ตอนที่ 191

Rise of The Undead Legion

Chapter 191 : การลงมือของเดฟ

ขวานขนาดใหญ่วางพาดที่ไหล่ของยักษ์ เขาใส่กระโปรง,ไหล่และหมวกที่มีเขาเหล็ก ที่อกเขานั้นมีรูขนาดใหญ่ ในรูนั้นมีคริสตัลสีดำที่รัดด้วยโซ่มัดไว้กับอกของยักษ์

” ยักษ์ปนเปื้อนอีกตัว ! “

[Anti Bully] ของ เดฟ เริ่มส่องแสง Drahma กำลังมาแต่ราชาโบกมือและแสงจากเพชรนั่นก็ได้หายไปทันที

” Drahma ไม่ได้แข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะยักษ์ตัวนี้ได้ ” – ราชาพูดขึ้นอย่างใจเย็น เขาโบกมืออีกครั้งและมีกองทรายพูนขึ้นมาก่อนจะเผยให้เห็นถึงอัศวินซึ่งโดนโซ่ล่ามเอาไว้ เดฟ จำอัศวินคนนี้ได้ Dog เคยจะปลุกอีกฝ่ายขึ้นมาและเกือบจะเป็นภัยต่อทีม อัศวินคนนี้ทรงพลังมากกว่า เดฟ มาก และไม่คิดจะยอมอ่อนข้อแม้แต่ตอนที่ราชาปรากฏตัวขึ้นมาเพื่อใช้กฎแห่งอันเดตกับอัศวินคนนี้

” Kalel ครั้งนี้ได้เวลาพิสูจน์ตัวเองแล้วว่านายรับใช้ใคร ? ! “

” ฉันรับใช้ราชาแห่งความตายตั้งแต่นี้และตลอดไป ! ” – อัศวินตอบกลับด้วยท่าทีจริงใจ

ราชาพยักหน้าแล้วสั่งการออกมา – ” ฆ่ายักษ์นั่น อัศวินของราชา “

อัศวินเกราะขาวได้ทำความเคารพก่อนที่โซ่ที่ล่ามตามตัวได้ตกลงกับพื้นปลดปล่อยเขาให้เป็นอิสระ จากนั้นอัศวินก็พุ่งเข้าใส่ยักษ์ตัวนั้น

” ทำไมนายถึงได้อยากฆ่ายักษ์ตัวนั้น ? เปลี่ยนเขาเป็นอันเดตของเราเหมือนกับ Kalel ไม่ได้เหรอ ? “

ราชาส่ายหน้าแล้วพูดขึ้น – ” Kalel นั้นบ้าคลั่งแต่เขาไม่ใช่อันเดตที่ปนเปื้อน ใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อยในการทำลายความคิดของเขาและบังคับให้เขารับใช้เราแต่ความคิดและวิญญาณของยักษ์นั่นปนเปื้อนไปแล้ว ยักษ์นั่นรู้จักแค่การทำลายและความบ้าคลั่ง เราคงเมตตาให้กับ Drahma แล้วกับการที่ไม่ต้องเห็นเผ่าของตัวเองโดนทรมานและปนเปื้อนแบบนี้ ตอนที่ยักษ์นั่นถูกจัดการไป นายเข้าร่วมการต่อสู้เลยก็ได้ “

เดฟ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ไม่นานเขาก็จะได้เข้าร่วมการต่อสู้ เขาจะได้ xp จำนวนมากจากการต่อสู้ซึ่งเพียงพอจะเลเวลเพิ่มขึ้นอีกหลายเลเวล ดังนั้นเขาจึงตั้งตารอ

