เนเน่ไม่รู้เรื่องราวความเป็นมาของเรื่องพวกนั้น รู้เพียงยู่ยี่แท้งลูกแล้ว คิดว่าเกิดจากเรนนี่ใช้กลอุบายเท่านั้น
หลังจากได้ยินถึงตอนนี้ ก็ถามด้วยความสงสัย “ยู่ยี่เป็นฆาตกรที่ฆ่าเด็กเหรอ ไม่ใช่สิ มันคือแผนเจ้าเล่ห์ของแกไม่ใช่เหรอ ที่ทำให้แท้งลูกไปอ่ะ”
ในเวลานี้ ประตูวิลล่าได้ถูกเปิดออกมา ชายหนุ่มเดินเพียงก้าวเดียวก็เข้ามาถึง อาจเป็นเพราะทั้งสองกำลังคุยกันอย่างออกรส จึงทำให้ไม่ทันได้สังเกต
แต่คำพูดเหล่านี้ มันได้ไหลผ่านเข้ามาภายในหูของชายหนุ่มอย่างชัดเจน
“ฉันใช้แผ่นเจ้าเล่ห์เหรอ ใช้แผนอะไร คืนนั้น ฉันเพียงโทรหายู่ยี่ เพื่อบอกความจริงเกี่ยวกับความรักของเราให้กับเธอ แต่ใครจะรู้ ว่ามันจะทนกับแรงกระตุ้นแบบนั้นไม่ไหว จนสะดุดล้มเก้าอี้ จนท้องไปชนกับโต๊ะเครื่องแป้งพอดี จนทำให้แท้ง ซึ่งแกไม่รู้ความจริง อย่าพูดมั่วซั่วนะ หากคนอื่นมาได้ยินคำพูดนี้เข้า จะคิดว่าฉันเป็นฆาตกรได้นะ ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย……” เรนนี่พูดอย่างเสียงดัง
เนเน่ไม่คาดคิดเลยว่าเบื้องหลังความจริงเรื่องนี้จะเป็นแบบนี้
เมื่อเงยหน้าขึ้น เธอก็เหลือบไปเห็นกับร่างที่เพิ่งก้าวเข้ามาในวิลล่าโดยไม่ตั้งใจ ก็ตกใจกับความจริงที่พบ จนชะงักนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ที่แข็งทื่อราวขอนไม้
เรนนี่ยื่นหันหลังให้กับประตูวิลล่า โดยที่หน้าหันไปทางหน้าต่าง เมื่อเห็นปฏิกิริยาเช่นนี้ของเนเน่ เธอขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ จึงหันหน้ากลับไปมอง
ดวงตาเนเน่ชนที่เข้ากับร่างของหัสดินที่กำลังเดินเข้ามาพอดี จนสายตาบรรจบกัน
โดยทั้งสองคนอยู่ห่างกันไม่ไกล จนสามารถเรียกได้ว่าใกล้ ใบหน้าหัสดินทั้งเย็นชาและใบมัว ก็เพียงพอที่จะมองเห็นได้ชัดเจน
ไม่เคยคิดเลยหัสดินจะปรากฏในได้จังหวะเช่นนี้ หัวใจเรนนี่เต้นอย่างรุนแรงจนไม่สามารถควบคุมได้เลย ไม่สามารถช่วยเต้นอย่างดุเดือดได้ คำพูดช่วงท้ายเมื่อสักครู่นี้เข้าต้องได้ยินแล้วอย่างแน่นอน
เรนนี่แอบสูดหายใจเข้าลึกๆ พลางกำมือแน่น เพื่อให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ และนิ่งลง มีเพียงความนิ่งเท่านั้น ถึงจะเป็นสถานการณ์เป็นผลดีต่อเธอ
จากนั้น เธอก็ย้อนคิดบทสนทนาที่พูดกับเนเน่เมื่อกี้อย่างละเอียด เธอไม่ได้พูดอะไรที่ส่งผลเสียกับตัวเองเลย หากจะชี้ที่ส่งผลเสียจริงๆ ก็คงเป็นเรื่องที่ปล่อยให้หัสดินรู้ความจริงอย่างไม่ตั้งใจ ว่าสาเหตุจริงๆในการเสียเด็กนั้นไป
