ตอนที่ 416 มอบตัวเองให้ / ตอนที่ 417 ความสามารถของผู้บำเพ็ญเพียร

หมอยาหวานใจท่านประธาน

ตอนที่ 416 มอบตัวเองให้ 

 

 

เฉวียนหมิงตะลึงกับการกระทำของอีลั่วเสวี่ย คิดไม่ถึงว่าเธอซึ่งปกติดูอ่อนโยนและเก็บตัวกลับมีด้านที่กล้าแสดงออก น่าแปลกใจจริงๆ 

 

 

เขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะก่อนหน้านี้เขายุติกลางคันสองครั้งแล้ว จนอีลั่วเสวี่ยนึกโมโห จึงต้องตีโต้ 

 

 

ทั้งคู่แนบชิดกัน เสื้อผ้าค่อยๆ หลุดออกหมด ในห้องร้อนขึ้นทีละน้อย 

 

 

สุดท้ายเฉวียนหมิงยึดครองพื้นที่ด้านบน เขามองจากข้างบนลงมา มองดูอีลั่วเสวี่ยซึ่งขณะนี้ดวงตาเคลิบเคลิ้ม “อาเสวี่ย ผมมาแล้ว” 

 

 

สองมือของอีลั่วเสวี่ยแตะบนแผ่นหลังของเขา พอเธอได้ยินก็ไม่กล้าลืมตามองเขา แล้วร้องอืมเบาๆ ราวกับแมวคราง 

 

 

พอได้รับอนุญาตเฉวียนหมิงจึงก้มตัวลงไป ค่อยๆ เคลื่อนไปข้างหน้า เริ่มโจมตีเมือง 

 

 

ทั้งคู่ต่างไม่มีประสบการณ์ ชั่วขณะนี้ยังค้นหาไม่เจอ จนหน้าผากมีเหงื่อผุดออกมา ยังดีที่เรื่องทำนองนี้เรียนรู้เองได้โดยไม่ต้องมีครู แล้วเฉวียนหมิงก็พบหลักเกณฑ์อย่างรวดเร็ว ใช้อาวุธของเขาเริ่มโจมตีคูเมือง ในห้องเริ่มได้ยินเสียงหายใจของทั้งคู่ ช่างอ่อนหวานและเข้มข้น 

 

 

ความเจ็บปวดตอนแรกทำให้อีลั่วเสวี่ยกัดฟัน เจ็บจริงๆ แต่ไม่นานก็ถูกความอ่อนโยนของเฉวียนหมิงเอาชนะ ลืมความทุกข์ตอนแรกไป คอยคล้อยตามจังหวะของเขาเริ่มรู้สึกหฤหรรษ์อย่างน่าประหลาด 

 

 

เธอเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมคนจึงชอบเรื่องแบบนี้ เป็นเรื่องที่ทำให้ต่างลุ่มหลงอย่างแท้จริง โดยเฉพาะคนสองคนที่รักกัน ในฉันมีคุณ ในคุณมีฉัน สัมผัสกันอย่างแนบแน่น 

 

 

อีลั่วเสวี่ยคิดไม่ถึงว่าตนเองมาที่โลกนี้ไม่ถึงปีกลับเปิดหัวใจตัวเองออก รู้จักรัก ทั้งวันนี้ยังมอบตนเองออกไปแล้ว 

 

 

“เฉวียนหมิง” จากนั้นเธอก็ไม่สามารถคิดเรื่องอื่นได้อีก รู้เพียงว่าระหว่างนั้นการเรียกชื่อเฉวียนหมิงดูเหมือนจะช่วยให้เธอมีความรู้สึกปลอดภัย 

 

 

ใบหน้าเฉวียนหมิงแนบที่ลำคอเธอ หายใจไอร้อนออกมา “อาเสวี่ย ผมอยู่นี่” ปากพูดแต่ไม่หยุด ทำทีละน้อยอย่างมีจังหวะ เชื้อเชิญอีลั่วเสวี่ยให้มีความสุขด้วยกัน 

 

 

ผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง ขณะที่อีลั่วเสวี่ยรู้สึกว่าตนเองอ่อนแรง ในที่สุดเฉวียนหมิงก็หยุดการกระทำ ปลดปล่อยตัวเอง 

 

 

จากนั้นเขาก็ค่อยๆ พลิกตัว ให้อีลั่วเสวี่ยซึ่งอยู่ด้านล่างเปลี่ยนขึ้นมาด้านบน ตัวเองกลายเป็นเบาะมนุษย์ ส่วนเธอแอบอิงบนตัวเขาอย่างพึงพอใจ รู้สึกถึงเสียงหัวใจเขาที่เต้นแรง 

 

 

เฉวียนหมิงกอดอีลั่วเสวี่ยไว้ในอ้อมอก ในดวงตาเปี่ยมด้วยความรัก 

 