Kalel เดินเข้าไปราวกับผีที่บ้าคลั่งผ่านฝูงอันเดตไป เขาหลบการโจมตีที่เข้ามาแล้วสะบัดพวกอันเดตที่กำลังสู้อยู่รอบตัวทิ้ง เขาถึงกับกระโดดข้ามฝูงอันเดตกลุ่มใหญ่ตีลังกาในอากาศอยู่หลายรอบ เขาเคลื่อนที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบไม่มีพลาดเลยแม้แต่น้อย ยักษ์นั้นเห็นอันเดตเกราะขาวเข้ามาจึงได้เหวี่ยงขวานเข้าใส่อีกฝ่ายคิดจะผ่าอีกฝ่ายเป็นสองส่วน Kalel ดูเหมือนว่าจะหายไปชั่วขณะหนึ่งและขวานนั้นก็ได้สับเข้าใส่พื้นทราย Kalel ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งบนตัวขวานและวิ่งรวดเร็วดั่งกับแสงขึ้นไปที่ไหล่ของยักษ์ ยักษ์ได้ใช้มืออีกข้างตบใส่ Kalel แต่อัศวินเกราะขาวไม่ได้อยู่ในจุดที่มือนั้นตบลงไป สุดท้ายแล้วอัศวินก็เต้นไปรอบส่วนคอของยักษ์แล้วเหวี่ยงดาบเข้าใส่ตาของยักษ์ เลือดและของเหลวพุ่งกระจายออกมาโดยรอบพร้อมกับที่ยักษ์ต้องกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

Kalel ตีลังกากลับหลังถอยออกจากยักษ์ก่อนจะลงมายืนที่พื้น เขาไม่ได้หยุดนิ่งและพุ่งเข้าใส่ยักษ์ต่อด้วยดาบที่ฟันเฉือนเข้าใส่ตามข้อเท้าของยักษ์

ยักษ์ไม่อาจจะควบคุมขาตัวเองได้ก่อนจะล้มก้นจ้ำเบ้า

ในตอนที่ Kalel พุ่งกลับเข้าไปเพื่อฆ่ายักษ์นั้น เขาก็ได้หลบการโจมตีที่เข้ามาจากอันเดตตัวอื่นแล้วฟันเข้าใส่หัวของอันเดตที่โจมตีเข้ามา เขาวิ่งไต่อกของยักษ์เพื่อพุ่งเข้าใส่เพชรที่ฝังไว้ที่อก เขาหยุดไปชั่วขณะเพื่อปรับท่าก่อนจะโจมตีเข้าใส่เพชรนั่น

การโจมตีนี้ทำให้แสงสีดำระเบิดออกมา ยักษ์กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะตายไปอย่างแท้จริง

เดฟ อึ้งกับความแข็งแกร่งของอัศวิน จากตอนที่อัศวินเกราะขาวได้ออกจากข้างกายราชาไปจนถึงการตายของยักษ์นั้นกินเวลาไม่ถึงนาที

” ฉันไม่คู่ควร ” – เขากระซิบตอนที่กลับมายืนอยู่ข้างราชาโดยไม่อยากที่จะคุกเข่า

” ไม่เลว ” – ราชาพูดขึ้นมาแล้วหันไปหา เดฟ – ” ไปได้แล้ว ได้เวลาแล้ว สู้เพื่อชัยชนะ ! “

เดฟ กลืนน้ำลาย หลังจากที่อัศวินได้แสดงทักษะออกมาเขาก็รู้ว่าเขาไม่อาจจะเอาชนะอีกฝ่ายได้

เดฟ ได้นำทีมของเขาผ่านประตูเข้าไปในวัง Death Knight ของอันเดตได้ทำการฆ่าพวกที่คอยปกป้องวังแห่งนี้ทิ้ง พวกลูกน้องของกะโหลกดำนั้นยังคงต่อสู้พร้อมกับถอยเข้าไปในวังลึกเข้าเรื่อยๆ

ด้านนอกวังกระดูกนั้นราชาได้มองไปยังเหล่าอันเดตที่เดินหน้าผ่านการป้องกันของพวกกะโหลกดำเข้าไป

Weddigo ได้ร่วมมือกับกองกำลังหลักในการบุกเข้าไปในวัง พวกนั้นได้พลิกความสมดุลในการต่อสู้ให้ฝ่ายอันเดตได้เปรียบ

ราชาพูดขึ้นมาเบาๆกับพื้นที่ที่อยู่ข้างกายก่อนจะมีโครงกระดูกขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมา – ” ให้ฉันรับใช้อะไรดี ?”

