ตอนที่ 710 ห้าวินาที... / ตอนที่ 711 กลืนกินเธอ

ตามใจรัก สาวนักแฮก

ตอนที่ 710 ห้าวินาที…

 

 

ถ้าเธอไม่สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสดีๆ แบบนี้ เธอก็ไม่คู่ควรที่จะทำอะไรมากไปกว่านี้ ดังนั้นถึงเวลาโจมตีแล้ว เมื่อคิดแผนการได้ซิงเหอก็หยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาเพื่อโทรหามู่ไป๋

 

 

เธอรอไม่ไหวแล้วที่จะเปิดเผยเรื่องทั้งหมดนี้ให้เขารู้และพูดคุยถึงรายละเอียดของแผนการด้วยกัน ก่อนหน้านี้ซิงเหอต้องเผชิญหน้ากับโลกด้วยตัวเอง เธอไม่ต้องการและไม่สามารถพึ่งพาคนอื่นได้ แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว อย่างน้อยเธอก็มีมู่ไป๋คอยช่วยเหลือ เขาเป็นคนที่รู้จักเธอมากที่สุดและสามารถร่วมมือกับเธอได้อย่างดี

 

 

เสียงโทรศัพท์ดังแค่สองครั้งก็มีคนรับ น้ำเสียงเบิกบานของมู่ไป๋ดังมาจากอีกฝั่ง “บังเอิญจังเลยเพราะผมก็กำลังจะโทรหาคุณอยู่พอดี”

 

 

ไม่รู้ทำไมซิงเหอถึงรู้สึกเบิกบานเมื่อได้ยินแบบนั้น บางทีคนฉลาดมักจะมีความคิดตรงกัน…

 

 

“คุณกำลังทำอะไรอยู่” ซิงเหอถามด้วยรอยยิ้ม

 

 

“ไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอก ผมกำลังจะไปหาคนสำคัญ” มู่ไป๋ตอบด้วยเสียงที่แฝงไปด้วยรอยยิ้ม “แล้วคุณล่ะกำลังทำอะไรอยู่”

 

 

“ไม่ใช่เรื่องสำคัญเหมือนกัน แต่ฉันเพิ่งเจอข้อมูลบางอย่างที่เป็นประโยชน์ ใครคือคนสำคัญที่คุณจะไปพบล่ะ ฉันรบกวนคุณหรือเปล่า ถ้าคุณยุ่งมากเดี๋ยวฉันโทรกลับไปทีหลังก็ได้”

 

 

“ผมก็ค่อนข้างยุ่งอยู่เหมือนกัน แต่ผมมีเวลาให้คุณเสมอ ดังนั้นบอกทุกเรื่องที่คุณอยากจะบอกมาได้เลย เวลาของผมเป็นของคุณ” มู่ไป๋พูดง่ายๆ

 

 

ซิงเหอไม่ต้องการที่จะรบกวนเวลาของเขา “พวกเราคุยเรื่องนี้กันทีหลังได้ค่ะ ไปทำงานของคุณให้เสร็จก่อนดีกว่า”

 

 

เธอรู้ว่าเขามีเรื่องที่ต้องรับผิดชอบมากมายเกินกว่าจะมาเอาใจเธออย่างเดียว ดังนั้นเธอเลยไม่ต้องการให้เขาใช้เวลาทั้งหมดเพื่อเธอ เธอไม่ใช่คนรักที่ชอบครอบครอง สำหรับเธอแล้วความสัมพันธ์เป็นการให้และรับทั้งสองฝ่าย มีแค่การเคารพความเป็นส่วนตัวของกันและกันเท่านั้น ความสัมพันธ์ถึงจะเท่าเทียมและมีพื้นที่ให้พัฒนาต่อไป มู่ไป๋ก็ปฏิบัติต่อซิงเหอแบบนี้เช่นกัน เขาไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยวกับงานของเธอนอกเสียจากว่าเธอจะเป็นคนขอและเมื่อสถานการณ์มันจำเป็นจริงๆ

 

 

มู่ไป๋หัวเราะเบาๆ “แต่ว่าคนที่ผมจะไปหาเกี่ยวข้องกับคุณนะ คุณอยู่บ้านหรือเปล่า ลองเปิดหน้าต่างดูสิ บางทีอาจมีเรื่องให้ประหลาดใจก็ได้”

 

 

