บทที่ 1558 ล่าถอย

 

ฟางหยวนใช้การโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของเขา

 

มังกรสีเงินจํานวนนับไม่ถ้วนปิดล้อมจิ้งหลานเอาไว้ทุกทิศทาง

 

“บัดซบ!” จิ้งหลานกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ

 

ตอนนี้พลังการต่อสู้ของนางตกลงสู่จุดต่ำสุด แต่นางยังสามารถสังหารมังกรดาบบรรพกาลที่พุ่งเข้ามาได้อย่างไม่มีปัญหา

 

“หนอนพวกนี้ทําร้ายข้าไม่ได้! ฟางหยวน คนขี้ขลาด มาสู้กับข้า!” จิ้งหลานคําราม

 

ฟางหยวนเย้ยหยันขณะซ่อนตัวอยู่ที่มุมหนึ่ง

 

หมื่นมังกร

 

หมื่นมังกร!

 

หมื่นมังกร

 

หมื่นมังกร!

 

โดยไม่คํานึงถึงค่าใช้จ่าย ฟางหยวนกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะหมื่นมังกรอย่างบ้าคลั่ง

 

กลิ่นอายของจิ้งหลานลดลงอย่างรวดเร็ว นางยังคํารามและยั่งยุฟางหยวน แต่ร่างจริงของเขาไม่ขยับแม้แต่น้อย

 

หมื่นมังกรเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับเจ็ด มันไม่ใช่ปัญหาสําหรับจิ้งหลานที่มีวิญญาณอมตะ และพลังงานอมตะระดับแปด อย่างไรก็ตามทุกครั้งที่นางกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตาย นางจะได้รับผลกระทบย้อนกลับจากกําแพงภูมิภาค

 

นางมีวิธีที่ทําให้ฟันเฟือนนี้อ่อนแอลง แต่ด้วยอาการบาดเจ็บที่รุนแรงในปัจจุบัน ฟันเฟืองใดๆก็อาจทําให้นางถึงแก่ความตายได้ทั้งสิ้น

 

และนางยังต้องรักษาตัวเอง แต่อาการบาดเจ็บของนางจะหายโดยง่ายได้อย่างไร?

 

อาการบาดเจ็บที่เกิดจากการโจมตีของผู้อมตะยากที่จะรักษา มีเพียงร่างทารกอมตะของฟางหยวนเท่านั้นที่เป็นข้อยกเว้นเพียงหนึ่งเดียวบนโลกใบนี้

 

หลังจากล้มเหลวในการล่อลวงร่างจริงของฟางหยวน จิ้งหลานจึงต้องเป็นฝ่ายบุกโจมตี

 

หมื่นมังกรไม่สามารถหยุดนางได้แม้นางจะได้รับบาดเจ็บสาหัสก็ตาม หลังจากทั้งหมดนี่ คือจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าที่ยืนหยัดต่อสู้กับเทพปีศาจจิตวิญญาณมาอย่างยาวนานในอดีต

 

ฟางหยวนถอนหายใจ พลังการต่อสู้ของเขาไม่เพียงพอที่จะคร่าชีวิตผู้เชี่ยวชาญเช่นจึ้งหลาน

 

ผู้อมตะระดับนี้ไม่สามารถถูกสังหารได้โดยง่าย เว้นเพียงพวกเขาจะถูกซุ่มโจมตีและติดอยู่ใน ท่าไม้ตายเขตแดนอมตะ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาจะต้องถูกฆ่าก่อนที่ท่าไม้ตายเขตแดนอมตะจะถูกทําลาย

 

แน่นอนว่าจิ้งหลานก็ไม่สามารถฆ่าฟางหวนได้เช่นกัน แม้นางจะรวดเร็ว แต่นางยังไม่สามารถหยุดฟางหยวนจากการเข้ามาในกําแพงภูมิภาค

 

อย่างไรก็ตามฟางหยวนตระหนักดีว่ากระทั่งเขาจะไม่สามารถสังหารจิ้งหลาน แต่เขายังต้องโจมตีนางต่อไป

 

“ข้าต้องลดพลังการต่อสู้ของคนผู้นี้ให้มากที่สุดเพื่อให้ข้ามีเวลามากขึ้นในการหลบหนี” เมื่อคิดได้เช่นนี้ฟางหยวนก็ชี้นิ้วของเขาออกไป

 

ท่าไม้ตายอมตะหมอกสับสน!

