหล่านี้เอง มอนสเตอร์จะเริ่มมีพฤติกรรมเหมือนสิ่งมีชีวิตโดยมีลักษณะที่เฉพาะเจาะจงของมันเอง และหากผู้เล่นไม่สามารถใช้ประโยชน์จากลักษณะเฉพาะเหล่านี้ได้ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดก็ยังอาจตกอยู่ในอันตรายได้ในการต่อสู้กับมอนสเตอร์เหล่านี้แบบตัวต่อตัว

นี่คือเหตุผลว่าทำไมดินแดนลับ เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบ และดันเจี้ยนในเลเวลนี้จึงจัดเป็นแหล่งขุมทรัพย์ที่แท้จริงสำหรับผู้เล่นขั้นสาม และมันยังมีมรดกโบราณ รวมถึงหนังสือสกิลและเวทย์แทบทุกประเภทดรอป

เมื่อกองกำลังของอันเดธเข้ามาใกล้ ผู้เล่นของดาร์ครัปโซดี้ และเดียตี้โซไซตี้ก็ได้เข้าสู่สถานะเตรียมพร้อมต่อสู้ทันที แม้จะแอบมีกังวลบ้างก็ตาม ในขณะเดียวกันซือเฟิงก็ได้จ่ายคริสตัสเวทย์มนต์ห้าพันชิ้นเพื่อเปิดใช้งานสกิลโลกจิ๋วของแหวนแห่งกอสเปล

หลังจากนั้นผลของโลกจิ๋วก็ทำให้กองกำลังอันเดธนั้นมีค่าสถานะพื้นฐานลดลงอย่างรวดเร็ว แถมความเร็วในการตอบสนองและความแข็งแกร่งของร่างกายของพวกมันก็ลดลงด้วยเช่นกัน

ผู้เล่นสายความมืดในทีมที่ได้เห็นฉากนี้ต่างตกตะลึง พวกเขาเคยได้เห็นพลังของแหวนแห่งกอสเปลมาแล้ว แต่เมื่อได้เห็นตอนนี้ พวกเขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะตกใจเหมือนกับครั้งแรกที่ได้เห็น

เมื่อครู่ที่ผ่านมา ความรู้สึกของพวกเขาได้เตือนพวกเขาว่าอันเดธเหล่านี้เป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากๆ แต่ตอนนี้อันเดธเหล่านี้กับให้ความรู้สึกว่าจะเอาชนะได้ง่ายมากๆ

พวกเขานั้นอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขอบคุณที่ตอนนี้ซือเฟิงยืนอยู่ข้างพวกเขา ไม่ใช่ด้านตรงข้ามของพวกเขา

“เอาล่ะโจมตีได้ !!! รีบจบการต่อสู้นี้ให้ไวที่สุด !!!” ซือเฟิงรีบตะโกนออกคำสั่ง เมื่อเขาตระหนักว่าสมาชิกในทีมส่วนใหญ่ของเขายังเต็มไปด้วยความตกตะลึงและงุนงง

แม้ว่าแหวนแห่งกอสเปลจะเป็นเครื่องมือที่น่าทึ่ง แต่การใช้มันแต่ละครั้งก็มีราคาแพงมากอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะท้ายที่สุดแล้วค่าใช้จ่ายในการใช้โลกจิ๋วเป็นเวลาสิบนาทีนั้นมันมีมูลค่าเป็นคริสตัลเวทย์มนต์ถึงห้าพันชิ้นเลยทีเดียว

เมื่อได้ยินคำสั่งของซือเฟิง ทุกคนก็เริ่มหายจากอาการที่พวกเขาเป็นอยู่ หลังจากนั้นพวกเขาก็ทำการเปิดใช้งานสกิลและเวทย์ที่พวกเขามีโจมตีเข้าใส่กองกำลังอันเดธที่กำลังเข้ามาทันที ตอนนี้พวกเขามีข้อได้เปรียบในเรื่องค่าสถานะพื้นฐานแล้ว ดังนั้นวิธีที่เร็วที่สุดที่จะจัดการกับกองกำลังอันเดธเหล่านี้ก็คือการโจมตีและเผชิญหน้ากับพวกมันตรงๆเลย

ตู้ม … ตู้ม … ตู้ม …

เมื่อการโจมตีระลอกแรกจากสกิลและเวทย์ขั้นสามโดนเข้าที่ตัวเป้าหมายและพื้นที่ใกล้เคียงนั้น มันก็ทำให้ป่าใกล้เคียงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และการโจมตีทั้งหมดนี้มันก็ทำให้ภูมิประเทศรอบบริเวณเปลี่ยนไป

หลังจากผ่านไปสิบนาที กองกำลังอันเดธมากกว่าแปดสิบเปอเซ็ต์ก็ตายลง และวพกที่ยังเหลือรอดอยู่นั้นก็เหลือ HP เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และแม้จะไม่มีผลจากโลกจิ๋วช่วยแล้ว แต่ทีมก็สามารถจะอาศัยความได้เปรียบในด้านจำนวนจัดการกับมอนสเตอร์ที่เหลือได้สบายๆ และในระหว่างการต่อสู้ ทุกคนในทีมก็ได้สัมผัสถึงความรู้สึกในการเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ที่แท้จริงที่ระบบหลักของ God domain ออกแบบไว้