ในขณะนี้ เรนนี่นึกเสียใจเป็นอย่างมาก เสียใจที่ทำไมเมื่อคืนต้องพาเนเน่มาด้วย เสียใจที่ทำไมต้องคุยเรื่องนี้ในตอนทานอาหารเช้าด้วย
แต่ว่า ขณะนี้ เธอได้หาวิธีรับมือกับหัสดินได้แล้ว
“เด็กคนนั้นตายยังไงนะ คุณพูดให้ผมอีกทีสิ” สีหน้าหัสดินแย่มาก ทั้งมืดและหมอง แฝงด้วยความโกรธที่ยังไม่ได้ระเบิดออกมา หัสดินในเวอร์ชั่นนี้ ทำให้ในใจเนเน่เริ่มหวาดกลัวเล็กน้อย
เรนนี่กัดฟัน พลางสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อทำให้ตัวเองสงบและนิ่งแล้ว จึงเอ่ย “คุณได้ยินแล้วไม่ใช่เหรอคะ จะถามทำไมอีก”
ภายในใจ เธอบอกกับตัวเองว่า เธอไม่ได้ทำอะไรผิด เรื่องนั้นมันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ เพราะฉะนั้นเธอจึงไม่ต้องตื่นตระหนกและหวาดกลัวอะไรทั้งสิ้น
ตรงกันข้ามยิ่งเธอหวาดกลัว มันก็ยิ่งเพิ่มแรงกระตุ้นให้กับเขาเท่านั้น เธอจึงเอ่ยไปตรงๆอย่างๆไม่เกรงกลัว
คำตอบเช่นนี้ เป็นการย้อนถามกลับอย่างไม่ต้องสงสัย ในที่สุดเปลวไฟที่เดือดดาลในหัวใจของเขาก็ถูกปลุกเร้าขึ้นมา หัสดินเดินก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว มือใหญ่บีบอยู่ที่คอเรนนี่
เนเน่กรีดร้องด้วยความตกใจ แล้วรีบวิ่งหนีเข้าไปอย่างรวดเร็ว ผลักหัสดินออก แล้วพยายามดึงเรนนี่ไว้ เพื่อให้เธอใช้น้ำเสียงอ่อนลง
ตอนนี้ สภาพหัสดินดูแย่มาก ถ้าเธอยังเป็นแบบนี้ต่อไป สุดท้ายคนที่เสียเปรียบก็ยังเป็นเธออยู่ดี
เรนนี่เพิกเฉยต่อการกระทำเนเน่ กลับมองไปที่หัสดิน ด้วยใบหน้าแสนอ่อนโยน แต่กลับพูดอย่างดื้อรั้นว่า “หัสดิน ตอนนี้คุณต้องการบีบฉันให้ตายเลยใช่ไหม ฉันก็พูดไปอย่างชัดเจนแล้ว ว่าฉันเพียงแค่โทรหายู่ยี่เท่านั้น เรื่องที่แท้งด้วยไม่ตั้งใจนั้นเธอก็รับผิดชอบทั้งหมดแล้ว ตอนนี้ฉันเป็นภรรยาคุณนะ เพื่อเรื่องที่ผ่านไปแล้ว คุณถึงกับอยากบีบฉันให้ตายเลยเหรอ”
ความขุ่นเคืองพวกนั้นของหัสดินมันเริ่มก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ เสียงเยือกเย็นราวกับบีบออกจากช่องว่างระหว่างฟัน “คุณเคยได้ยินประโยคเช่นนี้หรือเปล่า ถึงข้าไม่ได้ลงมือฆ่าเค้า แค่เค้าก็ตายเพราะข้า”
“เพราะฉะนั้นความหมายของคุณคือ ฉันเป็นคนฆ่าเด็กคนนั้นใช่ไหม” เรนนี่ส่ายหัว “ตอนนี้คุณต้องการโยนภาระและความผิดให้ฉันเหรอ ตั้งแต่ต้นจนจบ แม้แต่คำพูดว่าร้ายเด็กสักคำฉันก็ไม่เคยพูดเลย มันไม่ถึงขั้นทำให้ตายมั้ง เป็นแค่โทรศัพท์หาเธอเท่านั้น”
