แดนนิรมิตเทพ บทที่ 942
เฉินโม่หันไปมอง เด็กผู้หญิงสวยอายุประมาณ 15 ปี สวมชุดเจ้าหญิงสีขาว กำลังวิ่งเข้ามาหาเขาด้วยสีหน้าดีใจและตกใจ
ด้านหลังเด็กผู้หญิง ยังมีผู้หญิงอายุประมาณ 20 ปี สวมชุดกระโปรงสีดำอยู่อีกหนึ่งคน
แต่เมื่อเธอมองเฉินโม่ มีความดูหมิ่นผุดขึ้นมาบนใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด
เฉินโม่อึ้งไปครู่หนึ่ง มองเด็กผู้หญิงสวยและน่ารักตรงหน้า ความทรงจำหลั่งไหลมาราวกับสายน้ำ
เฉินเข่อเอ๋อร์ ลูกสาวคนเล็กของลูกชายคนโตของพี่น้องคนที่สามของปู่ ชาติที่แล้วตอนเฉินโม่อยู่ที่ตระกูลเฉินที่หนานซู มีคนสนิทแค่ไม่กี่คน
เฉินโม่จำได้ว่าครั้งหนึ่ง เขาตามพ่อแม่กลับมาตระกูลเฉินที่หนานซู ตอนนั้นเป็นช่วงที่ความสัมพันธ์ของพวกเขากับตระกูลหลี่แห่งยานจิงกำลังตึงเครียด ลูกหลานตระกูลเฉินที่รุ่นราวคราวเดียวกันจำนวนมาก แดกดันถากถางเขา แม้แต่พวกคนที่อายุมากกว่าก็มีสีหน้าเยาะเย้ย
มีเพียงเฉินเข่อเอ๋อร์ ไม่เพียงแต่จะไม่รังเกียจเขา หนำซ้ำยังพูดว่าทำไมเราจะต้องเผากันเองด้วย ซึ่งเป็นท่อนที่อ้างอิงจากกลอน โดยไม่สนใจการคัดค้านของพ่อแม่
ตอนนั้นเฉินโม่จำได้ชัดเจน ตอนเฉินเข่อเอ๋อร์อ่านกลอนของโจสิดออกมา สีหน้าของคนตระกูลเฉินที่เล่นงานเขา ดูย่ำแย่ขนาดไหน
แม้ไม่ได้อยู่กับเฉินเข่อเอ๋อร์มากนัก แต่เฉินโม่จดจำความดีของน้องสาวคนนี้ที่มีต่อเขาไว้ในใจตลอด
“น้องเฉินโม่ น้องก็อยู่ที่นี่เหมือนกันเหรอ” ผู้หญิงที่อยู่ด้านหลังตามเข้ามา มองเฉินโม่แวบหนึ่ง พูดอย่างราบเรียบ แววตาดูหมิ่นเล็กน้อย
เฉินเข่อซิน พี่สาวแท้ๆ ของเฉินเข่อเอ๋อร์ แม้เกิดจากแม่เดียวกัน แต่นิสัยของทั้งสองคนต่างกันราวฟ้ากับเหว
เฉินเข่อเอ๋อร์ไร้เดียงสาน่ารัก จิตใจดีบริสุทธิ์ แต่เฉินเข่อซินกลับหยิ่งยโสทะนงตน ความคิดลึกซึ้งยากจะคาดเดา
ตอนแรกเริ่มเฉินเข่อซิน มีท่าทีดีกับเฉินโม่มาก ปกป้องเฉินโม่ทุกอย่าง ทำให้เฉินโม่เข้าใจผิดว่าเธอทำดีกับเฉินโม่จากใจจริง ตอนนั้นเฉินโม่บอกความคิดของตัวเองให้เธอรู้โดยไม่เก็บงำเลย
แต่ต่อมาเฉินโม่เพิ่งรู้ ที่แท้การที่พี่สาวคนนี้ทำดีกับเขา เพราะเขาเป็นหลานชายแท้ๆ ของหลี่ตงหยาง ผู้นำตระกูลมหาอำนาจแห่งยานจิง
แม้ตระกูลเฉินมีชื่อเสียงด้านอำนาจในหนานซู แต่เนื่องด้วยการแก่ตัวลงของเฉินกั๋วเหลียง ทายาทรุ่นต่อมาของตระกูลเฉินไม่มีบุคคลที่โดดเด่น ดังนั้นฐานะของตระกูลเฉินจึงต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตกอยู่ในความเสี่ยงมาก
เฉินเข่อซินอยากเกาะตระกูลหลี่โดยใช้เฉินโม่ แต่หลังจากเฉินโม่โดนตระกูลหลี่ขับไล่ เพราะความหวังโดนทำลาย จึงเปลี่ยนท่าทีตั้งแต่นั้นมา เริ่มเล่นงานเฉินโม่ทุกทาง
คนที่ทำร้ายคนได้เจ็บปวดที่สุด ก็คือคนที่คุณเคยเชื่อใจที่สุด ดังนั้นความเจ็บปวดที่เฉินเข่อซินสร้างให้เฉินโม่ จึงมหาศาลเป็นอย่างมาก
ถ้าเป็นเฉินโม่เมื่อชาติที่แล้ว ตอนเจอเฉินเข่อซิน คงโกรธเป็นอย่างมากแน่นอน แต่ชาตินี้ เฉินเข่อซินในสายตาเฉินโม่ ไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว
เฉินโม่ไม่ได้สนใจเฉินเข่อซิน มองเฉินเข่อเอ๋อร์ที่มีรอยยิ้มดีใจเต็มใบหน้า เขายิ้มบางๆ “เข่อเอ๋อร์ ไม่ได้เจอกันนาน เธอสวยยิ่งกว่าเมื่อก่อนอีกนะ”
“จริงเหรอ พี่เฉินโม่ ห้ามโกหกฉันนะ!” ได้คำชมจากเฉินโม่ ดวงตาทั้งสองข้างของเฉินเข่อเอ๋อร์โค้งเหมือนดวงจันทร์
“หลอกใครฉันก็หลอกน้องเข่อเอ๋อร์ไม่ได้หรอก” เฉินโม่ยิ้มบางๆ แล้วเอ่ยขึ้น
เฉินเข่อเอ๋อร์ยิ้มอย่างมีความสุขเข้าไปอีก “ใช่สิพี่เฉินโม่ พี่ยังไม่บอกฉันเลยว่าพี่มายานจิงทำไม”
เฉินโม่พูดอย่างราบเรียบว่า “มหาวิทยาลัยมีกิจกรรม ฉันเลยมาน่ะ”
“อ๋อ ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง!” เฉินเข่อเอ๋อร์พยักหัวเล็กๆ เหมือนลูกไก่จิกข้าวเปลือก ท่าทางดูน่ารักมาก
“โอ้ สาวสวยสองคนนี้มาจากไหนกัน ดูไม่ออกเลยว่าไอ้หมอนี่ได้รับความนิยมจากสาวๆ ด้วย!” ลูกน้องของหมิงเจ๋อเซวียนยิ้มร้ายกาจแล้วเอ่ยขึ้น
เฉินเข่อเอ๋อร์ขมวดคิ้ว ถามอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “พี่เฉินโม่ พวกเขาเป็นใคร”
เฉินโม่มองพวกหมิงเจ๋อเซวียนอย่างระอาแวบหนึ่ง พูดอย่างราบเรียบว่า “แค่พวกตัวตลกเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องสนใจ”