“เจ้ากล้ามาที่นี่และขโมยสมบัติหรือ ? เจ้าต้องตาย ! ข้าจักไล่ล่าเจ้าไปจนสุดเทียนฟาและสัหารเจ้าเสีย ! ”

ก็ยังไร้วาจาตอบกลับ และนี่ทำให้ ราชัญอสูรเชวียน ผู้ที่บัญชาเหล่าอสูรพิษ มีโทสะอย่างมาก

..องค์ราชัญที่สองปรารถนามันมานับร้อยปี อสูรเชวียนนับล้านพยายามดูแลเจ้าสิ่งนี้มาสามร้อยห้าสิบปี พี่น้องข้ามากมายเฝ้ารอผลไม้นี้อย่างร้อนใจมานับร้อยปี ข้าจักปล่อยมันไปได้อย่างนั้นหรือ ?

ไม่ดีแน่ ! ข้าขอตายดีกว่าปล่อยให้สิ่งนี้เกิดขึ้น !

ราชันงู นักล่าสีเขียว เสียสติเนื่องจากโทสะ ดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นสีเขียวทุกข์ทรมาณ และ ชุดสีเขียวของนางเริ่มกระพือทั้งที่ไร้สายลม จากนั้นนางมองขึ้นข้างบน และส่งเสียงฟ่อสนั่น ราชัญอสูรเชวียนแก่วงแขนสีเขียวเหมือนหยกของนาง และปลดปล่อยความแข็งแกร่งของนางทั้งหมด มิได้ออมไว้แต่น้อย

นี่คือความแข็งแกร่งทั้งหมดของ ราชันงู ผู้นี้

เป้าหมายของความแข็งแกร่งของนางนั้นคือระยะรอบตัวนางสามร้อยเมตร และ ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดหลบหนีได้ หากพวกเขาอยู่ในระยะนั้น

” ตู้มม ! “

การโจมตีนี้ไม่ต่างจากกระระเบิดของระเบิดขนาดใหญ่ และ ค่ำคืนอันมืดมิดถูกปกคลุมด้วยกลุ่มควันรูปเห็ดอย่างช้าๆในทันที

ดูเหมือนว่าการระเบิดนี้สั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณ ความจริง มันดูราวกับปิศาจที่หลับไหลอยู่ลืมตาขึ้นมา ดูเหมือนหลุมดำมหึมาที่ปรากฏขึ้นมาดูกลืนทุกสิ่งในอวกาศ

ในขณะที่ อสูรเชวียน ทั้งใกล้ไกล สั่นสะท้านและส่งเสียงฟ่อ ขณะที่เสียงคำรามด้วยโทสะของนางเคลื่อนที่ไกลออกไป

ทั่วทั่งป่าเทียนฟาเกิดการเคลื่อนไหวทันที อสูรบินได้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และ ป่าเทียนฟา ก็เริ่มคล้ายดั่ง อสูรยักษ์ที่ตื่นจากการหลับไหม

การปะทุของพลังอันแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่อันมิอาจเทียบระเบิดออกมาในช่วงสั้นๆ !

จากนั้น สองเสียงคำรามก็ดังขึ้นพร้อมกัน และ ดูเหมือนพวกเขาจะสนับสนุน ราชันงู เสียงคำรามยังไม่เงียบลง ในตอนที่ กระเรียนคอยาว และ หมีใหญ่มาอยู่ด้านข้างของ ราชัญงู นักล่าสีเขียว ทั้งสามยืนเคียงข้างกันเป็นรูปสามเหลี่ยม ใบหน้าของแต่ละคนสง่าผ่าเผยนัก

รอยเท้าของสัตว์หายากสามารถพบเห็นได้ในซอกหลืบอันเงียบสงบของ ป่าเทียนฟา วัตถุสีขาวลอยอยู่ในอากาศราวหมอกหนาทึบ และ หมอกสีขาวนั้น มีบางสิ่งที่คล้ายมนุษย์อยู่ข้างใน หมอกนี้หนาแน่นมากจนดูเหมือนเป็นของแข็ง ผู้มีความรู้จักประหลาดใจเมื่อได้เห็น