หัสดินยังคงกำแน่น ไม่ปล่อย
ความเจ็บปวดจากลำคอทำให้อารมณ์ของเรนนี่ระเบิด “ทำไมตอนนี้คุณต้องโกรธมากขนาดนี้ด้วยคะ เป็นเพราะโทษเธอผิดไปเรื่องการแท้งลูกงั้นเหรอ คงเสียใจมากสินะคะที่ตอนนี้เธอไปมีผู้ชายคนอื่นแล้ว ตอนที่เธออยู่กับคุณ คุณกลับไม่ต้องการเธอ ซึ่งตอนนี้เธอไปอยู่กับคนอื่นแล้ว คุณก็พยายามทำทุกอย่างอยากคืนดีกับเธอ อย่าลืมสิคะว่าตอนนั้นเธอซ้อมคุณจนต้องนอนนิ่งที่โรงพยาบาล อันที่จริง มันเป็นเพราะคุณทำตัวเองทั้งนั้น”
เนเน่ไม่เข้าใจว่าทำไมเรนนี่ถึงต้องทำให้หัสดินโกรธมากขึ้นในเวลานี้ด้วย เมื่อเทียบกับเมื่อกี้แล้ว สีหน้าหัสดินกลับมืดมากขึ้น
แน่นอน ว่าฝ่ามือหัสดินยกขึ้น เมื่อตกลงอีกครั้ง ก็ได้ยินเสียงเพียะ ดังขึ้นอย่างชัดเจน ทันใดนั้นแก้มที่ขาวเนียนของเรนนี่ก็มีรอยฝ่ามือสีแดงบวมขึ้น จนทั้งร่างล้มลงไปกับพื้น
ตอนที่ล้มนั้น ข้อมือเรนนี่ไปกระแทกโต๊ะอีกครั้ง จนเกิดความเจ็บปวดจากสวนนั่น ราวกับรอยแตก
หัสดินไม่สนใจทั้งสองคนที่อยู่ในวิลล่า เดินจากไปโดยตรง
เขาไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์ภูษาธร และไม่ได้ไปไนต์คลับ และเขาก็ไม่ได้ไปหาออกัสกับดนัย แต่กลับไปที่ห้องอพาร์ตเมนต์นั้น
สิ่งของเหลืออยู่ภายในห้องยังคงเยอะเหมือนเท่าเดิม สิ่งเดียวที่หายไปคือรูปแต่งงานที่แขวนอยู่บนผนัง และกรอบแว่นวางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งเท่านั้น
ทั้งร่างกายของเขาอ่อนลง ราวกับว่าเส้นเอ็นถูกดึงออกไปทั้งหมดแล้ว หัสดินนั่งลงบนพื้นอย่างหมดแรง
เขาคิดมาตลอด ว่าตอนนั้นยู่ยี่เป็นคนฆ่าลูกตาย แถมยู่ยี่ยังเป็นคนเอ่ยยอมรับเรื่องนี้เองอีก
แต่ในเวลานี้ เขาถึงรู้ ว่าความจริงของเรื่องกลับไม่ใช่สิ่งที่เขานึกคิดเช่นนั้น
พอนึกถึงความโกรธกับความแค้นของเขาที่อยู่ในใจอีกครั้ง จนทำให้เขาตบยู่ยี่อย่างแรง ตอนนี้เขาทุบหน้าอกด้วยเสียใจอย่างหนัก
ความรู้สึกที่จม ดิ่งอยู่ในอกราวกับแม่น้ำที่พุ่งขึ้นมาหัสดินรู้สึกหายใจติดขัด จึงตบแรงๆไปที่จุดนั้นที่นั่น มีเพียงวิธีนี้ ที่ไม่ทำให้เขาอกแตกตายเพราะความกลุ้มใจเต็มอก
ในวิลล่า เนเน่พยุง เรนนี่ลุกขึ้น แต่เรนนี่กลับหัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะนั้นเมื่ออยู่ในหูของคนฟังแล้ว ไม่รู้ทำไมมันถึงรู้สึกแปลกๆอย่างอธิบายไม่ได้
ปฏิกิริยาเช่นนี้ มันทำให้เนเน่ตกใจ คิดว่าเรนนี่ต้องได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจมากเกินไปจนกลายเป็นความผิดปกติทางจิตเช่นนี้