 

อีลั่วเสวี่ยขมวดคิ้ว “ข้างนอกมีข่าวลือว่าคุณไร้สมรรถภาพ ที่แท้เป็นเรื่องหลอกลวง” ไร้สมรรถภาพอะไรกัน ที่แท้มีสมรรถภาพดีขนาดนี้ ถ้าเป็นร่างกายเจ้าของร่างเดิมก่อนที่เธอจะทะลุมิติมา ถึงตอนนี้จะมีเรี่ยวแรงหรือ 

 

 

เฉวียนหมิงได้ยินก็ขมวดคิ้ว “เป็นเพราะพวกนั้นไม่รู้ แต่พวกเขาไม่จำเป็นต้องรู้หรอก ขอเพียงอาเสวี่ยคุณรู้ก็พอ” คำพูดที่แฝงด้วยการเย้าแหย่ ทำให้หัวใจอีลั่วเสวี่ยหวานชื่นและเขินอาย 

 

 

เธอยื่นมือมาหยิกกล้ามเนื้อที่หน้าอกเฉวียนหมิง “รู้จักพูดคำหวานอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ บอกมา คุณเคยพูดกับหญิงสาวคนอื่นไหม?” 

 

 

ผู้หญิง ต่อให้แข็งกร้าวหยิ่งผยองอย่างไร ในบางเวลาก็อาจเปลี่ยนเป็นนกน้อยที่น่ารัก อย่างเช่นอีลั่วเสวี่ยในขณะนี้ เป็นหมือนเด็กสาวที่จมลึกอยู่ในห้วงรัก เอาแต่ใจตัวเองบ้าง 

 

 

“ไม่เคย คำพูดนี้ เรื่องนี้ ผมเคยพูดและทำกับคุณคนเดียวเท่านั้น อาเสวี่ย ผมรักคุณ” มือที่อบอุ่นของเฉวียนหมิงเกี่ยวศีรษะของอีลั่วเสวี่ยให้มาแนบบนริมฝีปากบางของเขา 

 

 

เดิมทีอีลั่วเสวี่ยกำลังดีใจ แต่เมื่ออาวุธของเขาเริ่มขยายตัวออก ทำให้ดวงตาเธอเบิกกว้าง คงไม่นะ จะไม่พักบ้างหรือ? 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 417 ความสามารถของผู้บำเพ็ญเพียร 

 

 

“เฉวียนหมิง คุณนะคุณ!” อีลั่วเสวี่ยทั้งอายทั้งโมโห กัดฟันแน่น ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี เขาเป็นอย่างนี้ทำให้เธอนึกถึงความรู้สึกเมื่อครู่ 

 

 

เฉวียนหมิงยิ้มที่มุมปาก ดวงตาที่ล้ำลึกฉายแววตาที่ชวนให้หลงใหล “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผม ผมเองก็ควบคุมไม่ได้ อาเสวี่ย…” 

 

 

เขาพึมพำออกมา แล้วเริ่มขยับตัวอีก อีลั่วเสวี่ยที่ลุกขึ้นแล้วกลับอ่อนปวกเปียกลงทันที ยอมตามความปรารถนาของเฉวียนหมิง 

 

 

ผ้าห่มถูกทั้งคู่ถีบตกลงไปจากเตียง ห้องที่เดิมดูเรียบร้อยขณะนี้ดูรกไปหมด 

 

 

อีลั่วเสวี่ยเป็นผู้บำเพ็ญเพียร บาดแผลได้รับการซ่อมแซมแล้ว ดังนั้นจึงสามารถรับมือกับเฉวียนหมิงได้อีก ต่อมาไม่รู้สึกเจ็บแล้ว ทั้งสองเริ่มรอบใหม่อีก 

 

 

ทั่วทั้งห้องกลายเป็นอาณาเขตของพวกเขา ปล่อยให้ทั้งคู่ครอบครอง 

 

 

อีลั่วเสวี่ยซึ่งรักเฉวียนหมิงจากก้นบึ้งของหัวใจคอยประสานกับเขา ผู้ชายคนนี้รักษาเนื้อรักษาตัวมายี่สิบกว่าปีแล้ว ครั้งนี้ได้ลองลิ้มรสแล้ว จะยอมหยุดได้อย่างไร 

 

 

เขาไม่สามารถควบคุมความปรารถนาของตนเองได้ เป็นเพราะเขารักเธอ 

 

 

วุ่นวายกันครึ่งคืน สุดท้ายทั้งสองจึงได้พักผ่อน อีลั่วเสวี่ยนอนซบในอ้อมกอดของเฉวียนหมิง ใช้มือเขี่ยนิ้วที่เรียวยาวของเขาเล่น 

 

 