” นายจำดาร์กที่ปล่อยนายออกจาก Storm Ladyrinth ได้รึเปล่า ?” – ราชาถาม

” ฉันไม่มีทางลืม ” – โครงกระดูกตอบกลับ

” ไปดูแลเขาจากเงา ช่วยเขาหากเขาตกอยู่ในอันตราย “

” ได้ตามต้องการ ” – โครงกระดูกนั้นโค้งให้ก่อนที่จะหายตัวไป

ราชามองดูการต่อสู้ด้วยท่าทีใจเย็น คนของเขาคืออันเดตที่จะลุกขึ้นมาใหม่อีกครั้งได้ สิ่งเดียวที่เขากังวลคือลูกสาวของเขาที่เป็นมนุษย์

Dagla ได้พา Doom Knight หลายตัวเดินหน้าพร้อมกับร่ายเวทย์เล็งเข้าใส่พวกนักเวทย์และนักธนูของอีกฝ่ายในหอคอย

ปรากฏว่าเวทย์ของ Dagla นั้นไม่ใช่แค่เพียงทำลายประตูหลักด้านนอกแต่ยังทำลายประตูหลักที่นำเข้าไปสู่วังด้านในด้วย ระหว่างประตูทั้งสองนั้นคือสวนที่มีอันเดตกะโหลกดำนับไม่ถ้วนรวมตัวกันเพื่อป้องอันเดตที่บุกเข้ามา ถัดจากอันเดตกะโหลกดำเหล่านั้นคือประตูที่ถูกเปิดออกแล้ว

Kalel พุ่งออกมาจากประตูส่วนนอกทำการฆ่าศัตรูที่กำลังถอย เขาหยุดตอนที่อยู่ใกล้กับแนวป้องกันของอีกฝ่ายเมื่อเห็นว่ามีนักเวทย์เลเวล 500 เดินออกมาจากประตูด้านใน เมื่อเห็นอีกฝ่าย Kelel ก็พุ่งเข้าใส่นักเวทย์ตั้งใจที่จะฆ่าทิ้ง

นักเวทย์ได้เหวี่ยงคทาก่อนจะมีคลื่นพลังสีดำครอบคลุมเหล่าอันเดตเอาไว้

[ คำสาปแห่งความอ่อนแอ !

ลดดาเมจ,ความเร็วในการเคลื่อนที่, ความเร็วในการโจมตีและเกราะ 20% เป็นเวลา 60 วินาที ]

Dagla ฮึดฮัดออกมาด้วยความไม่พอใจและบินขึ้นไปในอากาศ ชุดของเขาสะบัดไปตามแรงลม ลิซได้ยกคทากะโหลกของตัวเองขึ้นและเริ่มร่ายเวทย์

” บทเพลงอันขมขื่นเพื่อภาระในชีวิตที่หมดสิ้นไป แสงและชีวิตที่ตกลงสู่ความมืดมิด ความคิด,แรงและความกล้าดำดิ่ง ชะตาของยมทูตเพื่อทุกคน ! “

คำสาปของพวกกะโหลกดำนั้นหายไปทันทีโดยคลื่นพลังงานสีดำที่แผ่ออกไปทั่ววังราวกับคลื่นผ่านไปยังอันเดตต่างๆเพื่อเพิ่มพลังให้กับพันธมิตรและทำให้ศัตรูนั้นอ่อนแอลง

***

ในฐานะพันธมิตรและสมาชิกของดินแดนอันเดตคุณได้รับการอวยพรจากบทเพลงแห่งความตายของ Dagla

คุณได้เพิ่มคุณสมบัติเหล่านี้เป็นการชั่วคราว :

การฟื้นฟูเลือด 200%

ดาเมจกายภาพและเวทย์ 10%

ดาเมจที่ได้รับลดลง 5%

ความเร็วในการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเคลื่อนที่เข้าหาศัตรู

เพิ่มดาเมจที่ทำต่อคู่ศัตรูที่ได้รับผลจากบทเพลงแห่งความตาย 10%

มีโอกาส 10% ที่จะฟื้นคืนชีพทันทีหากโดนฆ่า

พวกที่ไม่ใช่พันธมิตรและศัตรูจะได้รับผลดังนี้ :