เรนนี่กลับพูดว่า”เมื่อก่อน ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับหัสดินมันราบรื่นเกินไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็จะมีเขาเป็นจุดสำคัญ ตอนนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างเรามันก็ควรจะเปลี่ยนแล้ว ครั้งนี้ฉันยังต้องการให้เขารู้สึกต่อฉัน รอยตบบนหน้าและรอยแผลที่คอ จะเป็นอาวุธที่ดีที่สุด”
เนเน่ไม่รู้เลยว่าในใจของเธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ และไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดจะทำอะไรกันแน่
เรนนี่จำการตบนี้ไว้อย่างแม่นยำ วันนี้ หัสดินกลับมาตบเธอ ซึ่งทำได้ดีมาก
คฤหาสน์ภูษาธรมีญาติผู้ใหญ่มามากมาย ทุกคนต่างรอพบลูกสะใภ้คนใหม่ อย่างครึกครื้นเป็นพิเศษ
ชฎารัตน์เหลือบมองเวลาแวบหนึ่ง ตั้งแต่หัสดินออกไปรับเรนนี่ตั้งแต่เช้าจนตอนนี้ก็สี่ชั่วโมงแล้ว ทั้งสองยังก็ไม่กลับมา
จึงแบบนี้ยิ่งทำให้เธอไม่พอใจในตัวเรนนี่มากไปอีก แม้จะทะเลาะกันแต่ก็ไม่ควรทำตัวเป็นเด็กๆเช่นนี้ เพราะมีญาติผู้ใหญ่มากมายรออยู่ในบ้าน เธอช่างดีเสียจริงๆ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ตอนนี้ไม่สามารถติดต่อกับหัสดินได้เลย เมื่อโทรไป มีเพียงเสียงแจ้งเตือนว่ากำลังปิดเครื่อง
เมื่อไม่มีวิธีแล้ว ชฎารัตน์จึงได้โทรหาดนัย ให้เขาช่วยตามหาให้หน่อย เพราะมีคนรอยู่ที่บ้านเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจะทำเสียหน้ามากนักไม่ค่อยได้
ดนัยและนาโนกำลังซื้อของอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ต เมื่อได้รับสายเช่นนี้แล้ว ดนัยจึงแจ้งว่าอยากไปตามหาดู
แต่นาโนกลับยิ้มเยาะเย้ย ใบหน้าเผยมาออกซึ่งความเย็นชา
ดนัยบอกว่า ไม่อาจทำให้ผู้ใหญ่เสียหน้าได้ ดังนั้นนาโนจึงจะตกลง แต่ว่าเธอต้องการตามเขาไปด้วย
ทั้งสองเดินทางไปหลายที่ แต่ไม่พบว่าตัวหัสดินอยู่ไหนกันแน่ เมื่อไร้หนทางแล้ว ดนัยจึงขอให้ตรวจสอบตำแหน่งรถของหัสดิน
เมื่อมาถึงอพาร์ตเมนต์ เปิดประตูเดินเข้าไป กลับเห็นหัสดินนั่งยองๆอยู่ที่มุมห้องในชุดสูท ด้วยท่าทีเหม่อลอย
นาโนเหลือบมองอย่างเย็นชา และพูดไม่ค่อยน่าฟังเสียเท่าไหร่ ปะปนด้วยเยาะเย้ยอย่างชัดเจน “คุณยังไม่ตายเหรอ”
ม่านตาที่กระจัดกระจายของดนัยได้รวมตัวกัน จ้องเขม็งมองนาโนแวบหนึ่ง แล้วละสายตาจากไป เมื่อทำอะไรไม่ได้ เขาก็ทำได้เพียงพูดอะไรดีๆหน่อยเท่านั้น เริ่มจากพูดอ้อนวอน ให้นาโนออกไปก่อน
