ตอนที่ 92 เยี่ยนยินดีให้เจ้าเป็นศูนย์กลาง

 

 

 

 

ระหว่างที่เป่ยเฉินเสียเยี่ยนเงยหน้า ก็จ้องหน้ากับนาง 

 

 

ใบหน้าทั้งสองห่างกันแค่คืบ ร่างกายอ่อนนุ่มนิ่มของนางแนบอยู่บนตัวเขา เป่ยเฉินเสียเยี่ยนไม่พูดจา ผ่านไปสักพัก เยี่ยเม่ยค่อยตระหนักถึงท่าทางระหว่างทั้งสองคน บรรยากาศตกอยู่ในความคลุมเครือ  

 

 

บรรยากาศเปลี่ยนไปเป็นแปลกพิกล 

 

 

จากท่าทางดุร้าย ต้องการจัดการเขาของนาง เปลี่ยนไปจนเป็นเช่นนี้…ราวกับว่าอากาศรอบๆ ยังดูงดงามขึ้นไม่น้อย 

 

 

จู่ๆ เป่ยเฉินเสียเยี่ยนก็หัวเราะออกมา เขาหัวเราะจนแผงอกสั่นสะเทือน สีหน้าที่มองนางก็ดูอ่อนโยนมากขึ้น เขาพลิกตัวอย่างรวดเร็ว  

 

 

เยี่ยเม่ยถูกกดไว้ด้านล่าง 

 

 

ฝ่ามือใหญ่ของเขาจับข้อมือนางเอาไว้โดยไม่บอกกล่าว กดมือทั้งสองข้างของเยี่ยเม่ยไว้บนเตียง 

 

 

      เยี่ยเม่ยมีสีหน้าเดือดดาล ขณะที่กำลังจะพลิกตัวกลับ กลับรู้สึกได้อย่างรุนแรงว่ามีของแข็งบางอย่าง แนบอยู่ที่ร่างนางผ่านเสื้อผ้า 

 

 

เมื่อเงยหน้ามองดูเห็นในตาแดงของบุรุษหนุ่ม นั่นคล้ายกับความปรารถนาที่ยากควบคุม 

 

 

นางเข้าใจขึ้นมาทันที อากัปกิริยาโต้ตอบไปมาของพวกนาง ปลุกความปรารถนาของเขาขึ้นมาแล้ว 

 

 

แมวช่างสงสัยมักตกอยู่ในความตาย การขยับซี้ซั้วก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่น่ากลัว 

 

 

สิ่งเหล่านี้เยี่ยเม่ยล้วนเข้าใจ 

 

 

… 

 

 

ยามนี้นางไม่ขยับแล้ว มองเป่ยเฉินเสียเยี่ยนด้วยสายตาเย็นเยียบเป็นเชิงตักเตือน หวังว่าเจ้านี่จะรู้จักขอบเขต  

 

 

ในขณะที่นางกำลังถลึงตานั้น 

 

 

เขาพลันก้มหน้าลงมา กลิ่นอายบุรุษจากร่างเขา ฮอร์โมนชวนให้คนลุ่มหลงพุ่งเข้ามา เยี่ยเม่ยถึงกลับมึนงงไปชั่วครู่ เพียงเสี้ยวเวลาที่ตกอยู่ใต้กลิ่นอายบุรุษเพศ ใต้ใบหน้าตาหล่อเหลาของเขา ก็ลืมสถานการณ์ตนเองไปหมดสิ้น สมองเลอะเลือน 

 

 

รอจนนางรู้สึกตอบสนอง ก็รู้สึกเจ็บปวดที่คอแล้ว 

 

 

ความเจ็บปวดนี้มิได้รุนแรง แต่ยังคงทำให้เยี่ยเม่ยมุ่นคิ้ว ริมฝีปากร้อนรุ่มของเขา ขบคอขาวนุ่มของนาง บรรยากาศคลุมเครือระหว่างเขาทั้งสองคนยิ่งหนักหน่วงมากขึ้น 

 

 

ส่วนความเจ็บปวดที่คอนางก็มาจากแรงขบจากริมฝีปากเขา 

 

 

ยามนี้เยี่ยเม่ยเข้าใจแล้ว เกรงว่าคอของนางจะถูกเจ้าคนไม่รู้จักขอบเขต บุรุษซุกซนผู้นี้ทิ้งรอยจูบไว้เสียแล้ว 

 

 

นางเตรียมออกแรงหนีออกจากมือเขา ริมฝีปากของเป่ยเฉินเสียเยี่ยนผละออกจากคอนางราวกับรู้ทัน 

 

 

แววตาของเขาในยามนี้เปลี่ยนเป็นอ่อนโยน จับจ้องใบหน้าโมโหโทโสของนาง ดวงตาเจือรอยยิ้ม แววตาเช่นนั้นมีเสน่ห์ดึงดูดคนชนิดหนึ่ง คล้ายทุ่งดอกไม้ริมฝั่งถูกขยี้เป็นผง เก็บไว้ในแววตาเขา คล้ายกับยาพิษคร่าชีวิต กระชากวิญญาณ 

