บทที่ 231 ค่ำคืนริมฝั่ง

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

บทที่ 231 ค่ำคืนริมฝั่ง โดย Ink Stone_Fantasy

เจ้าปลาทูน่าครีบน้ำเงินว่ายตามเหยื่อขึ้นมาอย่างตะกละโดยไม่ต้องให้ฉินสือโอวเข้าควบคุม

เครื่องโซนาร์สำหรับค้นหาปลาในเรือส่งเสียงแหลมออกมา ฉินสือโอวเดินเข้าไปดูที่จอก่อนที่ซีมอนสเตอร์จะชี้ให้เขาดูแล้วพูดว่า

“ดูนี่ รูปสีเขียวนี่คือภาพสะท้อนจากโซนาร์ ส่วนเส้นที่อยู่ข้างล่างคือใต้พื้นทะเล รูปทรงโค้งๆ แบบนี้มันคือปลาทูน่า!”

“อาจจะเป็นฉลามก็ได้” ฉินสือโอวหัวเราะแล้วพูดขึ้นมา

ซีมอนสเตอร์ส่ายหน้าก่อนจะพูดว่า “มือสมัครเล่นจะไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างฉลามกับปลาทูน่าครีบน้ำเงินได้ แต่มืออาชีพมองแวบเดียวก็รู้ได้ทันที ดูจากท่าทางการว่ายน้ำและความเร็วในการว่ายแล้ว ฉลามไม่ว่ายส่ายไปมาแบบนี้ ถ้าเป็นฉลามพวกมันจะพุ่งไปกินเหยื่อเลยทันที และฉลามก็ไม่ว่ายน้ำเร็วแบบนี้ด้วยเหมือนกัน ว่ายน้ำได้เร็วขนาดนี้ต้องเป็นปลาทูน่าแน่!”

ชาร์คเกี่ยวเหยื่อที่ยังมีชีวิตไว้กับเบ็ดก่อนจะโยนลงไป ส่วนปากก็พึมพำว่า “มาเลยเพื่อน รีบขึ้นมาบนเรือของพวกเราเร็วเข้า พวกเราซื้อตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นไว้ให้แล้ว ขอให้แกเดินทางโดยสวัสดิภาพนะ!”

เหยื่อที่ยังมีชีวิตนั้นดึงดูดปลาทูน่าได้มากกว่า เมื่อเห็นปลาแฮร์ริ่งแอตแลนติกกำลังดิ้นรนอยู่ในทะเล ปลาทูน่าครีบน้ำเงินตัวนี้ก็ไม่รอช้าอีกต่อไป มันพุ่งขึ้นมาราวกับลูกธนูก่อนจะอ้าปากของมันแล้วกลืนปลาแฮร์ริ่งเข้าไป

เหยื่อเข้าไปในปากใหญ่ของปลาทูน่าครีบน้ำเงินพร้อมกับตะขอ ดังนั้นเมื่อปลาตัวใหญ่ว่ายไปมาตะขอจึงหลุดจากปากปลาแฮร์ริ่งแล้วไปติดอยู่ในปากปลาทูน่าและในที่สุดปลาก็ติดเบ็ด!

รอกที่ติดอยู่กับเบ็ดตกปลาเริ่มหมุนอย่างรวดเร็ว เส้นเอ็นที่มีความหนาประมาณครึ่งหนึ่งของตะเกียบถูกดึงออกไป คันเบ็ดจึงงอตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ชาร์คกดรอกที่คันเบ็ดไว้แล้วหันไปโฟกัสที่ผืนทะเลพร้อมตะโกนว่า “ซีมอนสเตอร์! หยิบฉมวกแล้วรีบออกมาได้แล้ว! บอสคุณไปขับเรือ ฟังผมนะ คุณต้องถอยเรือ…”

ปลาทูน่าครีบน้ำเงินกำลังดิ้นอย่างบ้าคลั่งด้วยความเจ็บปวดอยู่ใต้น้ำเนื่องจากเบ็ดเกี่ยวเข้ากับเหงือกของมัน ซีมอนสเตอร์ถือฉมวกรออยู่ข้างๆ แต่ก็ไม่ลืมที่จะอธิบายให้ฉินสือโอวฟังไปด้วย “ถ้ายังไม่สามารถเอาปลาที่ติดเบ็ดขึ้นมาบนเรือได้ ทุกอย่างที่ทำไปก็ไร้ความหมาย เพราะต่อให้ปลากินเบ็ดของเราแล้ว แต่โอกาสที่มันจะหลุดมีถึง 60%”