ซิงเหอตกใจและค่อยๆ เดินไปทางหน้าต่างอย่างคาดหวังแต่ระมัดระวัง เธอเลิกผ้าม่านขึ้นและเห็นมู่ไป๋ยืนอยู่ข้างล่างตรงสนามหญ้าหน้าบ้าน พวกเธอสบตากันแล้วมู่ไป๋ก็ยิ้มกว้างพร้อมกับโบกมือให้เธอ

 

 

ซิงเหอถามด้วยความประหลาดใจ “ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่”

 

 

“ผมบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอว่าผมจะมาพบคนสำคัญ ขอเวลาผมห้าวินาที…” มู่ไป๋พูดขณะที่เขารีบวิ่งขึ้นมาบนบ้านหลังใหญ่ ทันใดนั้นซิงเหอก็รู้สึกได้ถึงเลือดลมที่พุ่งพล่าน เธอเดินไปเปิดประตูตอนที่มันถูกผลักมาจากข้างนอก รูปร่างที่น่าประทับใจของมู่ไป๋อยู่ตรงประตูและดวงตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกของเขาก็จ้องเข้ามาในดวงตาของเธอ อย่างไรก็ตามวิธีที่เขามองเธอมีอันตรายแฝงอยู่ เหมือนกับนักล่าที่กำลังจ้องมองเหยื่อของเขา

 

 

สมองของซิงเหอส่งเสียงเตือนตอนที่เขาโน้มเข้ามาแล้วคว้าตัวเธอเข้าไปกอดอย่างแนบแน่น!

 

 

มือของเขานวดคลึงหลังคอของเธอเพื่อป้องกันไม่ให้เธอขยับออกไป และในเวลาต่อมาเธอก็สามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจของเขาในปากของเธอ เธอซึมซาบตัวตนสมชายชาตรีของเขา

 

 

มู่ไป๋จูบเธออย่างลึกซึ้ง เธอตกใจกับจูบกะทันหันนี้และจับเสื้อของเขาไว้ แต่เธอก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลง อย่างไรก็ตามหัวใจของเธอกำลังเต้นแรงและสมองของเธอก็ปกคลุมไปด้วยม่านหมอกเหมือนกระจกรถในช่วงหน้าหนาว…

 

 

มู่ไป๋จูบเธออย่างเต็มที่และซิงเหอก็สูญเสียความสามารถในการคิด เธอยอมเขาทุกอย่าง

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 711 กลืนกินเธอ

 

 

ในเวลาต่อมาเธอถึงกับตอบสนองเขาด้วยการโอบแขนไปรอบคอของเขา จูบของมู่ไป๋ลึกซึ้งกว่าเดิมหลังจากที่เธอตอบสนอง…

 

 

นี่คงเป็นความรู้สึกที่เขาเรียกกันว่าโลกหมุน เมื่อถูกโอบล้อมโดยผู้ชายของเธอ ซิงเหอก็รู้สึกว่าเธอยอมจำนนต่อเขา หลังจากผ่านช่วงเวลาที่ดูเหมือนจะยาวนานตลอดไป ในที่สุดชายหนุ่มก็ยอมปล่อยเธออย่างไม่เต็มใจ ซิงเหอยังคงหายใจหอบอยู่

 

 

พวกเขามองหน้ากันและกัน สื่อสารความรักและความปรารถนาให้อีกฝ่ายรับรู้ อันที่จริงดวงตาของมู่ไป๋ดูน่ากลัวมาก มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังจะกลืนกินเธอ

 

 

อย่างไรก็ตามเขาอดกลั้นมันไว้!

 

 

มันยังไม่ถึงเวลา เขายังไม่ได้ขอเธอแต่งงานอย่างเป็นทางการเลย ดังนั้นเขาจะรอไปก่อน อย่างไรก็ตามเขาอดไม่ได้ที่จะกัดใบหูส่วนล่างของเธอและกระซิบอย่างชั่วร้าย “นั่นเป็นส่วนหนึ่งของความสนุกที่เราจะมีร่วมกันในคืนแต่งงาน”

 

 

มันทำให้ซิงเหอตัวสั่นและผลักเขาออกไปเบาๆ ด้วยท่าทางประหม่า เธอไม่กล้ามองสบตากับเขาขณะที่เธอพูด “ทำไมคุณถึงมาอย่างกะทันหันโดยไม่บอกฉันก่อนล่ะ”

 

 

