ตอนที่ 508 ไม่ใกล้เคียงเลยด้วยซ้ำ

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

เซียวเจี่ยนต้องจัดการกับธุระที่บริษัท จึงเหลือเพียงเซียวเหยากับถังซี ระหว่างทางออกจากบริษัทถังซีหันไปมองเซียวเหยาซึ่งกำลังขับรถ บอกเขาว่า “พี่เหยา ฉันอยากเจอเถาเยี่ยนค่ะ”

 

 

เธอไปหาเฉียวเหลียงทีหลังได้ แต่ตอนนี้เธออยากถามฉินหลัวในคำถามที่รบกวนจิตใจ แม้ว่าฉินหลัวอาจไม่บอกความจริง แต่เธอก็ยังอยากถาม

 

 

เซียวเหยามองหน้าถังซี เดาได้ว่าเธอต้องการถามอะไรฉินหลัว เขาขมวดคิ้วกล่าวว่า “เรารับมือกับเรื่องนี้ได้อยู่แล้ว เธอไม่ต้องกังวล ตอนนี้ไม่ทันแล้ว เราไม่มีเวลามากพอที่จะไปเจอเถาเยี่ยนที่เมือง C หรอก”

 

 

ถังซีเม้มริมฝีปาก “ก็ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นไปหาเฉียวเหลียงก่อน”

 

 

เซียวเหยาพยักหน้า

 

 

“มีรถตามเรามาค่ะ” ถังซีมองเห็นจากกระจกมองหลังว่ามีรถสีดำขับตามพวกเขามา เธอขมวดคิ้ว “ต้องเป็นคนของฉินซินหยิ่งแน่ๆ”

 

 

เซียวเหยามองดูรถคันนั้นและเลิกคิ้ว “พวกมันตามเรามาหลายถนนแล้ว แต่ไม่ต้องห่วง พวกมันทำอะไรเราไม่ได้หรอก”

 

 

“พี่เหยาคะ พี่ต้องกำจัดพวกมันหลังจากเราออกจากเฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุปนะคะ ไม่อย่างนั้นฉันจะปรากฏตัวในฐานะถังซีไม่ได้ในวันพรุ่งนี้” ถังซีกล่าว ขณะมองดูกระจกมองหลังอีกครั้ง

 

 

เซียวเหยาพยักหน้า “ได้ ตอนนี้เราไปที่เฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุปกันก่อน”

 

 

ที่เฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุป

 

 

ในห้องทำงานเฉียวเหลียง เฉียวเหลียง เซียวจิ่ง และเซียวส่าอยู่ที่นั่นแล้ว หลังจากถังซีเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกคนก็จ้องมองเธออย่างตกตะลึงพร้อมกับอ้าปากค้าง แม้แต่เฉียวเหลียงก็ยังประหลาดใจ เขามองหน้าถังซี ถามว่า “คุณแน่ใจเหรอ”

 

 

ถังซีพยักหน้า “แน่ใจค่ะ คุณปู่กับคุณแม่ตรวจดีเอ็นเอแล้ว ไม่ผิดหรอก ตอนนี้ฉันแค่อยากกำจัดฉินกรุปโดยเร็วที่สุด ฉันไม่อยากปล่อยโอกาสให้ตระกูลฉินลงมือ”

 

 

แค่ฉินซินหยิ่งคนเดียวก็น่าขยะแขยงมากพออยู่แล้ว ท่ามกลางความประหลาดใจของเธอ คนอื่นๆ ในตระกูลฉินก็ได้กระทำสิ่งที่สยดสยองทั้งหมดนั้นกับตระกูลเธอ และเธอไม่ได้ใจกว้างถึงขนาดที่จะให้อภัยได้

 

 

เฉียวเหลียงพยักหน้า “ตกลง ผมจะให้กู้อวิ๋นส่งสำเนาข้อมูลโดยละเอียดของฉินกรุปให้คุณ เรามาวางแผนเข้าครอบครองกิจการของพวกเขากัน”

 

 

เฉียวเหลียงเรียกกู้อวิ๋นมา บอกให้เขาเตรียมเอกสาร

 

 

เพียงครู่เดียวกู้อวิ๋นก็เข้ามาในห้องทำงานเฉียวเหลียง พร้อมด้วยข้อมูลและงบการเงินทั้งหมดของฉินกรุป เฉียวเหลียงตรวจดูเอกสารและขมวดคิ้ว เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางเขา เซียวจิ่งก็หยิบเอกสารมาอ่านดูบ้าง จากนั้นก็วางเอกสารลงและกล่าวว่า “แปลกมาก ฉันคิดว่าฉินกรุปเป็นกลุ่มบริษัทเล็กๆ แต่ดูเหมือนจะมีการสนับสนุนทางการเงินที่แข็งแกร่งมาก”

 

 

เฉียวเหลียงส่ายศีรษะ “ไม่หรอก ฉินกรุปไม่ได้แข็งแกร่ง”

 

 

เซียวจิ่งเลิกคิ้ว มองหน้าเฉียวเหลียง “นายหมายความว่าพวกเขามีคนหนุนหลังเหรอ”

 

 

เฉียวเหลียงเคาะนิ้วลงบนโต๊ะด้วยรอยยิ้มบางๆ บนริมฝีปาก เขามองหน้าถังซี ถังซีเข้าใจความหมายทันที “คุณหมายความว่ากลุ่มกิจการร่วมค้าฉินไม่ได้ควบคุมโดยฉินเย่ว์เหรอ ไม่อย่างนั้นเขาจะนั่งดูลูกชายทำลายบริษัทของตระกูลฉินได้ยังไงใช่ไหม”

 

 