ชาร์คเป็นชาวประมงมืออาชีพไม่มีทางทำเรื่องเล็กน้อยผิดพลาดแน่ เขาหมุนรอกให้เส้นเอ็นตึงพอดีและคอยบอกให้ฉินสือโอวขับเรือไปข้างหน้าหรือถอยหลังเพื่อรักษาระยะห่างระหว่างเรือกับปลาทูน่าให้พอดีเบ็ดจะได้ไม่หลุด

ใช้เวลามากกว่าครึ่งชั่วโมงกว่าที่ปลาทูน่าจะหมดแรง แต่มันก็ฮึดสู้อีกครั้งด้วยการว่ายเข้าไปใต้ท้องเรือ

ทันใดนั้นหู่จือกับเป้าจือที่รออยู่ข้างเรือก็กระโดดลงไปในน้ำแถวใต้ท้องเรือพอดี

ปลาทูน่าเห็นดังนั้นก็ตกใจจึงรีบถอย ชาร์คร้องลั่นแล้วหมุนรอกเพื่อเก็บเส้นเอ็นตกปลาอย่างบ้าคลั่งเป็นผลให้ปลาทูน่าถูกถึงไปด้านข้างของเรืออย่างรวดเร็ว

ซีมอนสเตอร์ส่งเสียงเรียกเจ้านายของตัวเอง “บอส ตอนนี้เป็นการทดสอบครั้งที่สอง ดูปืนยิงปลาของผม…”

กล้ามเนื้อแขนขวาของเขาหดตัวขึ้นมาเป็นก้อนราวกับก้อนหิน เขาคำรามแล้วยิงหอกไปที่ตำแหน่งเหงือกของปลาทูน่า ทันใดนั้นเลือดสีแดงสดก็พุ่งออกมา การถูกโจมตีอย่างรุนแรงทำให้พลังของปลาทูน่าครีบน้ำเงินลดลงอย่างรวดเร็ว ปลายหอกอีกด้านนั้นมีเชือกผูกอยู่ ซีมอนสเตอร์รีบดึงเชือกแล้วนำตัวปลาทูน่าขึ้นมา

ปลาทูน่าครีบน้ำเงินมีนิสัยอย่างหนึ่งที่ทำให้พวกมันถูกจับได้ง่าย นั่นก็คือนิสัยการสะบัดหางเมื่อขึ้นจากน้ำ มันตั้งใจจะสะบัดหางเพื่อโจมตีศัตรู แต่นี่ก็เป็นโอกาสที่เราจะใช้บ่วงมัดหางมันไว้เช่นกัน

ตอนที่ซีมอนสเตอร์ใช้ปืนยิงปลายิงไปที่ปลาทูน่าครีบน้ำเงิน ชาร์คก็ปล่อยมือจากเบ็ดแล้วไปหยิบบ่วงที่วางอยู่ข้างเรือมาเตรียมตัว ทันทีที่ปลาทูน่าครีบน้ำเงินยกหางของมันขึ้นเขาก็สวมบ่วงเข้าไปเท่านี้ปลาตัวนี้ก็เสร็จเขาแล้ว

และตอนที่ชาร์คสวมบ่วงเข้าไปที่หางปลา ซีมอนสเตอร์ก็วางปืนยิงปลาลงแล้วไปเปิดประตูท้ายเรือ เขากับชาร์คช่วยกันลากปลาทูน่าขึ้นมา

ทั้งสองร่วมมือกันอย่างชำนาญ เป็นการเปิดประสบการณ์โชว์ทักษะการตกปลาที่น่าทึ่งให้กับฉินสือโอวเลยทีเดียว

ฉินสือโอวเดินออกมาดูปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่รูปร่างราวกับกระสวย ตัวของมันกลม หลังโค้งสวยงามเหมือนหยดน้ำ ครีบของมันมีสีน้ำเงินเข้ม ตั้งแต่ส่วนหลังถึงส่วนท้องเป็นสีเงิน ซึ่งเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่ามันคือปลาทูน่าครีบน้ำเงินแอตแลนติก

หลังจากจับปลาได้ ชาร์คก็มัดหางของมันเข้ากับเครนไปพลาง ร้องเพลงอย่างร่าเริงไปพลาง

“พวกเขาบอกว่าคุณกำลังจะจากหมู่บ้านนี้ไป ฉันคงจะคิดถึงดวงตาสดใสและรอยยิ้มแสนหวานของคุณน่าดู…”