มันเป็นสิ่งที่ไม่คดฝัน …

จิตวิญญาณแห่งสวรรค์ ถูกใช้เพื่อให้โลกเคลื่อนไหว

การพำเพ็ญเชวียนของคนผู้นี้ล้ำลึกยิ่ง ความจริง ระดับการบำเพ็ญนี้ได้ไปถึงจุดสูงสุดตามความเชื่อของดินแดนเชวียนเชวียนแล้ว ในความจริง มีสิ่งมีชีวิตไม่เกินสิบที่ครอบครองพลังเช่นนี้แม้นว่าจะรวมกับ สกุลลี้ลับ และ สามดินแดนศักดิ์สิทธิ์ …

หมอกสีขาวเริ่มหมุนวนด้วยความรวดเร็ว และ ไม่นานมันก็กลายเป็นพายุหมุน เสียง หวีดหวิน ดังออกมาจาก พายุหมุนนี้ ชัดเจนว่า สิ่งนี้ได้ไปถึงช่วงสำคัญในการฝึกฝน

เสียงขู่ฟ่อของ ราชันงูเขียว เต็มไปด้วยความกลัว โทสะ และ กังวล และ เสียงกรีดร้องด้วยโทสะของนางได้เดินทางมาไกลถึงที่นี่ ดังนั้น เสียงจึงแผ่วเบา อย่างกณ้ได้ตาม เสียงนั้นยังคงความหมายของมันไว้ได้

และ การที่เสียงนี้ปะทะกับ ผู้ที่อยู่ในหมอกสีขาว เหมือนกับเสียงฟ้าร้องที่เกิดท้ามกลางฟ้าใส …

หมอกสั่นสะเทือนจากสิ่งนี้ ยิ่งกว่านั้น ความเร็วของหมอกได้รับผลกระทบ และเริ่มช้าลงในที่สุด ความจริง มันกำลังกระจัดกระจาย ราชันงูได้ปลดปล่อยเสียงของนางออกมาพร้อมด้วยพลังทั้งหมด ยิ่งกว่านั้น เสียงของนางเต็มไปด้วยความเกลียดชัด เช่นนั้น ทุกคนสามารถเข้าใจได้ว่า เสียงคำรามนี้เต็มไปด้วยความโศกเศร้าและสิ้นหวังไร้ที่สิ้นสุด

” อาห์ ! ”

เลือดสีแดงสดพุ่งออกมาจากภายในของหมอกสีขาว และ พื้นที่ ที่ถูกปลดคลุมไปด้วยหมอกสีจาว กลายเป็นสีแดงฉาดในทันที หมอกสีขาวที่เกือบจะรวมตัวกันสำเร็จถูกทำลายลงในทันที …

เสียงหายใจที่คมชัดดังออกมาจากหมอกขาวขณะที่มันเริ่มจากลง เวลาผ่านไปเนิ่นนาน ก่อนจะได้ยิ่งเสียงที่อ่อนล้าของสิ่งมีชีวิตนั้น และ เสียงที่หดหู่อย่างไร้สิ้นสุดกล่าวขึ้น

” นี่คือประสงค์ของสวรรค์ … ประสงค์ของสวรรค์กำลังเล่นกับเรา …. เช่นนั้น … “

จากนั้นเกิดเสียงไอเล็กน้อย และ ดูเหมือนว่าเจ้าของเสียงนั้นมีสุขภาพที่อ่อนแอขณะที่เขาพึมพัม

” อดีตราชัญแห่งเทียนฟาได้เอ่ยวาจาสุดท้ายในเวลานั้น … เทียนฟาจักไม่พบสิ่งที่ตามหา ราชญอสูรจักตาย เทียนฟานับล้านขึ้นอยู่กับความสำเร็จหรือล้มเหลวของคนผู้หนึ่ง ! ข้าคิดถึงความหมายของสิ่งนี้มานับร้อยปี แต่ข้ายังมิอาจเข้าใจมันได้ อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ข้าได้เข้าใจความหมายที่แท้จริงของมัน วาจาเหล่านี้เอ่ยถึงโชคชะตาของเทียนฟา ! ฮ่าฮ่า … คาดไม่ถึงอย่างแท้จริง ….”