“คุณยังมีแรงเหลืออยู่ คงเพราะผมยังทุ่มเทไม่พอ” เฉวียนหมิงชำเลืองมองเธอ แล้วจูบหน้าผากเธออย่างอ่อนโยน น้ำเสียงเปี่ยมด้วยความสุข 

 

 

อีลั่วเสวี่ยได้ยินเช่นนั้นก็ขยับสองขาอย่างไม่รู้ตัว เธอไม่อยากลองความรู้สึกปวดแสบนั่นแล้ว อย่างน้อยสองสามวันนี้คงไม่คิดเด็ดขาด 

 

 

แต่น่าเสียดายที่เธอประเมินความสามารถในการฟื้นฟูของผู้บำเพ็ญเพียรต่ำเกินไป รวมทั้งที่เฉวียนหมิงดูดรับพลังทิพย์ที่เธอถ่ายทอดให้โดยที่เขาไม่รู้ตัว ทำให้ร่างกายเขาไม่เหมือนคนทั่วไป อย่างน้อยถ้ามองข้ามอาการป่วยของเขา ก็ถือว่าเขาแข็งแรงมาก! 

 

 

“คุณอย่าใส่ร้ายฉัน ฉันพูดเมื่อไหร่ว่าคุณยังทุ่มเทไม่พอ?” เฉวียนหมิงนะเฉวียนหมิง อย่าคิดว่าเธอไม่รู้ คิดจะหาข้ออ้างเพื่อรังแกเธอ ผู้ชายน่าเกลียดทุกคน! 

 

 

เฉวียนหมิงตีหน้าตาย “เมื่อกี้คุณไม่ได้หมายความว่าอย่างนี้หรือ เพียงแต่คุณพูดอ้อมค้อม แต่ผมรู้นะ” 

 

 

อีลั่วเสวี่ยไม่รู้จะทำอย่างไรดี แล้วหาวหวอดๆ “ไม่พูดด้วยแล้ว ฉันชักง่วง” จากนั้นก็หลับตาลงทันที ถ้าเธอไม่นอนหลับ ใครจะรู้ว่าเฉวียนหมิงอาจจะทำอีกครั้งก็ได้ 

 

 

“ดี นอนเถอะ” เฉวียนหมิงมองอีลั่วเสวี่ยด้วยความห่วงใย เขาข่มใจตัวเองทันที ไม่ได้คิดถึงเรื่องประเภทนี้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน 

 

 

ทั้งห้องเต็มไปด้วยกลิ่นอายของทั้งสอง เฉวียนหมิงมองดูใบหน้าอีลั่วเสวี่ยซึ่งขณะนี้ดูอ่อนเพลียอย่างชัดเจน แววตาเปี่ยมด้วยความรัก 

 

 

หลังจากปิดไฟไม่นานอีลั่วเสวี่ยก็หลับสนิท ไม่นานนักเฉวียนหมิงก็หลับแล้ว พอหลับก็นอนฝันหวานไปจนเช้า 

 

 

วันรุ่งขึ้นอีลั่วเสวี่ยซึ่งยังนอนหลับฝันดีอยู่ รู้สึกว่าแผ่นหลังเย็นวาบ จากนั้นก็ร้อนผ่าวที่ทรวงอก เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้น “ฉันง่วง ยังไม่อยากลุกขึ้น” 

 

 

“ไม่มีอะไร อาเสวี่ยคุณนอนพักต่อเถอะ” น้ำเสียงเฉวียนหมิงเหมือนหดหู่ ราวกับกำลังบ่มเพาะอะไรอยู่ 

 

 

พออีลั่วเสวี่ยหรี่ตาลงกลับพบว่าถูกโจมตีอีกแล้ว เธอคว้าหมอน กัดฟันกรอด “เฉวียนหมิง คุณไม่รู้จักจบจักสิ้นเลยนะ!” ผู้บำเพ็ญเพียรอย่างเธอมีสภาพร่างกายดี แต่เกรงว่าจะดีไม่เท่าเฉวียนหมิงแล้ว 

 

 

“อาเสวี่ย ถ้าปู่รู้ว่าคุณด่า แกคงโมโหมาก” เฉวียนหมิงที่บุกโจมตีแล้วพูดด้วยน้ำเสียงกระหยิ่มใจ ท่าทางคึกคัก 

 

 

เดิมอีลั่วเสวี่ยที่กำลังโมโห ถูกเฉวียนหมิงรุกรานอีก แล้วเธอก็ค่อยๆ ประสานกับเขา ทั้งสองวุ่นวายกันอีกพักใหญ่ 

 

 

จนเกือบเที่ยงจึงลุกขึ้นเตรียมกินข้าว อีลั่วเสวี่ยนึกอายจนไม่อยากออกจากห้อง กลับเป็นเฉวียนหมิงที่ออกไปยกอาหารเข้ามากินในห้อง