แล้วซีมอนสเตอร์ก็ร่วมร้องเพลงกับชาร์คขึ้นมา “พวกเขาบอกว่าเหมือนคุณเอาพระอาทิตย์ที่ส่องแสงสว่างให้พวกเราไปด้วย…”

ฉินสือโอวฟังสองคนนั้นร้องเพลงแล้วยิ้มออกมา เขารู้จักเพลงนี้เป็นอย่างดี เกือบจะพูดได้ว่านี่เป็นเพลงพื้นบ้านของแคนาดาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ชื่อของมันก็คือ “เพลงหุบเขาแม่น้ำแดง”

เพลงนี้แสดงให้เห็นว่าผู้อพยพได้ทำการบุกเบิกพื้นที่รกร้างทางตอนเหนือของแม่น้ำแดง พวกเขาก่อสร้างอาคารบ้านเรือนและพัฒนาเมือง ในที่สุดก็เปลี่ยนที่รกร้างว่างเปล่าที่เต็มไปด้วยควายให้กลายเป็นบ้านที่สวยงาม เพลงนี้สรรเสริญความขยันหมั่นเพียรของเหล่าแรงงานที่เพียรพยายามจะสร้างบ้าน โดยทั่วไปมักจะร้องตอนที่ชาวประมงจับปลาได้หรือไม่ก็ตอนที่เกษตรกรกำลังเก็บเกี่ยวผลผลิต

“บอสมากินด้วยกันสิ!” ชาร์คพูดอย่างมีความสุข

อีวิลสันใช้มือดึงเชือกเพื่อแขวนปลาโดยไม่ต้องเปิดเครน ชาร์คตัดเหงือกปลาด้วยมีด ส่วนซีมอนสเตอร์ตัดหางปลาแล้วปล่อยให้เลือดไหลออกมา

ปลาเป็นสัตว์เลือดเย็นซึ่งไม่ได้หมายความว่าเลือดของพวกมันมีอุณหภูมิต่ำ ก่อนหน้านี้ตอนที่พวกมันพยายามจะหนีอุณหภูมิเลือดของพวกมันจะพุ่งสูงขึ้น ตอนนี้เนื้อปลาเริ่มเย็นลงหลังจากที่มันตาย เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเลือดจะผลิตกรดแลคติค ออกมาทำลายเนื้อปลา ทำให้เนื้อปลามีรสชาติที่ไม่ดี

เมื่อจัดการกับเลือดของปลาเรียบร้อยแล้ว ชาร์คก็วัดความยาวของปลาก่อนจะหัวเราะเสียงดังออกมาแล้วพูดว่า “สุดยอด 168 เซนติเมตร ตัวใหญ่ใช้ได้ ฉันว่าถ้าปลาตัวนี้เนื้อมีคุณภาพหน่อยละก็ขายสองหมื่นดอลลาร์ได้สบายเลย”

“ฉันอยากให้มันถูกเอาไปประมูลที่โตเกียว ถ้าเป็นอย่างนั้นเรื่องราคาคงไม่ต้องพูดถึงกันเลย” ซีมอนสเตอร์พูดยิ้มๆ

ชาร์คดูเนื้อปลาก่อนจะส่ายหัวแล้วพูดว่า “คุณภาพเนื้อปลาตัวนี้อยู่ในระดับกลางๆ นะฉันว่า”

คนจำนวนหนึ่งกำลังวิพากษ์วิจารณ์ปลาตัวนี้อยู่บนเรืออเมริกันที่จอดอยู่ห่างออกไป พวกเขาถือกล้องส่องทางไกลส่องไปที่ฉินสือโอวแล้วสาปแช่งไม่หยุด

“ให้ตายสิ เศรษฐีชาวแคนาดาคนนั้นโชคดีชะมัด เพิ่งมาถึงก็ได้ปลาเลย”

“ฟัค! แม้แต่พระเจ้าก็ชอบคนรวยงั้นเหรอ? ฉันอยู่ที่นี่มาเป็นวันแล้ว ยังตกไม่ได้สักตัวเลย!”