ดนัยรู้ดีว่านาโนกำลังเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเพื่อนของตัวเอง ดังนั้นจึงพูดน่าเกลียดไปหน่อย
เมื่อเหลือเพียงแค่สองภายในห้องนี้ ดนัยต้องการส่งหัสดินกลับไปที่คฤหาสน์ภูษาธร แต่เขาไม่กลับ จะไปที่ไนต์คลับแทน
คนเยอะรออยู่ที่บ้าน จะไปบาร์ไหน ดนัยไม่เห็นด้วย และแน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะพึ่งพาเขา
ที่บ้านมีงานใหญ่ขนาดนี้ แถมยังมีคนรออยู่เยอะขนาดนั้น จะไปไนต์คลับได้ยังไง ดนัยไม่เห็นด้วย และเป็นไปไม่ได้ที่จะตามใจเข้าอย่างแน่นอน
หัสดินเงยหน้าขึ้น พลางกำมือที่ตกอยู่ข้างเขาให้เป็นหมัด จากนั้น เขาก็ชกหนักเข้ากับผนังด้วยหมัดแล้วหมัดเล่า ทันใดนั้น หลังมือและข้อต่อเริ่มแดง หนังถลอก และเลือดไหลออกมา เขาเหมือนคนที่บ้าไปแล้ว บางที่ก็เอาหัวโขกเข้าที่กำแพง ดนัยอึ้ง จนต้องรีบดึงเขาออกมา แล้วต่อว่าเขาแบบรุนแรง “แกอยากตาย ไม่อยากมีชีวิตแล้ว ใช่ไหม”
หัสดินในเวลานี้ค่อนข้างคล้ายกับสิงโตที่ได้รับบาดเจ็บ น้ำเสียงของเขาเสียงและแตกสลายอย่างรุนแรง “ลูกที่ยู่ยี่ตั้งท้องได้ห้าเดือน เธอไม่ได้ตั้งได้เอาเด็กออก แต่เป็นเพราะชนโดนโต๊ะเครื่องแป้งอย่างไม่ตั้งใจต่างหาก จนทำให้เสียลูกไป ฉันเข้าใจเธอผิด……”
ความสัมพันธ์ของคนอื่น ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวจะดีที่สุด เพราะคุณไม่ได้เป็นคนที่ในเหตุการณ์ แล้วยิ่งไม่รู้ด้วยว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นพวกนั้นด้วย
ดนัยไม่ได้พูดอะไร คิ้วของเขาขมวดเล็กน้อย คนที่มีจุดยืนแบบเขา มันจะพูดอะไรก็คงจะไม่ดี ความเงียบจึงเป็นทางออกเดียวที่ดีที่สุด
“ตอนนี้ฉันกำลังจะระเบิดแตกแล้ว ทั้งร่างก็กำลังระเบิดแตกแล้ว พาฉันไปที่ไนต์คลับเถอะ ให้ฉันดื่มสักสองสามแก้ว แค่สองสามแก้วก็ยังดี……”
เมื่อมองเห็นสภาพเช่นนี้ของหัสดินในตอนนี้ ดนัยก็ถอนหายใจ แล้วพยุงแขนเขาขึ้น พาเขาไปที่ไนต์คลับ ตามที่เขาต้องการ
เขาสั่งเหล้าเป็นจำนวนมาก ดนัยอย่าห้ามแต่ก็ห้ามไม่ไหว ดังนั้นจึงปล่อยเขาทำตามความต้องการ หลังจากก็โทรแจ้งชฎารัตน์
ชฎารัตน์ไม่ได้พูดอะไร ขอให้เขาช่วยดูแลหัสดินหน่อย แล้ววางสายไปทันที
หัสดินดื่มหนัก เหล้าขวดหนึ่งแป๊บเดียวก็เห็นถึงก้นขวดหมดลง ราวกับกำลังดื่มน้ำอุ่น มันไม่มีความรู้สึกเลยสักนิด ไม่ว่าเหล้านั้นจะเข้มข้นมาแค่ไหนก็ตามเมื่ออยู่ในปากของเขาแล้ว เขากลับไม่ตอบสนองใดๆเลย