 

 

น้ำเสียงของเขาก็เปลี่ยนไปต่ำลงและแหบพร่าอยู่บ้าง เห็นได้ชัดว่าเขากำลังควบคุมความปรารถนาของตน เป่ยเฉินเสียเยี่ยนค่อยๆ หัวเราะเอ่ยว่า “ใช่ ซุกซนเสียหน่อย ข้ามีความสุขมาก” 

 

 

      หากรู้แต่แรกว่า เหตุไม่คาดฝันเช่นนี้กลับสามารถทำให้ระหว่างพวกเขาสองคนมีอากัปกิริยาโต้ตอบมอมเมาคนอย่างนี้ เขาสมควรคว้าโอกาสและกระทำ ‘ซุกซน’ไปนานแล้ว ทั้งยังใช้ร่างกายกระทำถึงจะถูก 

 

 

      ความรู้สึกร้อนวาบบนคอยังคงอยู่ เยี่ยเม่ยที่เป็นสตรีเข้มแข็งราวบุรุษ ในยามนี้นอกจากความโมโหสุมอยู่เต็มอกแล้ว ยังมีความรู้สึกที่ไม่ชัดเจนบางอย่าง พัวพันอยู่ในจิตใจ  

 

 

ในยามนี้นางยังมีอารมณ์สนใจว่านี่มันคือความรู้สึกอะไรกันแน่ที่ไหนกัน 

 

 

นางไม่พูดพร่ำ ยกขาแรงๆ กระแทกหว่างขาของเป่ยเฉินเสียเยี่ยน 

 

 

คล้ายเขาคาดเดาได้ก่อนแล้ว ในเสี้ยวนาทีที่นางยกขา เขาใช้ขายาวของตนกดทับขานางไว้ล่วงหน้า 

 

 

รอยยิ้มในแววตาเขาชัดเจนขึ้น เอ่ยว่า “แม่นางเยี่ยเม่ย ครั้งนี้หากเจ้าลงมือได้ตรงเป้าหมาย เยี่ยนไม่กล้ารับรองว่า อีกครึ่งชีวิตที่เหลือของพวกเรายังจะมีความสุขอยู่หรือไม่” 

 

 

เขาเข้าใจนางดี รู้ว่าครั้งนี้นางไม่ลงมือเบาๆ แน่ 

 

 

หากถูกนางโจมตี กระดูกยังหักได้ ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงจุดอ่อนแอที่สุดของบุรุษ 

 

 

เยี่ยเม่ยมองเขาด้วยความเย็นชา ฝืนกลั้นความรู้สึกแปลกใจเอาไว้ จ้องใบหน้าเขา ถามขึ้นว่า “คืออีกครึ่งชีวิตที่เหลือของท่านไม่มีความสุขต่างหาก อย่าได้เอาครึ่งชีวิตที่เหลือของข้าไปผูกติดกับท่าน” 

 

 

 “ไร้น้ำใจนัก” เขาดูเสียใจอยู่บ้าง กลับยังยิ้มเอ่ยสี่คำนี้ออกมา ไม่ช้าเขาก็เริ่มไร้ยางอายอีกครั้ง ยื่นใบหน้าหล่อเหลาเข้ามาหานาง “ผูกติดหรือไม่ ชั่วชีวิตนี้ของเยี่ยนกำหนดไว้ว่าเป็นเจ้าแล้ว แม่นางเยี่ยเม่ยเจ้าหนีไม่พ้นหรอก” 

 

 

สิ้นเสียง เป่ยเฉินเสียเยี่ยนก็ปิดปากเยี่ยเม่ยอย่างดุดัน 

 

 

ในชั่วขณะที่เยี่ยเม่ยตกใจจนเบิกตากว้าง เขาก็รุกรานเข้าไปอีก 

 

 

แววตาเยี่ยเม่ยเต็มไปด้วยความโกรธขึง อ้าปากกัดเขาอย่างแรง ในปากนางสัมผัสได้ถึงรสคาวเลือดในไม่ช้า ส่วนเขากลับไม่ถอย นัยน์ตาทวีความเร่าร้อน กดจูบรุนแรงราวกับลงทัณฑ์ก็ไม่ปาน 

 

 

ทั่วทั้งร่างของเยี่ยเม่ยถูกเขาควบคุมเอาไว้ เป่ยเฉินเสียเยี่ยนกดข้อมือนาง ส่วนคนก็กดทาบทับลงมา 

 

 

นี่ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตที่นางถูกกระทำ ในที่สุดแววตาของเยี่ยเม่ยก็ฉายไอสังหาร ในขณะที่กำลังจะลงมือนั้น เสียงเขาก็ดังขึ้นมาระหว่างริมฝีปากของทั้งสอง “แม่นางเยี่ยเม่ย สิ่งของล้ำค่าที่สุดในโลกใบนี้ จำเป็นต้องลงแรงอย่างสุดกำลังถึงจะได้รับมา คนทั้งหลายเรียกวิธีการเพื่อการได้รับมาว่าการทุ่มเท ในเมื่อเยี่ยนกล้าชมชอบเจ้า ก็ต้องทุ่มเททุกอย่าง รวมถึงเตรียมตัวตายเอาไว้ด้วย” 