“ปลานั่นไม่ใช่ตัวเล็กๆ ซะด้วยสิ คงจะดีกว่านี้ถ้ามันเป็นของฉัน เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นคืนนี้ฉันคงไปหาสาวสวยควงเล่นที่เมืองกลอสเตอร์สักสองคนแล้ว”

ส่วนคนอีกกลุ่มก็ทำการถ่ายภาพคู่กับปลาที่ตกได้ ตอนที่อีวิลสันเข้าไปถ่ายรูปเขาอุ้มมันด้วยใบหน้าที่มีความสุข เขาคงคิดว่าปลาตัวนี้ต้องเป็นอาหารค่ำของคืนนี้แน่ แต่น่าเสียดายที่มันคงไม่เป็นอย่างที่เขาคิด

ปลาทูน่าครีบน้ำเงินมีค่ามาก เนื่องจากเป็นปลาหายาก หลังจากฉินสือโอวและพรรคพวกของเขาจับปลาตัวนี้ได้พวกเขาก็ไม่เจอปลาตัวอื่นอีกเลย

แน่นอนว่าฉินสือโอวควบคุมปลาทูน่าตัวใหญ่อยู่ ตอนนี้มันกำลังว่ายไปมาอยู่ที่ก้นทะเลและได้เจอกับพวกเดียวกันประมาณสิบตัวเห็นจะได้ แต่เจ้าพวกนั้นตัวค่อนข้างเล็ก ยาวประมาณเมตรกว่าๆ ฉินสือโอวไม่อยากจับเจ้าพวกตัวเล็กนี่ขึ้นมา

อีกอย่างถ้าหากคุณจับปลาทูน่าครีบน้ำเงินได้เยอะเกินไปมันก็มันก็จะดูผิดปกติ ครั้งแรกเอาแค่นี้ก่อนดีกว่า

สี่โมงเย็น พระอาทิตย์ยังคงเฉิดฉายอยู่บนท้องฟ้า ฉินสือโอวกับคนของเขาเก็บเบ็ดเตรียมตัวจะกลับ

ตอนนี้พวกเราอยู่ค่อนข้างไกลจากฝั่ง ต้องใช้เวลาประมาณสามชั่วโมงในการขับเรือกลับเข้าฝั่งเพราะฉะนั้นจึงควรรีบกลับได้แล้ว

ขณะเดียวกัน เจ้าของเรือลำอื่นๆ ก็เตรียมกลับกันแล้วเหมือนกัน พวกเขาไม่ค้างคืนในทะเลเนื่องจากเรือพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นเรือประมงธรรมดา น้ำแข็งที่เตรียมไว้ไม่สามารถเก็บได้เกินสองวัน

และเนื่องจากเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณตกปลาทูน่าครีบน้ำเงินได้ คุณต้องรีบเอาเลือดของมันออกแล้วช็อกมันด้วยน้ำแข็ง ด้วยเหตุนี้เองพวกชาวประมงจึงต้องกลับฝั่งเพื่อไปเติมน้ำมันและน้ำแข็ง

เขาไปทางเดียวกับเรือประมงเหล่านี้ จุดหมายปลายทางของฉินสือโอวก็คือท่าเรือกลอสเตอร์ของประเทศอเมริกาเช่นกัน เนื่องจากคาบสมุทรโนวาสโกเชียของแคนาดานั้นไกลกว่าประมาณหกสิบกว่ากิโลเมตร หรือต้องใช้เวลาเดินเรือหนึ่งชั่วโมง ซึ่งมันทั้งเสียเวลาและเปลืองน้ำมัน

เรือยอชต์อวนลากนั้นแรงม้าสูง ตัวถังก็แข็งแรงจึงแล่นได้เร็วกว่า ด้วยเหตุนี้แม้ว่าฉินสือโอวและลูกเรือของเขาจะกลับเข้าฝั่งเป็นลำสุดท้ายแต่ก็เข้าเทียบท่าในเวลาไล่เลี่ยกันกับเรือที่กลับมาก่อน

ตอนนี้ท่าเรือกลอสเตอร์เป็นโลกของเรือตกปลา เรืออวนลากกับเรืออวนล้อมนั้นไม่ค่อยเห็น เรือตกปลาลำน้อยใหญ่กระจายอยู่ทั่วท่าเรือเต็มไปหมด

พวกชาวประมงนั้นสนิทสนมคุ้นเคยกันและพวกเขาส่วนใหญ่ล้วนเป็นชาวเมืองกลอสเตอร์กันทั้งนั้น ดังนั้นหลังจากกลับเข้าฝั่ง คนเหล่านี้ก็มักจะทักทายถามไถ่กับเกี่ยวกับการตกปลา

……………………………………………