บทที่ 634 ปริศนาการตายของยู่เฟย

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 634 ปริศนาการตายของยู่เฟย
กู้ชูหน่วนสงสัยในความสัมพันธ์ระหว่างแม่ทัพใหญ่เซียวและเผ่าหยก และสงสัยว่าทำไมเมื่อเขาพบผู้อาวุโสหกแล้วถึงมีปฏิกิริยาตอบโต้รุนแรงเช่นนี้

“ปัง……” เสียงหนึ่ง

กู้ชูหน่วนเปิดประตูบ้าน ฮัวฉีหลัวเงยหน้าขึ้นมาอย่างฉับพลัน เห็นกู้ชูหน่วน ดวงตาเปล่งประกายทันที นางขยี้ตาแล้วขยี้ตาอีก พูดขึ้นด้วยความเหลือเชื่อ “พี่……พี่หน่วน เป็นพี่จริงๆเหรอ? ข้าไม่ได้ฝันไปหรอกนะ”

ร่างกายของกู้ชูหน่วนโซเซเล็กน้อย นั้นก็เพราะถูกฮัวฉีหลัวพุ่งเข้าใส่

เจ้าเด็กคนนี้ อายุไม่มาก แรงกำลังกลับมากจริงๆ พุ่งมาทีหนึ่งแทบจะทำนางล้มแล้ว

“พี่หน่วน พี่ไปไหนมา ข้าคิดถึงพี่จะตายอยู่แล้ว ข้าหาพี่อยู่ตั้งนานก็ไม่พบ ทั้งยังถูกตาเฒ่านี่หลอกมาที่สำนักอสุราอีก”

กู้ชูหน่วนลูบผมอันเรียบลื่นของนาง ยิ้มและกล่าว “พี่หน่วนคำนี้ที่เจ้าเรียกก็เรียกซะเหมือนรู้จักมักจี่กันมากเชียวนะ ข้าจำได้ ครั้งแรกที่เจ้าเห็นข้า ก็คิดจะฆ่าข้าแล้ว”

“ก็ตอนนั้นข้าไม่รู้จักตัวตนของพี่นี่นา อีกทั้งวิทยายุทธของพี่ก็เปลี่ยนไปจนย่ำแย่อย่างฉับพลันขนาดนั้น ข้าจะจำได้อย่างไร”

ฮัวฉีหลัวพยายามคลอเคลียไปบนตัวของนางอย่างไม่เกรงใจสักนิด เหมือนกับตอนเด็กๆที่นางเคยคลอเคลีย

“เด็กดี พี่มีธุระต้องการพบผู้อาวุโสหก เจ้าออกไปกับเสี่ยวลู่ก่อน”

ฮัวฉีหลัวยังอยากออดอ้อนอีก แต่เมื่อเห็นสีหน้าอันจริงจังบนใบหน้าของกู้ชูหน่วน ก็อดไม่ได้แลบลิ้นออกมาแล้วตามเสี่ยวลู่ออกไป

ผู้อาวุโสหกเมามายจนเลอะเลือน เขาลุกขึ้นยืนอย่างด้วยความโซเซ ฉีกยิ้ม

“อาหน่วน เจ้าคืออาหน่วน เจ้ามาดื่มเหล้าเป็นเพื่อนข้าหรือ? มา พวกเราดื่ม มาดื่มเหล้าของสำนักอสุราให้เกลี้ยง ดูซิว่าครั้งหน้าพวกเขายังจะกล้าชักสีหน้าอีกหรือไม่”

แม่ทัพใหญ่เซียวกล่าวด้วยความตื่นเต้น “ผู้อาวุโสหก ท่านยังจำข้าได้หรือไม่?”