 

เดิมที่มันเป็นหมอกสีม่วงที่ครอบคลุมพื้นที่เล็กๆและสามารถสร้างความสับสนให้กับผู้อมตะระดับแปด แต่หลังจากมันถูกปรับเปลี่ยนโดยฟางหยวน ท่าไม้ตายนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้อมตะระดับแปด แต่มันมีผลอย่างมากต่อผู้อมตะระดับเจ็ดและต่ํากว่า

 

ไม่เพียงสีของมันที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ระยะโจมตีของมันยังเพิ่มขึ้นมาก อย่างไรก็ตามระยะเวลาการทํางานของมันลดลง

หลังการต่อสู้ที่ทะเลทรายผีเขียว ฟางหยวนปรับปรุงท่าไม้ตายนี้อีกครั้งด้วยความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการโจรกรรมที่สูงขึ้น

 

ด้วยการเพิ่มวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการโจรกรรมและวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทาง แห่งการโจรกรรมอีกจํานวนมาก มันสามารถขโมยความสามารถในการรับรู้ทิศทางของศัตรู ดังนั้นพลังอํานาจของท่าไม้ตายอมตะหมอกสับสนจึงเพิ่มสูงขึ้นและอาจส่งผลกระทบต่อผู้อมตะระ ดับแปดได้อีกครั้ง

 

ทันใดนั้นหมอกจํานวนมากก็กระจายไปทั่วและทําให้จิ้งหลานรู้สึกสับสน

 

ฟางหยวนฉวยโอกาสนี้ส่งหมื่นมังกรออกไปโจมตีนางทันที

 

โอ้ ไม่ ข้าขาดวิญญาณอมตะหลายดวง ข้าไม่สามารถแม้แต่จะทําลายท่าไม้ตายระดับนี้ได้” จึ้งหลานพยายามหลายวิธีแต่นางพบว่าตนเองไม่สามารถจัดการท่าไม้ตายอมตะหมอกสับสนของ ฟางหยวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

“หือ? เกิดสิ่งใดขึ้น?” ฟางหยวนสังเกตสถานการณ์ทั้งหมดและรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นจิ้งหลานไม่สามารถทะลวงผ่านหมอกสับสน

 

แม้ฟางหยวนจะพัฒนาท่าไม้ตายอมตะหมอกสับสนมาแล้ว แต่มันยังเป็นเพียงท่าไม้ตายอมตะระดับเจ็ด

 

ฟางหยวนไม่คาดคิดว่าท่าไม้ตายนี้จะสามารถหยุดจิ้งหลานได้จริงๆ เขาต้องการเพียงชะลอความเร็วของจิ้งหลานลงเล็กน้อยเท่านั้น

 

จากด้านนอกหมอกสับสน ฟางหยวนสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของวิญญาณอมตะได้อย่างชัดเจน นี่คือความพยายามในการทําลายหมอกสับสนของจิ้งหลาน

 

แต่ท่าไม้ตายของนางทําให้หมอกสับสนบางลงเล็กน้อยเท่านั้น

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายแหลมคม เขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะหมอกสับสนอีกครั้งทันที

 

หมอกสับสนกักขังจิ้งหลานเอาไว้ภายใน

 

“นางไม่สามารถออกมาได้จริงๆ!” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มขมขื่น หากเขารู้เรื่องนี้มาก่อน เขาคงใช้ท่านี้ไปนานแล้วและไม่จําเป็นต้องหลบหนีอย่างน่าสังเวชเช่นนี้