เฉียวเหลียงพยักหน้า “ใช่ ดูเหมือนกลุ่มกิจการร่วมค้าฉินจะไม่เต็มใจช่วยฉินกรุป เวลาที่ฉินกรุปต้องรับมือกับเอ็มไพร์กรุป”

 

 

ถังซีหรี่ตา “ถ้าอย่างนั้นคุณก็หมายความว่าเราควรจัดการกับฉินกรุปก่อนใช่ไหม”

 

 

เฉียวเหลียงส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ เราควรค้นหาก่อนว่าใครอยู่เบื้องหลังฉินเย่ว์”

 

 

ไม่นานเฮ่อหว่านโจวก็มาถึง เขารู้สึกกระปรี้กระเปร่าเมื่อได้ยินว่ากำลังจะได้ร่วมงานกับถังซี แม้ถังซีจะปฏิเสธการพยายามเกี้ยวพาราสีของเขาอย่างชัดเจน แต่เขาก็ยังรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานกับนักธุรกิจหญิงผู้เก่งกาจอย่างเธอ เขาถามถังซีด้วยความตื่นเต้น “โหรวโหรว เมื่อไหร่ถังซีจะมา ถ้าพี่ตกลงร่วมมือกับเธอ พี่จะได้เจอเธอทุกวันไหม”

 

 

หางตาถังซีหรี่ลง เธอแอบชำเลืองมองเฉียวเหลียงเงียบๆ เป็นไปตามที่เธอคาดคิด สีหน้าเฉียวเหลียงเข้มขึ้นทันที ถังซียิ้ม “ไม่น่านะคะ ฉันได้ยินมาว่าคุณถังซีงานยุ่งมาก แล้วอีกอย่างช่วงตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงนี้ บางทีเราอาจได้เจอแต่ลูกน้องของเธอเท่านั้น”

 

 

เฮ่อหว่านโจวรู้สึกผิดหวังที่ได้ยินอย่างนี้ เขาทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างท้อแท้ มองหน้าถังซี “โธ่เอ๊ย คิดว่าจะได้พบกับหวานใจบ้าง บางทีพี่อาจมีโอกาสเป็นที่โปรดปรานของเธอก็ได้!”

 

 

ถังซียิ้ม แม้จะขนลุกจนตัวสั่นไปหมด หวานใจเหรอ ขนาดนั้นเลยเหรอ เฮ่อหว่านโจวเรียกเธอแบบนี้ได้อย่างไร!

 

 

“ฉันได้ยินมาว่าคุณถังมีแฟนแล้วนะคะ คราวนี้เธออาจพาแฟนมาด้วย” ถังซีกล่าว กลอกตาไปมามองเฮ่อหว่านโจว

 

 

โชคดีที่เฮ่อหว่านโจวไม่รู้ว่าเธอคือถังซี ไม่อย่างนั้น…

 

 

ถังซีแอบมองหน้าเฉียวเหลียงอีกครั้ง เขาอ่านเอกสารเฉยอยู่โดยไม่แสดงความรู้สึกใดๆ เธอโล่งอกที่เห็นเขาไม่มีอาการหึงหวง

 

 

แล้วจู่ๆ เฮ่อหว่านโจวก็ถามว่า “โหรวโหรว ไม่เป็นอะไรเหรอที่เฉียวเหลียงจะร่วมงานกับถังซี”

 

 

“ฮึ” ถังซีมองหน้าเฮ่อหว่านโจว “มีปัญหาอะไรเหรอคะ”

 

 

“โอ พี่ลืมไปเลยว่าจริงๆ แล้วเธอกับถังซีเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน! เธอจะไม่รู้สึกอึดอัดใจเหรอ เวลาอยู่ด้วยกัน เพราะ… ใครบางคน” เฮ่อหว่านโจวกล่าว พร้อมกับหันไปมองเฉียวเหลียง “เธอต้องอึดอัดใจแน่เลย ใช่ไหม”

 

 

ถังซีอึ้ง “…” ถ้าคุณรู้ว่าลูกพี่ลูกน้องทั้งสองเป็นคนคนเดียวกัน คุณต้องช็อกแน่

 

 

“ทำไมไม่พูดล่ะ” เฮ่อหว่านโจวยิ้มอย่างชั่วร้าย “เธอรู้สึกอึดอัดใจใช่ไหมล่ะ เวลาอยู่กับถังซี”

 

 

พี่น้องตระกูลเซียวมองเฮ่อหว่านโจวด้วยสายตาเหมือนมองคนปัญญาอ่อน เซียวส่ากล่าวว่า “ทำไมพวกเธอต้องอึดอัดใจด้วยล่ะ เราทุกคนก็เคยร่วมงานกับแฟนเก่านี่นา” เขาหยุดไปนิดหนึ่ง ก่อนจะกล่าวต่อไป “อย่างนายไง นายลงทุนสร้างหนังให้แฟนเก่าคนหนึ่งแสดงอยู่ไม่ใช่หรือตอนนี้ นายเคยไปเที่ยวกับแฟนเก่า แล้วก็เคยชวนแฟนเก่าหลายคนมาแสดงในหนังเรื่องเดียวกันของนายด้วย จริงไหม”

 

 

เฮ่อหว่านโจวอึกอัก “ในวงการบันเทิงมันไม่เหมือนกัน นายก็รู้ว่าเฉียวเหลียงเคยรักถังซีมากแค่ไหน!”

 

 

จากนั้นเขาก็หันไปมองเซียวส่าที่พยายามปกป้องถังซีด้วยท่าทางสงสัย “ทำไมนายถึงพยายามปกป้องเฉียวเหลียงกับถังซี นายไม่ห่วงน้องสาวนายเลยเหรอ” เขาหันไปมองถังซีแล้วเลิกคิ้ว “พูดตามตรงนะ เซียวโหรวไม่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับถังซีเลยด้วยซ้ำ จริงไหม”