ดาเมจที่ได้รับเพิ่มขึ้น 5%

ลดความเร็วในการเคลื่อนที่ 10%

ลดการฟื้นฟูเลือด 20%

เป็นเวลา 180 วินาที

***

Kalel สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วดึงพลังความมืดที่ Dagla ให้มาเข้าหาตัว มันราวกับว่าเขาสูดพิษเขาไป ตาของเขาได้แสดงความหงุดหงิดออกมาและพุ่งเข้าใส่นักเวทย์ด้วยความหงุดหงิด

เดฟ ได้ใช้ {Spectral Skull} ทำลายอันเดตกะโหลกดำ 3 ตัวและตะโกนขึ้นมา – “ตาม Kalel ไป ! “

เขาได้ให้ Stinger ฝ่าฝูงอันเดตเข้าไปโดยมีลูกน้องตามไปด้านหลัง Dog ได้จุดไฟขึ้นที่แส้กระดูกของเขา Spark ได้ร่ายเวทย์และมีลูกไฟพุ่งออกจากมือโจมตีเข้าใส่ศัตรู

เดฟ ได้ใช้ {Aura} และทำการนำทัพ

มนุษย์แมงป่องนั้นเดินฝ่าอันเดตเลเวลต่ำบดขยี้ศัตรูตามทาง เดฟ ได้สลับมือทำท่านินจาก่อนจะใช้ {Dragon Ball} ทำลายฝูงอันเดตด้านหน้าไป

Bud ได้กลายเป็นควันดำและโผล่ขึ้นด้านหลังของศัตรู ผีดิบนั้นได้ใช้เขี้ยวของมันฉีกคอของศัตรูไปครึ่งหนึ่งจนมีของเหลวสีดำไหลออกมาจากแผล

พาราดินอยู่ทางปีกของศัตรูและร่ายเวทย์ฟื้นฟูเข้าใส่เพื่อทำดาเมจใส่ พรีสตามด้วยการฮีลแบบเป็นพื้นที่ลดจำนวนศัตรูได้เป็นจำนวนมาก

เดฟ ได้โดดลงจากหลัง Stinger และใช้ {Dragon Kick} พุ่งเข้าใส่อันเดตเลเวล 200 ราวกับกระสุน มังกรไฟก่อตัวขึ้นด้านหลังเขากลืนกันเหล่าศัตรูรอบๆไปหลายตัว

เดฟ ได้วิ่งไปหาอันเดตอีกกลุ่มแล้วใช้ {Approaching Dragon} โผล่มบนหัวของศัตรูที่เขาโจมตี เขาอยู่ใจกลางกลุ่มของศัตรูตอนที่สกิลหมดเวลาลง ดังนั้นเขาจึงหมุนตัวด้วยการใช้ {Infernal Tornado} ระเบิดศัตรูที่เหลือจนกลายเป็นเศษแสงไป

นักรบถือคทาเลเวล 400 เห็นความบ้าคลั่งของ เดฟ และได้มุ่งหน้าเข้ามาหาเขา เดฟ เห็นอีกฝ่ายที่โดดเข้ามาบนหัวเขา เขาได้ใช้ {Vertical Slash} หลบการโจมตีที่ฟาดเข้ามา

เขาได้ตะโกนขึ้น – ” Dunlord ! ยิง ! “

Dunlord ทั้งหมดได้ทำการยิงหน้าไม้ทั้งหมดพร้อมกันเปลี่ยนอันเดตเลเวล 400 นั้นให้กลายเป็นซาก

Kalel ได้ฝ่าเข้าไปในอันเดตระดับสูงของอีกฝ่ายและเข้าถึงประตูส่วนใน เมื่อพบว่าไม่มีศัตรูให้ฆ่าต่อเขาก็ได้เดินเข้าปในวังเพื่อหาศัตรูที่คู่ควรกับความแข็งแกร่งของเขา

” บัดซบเอ้ย อัศวินนี่โกงไปแล้ว ! ” – เดฟ สงสัยว่าเขาจะตาม Kalel ไปรึรออยู่ที่นี่เพื่อเก็บเลเวลเพิ่ม