 

อย่างไรก็ตามผลกระทบของท่าไม้ตายใดๆจะลดลงหากมันถูกใช้หลายครั้ง ไม่เพียงเป้าหมายจะระวังตัวมากขึ้น แต่มันยังจะเปิดเผยข้อบกพร่องและทําให้ฝ่ายตรงข้ามสามารถอนุมานวิธีต่อต้าน

 

ครั้งนี้มันเป็นเพียงว่าฟางหยวนไม่ได้คาดหวังว่าท่าไม้ตายนี้จะสามารถกักขังจิ้งหลานได้จริงๆ

 

นี่เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ

 

“สิ่งนี้เป็นตัวปัญหา!” จิ้งหลานตระหนักถึงเรื่องนี้เช่นกันขณะที่นางรู้สึกถึงกลิ่นอายแห่งความตายที่ใกล้เข้ามาฆ่า!

 

มังกรดาบบรรพกาลจํานวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าไปในหมอกสับสนและโจมตีจึ้งหลานจากทุกทิศทาง

 

จิ้งหลานไม่สามารถแยกแยะทิศทางและถูกโจมตีอย่างน่าอนาถ

 

กําแพงภูมิภาคยังกดดันนางตลอดเวลา ทุกครั้งที่นางใช้ท่าไม้ตายอมตะ นางจะประสบกับผลกระทบย้อนกลับ

 

“ข้าคือจิ้งหลานผู้ยิ่งใหญ่ จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าจะตายที่นี่ไม่ได้!” เมื่อเวลาผ่านไปหัวใจของจิ้งหลานก็เริ่มจมดิ่งลง สถานการณ์ไม่เอื้ออํานวยต่อนางมากขึ้นเรื่อยๆ

 

“ไม่ ข้าต้องอดทน ข้ายังสู้ได้! แม้ข้าจะตาย ข้าก็ต้องนําฟางหยวนไปพร้อมกัน!” จิ้งหลานมองหน้าอกของตนเอง บาดแผลบนหน้าอกของนางใหญ่มากขณะที่หัวใจของนางยังสามารถมองเห็นจากภายนอก

 

หัวใจของนางผิดปกติมาก ทุกครั้งที่มันเต้น มันจะปล่อยสายฟ้าสีม่วงออกมาเสมอ

 

ในความเป็นจริงนี่คือไพ่ตายใบสุดท้ายของนาง

 

“กล้าหาญและแข็งแกร่ง แม้นางจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่นางยังอดทนและดูเหมือนนางจะยังมีไพ่ตายซ่อนอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นเจตจํานงของนางยังไม่แตกสลาย แม้ข้าจะลอบใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญามากมายแล้วก็ตาม

 

ฟางหยวนถอนหายใจและต้องยอมแพ้

 

เวลาเป็นสิ่งสําคัญในขณะนี้ ฟางหยวนจําเป็นต้องอนุมานและฟื้นฟูอาภรณ์วิญญาณโดยเร็วที่สุด

 

แม้สถานการณ์จะเอื้อประโยชน์ต่อเขา แต่วังสวรรค์จะไม่มองดูอยู่เฉยๆ พวกเขาจะส่งกําลังเสริมมาอย่างแน่นอนและนั้นจะเป็นหายนะที่แท้จริงสําหรับฟางหยวน

 

ฟางหยวนตัดสินใจจากไปทันที แต่เขาไม่ลืมที่จะใช้ท่าไม้ตายอมตะหมอกสับสนและหมื่นมังกรก่อนที่เขาจะออกเดินทาง

 

ล่าถอย!