 

 

เป่ยเฉินเสียเยี่ยนตระหนักได้ว่าเยี่ยเม่ยเกิดความคิดสังหารตนแล้ว ในเมื่อเขารู้ว่านางคิดจะสังหารเขา แต่เขายังเอ่ยคำนี้ออกมา แสดงว่าต่อให้นางคิดลงมือ เขาก็ไม่คิดหลบเลี่ยงเลยสักน้อย 

 

 

คำพูดนี้ กลับทำให้นางตกอยู่ในความงุนงงชั่วครู่ 

 

 

ส่วนจูบของเขา ก็ยิ่งอ้อยอิ่งอ่อนโยน 

 

 

ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาหยุดจูบลง สายตาที่เยี่ยเม่ยมองเป่ยเฉินเสียเยี่ยนยังคงเย็นชาเหมือนเคย ทว่ากลับแทรกความสับสน แต่ไหนแต่ไรมานางไม่เข้าใจว่าความรักคือสิ่งใด ทั้งยังบอกไม่ได้ว่าจากคำพูดและการกระทำของเขา ในใจเกิดความรู้สึกแปลกประหลาดบางอย่างที่ตัวนางไม่อาจอธิบายได้นั่นคืออะไร 

 

 

แต่นางเข้าใจคำว่าทุ่มเทอย่างชัดเจน 

 

 

สายตาเย็นเยียบของนางมองเขา “ทุ่มเท? ท่านทุ่มเทสิ่งใดเพื่อข้าได้” 

 

 

 “ทุกอย่างที่เจ้าต้องการ” เสี้ยวนาทีนี้ในดวงของเขาอัดแน่นด้วยความจริงใจ สายตาที่มองนางอ่อนโยนถึงที่สุด “สิ่งที่เยี่ยนมีล้วนเป็นของเจ้า สิ่งที่เยี่ยนไม่มี ก็แย่งชิงมาเพื่อเจ้า ต่อให้เจ้าสั่งให้เยี่ยนชำระล้างจิตใจเปลี่ยนเป็นคนดีจิตใจงดงามผู้หนึ่ง พยายามสะกดเก็บนิสัยเดิมไม่ทรมานจิตใจคนอีก เยี่ยนก็ยินดีทำ”  

 

 

หากบอกว่าชั่วชีวิตเป่ยเฉินเสียเยี่ยนมีงานอดิเรกอะไร เกรงว่าสิ่งนี้คงเป็นอย่างเดียว 

 

 

มองดูคนดิ้นรนในสายตาเขา เปล่งเสียงกรีดร้อง เหยียบย่ำคุณธรรมและหลักการในใจของคน ใช้พิสูจน์ว่าจิตของพวกเขาล้วนไร้มโนธรรม นี่คือสิ่งที่เขาชอบทำมาตลอดหลายปี แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้เขาถูกเข้าใจว่ามีนิสัยชั่วร้าย 

 

 

แต่เพื่อนางแล้ว เขายินยอมเปลี่ยนแปลง 

 

 

ชั่วเวลานี้เยี่ยเม่ยนิ่งเงียบ ถึงนางเชื่อมั่นว่าตนเองเพียบพร้อมมาก แต่ความเพียบพร้อมของบุรุษผู้นี้หาได้ด้อยไปกว่านาง จู่ๆ เขาแสดงความจริงใจเช่นนี้ออกมา ทำให้นางทำตัวไม่ถูก 

 

 

นางฝืนนิ่งสงบ ถามเขาว่า “ข้าให้ท่านทำอะไร ท่านก็ยินดีเหรอ” 

 

 

 “ใช่” เขาพยักหน้าด้วยท่าทางงดงาม แววตาเจือรอยยิ้มสบายอารมณ์ เอ่ยช้าๆ “เยี่ยนยินยอมห้อมล้อมอยู่รอบกายแม่นาง ทุกอย่างล้วนให้เจ้าเป็นศูนย์กลาง มุ่งมั่นเปลี่ยนไปอย่างที่เจ้าชอบ ต่อให้ต้องสูญเสียความเป็นตัวเองก็ไม่น่าเสียดาย” 

 

 

ระหว่างที่เอ่ย มือข้างที่จับข้อมือขวาของเยี่ยเม่ยพลันขยับแล้ว 

 

 

ดึงฝ่ามือนางเข้ามาแนบที่ใจเขา เพื่อให้เยี่ยเม่ยสัมผัสได้ถึงเสียงเต้นของหัวใจ น้ำเสียงน่าฟังของเขาเจือความหลงใหล ดังขึ้นอีกครั้ง “เจ้าฟังดู มันกำลังบอกว่าจริงใจ”