ระบบหลักของ God domain นั้นไม่ได้จำกัดอะไรมอนสเตอร์เหล่านี้ไว้เลยแม้แต่น้อย และพวกมันก็สามารถจะควบคุมพลังแห่งความตายได้ในระดับที่ไม่น่าเชื่อ และหากผู้เล่นไม่ได้เรียนรู้ถึงการปรับใช้มานาของตนเลย พลังสึกกร่อนของพลังแห่งความตายก็จะส่งผลต่อร่างกายของพวกเขาอย่างรวดเร็ว

โดยปกติกระบวนการเรียนรู้แบบนี้มันจะอันตรายมากอย่างไม่น่าเชื่อ และหากผู้เล่นล้มเหลวในการป้องกันพลังนี้พวกเขาก็จะเป็นอัมพาตชั่วคราว และการตายในทันทีมันก็จะไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลย เมื่อเจอกับกรณีนี้ แต่โชคดีที่ทีมของพวกเขามีข้อได้เปรียบด้านจำนวนอย่างมาก และมอนสเตอร์เหล่านี้ก็อยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัสแล้ว ดังนั้นมันจึงเป็นภัยคุกคามต่อพวกเขาน้อยมาก และมันก็ง่ายสำหรับพวกเขาที่จะจัดการ

แถมผู้เล่นในทีมทุกคนที่ซือเฟิงนำมานั้นยังเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นสามที่มีพรสวรรค์ และมาตราฐานการต่อสู้เหนือกว่าผู้เล่นทั่วไป และแม้ว่าพวกเขาจะได้รับประสบการณ์การต่อสู้แบบนี้เพียงช่วงสั้นๆ แต่มันก็ช่วยให้พวกเขาได้รับความเข้าใจใหม่ๆเกี่ยวกับการควบคุมมานาและร่างมานาของพวกเขาอย่างมาก

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ทั้งทีมตกตะลึงมากที่สุดก็คือ EXP ที่พวกเขาได้รับจากกองกำลังอันเดธเหล่านี้ ซึ่งมันทำให้แม้แต่เฮลรัช บลูเรนโบว์ และผู้อาวุโสโกลด์ก็ยังตกตะลึง

ขณะเดียวกันผู้เล่นบางคนก็มีเลเวลเพิ่มขึ้นจากหนึ่งร้อยเจ็ดไปเป็นหนึ่งร้อยแปดเลยด้วยซ้ำ ความเร็วในการเก็บเลเวลของพวกเขาที่นี่นั้นเร็วกว่าโลกภายนอกอย่างน้อยสิบเท่าเลย

ยิ่งไปกว่านั้นมอนสเตอร์เหล่านี้ยังได้ดรอปไอเทมไว้มากมาย

มันมีไอเทมจำนวนมากกระจัดกระจายไปทั่วสนามรบ !!

อัตราการดรอปของมอนสเตอร์เหล่านี้นั้นมีมากกว่ามอนสเตอร์ในโลกภายนอกสองเท่าหรือสูงกว่านั้นด้วยซ้ำ โดยเฉพาะกับอาวุธและอุปกรณ์ และแม้แต่อุปกรณ์ที่อ่อนแอที่สุดที่ดรอปก็ยังเป็นระดับเหล็กลึกลับ เลเวลหนึ่งร้อยสิบห้า แถมมันยังมีอุปกรณ์ระดับลึกลับขั้นเงิน เลเวลหนึ่งร้อยสิบห้า หกชิ้นดรอปมาด้วย ….

ในขณะเดียวกันผู้เล่นสายความมืดหลายคนก็มีดวงตาแดงก่ำ เมื่อได้เห็นไอเทมเหล่านี้ ….

สำหรับพวกเขา พวกเขาอาจจะพอละความสนใจจากอุปกรณ์ระดับเหล็กลึกลับ เลเวลหนึ่งร้อยสิบห้าได้ แค่มันทำไม่ได้จริงๆกับอุปกรณ์ระดับลึกลับขั้นเงิน เลเวลหนึ่งร้อยสิบห้า ซึ่งตอนนี้จัดว่าล้ำค่าอย่างไม่น่าเชื่อ …. เพราะท้ายที่สุดแล้วถ้าพวกเขาติดตั้งเจ็มสโตนลดเลเวลลงไปสักหน่อย และทำให้ตัวเองสามารถสวมใส่ได้ มันจะดีกว่าอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยสิบอยู่เล็กน้อยด้วยซ้ำ ….

ตอนนี้มหาอำนาจต่างๆยังคงค้นหาอุปกรณ์ระดับสูงเลเวลหนึ่งร้อยห้า และหนึ่งร้อยสิบกันอย่างบ้าคลั่งอยู่เลย เนื่องมาจากอัตราการดรอปที่ต่ำมากของพวกมัน

อย่างไรก็ตามตอนนี้ หลังจากต่อสู้ที่นี่ไม่ถึงสิบห้านาที พวกเขากับได้รับอุปกรณ์ระดับลึกลับขั้นเงิน เลเวลหนึ่งร้อยสิบห้ามาแล้วหกชิ้น หากพวกเขาล่าที่นี่ทั้งวัน กำไรที่พวกเขาทำได้จะมหาศาลแน่นอน ….

ในขณะที่สมาชิกของดาร์ครัปโซดี้ และเดียตี้โซไซตี้กำลังมองไปยังสภาสิบแปดปีกอย่างอิจฉาในเรื่องไอเทมที่ดรอปมากมาย ไฟเออร์แดนซ์ผู้ซึ่งรับผิดชอบในการเก็บรวบรวมไอเทมก็วิ่งเข้ามาหาซือเฟิงอย่างตื่นเต้น

“หัวหน้ากิล มันดรอปด้วย !!!”