 

ฟางหยวนเคลื่อนที่ลึกเข้าไปในกําแพงภูมิภาค

 

ภายในกําแพงภูมิภาคเขาจะปลอดภัย

 

เขาอนุมานและปรับปรุงอาภรณ์วิญญาณขณะเดินทาง

 

แต่ไม่นานเขาก็พบว่ามันยังเป็นเพียงอาภรณ์วิญญาณระดับเจ็ด มันจะดีกว่าหากเขาผสานมันเข้ากับผนึกภูตผี

 

“ผนึกภูตผีเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับเก้า แม้มันจะเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งการโจรกรรม แต่ก็มีคําว่าภูตผีอยู่ในชื่อของมันและมีความเกี่ยวข้องกับเส้นทางแห่งจิตวิญญาณเพราะมันสามารถปิดกั้นการรับรู้ของสิ่งมีชีวิตรูปแบบจิตวิญญาณ อาภรณ์ภูตผีเป็นวิธีที่ถูกต้อง ข้าต้องยกระดับท่าไม้ตายนี้ให้สูงขึ้นด้วยการใช้ผนึกภูตผี”

 

หลังจากพบทิศทางพัฒนาที่ถูกต้อง ฟางหยวนก็เริ่มอนุมานทันที

 

เขามีวิธีบนเส้นทางแห่งปัญญามากมายรวมถึงระดับความสําเร็จที่เพียงพอโดยเฉพาะความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการโจรกรรม

 

เมื่อเวลาผ่านไป ในที่สุดฟางหยวนก็ประสบความสําเร็จในการอนุมาน เขากระตุ้นใช้งานอาภรณ์ภูตผีอีกครั้ง

 

วิธีใหม่นี้ทําให้อาภรณ์วิญญาณและผนึกภูตผีมีความเชื่อมต่อกันมากขึ้น ความขัดแย้งระหว่างพวกมันหายไปอย่างสมบูรณ์

 

สําเร็จ! ฟางหยวนตระหนักถึงประสิทธิภาพของมันและกําหมัดด้วยความยินดี

 

เขาสามารถปกป้องตนเองจากการอนุมานของวังสวรรค์ได้อีกครั้ง สิ่งนี้จะทําให้เขาปลอดภัยมากขึ้น

 

แต่หากเขายกเลิกท่าไม้ตายนี้ เขาจะถูกวังสวรรค์ค้นพบในที่สุด

 

ฟางหยวนรีบเดินทางไปยังภาคเหนือ

 

การรักษาท่าไม้ตายนี้เอาไว้ต้องใช้พลังงานอมตะจํานวนมากขณะที่เขาสูญเสียพลังงานอมตะ จํานวนมหาศาลไปในการต่อสู้กับจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าก่อนหน้านี้แล้ว

 

ในการต่อสู้ครั้งนี้ฟางหยวนต้องใช้ท่าไม้ตายอมตะหมื่นมังกรและท่าไม้ตายอมตะหมอกสับสนหลายครั้งอย่างที่ไม่เคยทํามาก่อน

 

ท่าไม้ตายอมตะเหล่านี้ใช้พลังงานอมตะจํานวนมาก

 

นอกจากนั้นเขายังใช้พลังงานอมตะกับการอนุมานท่าไม้ตายอมตะอาภรณ์ภูตผีฉบับปรับปรุงใหม่อีกจํานวนหนึ่ง

 

ทั้งหมดทําให้ฟางหยวนประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ แต่มันไม่ได้หมายความว่าเขาไม่มีกําไร สามารถรักษาชีวิตรอด นี่คือผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด! ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีกระดูกซี่โครงสามชิ้นของจักรพรรดินีอสูรสายฟ้า!

 

“กระดูกซี่โครงสามชิ้นนี้ถูกตัดออกมาด้วยกรงเล็บมังกรของข้า ทุกชิ้นล้วนเป็นทรัพยากรอ มตะที่หาได้ยาก แต่พวกมันมาจากจักรพรรดินีอสูรสายฟ้า ข้าไม่กล้าใช้พวกมัน มันจะดีกว่าหาก ข้าวางขายพวกมันในสวรรค์สีเหลือง!”