มู่ไป๋เห็นเธอหน้าแดงและรู้ว่าเธอกำลังเขินอยู่ เขาจับเธออย่างแสดงความเป็นเจ้าของแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ผมอยากทำให้คุณประหลาดใจ คุณไม่ดีใจเหรอที่ได้เจอผม”

 

 

ซิงเหอมองเขาแต่ไม่ได้ตอบคำอะไร คำพูดหวานๆ ไม่สามารถหลุดออกมาจากปากของเธอได้อย่างง่ายดายเหมือนมู่ไป๋ ปกติแล้วเธอยังสามารถพูดอะไรผ่านทางโทรศัพท์ได้บ้างแต่เธอไม่สามารถทำได้เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา

 

 

มู่ไป๋ไม่ได้บังคับเธอและพูดต่อด้วยเสียงคำรามต่ำ “ผมมีความสุขเพราะมันให้ความรู้สึกเหมือนการกลับมาเจอกันหลังจากต้องอยู่ห่างกันมาหลายปี”

 

 

เขาอทบจะรอไม่ไหวที่จะมาหาเธอเมื่อเขารู้ว่าเธอมาถึงแล้ว พวกเขาจากกันเพียงหนึ่งสัปดาห์ แต่สำหรับเขาแล้วมันรู้สึกเหมือนเจ็ดปีแทนที่จะเป็นเจ็ดวัน อันที่จริงซิงเหอก็คิดถึงเขาเช่นกัน…

 

 

“คุณมาได้ตรงเวลาพอดีเลย ฉันอยากจะปรึกษาเรื่องบางอย่างกับคุณ” ซิงเหอพูดอย่างเป็นทางการ “ฉันบังเอิญไปค้นพบความลับบางอย่างเข้า”

 

 

“อะไรเหรอ” มู่ไป๋ก็เข้าสู่โหมดจริงจังและเตรียมตัวรับฟัง

 

 

ซิงเหอจ้องมองเขาและพูด “ถงเยียนมีเพื่อนสนิทชื่อชุยอิง เธอเป็นหลานสาวของประธานาธิบดีของประเทศ R ตระกูลชุยเคยช่วยชีวิตท่านผู้หญิงไว้ครั้งหนึ่ง ดังนั้นตระกูลเฉินเลยเป็นหนี้พวกเขาครั้งใหญ่ ตอนนี้ถงเยียนพาชุยอิงมาเพื่อช่วยให้เธอกลับเข้าไปในตระกูลเฉิน แต่ฉันทำลายแผนของการของพวกเธอ…”

 

 

“พวกเธอสมควรได้รับมันแล้ว ไม่ต้องกังวลนะ ผมจะปกป้องคุณเองไม่ว่าเบื้องหลังของผู้หญิงคนนั้นจะมีอำนาจมากแค่ไหน” มู่ไป๋คิดว่าเธอกลัวผลของการกระทำ

 

 

ซิงเหออดหัวเราะออกมาไม่ได้ “คุณคิดว่าฉันกังวลหรอ นั่นไม่ใช่เรื่องที่ฉันต้องการจะบอกคุณ ฉันจะบอกคุณว่าชุยอิงเป็นคู่หมั้นของเฮ่อหลานฉี”

 

 

มู่ไป๋ตกตะลึง “คุณรู้ได้ยังไง”

 

 

“ฉันแฮกเข้าไปในระบบทะเบียนราษฎร์ของประเทศ R” ซิงเหอตอบง่ายๆ แต่มันทำให้มู่ไป๋ตกใจ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ใครสักคนจะแฮกเข้าไปในฐานข้อมูลของประเทศ แล้วทำไมมันถึงฟังดูง่ายดายนักสำหรับซิงเหอ

 

 

นี่คือหลักฐานว่าเธอมีความสามารถ สิ่งเดียวที่ทำให้เธออยู่เหนือคนอื่น

 

 

“แต่ประชาชนไม่รู้เรื่องนี้” มู่ไป๋ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

 

 

ซิงเหอพยักหน้า “ใช่แล้ว พวกเขาทำเหมือนมันเป็นความลับของตระกูล จนฉันสงสัยว่าน่าจะมีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับการหมั้นหมายของพวกเขา”

 

 

“ต้องมีการแลกเปลี่ยนอย่างลับๆ ระหว่างตระกูลเฮ่อหลานกับตระกูลชุยแน่” มู่ไป๋เสนอความคิด

 

 

“ฉันก็ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะมีอำนาจขนาดนี้ ดังนั้นมันคงเป็นเรื่องยากที่จะจัดการกับพวกเขา”