สายตาของผู้อาวุโสหกพร่ามัว มองไปที่แม่ทัพเซียวด้วยความงุนงง เป็นเวลานานกว่าจะนึกออก

“เป็นข้า เสี่ยวเซียว แม่ทัพผู้น้อยคนนั้นของแคว้นเย่”

“อ๋อ…..เหมือนว่าจะมีเค้าลางอยู่บ้าง เป็นเพื่อนของยู่เอ๋อร์สินะ ยู่เอ๋อร์พูดพร่ำอยู่ข้างหูข้าบ่อยครั้ง ชื่นชมว่าเจ้าดี”

น้ำตาของแม่ทัพใหญ่เซียวหลั่งไหลลงมาราวกับไข่มุกที่ร่วงหล่นเป็นเม็ดๆ เขาร้องไห้ไม่ออกเสียง หน้าอกของเขาเคลื่อนขึ้นลงอย่างรุนแรง มองออกได้ว่า เวลานี้เขารู้สึกตื่นเต้นมาก

แม่ทัพใหญ่เซียวที่เป็นเช่นนี้ไม่ได้มีอำนาจ น่าเกรงขาม เคร่งขรึมเหมือนก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง กลับเหมือนเฒ่าทารกผู้หนึ่ง เฒ่าทารกผู้หนึ่งที่มีความคับข้องใจอยู่เต็มเปี่ยม

“ขอโทษ เป็นเพราะข้าไม่ได้ปกป้องยู่เฟยเหนียงเหนียงให้ดี จึงได้ทำให้นาง…..ขอโทษ…..”

ผุบเสียงหนึ่งแม่ทัพใหญ่เซียวคุกเข่าลงโดยตรง

กู้ชูหน่วนรีบพยุงเขาขึ้นมา “แม่ทัพใหญ่ อย่าทำเช่นนี้ แบบนี้จะทำให้เขาอายุสั้น และทำให้ข้าอายุสั้นด้วย”

“ท่านไม่รู้ ตอนนั้น….ตอนนั้นล้วนเป็นเพราะข้า หากไม่ได้เป็นเพราะข้า ยู่เฟยเหนียงเหนียงก็คงไม่ตาย”

“ยู่เฟยคือใคร?”

ร่างกายของแม่ทัพใหญ่เซียวชะงักเล็กน้อย น้ำตาก็หยุดไหลเล็กน้อย

“ท่าน…..ท่านไม่รู้เรื่องของยู่เฟย? ท่านไม่ใช่หัวหน้าเผ่าของเผ่าหยกหรือ?”

แม่ทัพใหญ่เซียวมองไปที่ผู้อาวุโสหกสายตาที่แฝงไปด้วยคำถาม

ก็ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสหกเมา หรือมีสติอยู่ เขากล่าวอย่างรำคาญว่า “นอกจากอาหน่วน ผู้ใดยังมีคุณสมบัติเป็นหัวหน้าเผ่าหยกของพวกเราได้อีก เรื่องของยู่เอ๋อร์ก็ผ่านไปหลายปีแล้ว เรื่องเหล่านั้นก็เป็นเพียงเรื่องในอดีตที่ไม่สำคัญแล้ว ใครจะจำได้ หากว่าเจ้าจะดื่มเหล้าเป็นเพื่อนข้า ข้าก็ยินดี หากว่าเจ้ามาที่นี่เพื่อร้องไห้ด้วยความโศกเศร้า ก็รีบออกไปซะ ข้ายังไม่ตายหรอกนะ”

พูดพลาง ก็ไม่ได้รอให้แม่ทัพใหญ่เซียวตอบกลับ ผู้อาวุโสหกก็ไล่แม่ทัพใหญ่เซียวออกไปโดยตรงแล้ว

กู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว ตามออกไป

นางกล่าวปลอบใจ “ผู้อาวุโสหกติดสุราดั่งชีวิต พูดจามั่วซั่วเลอะเทอะ แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไร รอจนเขาสร่างเมาแล้วก็ดีแล้ว ท่านอย่าได้ถือสาเลย”

แม่ทัพใหญ่เซียวหัวเราะเจื่อนๆ

ในใจเขารู้ดีกว่าใครๆ

ผู้อาวุโสหกไม่ได้เมา

แต่เขาใช้เหล้ามาทำเป็นแสร้งเมา เขามีสติชัดเจนมาก
สาเหตุที่ไล่เขาออกมา ก็เพราะการตายของยู่เฟย เขายังปล่อยวางไม่ได้