กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 975

ชาร์ลีไม่ได้เป็นคนดีอะไร

เขาจะช่วยใครก็ต่อเมื่อเขาเห็นใจคนนั้น

อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายก็ควรจะสามารถแยกความแตกต่างระหว่างความดีและความชั่วได้

หากอีกฝ่ายไม่รู้ว่าอะไรดีสำหรับตัวเอง ชาร์ลีจะไม่ยอมถูกดูหมิ่นทั้ง ๆ ที่เขามีเจตนาดี

เนื่องจากบางคนดื้อรั้นมาก ดังนั้นจึงเป็นการดีที่สุดสำหรับพวกเขาที่จะพบเจอกับความโชคร้ายด้วยตัวของพวกเขาเอง

อย่างไรก็ตาม พวกเขาตัดสินใจกันเองไปแล้ว มันคงตำหนิใครไม่ได้ ในเรื่องความโชคร้ายที่จะมาถึงในอนาคต

ชาร์ลีจึงจงใจเปลี่ยนเรื่อง เขาจึงพูดทันทีว่า “ถ้าพวกนายต้องการพูดคุยเรื่องการทำเงิน ฉันคิดว่าพวกนายควรกลับไปคุยเป็นการส่วนตัว เหตุผลที่เรามาที่นี่ในวันนี้ ก็เพราะว่าเราต้องการเลี้ยงอาหารค่ำคุณนายลูอิส หลังจากนั่งที่นี่มานาน เรายังไม่ได้สั่งอาหารกันเลย”

แม็กซ์ยิ้มทันทีและพูดว่า “มาเถอะ มอบรายการอาหารนี้ให้คุณนายลูอิส คุณนายจะได้สั่งอาหารที่เธอชอบ!”

คุณนายลูอิสรีบโบกมือก่อนจะพูดว่า “ไม่เอา ไม่เอา ฉันไม่เคยมาสถานที่ดี ๆ แบบนี้มาก่อนเลยไม่รู้ว่าจะสั่งอาหารอะไรที่นี่ ให้พวกคนหนุ่มสาวสั่งอาหารแทนเถอะ”

แม็กซ์รับรายการแทน ก่อนจะยิ้มแล้วพูดว่า “เดี๋ยวฉันสั่งอาหารให้!”

หลังจากนั้นเขาก็เรียกพนักงานเสิร์ฟทันทีก่อนจะพูดว่า “ทางนี้! ฉันต้องการจะสั่งอาหารตอนนี้”

พนักงานเสิร์ฟเข้ามาทันที หลังจากนั้นแม็กซ์ก็สั่งอาหารอย่างรวดเร็ว ในเวลานี้เขากำลังครุ่นคิดเยอะมาก ทั้งหมดที่เขาจะสั่ง ต้องเป็นอาหารราคาแพงเท่านั้น

อาหารจานแรกที่เขาสั่งคือหอยเป๋าฮื้อคุณภาพเยี่ยม จานนี้เพียงจานเดียวมีราคา 1,888.00 ดอลลาร์ และเขาสั่งมันให้กับทุกคน

เมื่อโจอี้เหลือบเห็นเมนู เขาก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาดัง ๆ ว่า “โอ้ แม็กซ์! จานนี้แพงเกินไป แค่จานนี้จานเดียว มันจะรวมกันเป็นราคาที่มากกว่าสองหมื่นดอลลาร์! เรา… เราไม่สามารถจ่ายได้หรอกนะ!”

แม็กซ์เสนอที่จะจ่ายครึ่งหนึ่งของบิลสำหรับอาหารค่ำคืนนี้ หลังจากนั้น คนอื่น ๆ ต้องเฉลี่ยกันจ่ายส่วนที่เหลืออีกครึ่งของบิลค่าอาหาร กล่าวอีกนัยหนึ่ง ทุกคนยังคงต้องจ่ายสำหรับอาหารในคืนนี้ แม้ว่าจะถูกลงเล็กน้อยก็ตาม