” ส่วนแรกบอกว่า … เทียนฟาจักไม่ได้สิ่งที่ตามหา นักล่าสีเขียวดูแลผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ เช่นนั้น ข้าคาดว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้น มิเช่นนั้นนางจะล้าคลั่งเช่นนี้ได้อย่างไร ? ส่วนที่สองบอกว่า … ราชันอสูรจักตาย ข้าคิดว่าประโยคนี้บอกถึงการตายของพวกเรา ส่วนสุดท้าย …. เทียนฟานับล้านข้นอยู่กับความสำเร็จหรือล้มเหลวของคนผู้หนึ่ง ข้าคาดว่าในส่วนนี้พูดถึงผู้ที่ขโมยผลไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งเทียนฟา ! “

” คนผู้นี้ขโมยผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ในเวลาที่ยอดฝีมือเชวียนของโลกมารวมตัวกันด้านนอกเทียนฟาของเรา ! ยิ่งกว่านั้น ข้าใกล้ถึงเวลาบรรลุ และต้องการที่จักหยุดยั้งความแข็งแกร่งเพื่อการบรรลุที่สำคัญนี้ ดังนั้น ข้าจึงต้องไม่ถูกรบกวนในช่วงเวลานี้แม้แต่น้อย จากนั้นข้าจักได้ไปพบกับ ลีจื้อเทียน แต่ ข้าต้องไม่ตื่นตระหนกในช่วงเวลาสำคัญนี้ แต่ เสียงกรีดร้องของ นักล่าสีเขียวได้เปิดเผยว่าสมบัติศักดิ์สิทธิ์ของเราถูกขโมยไป สมบัติล้ำค่าของเราหายไป …. แล้วข้าจักสบายใจได้อย่างไร ? เสียงเตือนนี้ทำให้เลือดข้าเดือด และ ข้าไม่สามารถก้าวไปยังขั้นสุดท้ายที่ข้าได้ตระเตรียมการอย่างพิถีพิถัน บางทีข้าอาจจะยังไม่มีทางบรรลุได้ในตอนนี้ ! เอ ! เช่นนั้น นั่นคือสิงที่อดีตราชัญเทียนฟาได้ทำนายไว้ … เอาละ … เอาละ … แต่กระนั้น ข้าไม่ปลอยให้ ลีจื้อเทียนมีช่วงเวลาที่ง่ายเช่นกัน ! “

น้ำเสียงของสิ่งมีชีวิตนั้นเบาลง จนถึงจุดที่ต่ำมาก ไม่ต่างอันใดกับเสียงกระซิบ แต่ ความไม่พอใจในน้ำเสียงยังคงเข้มข้น และ รุนแรงขึ้นในข้อความที่เขาพูดออกมา …

ลีจื้อเทียน ! นี่คือความผิดพลาดของเจ้า ! ข้าจักสังหารเจ้าอย่างแน่นอน !

” เกิดอันใดขึ้น น้องสาวเก้า ? “

กระเรียนคอยาวถามด้วยความร้อนรน

“สิ่งใดทำให้เจ้าบ้าคลั่งเช่นนั้น ? “

สีหน้าของ ราชันงูซีดเผือก ริมฝีปากของนางสั่นขณะหันหลังมา ตัวของนางสั่น และ น้ำตาสองหยดไหลจากดวงตาของนาง … จากนั้น นางเอ่ยขึ้น และดูเหมือนนางกำลังสะเทือนใจ

” ที่สาม พี่สี่ … ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ … มันสุกงอมแล้ว .. แต่ในตอนนั้น … มันก็ถูกขโมยไป …”

แม้แต่ ราชัญงูเชวียนก็มิอาจอดทนความหักอึ้งนี้ได้ นางรู้สึกโศกเศร้าไร้สิ้นสุด เช่นนั้น นางเริ่มร้องไห้เล็กน้อยหลังจากนางได้เห็น กระเรียนคอยาวและหมีใหญ่พุ่งตัวมาเพื่อช่วยเหลือนาง …

ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งเถียรฟามีความสัมพันธ์กับป่านับร้อยปี และจักส่งผลดีมากมายในอนาคต เช่นนั้น ชัดเจนว่าของสิ่งนี้สำคัญนัก และ ชัดเจนว่าพวกเขาจักมิอาจผิดผลาดในเรื่องนี้ได้ ด้วยเหตุนี้ ราชัญงูเชวียนจึงได้รับมอบหมายให้ดูแลเรื่องนี้ แต่ ศัตรูผู้ทรงพลังรอคอยจนถึงช่วงเวลาสำคัญ และขโมยผลม้นี้ไปจากมือของนาง …

กระเรียนคอยาว และ หมีใหญ่ตกตะลึง พวกเขามองขั้นฟ้าไปช่วงระยะหนึ่ง จากนั้น เพ่งมองไปยัง ราชันงู

” อะไรนะ ? ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ถูกขโมยไป ? เป็นไปได้อย่างไรกัน ? มันเกิดขึ้นได้อย่างไร…. ? “

” เป็นจริงดังนั้น … “

นักล่าสีเขียว มิได้มีท่าทีสง่างามเช่นราชัญอสูรเชวียนเลยในเวลานี้ นางมิอาจอดกลั้นความรู้สึกและโศกเศร้าในหัวของนางได้ ความจริง นางเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ..

” เจ้าได้สร้างเขตป้องกันหรือไม่ ? มีข่าวอันใดเกี่ยวกับขโมยหรือยัง ? “

กระเรียนคอยาว ถามด้วยน้ำเสียงหดหู่

” ข้าได้สร้างอาณาเขตป้องกัน … มันมิได้เสียหาย … แม้แต่ที่เทียว … ทุกสิ่งปกติ … แต่พี่สาม… ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ … หายไปอย่างไร้ร่องรอย … “

นักล่าสีเขียวเริ่มร้องไห้อีกครั้ง

” ไม่ต้องกังวลไป ! เป็นความจริงที่ว่า ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์นั้นถูกขโมยไปในช่วงสุดท้ายของการเติบโต แต่ การทำงานนับร้อยปีของเราไม่สูญเปล่า พวกเรายัคงมีโอกาสที่จักเอามันกลับมา ! เป็นความจริงที่คนผู้นั้นสามารถเข้ามาที่นี่ และขโมยผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ไปโดยไม่มีการเตือนจาก อาณาเขตป้องกันบอกได้สองอย่าง อย่างแรก สิ่งมีชีวิตนี้แข็งแกร่งเกินกว่าพวกเรา พวกเราสามารถมองเห็นคนผู้นั้นได้ไม่เช่นนั้นแล้ว ดังนั้นไม่ต้องสงสัยถึงความสามารถของพวกเขา พวกเรายอมรับในความจริงนี้ ผู้แข็งแกร่งนั้นจักเหนืออกว่าเสมอ เช่นนั้น เจ้าจักรับมือกับเขาได้อย่างง่ายดายอย่างนั้นหรือ ? และอย่างที่สอง คนผู้นั้นมิได้หลบหนีไปหลังจากขโมยผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ เช่นนั้นพวกเขาต้องอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ และ การค้นหาอย่างละเอียดจักช่วยเราได้ แต่ เหตุการณ์นี้สงบลงแล้ว เช่นนั้นไม่ต้องกังวลไป พวกเราจักสนใจไปที่การแก้ปัญหา ! “

ไม่มีผู้ใดคิดว่า ราชัญหมีใหญ่ จักสามารถสงบสติอารมณ์ได้ในสถานการณ์เช่นนี้ ความจริง เขามีสติและไหวหริบตามวิธีของเขา นี่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด !

ผู้มีสติปัญญาสามารถทำผิดได้เมื่อเขาต้องตัดสินใจเรื่องนับพัน และ แม้แต่คนโง่ก็มีข้อเสนอที่ฉลาดได้เช่นกัน ! นั่นเป็นคำพูดที่ฉลาด

จวินโม่เซี่ยอดสรรเสริญไม่ได้

เจ้าหมีโง่นั้นฉลาดขึ้นอย่างรวดเร็ว นั่นเป็นสิ่งที่หาได้ยาก !

วาจาของมีใหญ่มีเหตุผลอย่างแท้จริง ราชันงูและราชัญกระเรียนคอยาวมองมาด้วยสายตาเปล่งประกาย พวกเขารู้สึกว่าวาจาเหล่านั้นมีเหตุผลอย่างมาด

กระเรียนคอยาว พยักหน้า และ มองขึ้นมาเงียบๆ จากนั้น เขาส่งเสียงแหลมดัง และ เสียงนั้นแหวกผ่านอากาศขณะที่เขาเปล่งพยางค์แปลกๆ สองสามคำ จากนั้น อสูรเวหาสอดแนมกระพือปีกพร้อมเพรียงกัน และ พวกเขามาอยู่ตรงหน้าสามราชัญอสูรอย่างเป็นระเบียบ ดูเหมือนพวกเขามารวมตัวกันอยู่ในพื้นที่นี้

จากนั้น หมีใหญ่คำราม และเหล่าอสูรเชวียนปฐพี รวมถึงพวกที่อยู่บนต้นไม้ เริ่มมาถึงด้วยทีท่าสง่าผ่าเผย

ราชัญงูได้ออกคำสั่งเช่นกัน และ เหล่าอสรพิษเชวียนก็มารวมตัว …

ไม่นาน เหล่าอสูรเวหา อสูรปฐพี อสรพิษเชวียน ทั้งสามชนิดได้มายังพื้นที่นี้ พวกเขานับล้านจะลุมล้อมหัวขโมย และขัดขวางการหลบหนีหากว่าเขาอยู่ที่นี่ ความจริง จักบีบเขาจนตายหากเขาพยายามหลบหนี

ทั้งพื้นดิน และน่านฟ้าในพื้นที่นั้นมีเหล่าอสูรอยู่หนานแน่น… ไม่ต่างจากถังหมัก แม้แต่น้ำ ก็จำเป็นต้องให้อสูรเชวียนอนุญาตถึงจะหลั่งไหลออกมาได้ …. มิเช่นนั้นมันจะขังนองอยู่ตรงนั้น …

ทุกซอกมุมบนพื้นและอากาศ และแม้แต่พื้นที่ใต้ดินอัดแน่นไปด้วยเหล่าอสูรเชวียนเหล่านี้ ความจริง พื้นที่ใต้ดินอัดแน่นไปด้วยงูพิษ และตะขาบ แม้แต่เม็ดฝนก็ยากที่จะซึมลงไปยังพื้นโลกได้ ….

ต้องใช้อสูรเชวียนมากมายเท่าใดที่จักสามารถสร้างผลเช่นนี้ได้ ? จวินโม่เซี่ยรู้สึกวิงเวียน เขาเพ่งมองออกไปไกลและรู้สึกเหมือนติดอยู่ท่ามกลางทะเลแห่งอสูรเชวียน

อสูรเชวียนไม่จำเป็นต้องโจมตีหากพวกเขาพบหัวขโมย เพียงแค่น้ำลายของพวกเขาก็สามารถท่วมท้นตัวเขาได้ …

กำลังคนมากมายขนาดนี้สามารถหาก งมเข็มในป่าใหญ่ได้ … ไม่ต้องเอ่ยถึงสิ่งมีชีวิตเลย …

ราชันพยัคฆ์ ราชันสิงโต ราชันลิง ราชันอินทรี และเหล่าเด็กหนุ่ม ราชัญหมาป่า ต่างมุ่งหน้ามาในตอนนี้ พวกเขาต่างมีสีหน้าที่สง่าเนื่องจากรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น การมาถึงของพวกเขาทำให้มีอสูรเชวียนมาเพิ่มเติมในพื้นที่นี้

และ เหล่าอสูรเชวียนมากมายเหล่านั้นก็พุ่งเข้ามาจากทุกที่ !