” เหี้ยเอ้ย ! ” – เดฟ สบถออกมา เขายืนลูบหนวดตัวเองพร้อมกับปัดเถ้าที่เปื้อนตามตัว ตอนนั้นเองก็มีโซ่ทีมีลูกตุ้มขนาดใหญ่ได้ฟาดลงมาที่ เดฟ

ในตอนที่ เดฟ กำลังจะใช้ {Bastion} นั้น Death Knight คนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเขาและกันการโจมตีจากลูกตุ้มนั้นด้วยโล่

Death Knight นี้สูงกว่าเขาถึงสองเท่า ตามเกราะของ Death Knight นี้มีเถ้าเปรอะไปทั่ว

” ฉันบอกนายแล้ว ฉันคอยระวังให้นายตลอด ! ” – อีกฝ่ายยิ้ม

” Matalan ! “

” กำลังสู้อยู่อย่าวอกแวก อย่าลดการป้องกัน เอาล่ะ มาจัดการพวกนี้กันเถอะ “

Matalan พุ่งเข้าใส่อันเดตแมมมอธจนทำให้อีกฝ่ายเซ เดฟ พุ่งออกมาจากด้านหลัง Matalan แล้วโดดข้ามอีกฝ่ายต่อยเข้าใส่แมมมอธแต่มันไม่ได้สร้างดาเมจอะไร เดฟ ได้ลงไปยืนด้านหลังแมมมอธพร้อมกับ Matalan ที่เฉือนเปิดรอยแผลที่ท้องของแมมมอธจนมีของเหลวสีดำไหลออกมา

เดฟ ใช้ {Rising Dragon} ต่อยทำลายกรามของศัตรูทิ้ง แมมมอธโกรธขึ้นมาแล้วใช้งวงของมันวนรอบตัว เดฟ เดฟ โค้งตัวราวกับในหนังเพื่อหลบงวงที่พุ่งเข้ามา เขารู้สึกได้ถึงแรงลมที่พัดผ่านไปก่อนจะดีดตัวขึ้นมาเพื่อโจมตีตอบโต้

Matalan สลับการจับดาบในมือราวกับถือมีดแล้วแทงเข้าใส่ที่อกของแมมมอธจนทะลุถึงหัวใจ Matalan ลากดาบลงจนเฉือนอกของแมมมอธลงมาเรื่อยๆ แมมมอธได้ตายไปพร้อมกับเลือดและเครื่องในที่ไหลออกมา

” ไม่เลว ! ฉันจะไปแนวหน้า นายอยู่กับฉันแล้วก็ระวังตัวด้วย Kis’shtingbrah “

ในตอนที่ Matalan พูดจบ เดฟ ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเรียกชื่อเขา

” Kis’shtingbrah หยุด ! ” – Samael ได้ปรากฏตัวขึ้นมาใกล้ๆอุ้มเจ้าหญิงที่ไม่ได้สติ

” ออกจากปราสาทได้แล้ว ! ” – Samael ตะโกนขึ้นก่อนจะหายตัวไป

Matalan คิ้วขมวดแต่ก็ยังหันกลับแล้วเดินถอยออกมาจากการต่อสู้

ในตอนที่ เดฟ สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นเขาก็เห็น Kalel วิ่งออกมาจากประตูวังด้วยความเร็วสูง อัศวินนั้นไม่ได้สนใจศัตรูและทำเพียงแค่วิ่งออกมาจากประตูหลักเท่านั้น

ตอนนั้นเองก็มีแตรที่ด้านนอกดังขึ้น

กองทัพอันเดตเริ่มถอยกลับ การถอยนี้เป็นไปได้อย่างราบรื่นไม่มีอันเดตเลยสักตัวที่ตื่นตระหนก พวกที่อ่อนแอที่สุดได้ออกมาจากประตูวังส่วนนอกก่อนโดยมี Doom Knight คอยประคองสถานการณ์กันไม่ให้ศัตรูเข้าโจมตีพวกที่กำลังถอยอยู่