เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 703
เสียงปืนดังขึ้น
ทั้งตัวของเย่โหรวหยุดชะงักอยู่ที่เดิม
บนใบหน้าของเธอ แสดงอารมณ์ไร้ความรู้สึกไร้จิตวิญญาณ
เลือดสดๆ หนึ่งหยด ไหลลงมาจากหน้าผากของเธอ
ในขณะนี้
ที่หน้าผากของเย่โหรว มีบาดแผลที่น่าตกใจ
“หยางเฟิง……”
เย่โหรวมองหยางเฟิงอย่างเหม่อลอย
ในสมองมีความรู้สึกนึกคิดต่างๆ นานามากมาย
ทำไมเขาถึงมีปืน?
ทำไมปืนกระบอกนี้ และยังชุบทองอีกด้วย!
ปืนเป็นข้อห้ามในต้าเซี่ย
และปืนชุบทอง ก็ยิ่งเป็นข้อห้ามในข้อห้ามไปอีก!
เพราะว่าสีนี้ เป็นเอกสิทธิ์ของราชวงศ์!
ยิ่งเกรงว่า
คนที่ควักปืนนี้ออกมา คาดไม่ถึงว่าจะเป็นเสือขาว ที่คอยติดตามเขาอยู่ตลอด!
หยางเฟิง ท้ายที่สุดแล้วเขาเป็นใครกันแน่?
ไม่รอให้เธอได้คิดจบ
เสียงดังครืน
เย่โหรวหมดแรงไร้กำลัง ล้มลงอยู่กับพื้น
ดวงตาทั้งคู่ของเธอเบิกกว้าง
สีสันในแววตาค่อยๆ จางหายไป
ก่อนที่เย่โหรวจะตาย
ฉากแต่ละฉากในอดีต แวบเข้ามาในสมองของเธอไม่หยุด
เธอเกิดมาอยู่เหนือผู้คน เป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลเย่ในจงโจว!
แต่ก่อนเธอเคยได้ใช้ชีวิตอยู่กินดี
แต่ทุกสิ่งทุกอย่างนี้……
หลังจากที่เธอได้พบเจอหยางเฟิง ทั้งหมดก็จบสิ้นลง!
ในท้ายที่สุด
เย่โหรวได้นำพาความไม่ยินยอมทั้งหมดที่มีอยู่ และจิตใจที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นจากโลกใบนี้ไป
เสือขาวเป่าปากกระบอกปืนเล็กน้อย
เขามองดูศพของเย่โหรว และกล่าวด้วยใบหน้าเหยียดหยาม : “คุณคิดที่จะฆ่าท่านแม่ทัพ ไม่เจียมตัวเอาซะเลย!”
หยางเฟิงมองดูศพของเย่โหรว ด้วยแววตาที่ไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย
เขาได้ให้โอกาสเย่โหรวที่จะมีชีวิตอยู่แล้ว
เพียงแต่เธอไม่เห็นคุณค่าของมันเอง
“ไปกันเถอะ!”
เสียงถอนหายใจ
หยางเฟิงไม่ได้อยู่นาน พาเสือขาวออกไปทันที
และเย่หนานที่ยังคงกลิ้งไปมาอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวด มองดูศพของเย่โหรว ด้วยสีหน้าหวาดผวาจนสุดที่จะบรรยาย!
เขยแต่งเข้าคนนี้ คาดไม่ถึงว่าจะป่าเถื่อนเช่นนี้?
แม้กระทั่งมือสังหารอันดับหนึ่งในต่างประเทศ ที่เขาเคยเห็นมา
ความดุร้ายของเขา เทียบกับหยางเฟิงไม่ได้เลยแท้แต่น้อย!
และสิ่งที่เย่หนานไม่รู้ก็คือ บุคคลที่มีชื่อเสียงในสายตาของเขา มือสังหารอันดับหนึ่งในต่างประเทศ เคยคุกเข่าต่อหน้าหยางเฟิงสามวันสามคืน เพื่อขอเข้าร่วมกองทัพเทพมรณะของหยางเฟิง!
เพิกเฉยต่อความเจ็บปวดบนร่างกาย
เย่หนานกัดฟันคาบมือถือ และกดโทรออกไปเบอร์หนึ่ง
“รีบมาช่วยฉันเร็วเข้า……”
……
หลังจากจัดการเย่เทียนกับเย่โหรวเสร็จแล้ว
หยางเฟิงก็พักผ่อนหลายวันอย่างหาได้ยาก
ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเพื่อดูแลภรรยาและพ่อ
“ที่รัก เลิกงานแล้วเหรอ?”
หยางเฟิงเดินออกมาจากห้องครัว และกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว!”
เย่เมิ่งเหยียนที่เหนื่อยล้าตลอดทั้งวัน นอนเอนอยู่บนโซฟา ไม่อยากขยับเขยื้อนเลย
หยางเฟิงเดินเข้าไปบีบนวดไหล่ให้เย่เมิ่งเหยียนและพูดว่า : “ที่รัก คุณรอเดี๋ยวนะ อาหารกำลังจะทำเสร็จในไม่ช้า!”
ถึงแม้ว่าตอนนี้ในบ้านจะมีพ่อครัวเฉพาะ
แต่ถ้ามีเวลา หยางเฟิงยังคงทำอาหารอร่อยๆ ให้ภรรยาและลูกสาวทานเอง
ชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายแบบนี้ในสายตาคนธรรมดา ชีวิตในสนามรบที่ต้องเผชิญมาอย่างโชกโชนเป็นเวลาห้าปีของเขา เขาครุ่นคิดถึงมันมาตลอด!
ผ่านไปกี่ครั้ง ก็ยังไม่พอ!
“ที่รัก คุณรอเดี๋ยวสิ!”
เห็นว่าหยางเฟิงกำลังจะเข้าครัว
จู่ๆ เย่เมิ่งเหยียนก็เรียกเขาให้หยุด
“ที่รัก คุณมีเรื่องอะไรเหรอ?” หยางเฟิงกล่าวอย่างสงสัย
เย่เมิ่งเหยียนหยิบจดหมายเเชิญสีแดงจากในกระเป๋าแล้วยื่นให้
“คุณดูอันนี้ก่อน!”
หยางเฟิงรับจดหมายเชิญ และเปิดออกดู สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
เขาถอนหายใจเบาๆ
ควรจะมา ในที่สุดแล้วก็จะต้องมา!
เย่เมิ่งเหยียนมองเห็นการแสดงออกบนใบหน้าของหยางเฟิง จึงพูดเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม : “ที่รัก นี่เป็นหนิงชิงเฉิงส่งมาให้ฉัน จดหมายเชิญสำหรับพิธีเปิดบริษัทชิงเฉิงกรุ๊ปสาขาตงไห่ คุณว่าฉันต้องไปไหม?”
หยางเฟิงไม่ได้ตอบ