อย่างไรก็ตาม มื้อนี้แพงเกินไป ต่อให้แม็กซ์จะเสนอที่จะจ่ายค่าอาหารในคืนนี้ครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง ก็ยังคงเป็นภาระอันหนักอึ้งสำหรับคนอื่น ๆ

แม็กซ์มองโจอี้ด้วยท่าทางรังเกียจก่อนจะพูดว่า “ไม่น่าแปลกใจเลย ว่าทำไมแม่ยายในอนาคตของนายถึงเรียกค่าสินสอดทองหมั้นที่สูง ดูสีหน้าของนายตอนนี้สิ เราแค่ทานอาหารร่วมกัน นายก็กลัวแล้ว แม่ยายของนายต้องเรียกสินสอดสูง ๆ เพื่อที่ลูกสาวของเธอจะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจต่าง ๆ ในอนาคต อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าคืนนี้นายกำลังทานอาหารกับแม่ยาย? คนจะคิดยังไงกับนายที่นายกลัวจนไม่กล้าสั่งอาหารเลย?”

โจอี้ดูเจือนและหดหู่เล็กน้อยขณะพูดว่า “แม็กซ์ ฉันไม่มีเงินมากเท่านาย พูดตามตรง ในความพยายามที่จะประหยัดเงิน ฉันใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเพียงหนึ่งร้อยดอลลาร์ต่อสัปดาห์เท่านั้น ฉันจะกินแค่น้ำเย็นและซาลาเปาในที่พักของบริษัททุกวัน ฉันทนไม่ได้แม้จะจ่ายเงินเพื่อซื้อกาต้มน้ำไฟฟ้า…”

แม็กซ์ตอบอย่างเย็นชา “ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนายถึงยังยากจนขนาดนี้ นายจะทำเงินตามที่นายต้องการ ด้วยแนวคิดการอดอาหารแบบนี้ได้ยังไง? แล้วจะมีใครจนกว่านายไหม?”

หลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง แม็กซ์ก็พูดอีกครั้งว่า “เงินคืออะไรกันแน่? นายต้องใช้เงิน นี่แหละมันถึงจะเรียกว่าเงิน เงินคืออะไรถ้าไม่ใช้? เป็นเพียงกระดาษในกระเป๋าสตางค์ หรือเป็นเพียงชุดตัวเลขในบัญชีธนาคาร แล้วนอกจากนั้น ฉันตกลงที่จะช่วยนายให้ทำเงินไปแล้ว ถ้าวันนี้นายไม่มีเงินแม้แต่จะจ่ายค่าอาหารมื้อนี้ ฉันขอโทษจริง ๆ แต่ฉันไม่ต้องการมีนายเป็นเพื่อน”

เมื่อโจอี้ได้ยินดังนั้น เขาจึงหุบปากอย่างรวดเร็ว

เขาได้ถือว่าแม็กซ์เป็นผู้มีพระคุณแล้ว และเขาไม่อยากจะขัดใจแม็กซ์เลย

ไม่อย่างนั้น จะไม่มีหวังในชีวิตของเขาอีกต่อไป

คนอื่น ๆ ต่างก็รู้สึกว่าแม็กซ์ฟุ่มเฟือยเกินไปในการสั่งอาหาร อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้ฟังเขาดุโจอี้ ทุกคนรู้สึกอายเกินกว่าจะพูดอะไรอีก

อย่างไรก็ตาม แม็กซ์จะต้องจ่ายค่าอาหารครึ่งหนึ่งในคืนนี้ ส่วนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง พวกเขาจะต้องเฉลี่ยเงินจ่ายกันเอง ถ้าพวกเขาบอกว่าพวกเขาไม่สามารถจ่ายได้ พวกเขาก็จะไม่สามารถรักษาหน้าของตัวเองได้เลย

ในเวลานี้ แม็กซ์พูดกับพนักงานเสิร์ฟว่า “เอากุ้งมังกรตัวใหญ่สัก 5 ตัว มาให้เราด้วย!”

พนักงานเสิร์ฟพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “ท่านครับ กุ้งมังกรพรีเมี่ยมของเรามีราคา 688 ดอลลาร์ต่อตัว รับไหมครับ?”